
จีนจะเพิ่มประสิทธิภาพมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด
จีนจะเพิ่มประสิทธิภาพของมาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ในปีหน้า ในขณะที่รัฐบาลพยายามจะประสานนโยบายโควิด-19 กับการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคมให้สอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น
จีนจะเพิ่มประสิทธิภาพของมาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ในปีหน้า ในขณะที่รัฐบาลพยายามจะประสานนโยบายโควิด-19 กับการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคมให้สอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น
เวลลิงตัน 5 ธ.ค.- รัฐบาลนิวซีแลนด์จะเริ่มการไต่ถามมาตรการรับมือโรคโควิด-19 ของประเทศ เพื่อถอดบทเรียนให้รัฐบาลในอนาคตได้เรียนรู้จากประสบการณ์นี้ รัฐบาลนิวซีแลนด์แถลงวันนี้ว่า คณะกรรมาธิการการไต่ถามจะพิจารณามาตรการรับมือทั้งหมด ครอบคลุมถึงมาตรการเศรษฐกิจอย่างนโยบายการเงินการคลัง แต่จะไม่พิจารณาการตัดสินใจเป็นการเฉพาะของธนาคารกลาง จุดประสงค์เพื่อถอดบทเรียนการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 สำหรับประยุกต์ใช้รับมือการระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในกลางปี 2567 นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นกล่าวว่า โควิดระบาดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในรอบ 100 ปี จึงจำเป็นต้องรวบรวมสิ่งที่ได้กระทำมาและสิ่งที่ได้เรียนรู้สำหรับใช้ในกรณีที่อาจเกิดการระบาดขึ้นอีก นิวซีแลนด์รับมือโควิดอย่างรวดเร็ว ประกอบกับลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเกาะ ทำให้สามารถสกัดโควิดได้จนถึงปลายปี 2564 แต่การบังคับให้คนทำงานด้านสาธารณสุขและการศึกษาต้องฉีดวัคซีน และการปิดประเทศอย่างเข้มงวดทำให้เกิดการประท้วงเมื่อต้นปี ส่วนมาตรการการเงินที่รัฐบาลใช้กระตุ้นเศรษฐกิจถูกพรรคฝ่ายค้านกล่าวโทษว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ.-สำนักข่าวไทย
“อาคม” รมว.คลัง มุ่งรักษาแผลเป็น หนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน แนะปรับตัว รองรับเศรษฐกิจดิจิทัล เดินหน้าเศรษฐกิจ BCG
คณะผู้แทนสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน เข้าพบนายกฯ ชื่นชมโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของรัฐบาล พร้อมร่วมมือเสริมสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน
รองโฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ชื่นชมนักวิจัยไทยต่อยอดพัฒนานวัตกรรม “TrueEye Technology” คัดกรองภาวะเบาหวานเชิงรุก และ “ตำรับยาสมุนไพรทาแผลเบาหวาน” สร้างโอกาสการเข้าถึงยา เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ
ภาครัฐและเอกชนเห็นตรงกันโอกาสที่เศรษฐกิจไทยปี 66 เติบโตได้แน่ 3.5-4% โดยภาครัฐเตรียมแผนดันลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมากกว่า 5 ล้านล้านบาท และอาจไม่จำเป็นต้องใช้คนละครึ่งมากระตุ้นเศรษฐกิจ
“ทิพานัน” ชี้เศรษฐกิจฟื้นตัว “พล.อ.ประยุทธ์” บริหารถูกทาง โชว์ S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) จากปัจจัยท่องเที่ยวโตเกินคาด ประมาณ 10 ล้านคนในปี 65 ชี้ EEC-การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
นิวยอร์ก 15 พ.ย. – แอมะซอนดอทคอม (Amazon.com) ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของสหรัฐ เตรียมประกาศเลิกจ้างพนักงานฝ่ายองค์กรและเทคโนโลยีราว 10,000 คนอย่างเร็วที่สุดตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการปลดพนักงานครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของแอมะซอน หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สของสหรัฐรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนามที่ระบุว่า แอมะซอนเตรียมประกาศเลิกจ้างพนักงานฝ่ายองค์กรและเทคโนโลยีราว 10,000 คนอย่างเร็วสุดตั้งแต่สัปดาห์นี้ การปลดพนักงานในครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของแอมะซอน เช่น อเล็กซา (Alexa) ระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ผู้ช่วยอัจฉริยะที่แอมะซอนพัฒนาขึ้น รวมถึงฝ่ายค้าปลีก และฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ แหล่งข่าวยังระบุว่า ขณะนี้ตัวเลขพนักงานที่จะถูกปลดนั้นยังไม่นิ่ง แต่ถ้าเป็นไปตามที่คาดว่ามีราว 10,000 คน ก็จะคิดเป็นร้อยละ 3 ของพนักงานฝ่ายองค์กรของแอมะซอน และไม่ถึงร้อยละ 1 ของพนักงานแอมะซอนทั่วโลกที่มีกว่า 1.5 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานจ้างรายชั่วโมง หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า แผนเลิกจ้างพนักงานดังกล่าวของแอมะซอนมีขึ้นในขณะที่ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ช่วงจับจ่ายใช้สอยในเทศกาลวันหยุดปลายปี ซึ่งเป็นช่วงที่แอมะซอนทำกำไรได้อย่างมั่นคง และแสดงให้เห็นว่าบริษัทหลายแห่งต่างได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็วจากพิษเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก จนทำให้องค์กรต้องปรับลดฝ่ายที่มีพนักงานมากเกินไป หรือฝ่ายที่มีผลงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้ แอมะซอนจะกลายเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีรายล่าสุดที่ประกาศเลิกจ้างพนักงานหลังมีบริษัทหลายแห่งได้ปรับลดพนักงานไปก่อนแล้ว อย่างไรก็ดี โฆษกของแอมะซอนได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย
โตเกียว 15 พ.ย.- เศรษฐกิจญี่ปุ่นไตรมาส 3 ของปีนี้หดตัวเป็นครั้งแรกของปี อันเป็นผลจากเศรษฐกิจโลกเสี่ยงถดถอย เงินเยนอ่อนค่า และสินค้านำเข้ามีราคาสูงขึ้นกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและกิจกรรมของภาคธุรกิจ ข้อมูลทางการญี่ปุ่นระบุว่า ไตรมาสเดือนกรกฎาคม-กันยายนปีนี้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ลดลงร้อยละ 1.2 ต่อปี และลดลงร้อยละ 0.3 ต่อไตรมาส สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.1 ต่อปี และขยายตัวร้อยละ 0.3 ต่อไตรมาส เศรษฐกิจญี่ปุ่นไตรมาส 3 หดตัวเป็นครั้งแรกของปีนี้ หลังจากขยายตัวมา 3 ไตรมาสติดต่อกัน นอกเหนือจากแรงกดดันเรื่องเศรษฐกิจโลกชะลอการเติบโตและเรื่องภาวะเงินเฟ้อสูงแล้ว ญี่ปุ่นยังเผชิญความท้าทายจากเงินเยนที่อ่อนค่าที่สุดในรอบ 32 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นเพราะสินค้านำเข้าทุกอย่างตั้งแต่เชื้อเพลิงไปจนถึงอาหารมีราคาแพงขึ้น เดือนที่แล้วนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 260,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.3 ล้านล้านบาท).-สำนักข่าวไทย
ปักกิ่ง 7 พ.ย.- ศุลกากรจีนแจ้งว่า ยอดส่งออกของจีนในเดือนตุลาคมลดลงเป็นครั้งแรกนับจากกลางปี 2563 เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ขณะที่การค้าระหว่างประเทศได้รับผลกระทบจากเรื่องเศรษฐกิจโลกเสี่ยงถดถอย สำนักงานศุลกากรกลางจีนแจ้งว่า ยอดส่งออกเดือนตุลาคมปี 2565 ลดลงเป็นครั้งแรกนับจากกลางปี 2563 โดยลดลงร้อยละ 0.3 จากเดือนตุลาคมปี 2564 และลดลงมากจากเดือนกันยายนที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 5.7 ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนตุลาคมปีนี้ลดลงเป็นเดือนแรกนับจากเดือนมีนาคม โดยลดลงร้อยละ 0.7 ต่อปี และลดลงจากเดือนกันยายนที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 เอเอฟพีระบุว่า การค้าจีนชะลอตัวลง เนื่องจากโลกมีความต้องการสินค้าจีนลดลง อันเป็นผลจากการที่ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น และเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย นอกจากนี้การที่จีนยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ที่พบเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 ได้ทำลายความรู้สึกอยากจับจ่ายของผู้บริโภคและกระทบความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกแห่งนี้.-สำนักข่าวไทย
ข้อมูลทางการตุรกีหรือทูร์เคียระบุว่า อัตราเงินเฟ้อในเดือนตุลาคมปีนี้เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคมปีก่อนถึงร้อยละ 85.51 สูงที่สุดนับจากปี 2540 ขณะที่ผู้นำตุรกีปกป้องนโยบายเศรษฐกิจว่ากำลังเห็นผลในการรับมือกับค่าครองชีพสูง
ริชี ซูนัค แถลงครั้งแรกหลังคว้าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ แบบไร้คู่แข่ง เตือนประเทศจะเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจครั้งรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้เกิดเสถียรภาพและเอกภาพในประเทศ