
นายกฯ พร้อมผู้นำอาเซียน หารือ ปธน.สหรัฐ ร่วมสร้างภูมิภาคสงบสุข
นายกฯ พร้อมผู้นำอาเซียน หารือประธานาธิบดีสหรัฐ ร่วมเสริมสร้างภูมิภาคที่สงบสุข ผลักดันความร่วมมือเศรษฐกิจด้วยดิจิทัล และการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม
นายกฯ พร้อมผู้นำอาเซียน หารือประธานาธิบดีสหรัฐ ร่วมเสริมสร้างภูมิภาคที่สงบสุข ผลักดันความร่วมมือเศรษฐกิจด้วยดิจิทัล และการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม
นายรานิล วิกรมสิงเห นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของศรีลังกาจะเริ่มจัดตั้งรัฐบาลเอกภาพในวันนี้ แต่การแต่งตั้งเขาไม่ได้สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลศรีลังกา ที่เรียกร้องให้ประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ลาออกจากตำแหน่ง
โซล 11 พ.ค.- นักวิเคราะห์ชี้ว่า แผนการของประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ที่จะเสนอความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจให้แก่เกาหลีเหนือ แลกกับการปลดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี อาจเผชิญความท้าทาย ขณะที่มีสัญญาณว่าเกาหลีเหนือเตรียมทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ในเร็ว ๆ นี้ ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลกล่าวสุนทรพจน์รับตำแหน่งเมื่อวานนี้ว่า จะใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่จูงใจเกาหลีเหนือ แต่ไม่ได้แจกแจงรายละเอียดว่า จะจูงใจเกาหลีเหนือให้กลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาได้อย่างไร โดยกล่าวเพียงว่า สถานการณ์ความมั่นคงขณะนี้ตึงเครียด เพราะเกาหลีเหนืออาจทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ เจ้าหน้าที่สหรัฐและเกาหลีใต้คาดว่า เกาหลีเหนืออาจทดสอบในเดือนนี้เป็นอย่างเร็วที่สุด หลังจากฉีกประกาศพักการทดสอบขีปนาวุธที่ประกาศเองในปี 2561 ด้วยการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ และจะเป็นการทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ครั้งแรกหลังจากทดลองครั้งหลังสุดในปี 2560 ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือของมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวาในกรุงโซลให้ความเห็นว่า สุนทรพจน์ของผู้นำใหม่เกาหลีใต้มีความประนีประนอม แต่เกาหลีเหนือจะไม่มีวันยอมรับการอ้างเหตุผลว่า เกาหลีใต้จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ หากเกาหลีเหนือยอมปลดนิวเคลียร์ เพราะเท่ากับเป็นการไม่ยอมรับระบอบของตนเอง ด้านอาจารย์มหาวิทยาลัยเกาหลีเหนือศึกษาในกรุงโซลตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีลี มยองบักของเกาหลีใต้เคยยื่นข้อเสนอนี้ในปี 2550 ด้วย “วิสัยทัศน์ 3000” เสนอช่วยให้เกาหลีเหนือมีรายได้ต่อหัวประชากร 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 104,000 บาท) ภายใน 10 ปี หากละทิ้งโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ รวมทั้งเปิดประเทศให้แก่โลกภายนอก แต่ถูกเกาหลีเหนือบอกปัดโดยมองว่าเป็นแผนหวังล้มรัฐบาลเกาหลีเหนือ.-สำนักข่าวไทย
“กอร์ปศักดิ์” แนะรัฐบาลเครดิตการคลังดี กู้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ต้องมีวินัยจัดสรรงบประมาณ
คลังกู้เงิน JICA ตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ใช้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากโควิด-19 วงเงิน 50,000 ล้านเยน
“วิโรจน์” ควงผู้สมัคร ส.ก.เขตพระโขนง ก้าวไกล บุกตลาดบางจาก ระบุผู้ว่าฯ กทม. ต้องคืนเศรษฐกิจให้คนกรุง เร่งสื่อสารนโยบาย เชื่อสวัสดิการที่ดีทำได้
นครเซี่ยงไฮ้ของจีนเดินหน้าผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ด้วยการให้ชาวเมืองออกจากบ้านได้เพิ่มอีก 4 ล้านคน ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ปรับลดประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนปีนี้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า จากที่จีนประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 1/2565 เติบโตร้อยละ 4.8 (YoY) และ 1.3 (QoQ) แม้เศรษฐกิจจีนจะแสดงแนวโน้มการฟื้นตัวได้ดีในไตรมาสแรก แต่จีนยังคงเผชิญปัจจัยเสี่ยงต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจในระยะที่เหลือของปี
นางเอลวิรา นาบิลลินา ผู้ว่าการธนาคารกลางรัสเซีย ระบุว่า เศรษฐกิจรัสเซียไม่สามารถอยู่รอดตลอดไปด้วยทุนสำรองที่มีอยู่ และจะต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อรับมือกับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติ
ปักกิ่ง 18 เม.ย.- เศรษฐกิจจีนไตรมาสเดือนมกราคม-มีนาคมปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 4.8 จากไตรมาสแรกของปีก่อน แต่ขยายตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน เนื่องจากเมืองอุตสาหกรรมหลายแห่งล็อกดาวน์เพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ไตรมาสแรกของปี 2565 เศรษฐกิจจีนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกขยายตัวร้อยละ 1.3 จากไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ซึ่งขยายตัวร้อยละ 1.4 จากไตรมาส 3 ของปีก่อน และร้อยละ 4 จากไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 นักวิเคราะห์คาดว่า เศรษฐกิจจีนไตรมาสนี้น่าจะได้รับผลกระทบมากยิ่งขึ้นเพราะมาตรการล็อกดาวน์จะทำให้กิจกรรมทางธุรกิจในเดือนเมษายนและพฤษภาคมสะดุด และจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลกด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคือ การขนส่งสินค้าอุตสาหกรรมที่สะดุดเพราะมาตรการล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางธุรกิจของจีนที่มีประชากรมากกว่า 25 ล้านคน และอีกหลายเมือง ทำให้ผู้ผลิตยานยนต์และสินค้าอุตสาหกรรมระดับโลกต้องลดหรือระงับการผลิต พรรคคอมมิวนิสต์จีนรับปากใช้มาตรการทางภาษีและอื่น ๆ ช่วยเหลือภาคธุรกิจ นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนย้ำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการในเรื่องนี้ ขณะที่นักสังเกตการณ์คาดว่า รัฐบาลจีนจะดำเนินการอย่างระมัดระวังและใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเจาะจง มากกว่าใช้จ่ายอย่างเหวี่ยงแห เพราะกังวลว่าจะไปเพิ่มราคาที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหวทางการเมือง และหนี้ภาคธุรกิจที่สูงจนเป็นอันตรายอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย
เคียฟ 10 เม.ย.- ยูเครนห้ามนำเข้าสินค้าทุกอย่างจากรัสเซีย พร้อมกับเรียกร้องประเทศอื่น ๆ ให้ทำตามและใช้มาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจรัสเซียให้รุนแรงยิ่งขึ้น นางยูลียา สวีรีเดนโก รัฐมนตรีเศรษฐกิจยูเครนโพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันเสาร์ว่า ยูเครนขอประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องยุติการค้าสินค้ากับรัฐผู้รุกรานอย่างสิ้นเชิง และนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป สินค้าของสหพันธรัฐรัสเซียจะไม่สามารถนำเข้ายูเครนได้อีกต่อไป งบประมาณของศัตรูจะไม่ได้รับเงินจากการนำเข้าดังกล่าวที่จะนำไปใช้สนับสนุนการทำสงคราม มาตรการของยูเครนสามารถเป็นตัวอย่างให้แก่หุ้นส่วนชาติตะวันตกและกระตุ้นให้เข้มงวดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย เช่นการคว่ำบาตรพลังงานและโดดเดี่ยวธนาคารรัสเซียทั้งหมด ทั้งนี้ก่อนหน้าที่รัสเซียจะเปิดฉากสงครามกับยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ยูเครนนำเข้าสินค้าจากรัสเซียปีละ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 201,498 ล้านบาท) แต่หลังจากนั้นก็แทบไม่มีการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการกันอีกเลย การประกาศเมื่อวานนี้เท่ากับประกาศให้การยุติการนำเข้าสินค้าจากรัสเซียมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย
บรรยากาศในกรุงมอสโก หลังจากที่รัสเซียต้องเผชิญกับสารพัดมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจจากชาติตะวันตก และมุมมองของผู้คนในรัสเซียต่อความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนครั้งนี้