ไฟไหม้

คูเวตซิตี 13 มิ.ย.- เหตุไฟไหม้อาคารพักอาศัยของแรงงานในคูเวตเมื่อวานนี้ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 49 คน โดยเป็นแรงงานต่างชาติทั้งหมด เอกอัครราชทูตอินเดียในคูเวตได้เดินทางไปเยี่ยมแรงงานชาวอินเดียที่รับการรักษาตัวจากแผลไฟไหม้ในโรงพยาบาลหลายแห่ง สถานทูตอินเดียโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีชาวอินเดียรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งมากกว่า 30 คน และมีชาวอินเดียรับการรักษาตัวอยู่ทั้งหมดอย่างน้อย 47 คน ด้านสำนักงานของรัฐบาลอินเดียที่ดูแลชาวเกรละในต่างประเทศเผยว่า ได้รับแจ้งจากชุมชนชาวอินเดียในคูเวตว่า มีชาวอินเดีย  41 คน เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้อาคารพักอาศัยเมื่อวานนี้ ในจำนวนนี้เป็นชาวเกรละ 11 คน ชายชาวอียิปต์ที่ทำงานเป็นคนขับรถในคูเวตและรอดชีวิตจากไฟไหม้เล่าว่า ต้นเพลิงมาจากชั้นล่างแล้วลามขึ้นไปยังชั้นบน ทำให้ผู้พักอาศัยชั้นบนไม่สามารถหนีได้จากอาคารที่เต็มไปด้วยควันไฟหนาทึบ ด้านกระทรวงแรงงานข้ามชาติฟิลิปปินส์แถลงในวันนี้ว่า มีชาวฟิลิปปินส์อยู่ในอาคารที่เกิดเหตุ 11 คน ในจำนวนนี้ 3 คนถูกนำตัวส่งพยาบาล และ 3 คนปลอดภัย ส่วนอีก 5 คนยังไม่ทราบสถานะ.-814.-สำนักข่าวไทย   

คูเวตซิตี 12 มิ.ย. – เกิดไฟไหม้ที่อาคารพักอาศัยของคนงานในเมืองมันกัฟ ทางตอนใต้ของคูเวต ในเช้าวันนี้ รองนายกรัฐมนตรีคูเวตระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 41 คน ขณะที่ตำรวจระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 35 คน นายฟาฮัด ยูซุฟ อัล-ซาบา รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหมและรักษาการรัฐมนตรีมหาดไทยกล่าวว่า ความโลภของเจ้าของอาคารเป็นสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ เขาจะคุยกับเทศบาลและเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ทุกคน จะมีการรื้อถอนอสังหาริมทรัพย์ที่ฝ่าฝืนกฎหมายในเช้าวันนี้ เรื่องนี้ควรต้องดำเนินการตั้งนานแล้ว แต่เจ้าของละเลย เป็นเหตุให้เกิดผลในวันนี้คือ มีผู้เสียชีวิต 41 คน ตำรวจคูเวตแถลงกับสถานีโทรทัศน์ของทางการว่า ได้รับรายงานเหตุไฟไหม้เมื่อเวลา 06:00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 10:00 น.วันนี้ตามเวลาไทย อาคารที่เกิดเหตุใช้เป็นที่พักอาศัยของคนงานจำนวนมาก มีผู้ได้รับความช่วยเหลือออกมาจำนวนหนึ่ง และมีคนเสียชีวิต 35 คน เพราะสำลักควันไฟ ทางการได้เตือนอยู่เสมอเรื่องอย่าให้คนงานพักอาศัยในอาคารมากเกินไปจนแออัด ด้านกระทรวงสาธารณสุขคูเวตแถลงว่า มีคนเข้าโรงพยาบาล 43 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 4 คน แต่ไม่ชัดเจนว่าเพิ่มเติมจากตัวเลข 35 คนของตำรวจหรือไม่ ทางการคูเวตแจ้งว่า สามารถควบคุมไฟได้แล้ว และกำลังสอบสวนหาสาเหตุ.-814.-สำนักข่าวไทย

ไคโร 28 พ.ค- นานาชาติประณามอิสราเอลที่ใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทำให้เกิดไฟไหม้ที่ค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของกาซา และทำให้มีผู้เสียชีวิต 45 คนเมื่อค่ำวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครงของฝรั่งเศสโพสต์เอ็กซ์ว่า ไม่พอใจอย่างยิ่งกับการโจมตีล่าสุดของอิสราเอล สิ่งเหล่านี้จะต้องยุติ และเมืองราฟาห์ไม่มีสถานที่ปลอดภัยให้แก่พลเรือนปาเลสไตน์แล้ว ขณะที่อันนาเลนา แบร์บอค รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีและนายโจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปหรืออียู เรียกร้องให้อิสราเอลเคารพคำสั่งของศาลโลกที่สั่งให้ยุติปฏิบัติการทางทหารในราฟาห์ ด้านเมลานี โจลี รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดาโพสต์เอ็กซ์ว่า รัฐบาลแคนาดาตกใจอย่างยิ่ง และไม่สนับสนุนที่อิสราเอลใช้ปฏิบัติการทางทหารในราฟาห์ ความทุกข์ยากของผู้คนที่ร้ายแรงเช่นนี้จะต้องยุติ ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประณามการโจมตีของอิสราเอล ขณะที่กาตาร์ระบุว่า การโจมตีราฟาห์อาจเป็นอุปสรรคต่อความพยายามเจรจาให้เกิดการหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกัน ด้านสหรัฐเรียกร้องให้อิสราเอลใช้ความระมัดระวังในการปกป้องพลเรือน แตไม่ได้เรียกร้องให้ยุติการบุกราฟาห์ ผู้รอดชีวิตเล่าว่า ทุกคนกำลังเตรียมตัวเข้านอนในช่วงที่ถูกโจมตีที่ย่านเทล อัล-สุลต่าน ที่ซึ่งคนจำนวนมากมาอาศัยลี้ภัย นับตั้งแต่กองกำลังอิสราเอลเริ่มใช้ปฏิบัติการบุกภาคพื้นดินทางฝั่งตะวันออกของราฟาห์เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลแถลงต่อรัฐสภาโดยถูกสมาชิกสภาฝ่ายค้านตะโกนแทรกเป็นระยะ ๆ ว่า การโจมตีดังกล่าวไม่มีเจตนาที่จะทำให้พลเรือนเสียชีวิต อิสราเอลได้อพยพผู้อาศัยที่ไม่ใช่นักรบออกจากเมืองราฟาห์แล้วราว 1 ล้านคน และถึงแม้อิสราเอลได้พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะไม่ทำให้ผู้ไม่ใช่นักรบได้รับอันตราย แต่โชคร้ายที่มีบางอย่างผิดพลาดอย่างน่าเสียใจ ขณะที่กองทัพอิสราเอลแถลงว่า กำลังสอบสวนรายงานข่าวว่าการโจมตีกลุ่มผู้บัญชาการฮามาสได้ทำให้เกิดไฟไหม้ที่ค่ายผู้ลี้ภัยในราฟาห์.-814.-สำนักข่าวไทย