ทหารคุมเข้มรัฐสภาเนปาล ลาดตระเวนเมืองหลวง

กาฐมาณฑุ 10 ก.ย. – ทหารได้เข้าคุ้มกันรัฐสภาของเนปาลและลาดตระเวนตามท้องถนนที่อยู่ในสภาพเงียบสงบในกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศในวันนี้ ท่ามกลางมาตรการเคอร์ฟิวที่บังคับใช้ หลังจากเกิดเหตุการประท้วงต่อต้านการทุจริตเป็นเวลา 2 วัน ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต และส่งผลให้นายเคพี ชาร์มา โอลิ นายกรัฐมนตรีต้องลาออกจากตำแหน่ง เหตุการณ์ความไม่สงบในเนปาลเริ่มต้นขึ้นจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามการใช้โซเชียลมีเดียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้จะมีการยกเลิกคำสั่งในภายหลัง แต่ประชาชนก็ยังเดินหน้าประท้วงรุนแรง หลังจากมีผู้เสียชีวิตถึง 19 คนเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางเพื่อควบคุมฝูงชน บริเวณรอบอาคารรัฐสภาเต็มไปด้วยซากรถที่ถูกเผาไหม้และเศษเหล็กที่บิดเบี้ยว หลังจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของกองทัพพยายามดับเพลิงที่โถงหลักของอาคารรัฐสภา ขณะที่ตัวอาคารด้านนอกมีร่องรอยการถูกไฟไหม้จากการที่ผู้ประท้วงจุดไฟเผาเมื่อวันอังคาร โฆษกสภาผู้แทนราษฎรกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์จากบ้านพักของเขาในกรุงกาฐมาณฑุว่า เขาได้รับแจ้งจากหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของรัฐสภาว่าไฟได้ทำลายโครงสร้างทั้งหมด ไม่มีอะไรเหลือแล้ว อาคารของรัฐบาลอีกหลายแห่ง ตั้งแต่ศาลฎีกาไปจนถึงบ้านพักของรัฐมนตรี รวมถึงบ้านพักส่วนตัวของนายโอลิ ก็ถูกจุดไฟเผาในระหว่างการประท้วงเมื่อวันอังคาร โดยความไม่สงบเพิ่งจะเกิดขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีประกาศลาออก ทางด้านโฆษกสนามบินระบุว่า เที่ยวบินได้รับผลกระทบ โดยสนามบินหลักในกรุงกาฐมาณฑุต้องปิดให้บริการจนถึงเวลา 18.00 น. หรือ ตรงกับ 19.15 น. ตามเวลาในประเทศไทย รถหุ้มเกราะเฝ้าระวังอยู่บนถนนที่เงียบสงบ ร้านค้าและตลาดปิดทำการ ขณะที่รถดับเพลิงก็กำลังปฏิบัติหน้าที่ตามจุดต่างๆ และกระบวนการเคลียร์เส้นทางก็กำลังดำเนินอยู่เช่นกัน โฆษกกองทัพกล่าวว่า กองทัพกำลังพยายามทำให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติก่อน ทหารมุ่งมั่นที่จะปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมเสริมว่าผู้ต้องขังได้จุดไฟเผาเรือนจำในกรุงกาฐมาณฑุก่อนที่กองทัพจะเข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ สื่อท้องถิ่นยังรายงานด้วยว่ามีการเตรียมการให้เจ้าหน้าที่และผู้ประท้วงได้เจรจากัน แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียด นายบาลาแรม เคซี […]

ทหารเนปาลลาดตระเวนกรุงกาฐมาณฑุหลังการประท้วงรุนแรง

กาฐมาณฑุ 10 ก.ย. – ทหารเนปาลได้ออกลาดตระเวนตามท้องถนนในกรุงกาฐมาณฑุ ท่ามกลางมาตรการเคอร์ฟิวที่ประกาศใช้แบบไม่มีกำหนดในเมืองหลวงของเนปาล หลังจากการประท้วงรุนแรงต่อต้านการทุจริตที่ดำเนินมาสองวันและทำให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีเคพี ชาร์มา โอลิ ต้องลาออกจากตำแหน่ง เหตุการณ์ความไม่สงบครั้งนี้ถือเป็นความวุ่นวายที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปีของเนปาล โดยมีชนวนเหตุมาจากการสั่งห้ามใช้โซเชียลมีเดียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแม้จะมีการยกเลิกคำสั่งในภายหลังแต่การประท้วงยังคงดำเนินต่อไปและลุกลามรุนแรง โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 19 รายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางเพื่อควบคุมฝูงชน โฆษกกองทัพเนปาลกล่าวในวันพุธว่า กองทัพกำลังพยายามทำให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ทหารมุ่งมั่นที่จะปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ในวันนี้ไม่มีรายงานการประท้วงในเมืองหลวง แต่สื่อท้องถิ่นระบุว่ามีผู้ที่พยายาม “สร้างความวุ่นวาย” บริเวณชานเมืองกาฐมาณฑุประมาณ 25 คนถูกจับกุม อาคารของรัฐบาลหลายแห่ง ตั้งแต่ศาลฎีกาและรัฐสภาไปจนถึงบ้านพักของรัฐมนตรี รวมถึงบ้านพักส่วนตัวของนายโอลิ ถูกเผาทำลายในระหว่าการประท้วงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยสถานการณ์เพิ่งจะสงบลงหลังจากที่นายโอลิประกาศลาออกและมีรายงานในสื่อท้องถิ่นว่า ขณะนี้กำลังมีการเตรียมการเพื่อให้เจ้าหน้าที่และผู้ประท้วงได้เจรจากัน แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจน ผู้ประท้วงส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่แสดงความไม่พอใจต่อสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าความล้มเหลวของรัฐบาลในการแก้ปัญหาการทุจริตและการส่งเสริมโอกาสทางเศรษฐกิจ ปัญหาการว่างงานและไม่มีงานให้ทำเป็นสาเหตุให้คนหนุ่มสาวชาวเนปาลหลายล้านคนต้องเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย ตะวันออกกลาง และเกาหลีใต้ โดยส่วนใหญ่ทำงานในไซต์ก่อสร้าง เพื่อส่งเงินกลับบ้าน เนปาลซึ่งตั้งอยู่ระหว่างอินเดียและจีน ต้องเผชิญกับความไร้เสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจมาตั้งแต่มีการล้มเลิกระบอบกษัตริย์จากการประท้วงในปี 2008 คณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคงของอินเดียก็ได้มีการประชุมเมื่อค่ำวันอังคารเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้าน นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ในเวลาต่อมาว่า เสถียรภาพ สันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของเนปาลมีความสำคัญสูงสุด เขาขอเรียกร้องต่อชาวเนปาลทุกคนให้รักษาความสงบเรียบร้อย.-813.-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นประณามเหตุความรุนแรงในเนปาล

กาฐมาณฑุ 10 ก.ย. – นายโวลเคอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้ออกแถลงการณ์ในวันอังคารประณามเหตุความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ที่เกิดขึ้นในเนปาล และเรียกร้องให้มีการสอบสวนการเสียชีวิตของผู้ประท้วงระหว่างการเดินขบวนต่อต้านการทุจริตที่นำโดยกลุ่มคนหนุ่มสาว การประท้วงครั้งนี้ส่งผลให้นายเคพี ชาร์มา โอลิ นายกรัฐมนตรีเนปาล ต้องลาออกจากตำแหน่งหลังจากที่ผู้ประท้วงได้ฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวและปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันก่อนหน้ามีผู้เสียชีวิตจากการประท้วงถึง 19 คน ชนวนเหตุสำคัญของการประท้วงมาจากการที่รัฐบาลของนายโอลิสั่งห้ามใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งแม้จะมีการยกเลิกคำสั่งในภายหลัง แต่ความรุนแรงก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยมีผู้บาดเจ็บกว่า 100 คน และผู้เสียชีวิตรวม 19 คน หลังจากเจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางสลายการชุมนุม เหตุการณ์ความไม่สงบครั้งนี้ถือเป็นความวุ่นวายครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปีของเนปาล ที่เป็นประเทศที่ยากจนในเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเผชิญกับความไร้เสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ยกเลิกระบอบกษัตริย์ในปี 2008 กลุ่มคนหนุ่มสาวชาวเนปาลจำนวนมากต่างไม่พอใจกับปัญหาการว่างงาน และหลายล้านคนต้องเดินทางไปทำงานในต่างประเทศเพื่อหาเลี้ยงชีพและส่งเงินกลับบ้านเกิด.-813.-สำนักข่าวไทย

ประท้วงเผาเมืองป่วนเนปาล

กาฐมาณฑุ 10 ก.ย. – การประท้วงกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ หรือ เจนซี (Gen Z) ในเนปาลลามไม่หยุด แม้นายกรัฐมนตรีจะยอมลาออกจากตำแหน่งและรัฐบาลยกเลิกการปิดกั้นสื่อสังคมออนไลน์ โดยเมื่อวานนี้ การประท้วงใหญ่เกิดขึ้นทั้งในกรุงกาฐมาณฑุและอีกหลายเมืองทั่วประเทศ แม้จะมีคำสั่งเคอร์ฟิวตลอด 24 ชั่วโมงของรัฐบาลแต่ผู้ประท้วงไม่สนใจ ออกมารวมตัวชุมนุมประท้วงและก่อจลาจลอย่างบ้าคลั่ง มีการจุดไฟเผาอาคารรัฐสภา อาคารที่ทำการรัฐบาลหลายแห่ง ที่ทำการของพรรคร่วมรัฐบาล บ้านพักของ เค.พี.ชาร์มา โอลี นายกรัฐมนตรีที่เพิ่งลาออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ รวมถึงบ้านพักของรัฐมนตรีในรัฐบาลอีกหลายคน ที่ต้องพากันหนีเอาตัวรอดจากม็อบที่โกรธแค้นไปหลบภายใต้การดูแลความปลอดภัยของทหาร ผู้ประท้วงได้บุกเข้าสู่พื้นที่รัฐสภาหลังจากได้ทราบข่าวการลาออกของนายกรัฐมนตรี ชูมือโห่ร้อง และทำล้ายทรัพย์สินภายในอาคารรัฐสภาก่อนจุดไฟเผา ขณะเดียวกัน มีรายงานว่านักโทษกว่า 900 คนได้หลบหนีออกจากเรือนจำ 2 แห่งทางตะวันตกของกรุงกาฐมาณฑุด้วย สถานการณ์ทั่วเมืองหลวงปั่นป่วนหนัก ท่าอากาศยานระหว่างประเทศถูกสั่งปิดเพื่อความปลอดภัย มีรายงานผู้เสียชีวิตเมื่อวานนี้เพิ่มอีก 3 ราย เค.พี. ชาร์มา โอลี นายกรัฐมนตรีเนปาล ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ หลังจากเหตุการณ์ประท้วงรุนแรงเมื่อวันจันทร์ที่มีผู้เสียชีวิต 19 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 300 คน โดยมีสาเหตุมาจากการความไม่พอใจของกลุ่มคนรุ่นใหม่ต่อรัฐบาลที่สั่งห้ามการเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ แม้ว่ารัฐบาลจะยกเลิกคำสั่งดังกล่าวในเวลาต่อมา แต่การประท้วงยังคงเกิดขึ้นต่อไปและลุกลามบานปลายต่อเนื่อง กลุ่มผู้ประท้วงส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ […]

นายกฯ เนปาลลาออก หลังเกิดการประท้วงหนัก

กาฐมาณฑุ 9 ก.ย. – สถานการณ์ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเนปาลกำลังลุกลามอย่างหนัก ล่าสุดนายกรัฐมนตรีตัดสินใจลาออกแล้ว ส่งผลให้การเมืองเนปาลต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนอีกครั้ง บุคคลใกล้ชิดของนายเค.พี ชาร์มา โอลี นายกรัฐมนตรีเนปาลเปิดเผยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาว่านายโอลีตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลลุกลามบานปลายและยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ในวันนี้มีการชุมนุมใหญ่อีกครั้ง ผู้ประท้วงได้จุดไฟเผายางรถยนต์บนถนนวงแหวนรอบกรุงกาฐมาณฑุโดยไม่สนใจการประกาศเคอร์ฟิวของรัฐบาล ซึ่งเป็นการประกาศแบบไม่กำหนดช่วงเวลา และบังคับใช้อย่างไม่มีกำหนด ซึ่งในระหว่างนี้การชุมนุมประท้วง และการรวมตัว เป็นสิ่งต้องห้าม โรงเรียนห้างร้านต่างๆ ต้องปิดทำการ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายโอลีได้เรียกประชุมพรรคการเมืองทุกพรรคโดยกล่าวว่าความรุนแรงไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติและต้องหาทางแก้ปัญหาด้วยการเจรจาอย่างสันติ หลังจากเมื่อคืนนี้รัฐบาลได้ยอมยกเลิกมาตรการปิดกั้นการเข้าถึงโซเชียลมีเดียหลายแพล็ตฟอร์ม รวมทั้งเฟสบุ๊ก โดยให้เหตุผลว่าแพล็ตฟอร์มเหล่านี้ไม่ยอมลงทะเบียนกับทางการเพื่อปรามปรามการใช้โซเชียลมีเดียอย่างไม่เหมาะสมหลังจากเมื่อวานนี้เกิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมที่พยายามจะบุกเข้าไปในรัฐสภา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 17 คนในกรุงกาฐมาณฑุ และที่เมืองอิตาฮารีมีผู้เสียชีวิตไป 2 คน นอกจากนี้ยังผู้บาดเจ็บกว่า 100 คน.-816.-สำนักข่าวไทย

ผู้ประท้วงต้านคอร์รัปชันในเนปาลเมินเคอร์ฟิว

กาฐมาณฑุ 9 ก.ย. – ผู้ชุมนุมต่อต้านการคอร์รัปชันในเนปาลฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิว หรือ ห้ามออกนอกเคหะสถาน ที่บังคับใช้ตลอดเวลา โดยมีการปะทะกับตำรวจและตะโกนคำขวัญต่อต้านนายกรัฐมนตรีเค พี ชาร์มา โอลิ (K.P. Sharma Oli) หลังจากเหตุประท้วงที่รุนแรงจากคำสั่งห้ามใช้งานโซเชียลมีเดียทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 19 คน รัฐบาลของนายโอลิได้ยกเลิกคำสั่งห้ามใช้งานโซเชียลมีเดียแล้ว หลังจากที่การประท้วงทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 19 รายและบาดเจ็บกว่า 100 ราย ภายหลังจากที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่ผู้ประท้วงที่พยายามบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ ความไม่สงบครั้งนี้นับเป็นครั้งที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปีของเนปาล ซึ่งเป็นประเทศที่ต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจมาตั้งแต่การประท้วงที่นำไปสู่การยกเลิกระบอบกษัตริย์ในปี 2008 ในวันอังคาร นายโอลิยังได้เรียกประชุมพรรคการเมืองทุกพรรค โดยกล่าวว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและต้องหันมาใช้การเจรจาอย่างสันติเพื่อหาทางออกให้กับทุกปัญหา อย่างไรก็ตาม ความโกรธเคืองต่อรัฐบาลยังไม่มีทีท่าว่าจะบรรเทาลง เนื่องจากผู้ประท้วงได้รวมตัวกันหน้าอาคารรัฐสภาและสถานที่อื่น ๆ ในกรุงกาฐมาณฑุ เพื่อท้าทายคำสั่งเคอร์ฟิวที่ทางการประกาศใช้ ผู้ประท้วงยังได้เรียกร้องให้ประชาชนเข้าร่วมพิธีไว้อาลัยเพื่อรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตในการประท้วงเมื่อวันจันทร์ด้วย ผู้ประท้วงบางส่วนได้จุดไฟเผายางรถยนต์บนถนนบางสาย ขว้างก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลที่ไล่ติดตามพวกเขาไปตามตรอกซอกซอยที่แคบ ขณะที่บางคนเฝ้าดูและถ่ายวิดีโอเหตุการณ์ปะทะกันด้วยโทรศัพท์มือถือ ขณะที่ควันดำหนาทึบพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ผู้ประท้วงจุดไฟเผาบ้านของนักการเมืองบางคนในกรุงกาฐมาณฑุ และสื่อท้องถิ่นรายงานว่ารัฐมนตรีบางคนถูกเฮลิคอปเตอร์ทหารนำตัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย นายโอลิ วัย 73 ปี สาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สี่เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 14 ของประเทศนับตั้งแต่ปี 2008 รัฐมนตรีสองคนในคณะรัฐมนตรีของเขาได้ลาออกเมื่อคืนวันจันทร์ […]

เนปาลยกเลิกคำสั่งปิดกั้นโซเชียลมีเดียแล้ว

กาฐมาณฑุ 9 ก.ย. – รัฐมนตรีของรัฐบาลเนปาล กล่าววันอังคารว่า เนปาลได้ยกเลิกคำสั่งปิดกั้นการใช้งานโซเชียลมีเดียแล้ว หลังจากเกิดเหตุประท้วงรุนแรงที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 19 ราย นายปริถวี สุภา กูรุง (Prithvi Subba Gurung) โฆษกคณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวว่า รัฐบาลได้ยกเลิกคำสั่งห้ามใช้โซเชียลมีเดียที่ประกาศใช้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีผู้เสียชีวิต 19 ราย และบาดเจ็บกว่า 100 ราย จากการประท้วงของกลุ่ม “เจนซี” (Gen Z) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาที่ไม่พอใจคำสั่งห้ามใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหลายและยังต่อต้านการคอร์รัปชันที่แพร่หลายในประเทศด้วย นายกูรุง กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า รัฐบาลได้ยกเลิกคำสั่งปิดกั้นโซเชียลมีเดียแล้ว ตอนนี้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว ทางด้านนายเค.พี. ชาร์มา โอลิ (K.P. Sharma Oli) นายกรัฐมนตรีเนปาล กล่าวว่า เขารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจาก “การแทรกซึมจากกลุ่มที่มีผลประโยชน์ส่วนตัวต่างๆ” เขากล่าวเสริมว่า รัฐบาลจะจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต และให้การรักษาฟรีแก่ผู้บาดเจ็บ นายโอลิกล่าวในแถลงการณ์ช่วงดึกของวันจันทร์ว่าจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อค้นหาสาเหตุ ประเมินความเสียหาย และเสนอมาตรการภายใน 15 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ผู้จัดการประท้วง ซึ่งขยายวงกว้างไปยังเมืองอื่นๆ […]

ประท้วงปิดกั้นสื่อออนไลน์ในเนปาล ตาย 19 ราย

กาฐมาณฑุ 9 ก.ย. – ตำรวจปราบจลาจลเนปาลเผชิญหน้าอย่างรุนแรงกับกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากที่ออกมารวมตัวชุมนุมในกรุงกาฐมาณฑุ และพยายามบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 ราย บาดเจ็บและถูกควบคุมตัวอีกจำนวนมาก ตำรวจปราบจลาจลเนปาลยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักศึกษาและเยาวชน ที่รวมตัวชุมนุมด้านนอกอาคารรัฐสภาในกรุงกาฐมาณฑุเมื่อวานนี้ ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงขว้างปาก้อนหินและสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ และพยายามที่จะฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่เพื่อบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา มีรายงานผู้ประท้วงเสียชีวิต 19 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 100 คน ขณะที่ตำรวจปราบจลาจล 28 นายก็บาดเจ็บระหว่างปฏิบัติหน้าที่เช่นกัน การประท้วงเกิดขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากผู้คนในเนปาลจำนวนมากไม่พอใจรัฐบาลที่ออกประกาศคำสั่งระงับการเข้าถึงแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์หลายแห่ง ทั้งเฟซบุ๊ก ยูทูบ อินสตาแกรม และเอ็กซ์ หรือ ทวิตเตอร์เดิม อ้างแพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งให้ลงทะเบียนกับหน่วยงานของรัฐ รัฐบาลเนปาลระบุว่า ผู้ใช้งานที่สร้างบัญชีปลอมกำลังเผยแพร่ความเกลียดชัง ข่าวปลอม ก่ออาญากรรมไซเบอร์ และยังบ่อนทำลายความสงบในสังคม การเคลื่อนไหวต่อต้านมาตรการดังกล่าวบานปลายกลายเป็นความรุนแรง มีเยาวชนจำนวนมากออกมาร่วมประท้วงตามท้องถนน พร้อมระบุว่านี่คือการประท้วงของคนรุ่นใหม่ในเนปาล และว่ามาตการดังกล่าวของรัฐบาลเป็นการปิดกั้นสื่อและสิทธิเสรีภาพของผู้คนเนปาลกว่าร้อยละ 90 จากประชากรทั้งประเทศราว 30 ล้านคน ในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงต่างๆ ทางสื่อออนไลน์ นอกจากประท้วงมาตรการปิดกั้นการเข้าถึงสื่อออนไลน์ของรัฐบาลแล้ว กลุ่มคนรุ่นใหม่ในเนปาลยังถือโอกาสนี้ออกมาประท้วงต่อต้านและแสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาลที่ไม่แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการทุจริตในแวดวงราชการและการเมือง.-815.-สำนักข่าวไทย

Deadly flash floods hit villages in Pakistan, killing over 300

“ฟ้ารั่ว” ในเอเชียใต้ ตายเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 430 คน

เปชวาร์ 17 ส.ค. – ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในปากีสถาน อินเดีย และเนปาล จากคลาวด์เบิร์สต์ (cloudburst) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ฝนตกหนักมากในช่วงเวลาสั้นๆ หรือที่เรียกว่า ฟ้ารั่ว เพิ่มขึ้นรวมกันเป็นมากกว่า 430 คนแล้ว สำนักงานจัดการภัยพิบัติจังหวัดไคเบอร์ปักตุนควาที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน แจ้งว่า นับจนถึงวันเสาร์ได้รับรายงานยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 307 คน และมีผู้สูญหายอีกจำนวนมาก ถนนหลายสายถูกตัดขาด บ้านเรือนเสียหายหนัก จากน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มที่เกิดขึ้นทางตอนเหนือของจังหวัด เจ้าหน้าที่กู้ภัยประมาณ 2,000 คน กำลังดำเนินการกู้ร่างผู้เสียชีวิตจากซากปรักหักพังของบ้านเรือนและดินโคลน และปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ 10 หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ แต่ฝนที่ยังคงตกต่อเนื่อง ดินถล่มในหลายพื้นที่ และถนนถูกน้ำกัดเซาะ เป็นอุปสรรคสำคัญในการส่งความช่วยเหลือ โดยเฉพาะการขนส่งเครื่องจักรหนักและรถพยาบาลเข้าพื้นที่ เนื่องจากถนนหลายสายไม่สามารถใช้การได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเดินเท้าเพื่อเข้าไปปฏิบัติการกู้ภัยในพื้นที่ห่างไกล ขณะเดียวกัน สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของปากีสถานแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 9 คน ในดินแดนแคชเมียร์ ส่วนที่อยู่ในความปกครองของปากีสถาน และอีก 5 คน ในดินแดนกิลกิต-บัลติสถาน ทางตอนเหนือ ในจำนวนนี้รวมถึงนักบิน 2 คน ที่เสียชีวิตเมื่อเฮลิคอปเตอร์ของรัฐบาลท้องถิ่น ประสบอุบัติเหตุตก […]

“ชบาแก้ว” อุ่นเครื่องชนะ “เนปาล” 2-0

3 มิ.ย.- ฟุตบอลอุ่นเครื่องนัดพิเศษ “ชบาแก้ว” ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ชนะ เนปาล 2-0 ก่อนกลับมาเก็บตัวอีกครั้ง 13 มิ.ย.นี้ ฟุตบอลอุ่นเครื่องนัดพิเศษ ที่ธรรมศาสตร์ สเตเดียม ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ทีมอันดับ 47 ของโลก ลงสนามพบกับ ทีมชาติเนปาล ทีมอันดับ 99 ของโลก นาทีที่ 59 ทีมชบาแก้ว  มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกฟรีคิกของ ชัชวัลย์ รอดทอง และช่วงท้ายเกม ทีมชบาแก้ว มาได้อีกประตู จากลูกยิงของ จิราภรณ์ มงคลดี ในนาทีที่ 73 จบเกม ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย เอาชนะ เนปาล 2-0 โดยทีมชบาแก้ว จะกลับมาเก็บตัวอีกครั้ง ในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2026 รอบคัดเลือก ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน – 5 กรกฎาคมนี้ รวมถึง ฟุตบอลหญิงในมหกรรม ซีเกมส์ […]

ไทย-เนปาล ยกระดับความร่วมมือทุกมิติ

นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในรอบ 66 ปี หลังสถาปนาความสัมพันธ์ พร้อมหารือข้อราชการแลกเปลี่ยนมุมมองความท้าทายระหว่างประเทศ ยกระดับความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ และร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ จำนวน 8 ฉบับ

Nepali teen becomes youngest to scale world’s highest peaks

เชอร์ปาเนปาลพิชิต 14 ยอดเขาด้วยอายุน้อยที่สุด

กาฐมาณฑุ 15 ต.ค.- วัยรุ่นชาวเชอร์ปาสร้างสถิติเป็นนักปีนเขาอายุน้อยที่สุดในโลกที่สามารถพิชิตยอดเขาสูง 14 ยอดทั่วโลกได้สำเร็จด้วยวัยเพียง 18 ปี และได้รับการต้อนรับกลับบ้านเยี่ยงวีรบุรุษ นายนิมา รินจิ เชอร์ปา นักปีนเขาชนเผ่าเชอร์ปาวัย 18 ปีเดินทางกลับถึงกรุงกาฐมาณฑุของเนปาลเมื่อวานนี้ หลังจากสร้างสถิติเป็นนักปีนเขาอายุน้อยที่สุดที่สามารถพิชิตยอดเขาสูงเกินกว่า 8,000 เมตรทั่วโลกได้ครบทั้ง 14 ยอดเขา โดยยอดเขาสุดท้ายที่นิมาพิชิตได้สำเร็จ คือ ยอดเขาซีซาปังมาในทิเบตซึ่งมีความสูง 8,027 เมตรเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ทันทีที่มาถึงสนามบินตรีภูวัน นิมาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและยิ่งใหญ่ในฐานะวีรบุรุษ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีทั้งการบรรเลงดนตรีจากชุมชนชาวเชอร์ปา และขบวนดุริยางค์ตำรวจที่ร่วมขบวนแห่ไปตามท้องถนน การสร้างสถิติครั้งนี้เป็นการทำลายสถิติเดิมที่นักปีนเขาชาวเชอร์ปาอีกคนหนึ่งเคยพิชิตครบทั้ง 14 ยอดเขาขณะอายุ 30 ปี.-816(814).-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 15
...