ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุสิงโตขย้ำร่ำไห้ ระบุพี่ชายเป็นเสาหลักครอบครัว

กรุงเทพฯ 10 ก.ย. – น้องสาวผู้เสียชีวิตเหตุสิงโตขย้ำ ร่ำไห้ทำใจไม่ได้ พี่ชายเป็นเสาหลักของครอบครัว ยอมรับพี่เล่าให้ฟังประจำ ว่างานอันตรายมาก ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย่านรามอินทรา นางสาวรัตนา อายุ 51 ปี น้องสาวคนเล็กของนายเจียน อายุ 58 ปี ผู้เสียชีวิต เล่าทั้งน้ำตาว่า พี่ชายทำงานที่สวนสัตว์นานหลายปีตั้งแต่หนุ่มจนใกล้จะเกษียณอายุแล้ว อยู่แผนกดูแลสัตว์ จำพวก เสือ สิงโต พี่ชายเคยเล่าว่า งานที่ทำค่อนข้างเสี่ยงอันตราย ต้องคอยไล่เสือเข้ากรง น้อง ๆ ในครอบครัวทุกคนก็เป็นห่วงจะบอกให้ระมัดระวัง อย่าลงจากรถ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะคิดว่าน่าจะมีอะไรที่ป้องกันดีอยู่แล้ว เนื่องจากเห็นว่ามีคนช่วยดูแล พี่ชายเหมือนเป็นเสาหลักของครอบครัวดูแลทุกคนเพราะแม่เสียชีวิตไปแล้ว หลังจากนี้ไม่ทราบว่าบริษัทที่พี่ชายทำงานอยู่จะมีการเยียวยาอย่างไรบ้าง. -416-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นประณามเหตุความรุนแรงในเนปาล

กาฐมาณฑุ 10 ก.ย. – นายโวลเคอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้ออกแถลงการณ์ในวันอังคารประณามเหตุความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ที่เกิดขึ้นในเนปาล และเรียกร้องให้มีการสอบสวนการเสียชีวิตของผู้ประท้วงระหว่างการเดินขบวนต่อต้านการทุจริตที่นำโดยกลุ่มคนหนุ่มสาว การประท้วงครั้งนี้ส่งผลให้นายเคพี ชาร์มา โอลิ นายกรัฐมนตรีเนปาล ต้องลาออกจากตำแหน่งหลังจากที่ผู้ประท้วงได้ฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวและปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันก่อนหน้ามีผู้เสียชีวิตจากการประท้วงถึง 19 คน ชนวนเหตุสำคัญของการประท้วงมาจากการที่รัฐบาลของนายโอลิสั่งห้ามใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งแม้จะมีการยกเลิกคำสั่งในภายหลัง แต่ความรุนแรงก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยมีผู้บาดเจ็บกว่า 100 คน และผู้เสียชีวิตรวม 19 คน หลังจากเจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางสลายการชุมนุม เหตุการณ์ความไม่สงบครั้งนี้ถือเป็นความวุ่นวายครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปีของเนปาล ที่เป็นประเทศที่ยากจนในเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเผชิญกับความไร้เสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ยกเลิกระบอบกษัตริย์ในปี 2008 กลุ่มคนหนุ่มสาวชาวเนปาลจำนวนมากต่างไม่พอใจกับปัญหาการว่างงาน และหลายล้านคนต้องเดินทางไปทำงานในต่างประเทศเพื่อหาเลี้ยงชีพและส่งเงินกลับบ้านเกิด.-813.-สำนักข่าวไทย

ผู้ประท้วงต้านคอร์รัปชันในเนปาลเมินเคอร์ฟิว

กาฐมาณฑุ 9 ก.ย. – ผู้ชุมนุมต่อต้านการคอร์รัปชันในเนปาลฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิว หรือ ห้ามออกนอกเคหะสถาน ที่บังคับใช้ตลอดเวลา โดยมีการปะทะกับตำรวจและตะโกนคำขวัญต่อต้านนายกรัฐมนตรีเค พี ชาร์มา โอลิ (K.P. Sharma Oli) หลังจากเหตุประท้วงที่รุนแรงจากคำสั่งห้ามใช้งานโซเชียลมีเดียทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 19 คน รัฐบาลของนายโอลิได้ยกเลิกคำสั่งห้ามใช้งานโซเชียลมีเดียแล้ว หลังจากที่การประท้วงทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 19 รายและบาดเจ็บกว่า 100 ราย ภายหลังจากที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่ผู้ประท้วงที่พยายามบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ ความไม่สงบครั้งนี้นับเป็นครั้งที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปีของเนปาล ซึ่งเป็นประเทศที่ต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจมาตั้งแต่การประท้วงที่นำไปสู่การยกเลิกระบอบกษัตริย์ในปี 2008 ในวันอังคาร นายโอลิยังได้เรียกประชุมพรรคการเมืองทุกพรรค โดยกล่าวว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและต้องหันมาใช้การเจรจาอย่างสันติเพื่อหาทางออกให้กับทุกปัญหา อย่างไรก็ตาม ความโกรธเคืองต่อรัฐบาลยังไม่มีทีท่าว่าจะบรรเทาลง เนื่องจากผู้ประท้วงได้รวมตัวกันหน้าอาคารรัฐสภาและสถานที่อื่น ๆ ในกรุงกาฐมาณฑุ เพื่อท้าทายคำสั่งเคอร์ฟิวที่ทางการประกาศใช้ ผู้ประท้วงยังได้เรียกร้องให้ประชาชนเข้าร่วมพิธีไว้อาลัยเพื่อรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตในการประท้วงเมื่อวันจันทร์ด้วย ผู้ประท้วงบางส่วนได้จุดไฟเผายางรถยนต์บนถนนบางสาย ขว้างก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลที่ไล่ติดตามพวกเขาไปตามตรอกซอกซอยที่แคบ ขณะที่บางคนเฝ้าดูและถ่ายวิดีโอเหตุการณ์ปะทะกันด้วยโทรศัพท์มือถือ ขณะที่ควันดำหนาทึบพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ผู้ประท้วงจุดไฟเผาบ้านของนักการเมืองบางคนในกรุงกาฐมาณฑุ และสื่อท้องถิ่นรายงานว่ารัฐมนตรีบางคนถูกเฮลิคอปเตอร์ทหารนำตัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย นายโอลิ วัย 73 ปี สาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สี่เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 14 ของประเทศนับตั้งแต่ปี 2008 รัฐมนตรีสองคนในคณะรัฐมนตรีของเขาได้ลาออกเมื่อคืนวันจันทร์ […]

สายเคเบิลขาดทำรถรางกรุงลิสบอนของโปรตุเกสตกราง

ลิสบอน 7 ก.ย. – เจ้าหน้าที่โปรตุเกสเผยผลการสืบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุรถรางในกรุงลิสบอนมื่อวันพุธที่แล้ว ว่าเกิดจากสายเคเบิลขาด ทำให้รถรางพุ่งแบบไร้การบังคับชนอาคารก่อนตกราง มีผู้เสียชีวิต 16 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 20 คน สำนักงานความปลอดภัยคมนาคมของโปรตุเกสเผยแถลงการณ์เมื่อวานนี้ ระบุว่าเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุรถรางสายกลอเรีย (Gloria) ตกรางและพุ่งชนอาคารเมื่อช่วงค่ำวันพุธที่ผ่านมา โดยตรวจสอบสภาพรถรางที่เสียหายและรวบรวมหลักฐานต่างๆ ทำให้เชื่อได้ว่า สาเหตุของอุบัติเหตุเกิดจากสายเคเบิลที่ใช้ดึงรถรางไปตามเส้นทางเกิดขาดและหลุดออกจากกัน ทำให้รถรางพุ่งไปตามรางด้วยความเร็วสูงโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ แม้พนักงานประจำรถรางคันที่ประสบเหตุจะพยายามใช้ระบบเบรคฉุกเฉินเพื่อหยุดรถรางแต่ก็ไม่เป็นผล รถรางพุ่งชนกระแทบเข้ากับอาคารหลังหนึ่งอย่างแรงบนเส้นทางตรอกแคบๆ ช่วงลงเนิน และยังชนกับรถรางอีกคันหนึ่งจนเสียหายไปด้วย เจ้าหน้าที่ยังพบว่ารถรางพุ่งด้วยความเร็วมากกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขณะพุ่งชนอาคาร อุบัติเหตุครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 16 ราย เป็นชาวโปรตุเกส 5 คน ซึ่งรวมถึงพนังานรถราง 1 คน ที่เหลือเป็นชาวอังกฤษ 3 คน เกาหลีใต้ 2 คน แคนาดา 2 คน ชาวอเมริกัน ยูเครน สวิส และฝรั่งเศสชาติละ 1 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 20 คน […]

‘จอร์โจ อาร์มานี’ ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ ‘อาร์มานี’ เสียชีวิตแล้ว

โรม 5 ก.ย. – จอร์โจ อาร์มานี ตำนานแฟชั่นอิตาลี ราชาแห่งอาณาจักรไลฟ์สไตล์หรู เสียชีวิตลงแล้วเมื่อวานนี้ด้วยวัย 91 ปี กลุ่มอาร์มานีเผยในแถลงการณ์ว่า จอร์โจ อาร์มานี หรือ อิล ซินญอร์ อาร์มานี ตามที่พนักงานและผู้ร่วมงานเรียกด้วยความเคารพและชื่นชมมาโดยตลอด ได้จากไปอย่างสงบ ที่บ้านในเมืองมิลาน ด้วยวัย 91 ปีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ท่ามกลางครอบครัวและคนที่รัก เขาไม่เคยหยุดนิ่งจนถึงวาระสุดท้าย ทำงานจนถึงวันสุดท้าย ทุ่มเทให้กับบริษัท คอลเลกชัน และโครงการอีกมากมายทั้งที่ดำเนินอยู่และในอนาคต พิธีศพของเขาจะจัดขึ้นแบบส่วนตัวในวันจันทร์ แต่ประชาชนสามารถเข้าร่วมไว้อาลัยได้ในห้องพิธีศพที่จะเปิดในวันเสาร์และอาทิตย์นี้ที่เมืองมิลาน ก่อนหน้านี้ อาร์มานีได้ยกเลิกโชว์เสื้อผ้าผู้ชายในมิลานปีนี้ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ และพลาดการเข้าร่วมงานโชว์ “อาร์มานี่ พริเว่” (Armani Prive) ที่ปารีสตามคำสั่งแพทย์ อาร์มานีถือเป็นดีไซเนอร์ร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงที่สุด เขาเปิดแฟชั่นเฮาส์ในมิลานเมื่อปี 1975 ก่อนจะก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว และต่อมาได้กลายเป็นผู้ออกแบบชุดให้เหล่าดารา ตำนานแฟชั่นรายนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้คิดค้นแฟชั่นบนพรมแดง แต่ก็ยังแตกไลน์ไปสู่กลุ่มวัยรุ่นและราคาจับต้องได้มากขึ้นผ่าน “เอ็มโพริโอ อาร์มานี” (Emporio Armani) รวมถึงขยายสู่ธุรกิจโรงแรมหรู การเสียชีวิตของอาร์มานี เกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 […]

ยอดตายแผ่นดินไหวอัฟกานิสถานเพิ่มต่อเนื่อง

คาบูล 4 ก.ย. – ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว 6.0 ในอัฟกานิสถาน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดเกินกว่า 1,457 คนแล้ว แต่ตัวเลขที่แท้จริงยังไม่สามารถระบุเนื่องจากยังมีผู้ที่ติดค้างอยู่ใต้กองซากบ้านเรือนที่พังถล่มอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งสหประชาชาติเตือนว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนโอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตนั้นไม่มีแล้ว เนื่องจากเหตุการณ์ผ่านมาหลายวัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้มีบาดเจ็บราว 3,400 คน บ้านเรือนพังทลายกว่า 6,700 หลัง มีผู้ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมถึง 84,000 คน ขณะที่การช่วยเหลือยังขาดแคลนอีกเป็นจำนวนมาก.-816.-สำนักข่าวไทย

อุบัติเหตุรถรางในโปรตุเกส ตาย 15 เจ็บ 18 คน

ลืสบอน 4 ก.ย. – เกิดอุบัติเหตุรถรางตกรางและชนกันในกรุงลิสบอน เมืองหลวงโปรตุเกส มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย บาดเจ็บอีก 18 คน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมอยู่ด้วย อุบัติเหตุเกิดขึ้นที่รถรางสายกลอเรีย (Glória Funicular) อันมีชื่อเสียง ในกรุงลิสบอน ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว รถตกรางและพุ่งชนกับรถรางอีกคัน เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย และบาดเจ็บอีก 18 คน ในจำนวนนี้ 5 คนอาการสาหัส เจ้าหน้าที่บอกว่าในจำนวนผู้เสียชีวิตมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมอยู่ด้วย แต่ไม่ได้เปิดเผยสัญชาติหรือรายละเอียดอื่นๆ ของผู้ประสบเหตุ ภาพจากคลิปที่สื่อท้องถิ่นนำออกเผยแพร่ จะเห็นว่ารถรางคันที่อยู่ด้านล่างของเส้นทางเสียหายจากแรงกระแทกอย่างรุนแรง ขณะอีกคันหนึ่งตกราง หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยฉุกเฉินกว่า 60 นายลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือนำตัวผู้ที่ติดอยู่ในซากรถรางคันที่เสียหายก่อนส่งโรงพยาบาล ประธานาธิบดีมาร์เซลู เรเบลู เด ซูซา ผู้นำโปรตุเกส และนายกเทศมนตรีกรุงลิสบอน ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ และหวังว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถระบุสาเหตุของอุบัติเหตุได้โดยเร็ว เบื้องต้นสื่อท้องถิ่นรายงานว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากรถรางคันหนึ่งเกิดหลุดออกจากราง จนไหลไปตามสายเคเบิลที่ยึดไว้ก่อนพุ่งชนกระแทกเข้ากับอาคารหลังหนึ่งอย่างแรง รถราง (funicular) ในโปรตุเกสเป็นระบบรถรางที่ใช้สายเคเบิลหรือเชือกลาก ออกแบบมาเพื่อวิ่งขึ้นลงเนินที่มีความลาดชันสูง […]

แผ่นดินไหวอัฟกานิสถาน ตายแล้ว 820 ราย

จาลาลาบัด 2 ก.ย. – ภารกิจกู้ภัยและค้นหาผู้สูญหายรวมถึงช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.0 ในอัฟกานิสถานยังเดินหน้าต่อไป ขณะยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดพุ่งเกิน 820 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 3,100 คน แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ในพื้นที่ภูเขาทางภาคตะวันออกของอัฟกานิสถาน วัดความรุนแรงได้ 6.0 ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองจาลาลาบัด เมืองใหญ่อันดับ 5 ของอัฟกานิสถานราว 27 กิโลเมตร และลึกลงไปใต้ดินเพียง 8 กิโลเมตร ล่าสุด พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 825 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดคูนาร์และจังหวัดนันกาฮาร์ นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 3,100 คน คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่มขึ้นอีกและน่าจะแตะหลักพันคน บ้านเรือนของชาวบ้านหมู่บ้านจำนวนมากในจังหวัดคูนาร์พังราบจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวซึ่งรู้สึกได้ไกลถึงกรุงคาบูล รวมถึงกรุงอิสลามาบัดของปากีสถานประเทศเพื่อนบ้าน ที่อยู่ห่างออกไปถึง 300 กิโลเมตร ขณะที่การเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากอยู่ห่างไกลและมีสภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขา ถนนในพื้นทีถูกตัดขาดจากดินหินถล่มปิดทับเส้นทาง การเข้าออกจึงถูกจำกัดเพียงการใช้เฮลิคอปเตอร์เพียงในการลำเลียงคนเจ็บและนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากพื้นที่ ทีมกู้ภัยไม่สามารถไปถึงพื้นที่ได้จนถึงเช้า เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถลงจอดบนภูเขาในเวลากลางคืนได้ ด้านสหประชาชาติและอิหร่านส่งทีมช่วยเหลือไปยังอัฟกานิสถานเพื่อช่วยในภารกิจกู้ภัยตามที่รัฐบาลตอลิบานร้องขอแล้ว ส่วนการประเมินความเสียหายทั้งหมดคาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะเนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ และสัญญาณโทรศัพท์ในบางพื้นที่ก็ไม่สามารถใช้งานได้ เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่รุนแรงอีกครั้งหนึ่งของอัฟกานิสถาน หลังจากเมื่อเดือนมิถุนายน 2566 เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.1 มีผู้เสียชีวิตกว่า […]

ผู้ประท้วงอินโดนีเซียเผาอาคารรัฐสภาท้องถิ่น-ดับ 3

มากัสซาร์, อินโดนีเซีย 30 ส.ค. – เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเปิดเผยวันเสาร์ว่า มีผู้เสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บ 5 รายหลังจากกลุ่มผู้ประท้วงจุดไฟเผาอาคารรัฐสภาของท้องถิ่น ซึ่งการประท้วงในครั้งนี้ถือเป็นการทดสอบครั้งสำคัญครั้งแรกของรัฐบาลประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซียไม่ได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้เมื่อคืนวันศุกร์ที่เมืองมากัสซาร์ ซึ่งเป็นเมืองเอกของจังหวัดสุลาเวสีใต้ ในขณะที่ สำนักข่าวอันตารา ของทางการอินโดนีเซียรายงานว่า ผู้เสียชีวิตถูกระบุว่าติดอยู่ภายในอาคารที่กำลังลุกไหม้ และมีผู้บาดเจ็บ 2 รายจากการกระโดดลงมาจากอาคาร การประท้วงเริ่มขึ้นในกรุงจาการ์ตาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาในประเด็นเรื่องค่าตอบแทนของสมาชิกสภานิติบัญญัติที่สูงลิ่ว และได้บานปลายเมื่อวันศุกร์หลังจากรถหุ้มเกราะของตำรวจชนคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างจนเสียชีวิต นายปราโบโว ซึ่งเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ได้เดินทางไปเยี่ยมบ้านของคนขับรถผู้เสียชีวิตเมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ เพื่อแสดงความเสียใจต่อพ่อแม่ของเขา และให้คำมั่นว่าจะดูแลการสอบสวนคดีการเสียชีวิตนี้ด้วยตนเอง สื่อท้องถิ่นรายงานว่ามีการปล้นร้านค้าประปรายในกรุงจาการ์ตา และเกิดความเสียหายกับสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมหลายแห่งเมื่อวันศุกร์ รวมถึงมีการเดินขบวนประท้วงในเมืองใหญ่อย่างบันดุงและยอกยาการ์ตา การรถไฟขนส่งมวลชนในกรุงจาการ์ตาระบุว่า ในวันนี้รถไฟจะไม่จอดที่สถานีแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับพื้นที่ที่มีการประท้วงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่บริการรถประจำทางทรานส์จาการ์ตาแจ้งว่าไม่สามารถให้บริการลูกค้าได้ สำหรับในวันนี้ยังไม่มีสัญญาณของการประท้วงเพิ่มเติมแต่อย่างใด.-813.-สำนักข่าวไทย

เครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 ตกในโปแลนด์ขณะซ้อมบินโชว์

ราดอม 30 ส.ค. – เกิดเหตุเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 ของกองทัพอากาศโปแลนด์ตกขณะกำลังฝึกซ้อมเพื่อเตรียมบินโชว์ ทำให้นักบินประจำเครื่องเสียชีวิต เครื่องบินรบเอฟ-16 ของโปแลนด์ ประสบเหตุตกระหว่างที่นักบินกำลังซ้อมบินผาดแผลง เพื่อเตรียมแสดงการบินในงานแอร์โชว์ที่จะมีขึ้นที่เมืองราด็อม ทางภาคกลางของโปแลนด์ ก่อนที่เครื่องบินจะตก จะเห็นได้ว่าเครื่องบินมีการบินพลิกตีลังกา หลังจากนั้นเครื่องก็ดิ่งหัวลงและลดระดับลงอย่างรวดเร็ว ก่อนตกกระแทกพื้นจนเกิดระเบิดไฟลุกท่วม โดยลำตัวของเครื่องบินขาดกระเด็นออกจากกัน ชิ้นส่วนท่อนหนึ่งของเครื่องบินยังเคลื่อนไปกับพื้นเป็นระยะทางหลายสิบเมตร และเป็นเรื่องน่าเศร้าที่นักบินไม่สามารถดีดตัวออกมาได้ทัน ทำให้เสียชีวิตทันที แต่ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างไม่มีใครเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นเหตุการณ์เครื่องบินรบเอฟ -16 ตกเป็นครั้งแรกของโปแลนด์ ส่วนงานแอร์โชว์ที่เมืองราด็อม ที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ก็ต้องถูกยกเลิกไป.-816.-สำนักข่าวไทย

นักศึกษาอินโดนีเซียลั่นเดินหน้าประท้วง

จาการ์ตา 29 ส.ค. – กลุ่มนักศึกษาชาวอินโดนีเซียระบุว่าจะจัดการประท้วงที่สำนักงานตำรวจกรุงจาการ์ตาในวันศุกร์ หลังจากมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รายหนึ่งเสียชีวิตจากการถูกรถตำรวจชนระหว่างเหตุปะทะรุนแรงที่เกิดขึ้นหลังการชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภาเมื่อวันก่อน นายมูซามมิล อิห์ซาน หัวหน้าสหภาพนักศึกษาที่ใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า นักศึกษาจะทำการประท้วงต่อต้านความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงบ่ายวันศุกร์ และคาดว่าจะมีกลุ่มนักศึกษาอื่น ๆ เข้าร่วมด้วย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมดำเนินการประท้วงในหลายประเด็น เช่น เงินเดือนของ สมาชิกรัฐสภาที่สูงเกินไป งบประมาณด้านการศึกษา และโครงการอาหารกลางวันของรัฐบาล เมื่อการประท้วงยืดเยื้อไปถึงกลางคืน สื่อท้องถิ่นรายงานว่าตำรวจปราบจลาจลได้ยิงแก๊สน้ำตาและใช้รถฉีดน้ำเพื่อพยายามสลายผู้ชุมนุม พล.ต.ท. อเซป เอดิ ซูเฮรี ผู้บัญชาการตำรวจกรุงจาการ์ตา กล่าวว่า ระหว่างการปะทะกัน มีรถหุ้มเกราะของตำรวจชนและทำให้คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างเสียชีวิต ซึ่งทางสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ระบุว่าผู้เสียชีวิตไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประท้วงดังกล่าว ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจก็ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนนายอับดุล การิม หัวหน้าแผนกวิชาชีพและรักษาความปลอดภัยของตำรวจอินโดนีเซีย กล่าวในงานแถลงข่าวว่า เจ้าหน้าที่ทั้ง 7 คนที่ประจำการอยู่ในรถหุ้มเกราะดังกล่าวถูกจับกุมและอยู่ระหว่างการสอบสวน หลังจากการเสียชีวิตดังกล่าว สื่อท้องถิ่นรายงานว่า กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้รวมตัวประท้วงหน้ากองบัญชาการตำรวจปราบจลาจล เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และสถานีโทรทัศน์ “กอมปาส” (Kompas TV) รายงานว่าในวันศุกร์ ทหารถูกส่งไปยังอาคารดังกล่าวเพื่อช่วยควบคุมสถานการณ์ผู้ประท้วงหลายสิบคนที่ยังคงปักหลักอยู่ ในขณะเดียวกันกลุ่ม “จาการ์ตา ลีกัล เอด” (Jakarta […]

น้ำท่วมรุนแรงในปากีสถาน-เสียชีวิตแล้ว 17 ราย

ปัญจาบ 29 ส.ค. – หมู่บ้านกว่า 1,600 แห่งในจังหวัดปัญจาบของปากีสถานถูกน้ำท่วมหนัก มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 17 คน กระทบชาวบ้านอีกกว่า 1 ล้านคน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอินเดียระบายน้ำออกจากเขื่อน ทำให้น้ำไหลลงสู่แม่น้ำในปากีสถาน สำนักงานจัดการภัยพิบัติของจังหวัดปันจาบเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า น้ำท่วมครั้งใหญ่ในหมู่บ้านกว่า 1,600 แห่งในแคว้นปัญจาบ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 ราย กระทบต่อชาวบ้านมากกว่า 1 ล้านคน สาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากจมน้ำและอุบัติเหตุอื่นๆ อันเนื่องมาจากน้ำท่วมและดินถล่ม เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นได้เร่งอพยพชาวบ้านมากกว่า 1 ล้านคนออกจากบ้านเรือนในจังหวัดปัญจาบในสัปดาห์นี้ หลังจากอุทกภัยที่รุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปีสร้างความเสียหายแก่หมู่บ้านหลายร้อยแห่ง และทำให้พื้นที่เพาะปลูกธัญพืชสำคัญต้องจมน้ำ ขณะที่ชาวบ้านในหลายหมู่บ้านต้องเดินลุยน้ำท่วมสูงถึงระดับอกเมื่อวานนี้ หลังจากแม่น้ำเจนาบล้นฝั่งจนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน เจ้าหน้าที่ระบุว่า ปัจจัยหลักของสถานการณ์น้ำท่วมในปัญจาบ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรครึ่งหนึ่งของปากีสถาน และเป็นพื้นที่ผลิตข้าวสาลี ข้าว และฝ้ายหลักของประเทศ เกิดจากฝนในช่วงมรสุมที่ตกหนัก และยิ่งเลวร้ายลงจากการที่อินเดียปล่อยน้ำส่วนเกินมหาศาลจากเขื่อนลงสู่แม่น้ำราวี สุตเลจ และเจนาบ ทำให้แม่น้ำสายหลัก 3 สายที่ไหลเข้าสู่จังหวัดทางตะวันออกของปากีสถานแห่งนี้เอ่อล้น จนเจ้าหน้าที่ต้องเจาะแนวตลิ่งบางจุดเพื่อระบายน้ำ ขณะที่อินเดียซึ่งมักปล่อยน้ำเมื่อเขื่อนเต็ม ได้แจ้งเตือนน้ำท่วมแก่ปากีสถานถึง 3 ครั้งในสัปดาห์นี้ ระบุเป็นมาตรการด้านมนุษยธรรม […]

1 2 3 4 230
...