“มาริษ” ขอบคุณเวียดนามเข้าใจท่าที-หนุนการทูตไทย

กระทรวงการต่างประเทศ 30 ก.ค.- “มาริษ” เผย รมว.กต.เวียดนามเยือนไทย ห่วงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมขอบคุณเวียดนามเข้าใจท่าที และสนับสนุนการทูตไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงการเดินทางเยือนประเทศไทย ของนายบุ่ย แทงห์ เซิน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประเทศเวียดนาม ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประเทศเวียดนาม แสดงความพร้อมที่จะมีบทบาทสนับสนุนการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งในโอกาสนี้ นานมาริษ ได้ขอบคุณฝ่ายเวียดนามที่เข้าใจท่าที และสนับสนุนการดำเนินการทางการทูตของไทยในฐานะเพื่อบ้านที่ดี ที่มีความจริงใจ และต้องการแก้ไขสถานการณ์ด้วยความสันติวิธี นายมาริษ ยังเปิดเผยว่า ทั้งไทย และเวียดนาม ยังแสดงความยินดีกับความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ใกล้ชิด และได้หารือถึงแนวทางการยกระดับความร่วมมือในด้านต่าง ๆ รวมถึงการจัดทำแผนปฏิบัติการหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน การส่งเสริมความเชื่อมโยงและการท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงในอนาคต อาทิ การเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 5 ในช่วงปลายปีนี้.-312 -สำนักข่าวไทย

พายุวิภากระทบหนักเวียดนาม-ฟิลิปปินส์

ฮานอย 24 ก.ค. – อิทธิพลของพายุวิภาส่งผลให้เกิดน้ำท่วมสูงในเวียดนาม ขณะที่ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมทั่วประเทศมีผู้เสียชีวิตและสูญหายหลายคน เวียดนามระบุว่า พายุโซนร้อนวิภาส่งผลเกิดน้ำท่วมสูง ชาวบ้านในพื้นที่ภาคกลางหลายร้อยครัวเรือนต้องถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เนื่องจากเส้นทางหลักได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมฉับพลัน ประชาชนราว 12,500 คนในพื้นที่เสี่ยงสูงต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในจังหวัดเหงะอานทางตอนกลางของประเทศต้องพร่องน้ำออกจากเขื่อน ชุมชนหลายแห่งได้รับผลกระทบจากกระแสน้ำที่ท่วมสูงจนถึงหลังคาบ้าน ชาวบ้านต้องอพยพไปอยู่ในที่สูง ผู้ได้รับผลกระทบบอกว่าระดับน้ำในปีนี้สูงและน่ากลัวยิ่งกว่าน้ำท่วมเมื่อปี 2531 แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตในเวียดนาม ส่วนที่ฟิลิปปินส์แม้ว่าพายุวิภาเคลื่อนผ่านไปตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์แต่อิทธิพลของพายุก็ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักตลอดหลายวันที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มทั่วประเทศ รวมทั้งในกรุงมะนิลาที่ยังมีน้ำท่วมสูง ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการใช้ชีวิตของประชาชน โดยที่กรุงมะนิลาต้องประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติ สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้างทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 คน และมีผู้สูญหายอีก 8 คน มีประชาชนได้รับผลกระทบมากกว่า 1,410,000.-816.-สำนักข่าวไทย

พายุวิภาทำเวียดนามจมน้ำ

ฮานอย 24 ก.ค. – อิทธิพลของพายุโซนร้อนวิภาที่แม้จะเคลื่อนผ่านเวียดนามและอ่อนกำลังลงตามลำดับ แต่ก็ยังส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างหลายพื้นที่ของประเทศ สถานีโทรทัศน์ของเวียดนามรายงานว่า จังหวัดเหงะอานทางภาคกลาง เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนวิภาที่เคลือนขั้นฝั่งพัดถล่มตั้งแต่เมื่อวันอังคารมากที่สุด ฝนที่ตกหนักส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันเป็นบริเวณกว้าง บางพื้นที่น้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านหลายพันครอบครัวต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ตลอดคืนวันอังคารจนถึงเช้าวันพุธฝนตกหนัก ปริมาณน้ำฝนมากกว่า 200 มิลลิเมตร ทางการท้องถิ่นเตือนให้ประชาชนระวังดินโคลนถล่มโดยเฉพาะพื้นที่เชิงเขา ทหารกว่า 350,000 นายได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากน้ำท่วมทั่วประเทศ แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ แต่บ้านเรือนชาวบ้านจมน้ำกว่าพันหลังคาเรือน พื้นที่เพาะปลูกเสียหายอีกหลายหมื่นไร่ สำหรับพายุโซนร้อนวิภาได้อ่อนกำลังลงตามลำดับ ล่าสุดเหลือเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง บริเวณแขวงหลวงพระบาง ของ สปป.ลาว และคาดว่าจะอ่อนกำลังลงอีก มีแนวโน้มจะเคลื่อนที่ออกไปทางประเทศเมียนมาในช่วงวันที่ 25-26 กรกฎาคมนี้ แต่อิทธิพลของพายุวิภา ยังคงส่งผลให้เกิดฝนตกหนักทั้งใน สปป. ลาว เวียดนาม และไทยไปจนถึงช่วงสุดสัปดาห์นี้.-815.-สำนักข่าวไทย

Satellite timelapse shows Typhoon Wipha making landfall

พายุ “วิภา” เข้า สปป.ลาว

เวียงจันทน์ 23 ก.ค.- พายุโซนร้อนวิภา (Wipha) ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นและเคลื่อนตัวเข้าสู่ สปป.ลาวเมื่อช่วงก่อนรุ่งสางที่ผ่านมา หลังจากพัดขึ้นฝั่งเวียดนามเมื่อวานนี้ พายุโซนร้อนวิภาได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นเมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาเดียวกันในไทย และเคลื่อนตัวขึ้นฝั่ง สปป.ลาวเมื่อเวลา 04.00 น.โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางที่ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้มีฝนตกหนักและกระแสลมแรงในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือ รวมทั้งในนครหลวงเวียงจันทน์ และแขวงหลวงพระบาง คาดว่าจะมีฝนตกหนักตลอดทั้งวันในวันนี้ ขณะที่พายุกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วลม 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำต่อไป ส่วนเมื่อช่วงสายวานนี้ พายุโซนร้อนวิภาได้พัดขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของเวียดนาม ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและกระแสลมแรง แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเวียดนามรายงานว่า มีเรือประมงล่มนอกชายฝั่งจังหวัดกว๋างนิญ แต่ลูกเรือทั้ง 9 คนได้รับการช่วยชีวิต ล่าสุดท่าอากาศยานและท่าเรือในจังหวัดกว๋างนิญและเมืองไฮฟองที่ปิดทำการไปเมื่อวานนี้ ได้เปิดทำการแล้ว.-816(814).-สำนักข่าวไทย

Trump and Marcos Jr. talk in Oval Office

“ทรัมป์” ประกาศเก็บภาษีฟิลิปปินส์ 19%

วอชิงตัน 23 ก.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ประกาศว่า สหรัฐจะเก็บภาษีศุลกากรกับฟิลิปปินส์ในอัตราร้อยละ 19 ขณะที่สินค้าอเมริกันจะเข้าฟิลิปปินส์โดยเสียภาษีร้อยละ 0 ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขา หลังจากพบหารือกับประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอสของฟิลิปปินส์ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า เป็นการเยือนที่งดงามและสามารถสรุปข้อตกลงการค้าที่ฟิลิปปินส์จะเปิดตลาดให้แก่สหรัฐด้วยการเก็บภาษีศุลกากรร้อยละ 0 และจะจ่ายภาษีศุลกากรให้สหรัฐร้อยละ 19 เขากล่าวด้วยว่า สหรัฐและฟิลิปปินส์ที่จะฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 80 ปีในปีหน้า จะทำงานด้านการทหารร่วมกัน แต่ไม่ได้เปิดเผยในรายละเอียด อัตราภาษีศุลกากรดังกล่าวต่ำกว่าที่ผู้นำสหรัฐส่งจดหมายถึงฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมว่า จะเก็บภาษีฟิลิปปินส์ร้อยละ 20 แต่สูงกว่าที่เขาประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายนว่า จะเก็บร้อยละ 17 อัตราภาษีล่าสุดของฟิลิปปินส์เท่ากับอัตราที่สหรัฐตกลงเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะเรียกเก็บจากอินโดนีเซียร้อยละ 19 และต่ำกว่าเวียดนามเล็กน้อยที่ถูกสหรัฐเรียกเก็บร้อยละ 20 ผู้นำฟิลิปปินส์เป็นผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนแรกที่ไปพบนายทรัมป์ขณะเป็นผู้นำสหรัฐเป็นสมัยที่ 2 เขากล่าวกับสื่อก่อนเริ่มการหารือว่า สหรัฐเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุด ใกล้ชิดที่สุด และไว้วางใจได้มากที่สุดของฟิลิปปินส์ แต่ไม่ได้แสดงความเห็นใด ๆ หลังจากที่นายทรัมป์ประกาศอัตราภาษี ปีที่แล้วฟิลิปปินส์ได้ดุลการค้าสหรัฐเกือบ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 161,045 ล้านบาท) จากการค้าทวิภาคีมูลค่า 23,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ […]

ไต้ฝุ่น ‘วิภา’ ทำให้เกิดฝนตกหนักในเวียดนาม

ฮานอย 22 ก.ค. – พายุไต้ฝุ่น ‘วิภา’ พัดขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของเวียดนามในวันนี้เมื่อเวลาประมาณ 09:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกันกับเวลาในประเทศไทย ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน ไฟฟ้าดับ และโครงสร้างพื้นฐานได้รับความะภเสียหาย ศูนย์พยากรณ์อุตุนิยมวิทยาอุทกศาสตร์แห่งชาติเวียดนามระบุว่า พายุไต้ฝุ่นวิภาพัดเข้าสู่พื้นที่ชายฝั่งระหว่างจังหวัดฮึงเอียนและนิงห์บิงห์ โดยมีลมกระโชกแรงสูงสุด 88 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จังหวัดชายฝั่งประกาศเฝ้าระวังฉุกเฉิน และสายการบินได้ยกเลิกเที่ยวบิน เมื่อเวลาประมาณ 08:30 น. สะพานแขวนแห่งหนึ่งในจังหวัดเดียนเบียนพังทลายลงบางส่วนเนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย นอกจากน้ันยังมีรายงานไฟฟ้าดับในบางส่วนของชุมชนเตียนฮายในจังหวัดฮึงเอียน ประชาชนนำภาชนะบรรจุน้ำมันมายังปั๊มน้ำมันเพื่อซื้อเชื้อเพลิงไปใช้กับเครื่องปั่นไฟ ขณะเดียวกัน จังหวัดทางภาคกลาง เช่น แทงฮวา และเหงะอาน มีปริมาณฝนตก 150 ถึง 200 มิลลิเมตร ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มและน้ำท่วมฉับพลัน รัฐบาลเวียดนามได้นำเสนอมาตรการป้องกันพื้นที่เกษตรกรรม บ่อปลา และป่าไม้ และได้ระดมทหารและเจ้าหน้าที่ 350,000 นายเข้าร่วมภารกิจป้องกันภัยพิบัติ ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานในวันนี้ว่า มีพลเมืองชาวจีน 2 รายเสียชีวิตในประเทศไทยเมื่อวันอาทิตย์ ในขณะที่เกิดลมกระโชกแรงและฝนตกหนัก จากอิทธิพลของพายุโซนร้อนวิภาที่พัดถล่มประเทศไทย […]

พายุไต้ฝุ่นวิภาเข้าใกล้เวียดนาม

ฮานอย 22 ก.ค. – เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทางตอนเหนือของเวียดนามได้เร่งให้ประชาชนตามแนวชายฝั่งอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากพายุไต้ฝุ่นวิภา ซึ่งเป็นพายุลูกที่หกของปีนี้ กำลังจะพัดขึ้นฝั่งที่จังหวัดนิงห์บิงห์ในวันอังคาร ตามการคาดการณ์ของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาเวียดนาม ขณะนี้ หลายจังหวัดของเวียดนาม เช่น นิงห์บิงห์ กว๋างนิงห์ และฮึงเอียน ได้ดำเนินมาตรการป้องกันพายุไต้ฝุ่นวิภาแล้ว โดยการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงสูง และระงับการเดินเรือ ผู้จัดการโรงแรมแห่งหนึ่งกล่าวว่่า ตามคำสั่งของทางการท้องถิ่น ทางโรงแรมได้ระงับบริการลูกค้าตั้งแต่เวลาเมื่อวานนี้จนกว่าพายุจะผ่านไป ส่วนนักท่องเที่ยวรายหนึ่งจากกรุงฮานอยของเวียดนามกล่าวว่า เนื่องจากไม่รู้ว่าพายุไต้ฝุ่นลูกนี้จะมีความรุนแรงแค่ไหน นักท่องเที่ยวทุกคนจึงอยากกลับบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงและปกป้องทรัพย์สินของตนเอง.-813.-สำนักข่าวไทย

Vietnam's Halong Bay boat disaster

พายุ “วิภา” ทำเรือท่องเที่ยวล่มในเวียดนาม

ฮานอย 20 ก.ค.- เกิดอุบัติเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มในอ่าวฮาลองหรือฮาลองเบย์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเวียดนามที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้าย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 38 คน และยังไม่พบตัวอีก 5 คน หนังสือพิมพ์วีเอ็นเอ็กซ์เพรสส์ของเวียดนามรายงานว่า เรือท่องเที่ยวชื่อวันเดอร์ซี (Wonder Sea) พลิกคว่ำในอ่าวฮาลองเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาเดียวกันในไทย เป็นช่วงที่พายุโซนร้อนวิภา (Wipha) เคลื่อนตัวข้ามทะเลจีนใต้เข้าใกล้เวียดนาม มีรายงานกระแสลมแรง ฝนตกหนัก และฟ้าผ่าในพื้นที่ดังกล่าว ขณะเกิดเหตุบนเรือมีชาวเวียดนามทั้งหมด 53 คน เป็นลูกเรือ 5 คน และผู้โดยสาร 48 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกรุงฮานอย ซึ่งอยู่ห่างจากอ่าวฮาลองไปทางตะวันตกราว 165 กิโลเมตร และในจำนวนนี้เป็นเด็ก 20 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้ 10 คน และพบศพใกล้จุดที่เรืออับปาง โดยพบศพเด็กแล้ว 8 คน และยังคงค้นหาผู้สูญหายอยู่ 5 คน ท่ามกลางฝนที่ตกหนักต่อเนื่องเป็นอุปสรรคต่อภารกิจค้นหาและกู้ภัย นายกรัฐมนตรีฝั่ม มิงห์ […]

เอกชนหนุนข้อเสนอรอบ 2 ไทยเจรจาสหรัฐหวังลดภาษีนำเข้าเหลือใกล้เคียงเวียดนาม

กรุงเทพฯ 11 ก.ค.– ประธาน​หอการค้า​เผย กกร. เห็นตรงกัน ข้อเสนอรอบ 2 ไทยเจรจาสหรัฐ มีความเหมาะสม ไม่เสียเปรียบเวียดนาม พร้อมประเมินทุกฉากทัศน์ภาษี 36% – 20% หวังลดผลกระทบยาวนาน นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการ​หอการค้า​ไทย​สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเปิดเผยถึงการที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเชิญคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งประกอบด้วย หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เข้าหารือเพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอรอบที่ 2 ที่ไทยส่งไปยังสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ในการเจรจาต่อรองอัตราภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ เตรียมเรียกเก็บจากสินค้าไทยในอัตรา 36% เริ่มวันที่ 1 สิงหาคมนี้ นายพจน์กล่าวว่า จากการหารือร่วมกันเอกชนทั้ง 3 สถาบันเห็นว่า ข้อเสนอของไทยในรอบล่าสุดถือว่าเหมาะสม เป็นข้อเสนอที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียเปรียบต่อประเทศคู่แข่งในการเจรจาต่อรอง โดยเฉพาะเวียดนาม ซึ่งมีโครงสร้างการผลิตสินค้าและกลุ่มอุตสาหกรรมใกล้เคียงกับไทย และได้รับอัตราภาษีเพียง 20% เท่านั้น ข้อเสนอของไทยยังคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยและเกษตรกร นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ร่วมกันพิจารณาฉากทัศน์ต่าง ๆ […]

Vietnam's Secretary General of Communist Party To Lam

เวียดนามเตรียมกวาดล้าง “สินค้าสวมสิทธิ”

ฮานอย 10 ก.ค.- เวียดนามกำลังจัดทำบทลงโทษที่เข้มงวดขึ้น เพื่อกวาดล้างการฉ้อโกงทางการค้าและการถ่ายลำสินค้าอย่างผิดกฎหมาย รวมทั้งมุ่งตรวจสอบสินค้าจีน เพื่อทำตามคำมั่นที่ให้ไว้กับสหรัฐในการเจรจาลดอัตราภาษีศุลกากร รอยเตอร์รายงานอ้างเอกสารของกระทรวงพาณิชย์เวียดนามลงวันที่ 3 กรกฎาคมตามเวลาเวียดนามว่า รัฐบาลจะออกคำสั่งใหม่ที่จะกำหนดมาตรการลงโทษที่รุนแรงขึ้นกับการฉ้อโกงแหล่งกำเนิดสินค้า และจะออกมาตรการและการตรวจสอบที่เคร่งครัดขึ้นเพื่อป้องกันการฉ้อโกง ที่ผ่านมาทางการเวียดนามได้รับแจ้งให้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ และเมื่อไม่นานมานี้ได้มุ่งเน้นไปที่สินค้าที่เสี่ยงฉ้อโกง หรือสินค้าจีนที่ถูกสหภาพยุโรปหรืออียูและสหรัฐประกาศใช้มาตรการปกป้องผลประโยชน์ทางการค้า เอกสารดังกล่าวยกตัวอย่างสินค้าที่มีการฉ้อโกง เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้, ไม้อัด, อะไหล่เครื่องจักรเหล็ก, รถจักรยาน, แบตเตอรี่, หูฟังไร้สาย และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ วิธีการฉ้อโกง เช่น ปลอมแปลงเอกสารเพื่อขอใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ปลอมแปลงใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า นำสินค้าปลอมเข้าเวียดนาม โดยระบุว่า การฉ้อโกงเพิ่มขึ้นในช่วงไม่นานมานี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเก็บภาษีศุลกากรและการใช้มาตรการปกป้องผลประโยชน์ทางการค้า รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า วันที่ของเอกสารฉบับนี้เป็นวันเดียวกับที่นายโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐบรรลุข้อตกลงเรื่องภาษี ทำให้เวียดนามเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากอังกฤษที่บรรลุข้อตกลงทางการค้าเบื้องต้นกับสหรัฐ เวียดนามตกลงเก็บภาษีศุลกากรสินค้าสหรัฐในอัตราร้อยละ 0 ขณะที่สหรัฐจะเก็บภาษีศุลกากรสินค้าเวียดนามในอัตราร้อยละ 20 และสินค้าประเทศอื่นที่ส่งออกจากเวียดนามในอัตราร้อยละ 40.-814.-สำนักข่าวไทย

“ณัฐพงษ์” ติงรัฐบาลไทยเจรจาสหรัฐช้า หวั่นเวียดนามได้ดีลดีกว่า

รัฐสภา 9 ก.ค.-“เท้ง” ติงรัฐบาลไทยเจรจาสหรัฐล่าช้า หวั่นเวียดนามได้ดีลดีกว่า ทำไทยเจรจาภาษียาก แนะเสนอแนวทางวิน-วิน เปิดเสรีธนาคาร-โทรคมนาคม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงการปรับขึ้นภาษีสหรัฐฯ ของไทย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ว่า เป็นสิ่งที่พรรคประชาชนสื่อสารมาตลอดว่า รัฐบาลดำเนินการเจรจาช้าไป ซึ่งประเทศเวียดนามสามารถบรรลุข้อตกลงได้ก่อน เปิดการเข้าถึงอย่างเต็มรูปแบบและสามารถลดภาษี 0% ให้กับสหรัฐอเมริกาได้ จึงทำให้ทางประเทศเวียดนามได้ดีลที่กว่า ซึ่งอยู่ที่อัตราภาษี 20% จึงทำให้ไทยเจรจาภาษีกับรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ยากขึ้น เพราะไม่ว่าจะเสนออะไรไปสหรัฐฯ ก็อาจอ้างได้ว่าประเทศเพื่อนบ้านของไทยให้ข้อเสนอที่ดีกว่า นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า มีอย่างหนึ่งที่อยากเห็นเป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยควรเสนอไปด้วยซึ่งเป็นข้อเสนอที่ทั้งสหรัฐฯ และไทย วิน-วิน ทั้งคู่และได้ประโยชน์ทั้งคู่ก็คือการเปิดเสรีภาคบริการ เช่น ธนาคาร ธุรกิจโทรคมนาคม ซึ่งทั้ง 2 ภาคธุรกิจนี้ในประเทศไทยยังมีการผูกขาดและกระจุกตัวค่อนข้างสูงโดยเฉพาะในรายงานของ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (United States Trade Representative) หรือ USTR ที่ระบุค่อนข้างชัดเจนว่า สหรัฐฯ ยังมีการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ เหล่านี้ค่อนข้างยากในประเทศไทยอยู่ […]

“ศิริกัญญา” ช็อกไทยโดนด้วยชุดแรก ชี้เป็นการบีบให้จนมุมด้วยเดดไลน์

รัฐสภา 8 ก.ค.-“ศิริกัญญา” ช็อก ไทยโดนด้วยชุดแรก สหรัฐฯ ประกาศภาษี ชี้เป็นการบีบให้จนมุมด้วยเดดไลน์ จนต้องคายข้อเสนอเสี่ยงสูง มองบวกยังมีเวลาหายใจ ได้ลุ้นข้อเสนอใหม่จะได้ต่ำกว่า 36% หรือไม่ บอกเจรจาล่าช้ามีผลมาก ลั่นถ้าได้ต่ำเท่า “เวียดนาม” ก็ใช่ว่าจะแข่งขันได้ เหตุต้นทุนเราสูง ย้ำถ้าทำสัญญากับ “ล็อบบี้ยิสต์” ไปแล้ว ถือว่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำมาก นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่นายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ส่งจดหมายอัตราภาษีนำเข้า ซึ่งไทยยังคงเดิมที่ 36% ว่า เป็นเรื่องค่อนข้างช็อก ตอนแรกที่มีการประกาศว่าจะส่งจดหมาย เรายังไม่ได้คิดว่าประเทศไทยจะอยู่ในรอบแรก เนื่องจากเพิ่งเข้าสู่กระบวนการเจรจาไปเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีหลายๆ ประเทศในภูมิภาคเดียวกันที่ได้รับจดหมาย “การที่จบที่ 36% คิดว่าเป็นการบีบต้อนให้เราจนมุม ด้วยเดดไลน์ ทำให้ต้องคายข้อเสนอที่ยังตกลงกันไม่ได้ให้มากกว่าเดิม เพื่อหลีกเลี่ยงอัตราภาษี 36% ดังนั้น 36% คงเป็นอัตราสูงสุดที่เราจะได้รับ คงไม่ได้เพิ่มมากขึ้นกว่านี้แล้ว เพราะหลายประเทศถูกปรับขึ้นภาษีด้วยซ้ำไป […]

1 2 3 4 5 91
...