“ธรรมนัส” วิจารณ์ยับกฎระบายน้ำล่าช้า เตรียมเสนอ ครม. ปลดล็อก

ชัยนาท​ 27 ก.ย.​-“ธ​รร​มนัส” รอง​นายกฯ​ ตรวจ​สถานการณ์​น้ำลุ่ม​เจ้าพระยา​-ป่า​สัก​ ซัดระเบียบ​การขออนุมัติ ​สทนช. และ​ กนช.​ ล่วงหน้า​ ส่งผล​ให้​กรมชลประทาน​ระบายน้ำได้​ล่าช้า​ เตรียม​เสนอ ครม.​ ปรับกฎเกณฑ์​ขั้นตอน​ พร้อม​ย้ำให้​เร่งกำจัด​ผักตบชวา​ให้เกลี้ยง​ ขจัดสิ่งกีดขวาง​ทางน้ำ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ และนายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสัก โดยตรวจเยี่ยมเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และเขื่อนพระรามหก ซึ่งเป็นแหล่งเก็บกักและควบคุมการระบายน้ำสำคัญของลุ่มน้ำ​เจ้าพระยา ร้อยเอก ธรรมนัส เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบริหารจัดการน้ำ เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง โดยเฉพาะภาคเกษตร จำเป็นต้องมีการทำงานเชิงรุกและบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมส่งเสริมการเกษตร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อป้องกันความเสียหายและสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกร ทั้งนี้ ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในหลายพื้นที่ส่วนหนึ่งเกิดจากระเบียบขั้นตอนการระบายน้ำที่ล่าช้าเช่น การต้องขออนุญาตจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) หรือคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ซึ่งอาจใช้เวลาถึง 2-3 วันกว่าจะได้รับอนุญาต ระหว่างนั้นบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่เกษตรกรรมก็ได้รับความเสียหายแล้ว จึงเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณายกเลิกหรือปรับปรุงระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น […]

รมว.เกษตร​ฯ​ ยืนยัน​แผ่นดินไหว​ไม่กระทบเขื่อนกรมชลประทาน​

ขอนแก่น​ 29 มี.ค.​ – ร​มว.เกษตรฯ ระบุ​ ได้​รับรายงาน​จาก​กรมชลประทาน​ถึง​ผลการ​ตรวจสอบ​เขื่อน​ โดยพบว่า​ ค่าวัดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว​น้อยกว่า​ตามมาตรฐานการออกแบบของกรมชลประทานและ​ ICOLD จึงยังมั่นคงแข็งแรง​ดี​ ขอให้​ประชาชน​ที่อยู่​ท้ายเขื่อน​มั่นใจในความ​ปลอดภัย​ ศ.ดร.​ นฤมล​ ภิญโญ​สิน​วัฒน์​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​เกษตร​และ​สหกรณ์​กล่าว​ว่า​ ได้รับรายงาน​จาก​นายสุริยพล นุชอนงค์อธิบดี​กรม​ชลประทาน​ถึง​ผลการ​ตรวจสอบ​เขื่อน​ หลัง​เกิดแผ่นดินไหว​ในเมียนมา​และ​มีแรงสั่นสะเทือน​ถึง​ไทย​ โดยจากการตรวจวัดค่าอัตราเร่ง (ค่าวัดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว) ที่วัดได้ที่เขื่อนของกรมชลประทาน พบว่า​ มีค่าที่ตรวจวัดได้อยู่ระหว่าง 0.00505 -0.01647 g ซึ่งค่าที่ตรวจวัดได้ดังกล่าวไม่เกินค่าตามมาตรฐานการออกแบบของกรมชลประทานและตามหลักการขององค์กรเขื่อนใหญ่ระหว่างชาติ (ICOLD) กำหนดไ้ว้เพื่อรองรับอัตราเร่งคือ​ ไม่เกิน 0.2 g ดั้งนั้น เหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว จึงไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของตัวเขื่อนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน ทั้งนี้​กรมชลประทาน ได้ออกแบบเขื่อนทุกแห่งให้สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวไว้ด้วยค่าที่สูงสุดของความเสี่ยงในพื้นที่ประเทศไทย นอกจากนี้ยังตรวจสอบและติดตามข้อมูลทางสถิติของค่าความเร่งสูงสุดที่เกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอยู่ตลอดเวลา เพื่อนำมาประเมินเหตุการณ์แผ่นดินไหว​ รวมทั้งแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเขื่อน เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อน มีความมั่นใจและเชื่อมั่นในความปลอดภัยแข็งแรงของเขื่อนตลอดเวลา นอกจากนี้​ยังมอบหมาย​ให้​อธิบดีกรมชลประทาน สั่งการหน่วยงาน​ในสังกัด​เตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ ที่พร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังและ ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด วัน​นี้ ศ.ดร.นฤมล​ ในฐานะหัวหน้า​พรรค​กล้าธรรมเดินทางไปประชุม​จัดตั้งสาขาพรรที่​จังหวัด​ขอนแก่น […]

...