ผู้นำเกาหลีเหนือเน้นย้ำความสำคัญของหน่วยรบพิเศษ

โซล 28 ส.ค. – สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานวันพฤหัสบดีว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับหน่วยรบพิเศษและพลซุ่มยิงที่เชี่ยวชาญ เพื่อสร้างกองกำลังติดอาวุธให้แข็งแกร่งขึ้น เคซีเอ็นเอรายงานว่า นายคิมได้กล่าวระหว่างการเยี่ยมชมฐานฝึกอบรมหน่วยรบพิเศษแห่งหนึ่งว่า การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกองกำลังปฏิบัติการพิเศษและกองกำลังพลซุ่มยิงผู้เชี่ยวชาญในอนาคต เป็นภารกิจสำคัญสำหรับการสร้างกองทัพ นอกจากนี้เขายังได้ตรวจสอบปืนไรเฟิลสำหรับการซุ่มยิงรุ่นใหม่ด้วย การเดินทางไปเยี่ยมค่ายฝึกซ้อมทางทหารของคิมมีขึ้นหลังจากที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐและประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้ ได้พบปะกันในระหว่างการประชุมสุดยอดสัปดาห์นี้ ซึ่งมีการพูดคุยถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายทรัมป์กับนายคิม และความเป็นไปได้ในการจัดการประชุมสุดยอดครั้งต่อไประหว่างผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือ ในวันเดียวกันนั้น กองกำลังสหรัฐประจำเกาหลีได้ออกแถลงการณ์ว่า การฝึกซ้อมรบทางทหารประจำปีร่วมระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้ได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยมีการฝึกปฏิบัติการพิเศษร่วมกัน ซึ่งครอบคลุมถึง การซ้อมรับมือภารกิจอาวุธทำลายล้างสูง เจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้รายหนึ่งกล่าวว่า การชะลอการฝึกซ้อมบางส่วนออกไปในเดือนหน้า มีจุดประสงค์เพื่อลดความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีอีเข้ารับตำแหน่งในเดือนมิถุนายน เขาได้แสดงท่าทีและแนวทางเพื่อให้เกิดสันติภาพกับเกาหลีเหนือ แต่เกาหลีเหนือปฏิเสธข้อเรียกร้องการเจรจาและวิจารณ์การเคลื่อนไหวของเขาว่าเป็นเรื่องหลอกลวง หลังการประชุมสุดยอดกับนายทรัมป์ นายอีกล่าวว่าทั้งสองประเทศจะทำงานร่วมกันเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี โดยยอมรับว่ามาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือที่เป็นเสมือน “เพื่อนบ้านที่ยากจนแต่ดุดัน” ไม่สามารถยับยั้งโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือได้ ขณะที่สื่อทางการของเกาหลีเหนือเรียกผู้นำอีว่าเป็น “คนปากว่าตาขยิบ” และระบุว่าเกาหลีเหนือจะไม่มีวันยอมละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์.-813.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้ผ่านร่างกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์ในห้องเรียน

โซล 27 ส.ค. – เกาหลีใต้ผ่านร่างกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในห้องเรียนเริ่มมีผลปีการศึกษาหน้าเป็นต้นไป หวังแก้ปัญหาเด็กติดโทรศัพท์ และผลการเรียนตกต่ำ วันนี้สภานิติบัญญัติของเกาหลีใต้มีมติด้วยคะแนน 115 เสียงจากสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 163 คน เห็นชอบร่างกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อัจฉริยะในห้องเรียน โดยกฎหมายนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปีการศึกษาหน้า ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2569 เป็นต้นไป นับเป็นความสำเร็จในการผลักดันกฎหมายนี้ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างพรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลที่หวังจะแก้ปัญหาเด็กติดโทรศัพท์และมีผลการเรียนตกต่ำ การออกกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์ในห้องเรียนอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียวสำหรับเกาหลีใต้ เพราะโรงเรียนส่วนใหญ่เริ่มมีการห้ามใช้โทรศัพท์ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งอยู่แล้ว ที่ผ่านมาทั้งนักการเมือง ผู้ปกครอง และครูผู้สอนต่างมีความกังวลว่าการใช้โทรศัพท์มือถือส่งผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กและทำให้เสียเวลาที่ควรจะใช้ไปกับการเรียนหรือการทำกิจกรรมอย่างอื่น นายโจ จองฮุน ส.ส. ฝ่ายค้านซึ่งเป็นผู้เสนอร่างกฎหมายฉบับนี้บอกว่าเขาสนับสนุนการห้ามใช้โทรศัพท์ในห้องเรียนเหมือนกับในอีกหลายประเทศ และบอกด้วยว่ามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ที่บ่งชี้ว่าการติดสมาร์ทโฟนส่งผลเสียร้ายแรงต่อพัฒนาการทางสมองและการพัฒนาทางอารมณ์ของเด็กนักเรียน แม้ว่าข้อห้ามนี้มีผลเฉพาะในชั้นเรียนเท่านั้น แต่กฎหมายยังให้อำนาจครูในการห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์ภายในโรงเรียนได้ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ทางโรงเรียนให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับการใช้สมาร์ทโฟนอย่างเหมาะสม แต่การห้ามใช้โทรศัพท์ก็มีข้อยกเว้นสำหรับนักเรียนพิการหรือผู้มีความต้องการพิเศษ รวมถึงการใช้เพื่อการศึกษาและใช้ในเหตุฉุกเฉินตามความเหมาะสม.-816.-สำนักข่าวไทย

Lee Je Myong's first meeting with Trump

“ทรัมป์” อยากพบผู้นำเกาหลีเหนือ

วอชิงตัน 26 ส.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวกับประธานาธิบดีอี แจ มยองของเกาหลีใต้ว่า เขาต้องการพบกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือในปีนี้ และเปิดกว้างเรื่องหารือการค้าต่อไปกับเกาหลีใต้ ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวเรื่องนี้ต่อหน้าผู้สื่อข่าวขณะให้การต้อนรับประธานาธิบดีอีที่มาเยือนทำเนียบขาวเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่ผู้นำเกาหลีใต้กล่าวเชิญนายทรัมป์ไปร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปค (APEC) ที่เกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพในเดือนตุลาคมปีนี้ และอาจใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการพบปะกับนายคิม ซึ่งผู้นำเกาหลีใต้คาดหวังว่า ผู้นำสหรัฐจะช่วยสร้างสันติภาพระหว่างสองเกาหลีที่ยังถูกแบ่งแยกกันอยู่ นับตั้งแต่นายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ เขาได้เรียกร้องหลายครั้งเรื่องฟื้นฟูการติดต่อโดยตรงกับเกาหลีเหนือ หลังจากที่เคยพบกับนายคิมมาแล้วถึง 3 ครั้งเมื่อครั้งที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก ก่อนหน้านี้เขากล่าวว่า ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนายคิมเป็นไปอย่างดีมาก อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือยังไม่แสดงความเห็นต่อท่าทีล่าสุดของผู้นำสหรัฐ แต่ในเวลาต่อมาสื่อของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า การซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้พิสูจน์ให้เห็นถึงเจตนาของสหรัฐที่จะยึดครองคาบสมุทรเกาหลีและโจมตีประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค นายทรัมป์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังเสร็จสิ้นการหารือกับนายอีว่า เชื่อว่าเกาหลีใต้จะทำข้อตกลงการค้าครั้งใหญ่กับสหรัฐตามที่ได้ตกลงไว้ ด้านผู้นำเกาหลีใต้เปิดเผยในภายหลังว่า ได้หารือกับผู้นำสหรัฐเรื่องปรับปรุงความเป็นพันธมิตรทวิภาคีให้เป็นการต่างตอบแทนมากขึ้น และมุ่งสู่อนาคตมากขึ้นตามสถานการณ์ด้านความมั่นคงที่กำลังเปลี่ยนแปลง และว่าเกาหลีใต้จะเพิ่มงบกลาโหมเพื่อปรับเปลี่ยนกองทัพให้เป็นกองทัพอัจฉริยะ ซึ่งจะได้เปรียบหากเกิดความขัดแย้งขึ้นในอนาคต ทั้งนี้แม้ว่าสหรัฐและเกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงการค้าในการเจรจาเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า สหรัฐจะเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากเกาหลีใต้ในอัตราร้อยละ 15 แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องพลังงานนิวเคลียร์ การใช้จ่ายด้านกลาโหม และรายละเอียดของข้อตกลงการค้าที่ครอบคลุมเรื่องเกาหลีใต้รับปากจะลงทุน 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 11.35 ล้านล้านบาท) ในสหรัฐ.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธ

โซล 24 ส.ค. – สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานวันนี้ว่า เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ 2 ชนิด ภายใต้การดูแลของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ เพื่อประเมินสมรรถนะการรบของอาวุธใหม่นี้ เคซีเอ็นเอ รายงานว่า สำนักบริหารขีปนาวุธเกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธในวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยยิงขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศชนิดใหม่ 2 แบบไปยังเป้าหมายที่แตกต่างกัน ในขณะที่นายคิม ได้ควบคุมดูแลการยิงด้วยตนเอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พรรครัฐบาลและกองทัพ รวมถึงพลอากาศเอกคิม กวัง-ฮย็อก ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ การทดสอบดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่เกาหลีใต้และสหรัฐกำลังดำเนินการซ้อมรบร่วมขนาดใหญ่ที่มีชื่อรหัสว่า “อุลชิ ฟรีดอม ชิลด์” (Ulchi Freedom Shield) ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม และจะดำเนินไปเป็นเวลา 11 วัน เคซีเอ็นเอ ระบุว่าการทดสอบยิงครั้งนี้แสดงให้เห็นถึง “สมรรถนะการรบที่เหนือกว่า” ของขีปนาวุธในการรับมือเป้าหมายทางอากาศ เช่น โดรนโจมตีหรือขีปนาวุธร่อนได้อย่างรวดเร็ว โดยการทำงานและโหมดการตอบสนองของขีปนาวุธเหล่านี้อยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยี “ที่เป็นเอกลักษณ์และพิเศษ” นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า นายคิม จอง-อึน ได้มอบ “ภารกิจสำคัญ” […]

เกาหลีเหนือชี้ท่าทีสันติภาพของเกาหลีใต้เป็นแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ

โซล 14 ส.ค. – คิม โย จอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กล่าววันนี้ว่า เกาหลีเหนือไม่เคยปลดลำโพงโฆษณาชวนเชื่อออก และจะไม่มีทางทำเช่นนั้น พร้อมทั้งเรียกความเชื่อของเกาหลีใต้ที่ว่าเกาหลีเหนือกำลังตอบรับท่าทีสันติภาพของเกาหลีใต้ว่าเป็น “ความฝันลมๆ แล้งๆ” คิม โย จอง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลเกาหลีเหนือ ยังระบุด้วยว่า การปรับเปลี่ยนแผนการซ้อมรบร่วมประจำปีของเกาหลีใต้และสหรัฐเป็นการกระทำที่ “ไร้ประโยชน์” ซึ่งไม่ได้เปลี่ยนแปลงเจตนาร้ายของชาติพันธมิตร ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา คิม ซึ่งเจ้าหน้าที่และนักวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นกระบอกเสียงของพี่ชาย ปฏิเสธการเคลื่อนไหวของรัฐบาลสายเสรีนิยมใหม่ของเกาหลีใต้ที่มีเป้าหมายในการลดความตึงเครียดระหว่างสองเกาหลี สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานอ้างคำพูดของคิมว่า เธอมั่นใจว่านโยบายของเกาหลีใต้ที่มีต่อเกาหลีเหนือยังคงไม่เปลี่ยนแปลงและจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง กองทัพเกาหลีใต้กล่าวว่า พวกเขาตรวจพบการเคลื่อนไหวของกองทัพเกาหลีเหนือในการรื้อถอนลำโพงโฆษณาชวนเชื่อบางส่วนที่หันเข้าหาเกาหลีใต้ หลังจากที่เกาหลีใต้ดำเนินการในลักษณะเดียวกันไปก่อนหน้านี้ คณะเสนาธิการร่วมของกองทัพเกาหลีใต้กล่าวในวันนี้ว่า พวกเขายืนยันการประเมินกิจกรรมที่สังเกตเห็นในบางส่วนของชายแดน และยังคงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ลี ซอง จุน โฆษกกองทัพเกาหลีใต้ กล่าวว่า เขาเชื่อว่าควรใช้ความระมัดระวังในการตีความคำแถลงของเกาหลีเหนือเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด และเปียงยางมักจะ “อ้างสิ่งที่ไม่เป็นความจริง” อยู่บ่อยครั้ง แต่เขาปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม ลีไม่ได้ตอบคำถามโดยตรงเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า เกาหลีเหนือได้รื้อถอนลำโพงเพียงตัวเดียวจากหลายสิบตัวที่ติดตั้งไว้ตามแนวชายแดน ในสมัยประธานาธิบดียุน ซุกยอล ผู้นำคนก่อน […]

ผู้นำเกาหลีใต้เตรียมเยือนญี่ปุ่น

โซล 13 ส.ค. – ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงวันนี้ว่า ประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้จะเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 23-24 สิงหาคม เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกับนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น โฆษกของประธานาธิบดีอี แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้นำทั้งสองจะหารือถึงแนวทางในการปรับปรุงสันติภาพในภูมิภาคและส่งเสริมความร่วมมือไตรภาคีกับสหรัฐ อย่างไรก็ตาม โฆษกผู้นำเกาหลีใต้ไม่ได้ระบุวันที่จะจัดการประชุมสุดยอดที่แน่นอนระหว่างการเยือนญี่ปุ่นเป็นเวลา 2 วันของประธานาธิบดีอี ก่อนหน้านี้ นายดีอีเคยวิพากษ์วิจารณ์ความพยายามของรัฐบาลเกาหลีใต้ชุดก่อน ๆ ในการปรับปรุงความสัมพันธ์กับญี่ปุ่น และเมื่อเขาได้พบกับนายอิชิบะในการประชุมสุดยอดครั้งแรกนอกรอบการประชุมผู้นำประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือ จี7 (G7) ที่แคนาดาเมื่อเดือนมิถุนายน ทั้งคู่ได้ให้คำมั่นว่าจะกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่ต่างก็เป็นพันธมิตรของสหรัฐ มักจะตึงเครียดเนื่องจากข้อพิพาททางประวัติศาสตร์ที่สืบเนื่องมาจากการที่๊ญี่ปุ่นปกครองคาบสมุทรเกาหลีในฐานะอาณานิคมในช่วงปี 1910-1945 สำหรับการประชุมสุดยอดครั้งที่สองของผู้นำทั้งสองยังมีขึ้นในขณะที่สองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของเอเชียกำลังเผชิญกับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐที่บังคับใช้โดยรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ การเดินทางเยือนญี่ปุ่นของประธานาธิบดีอีมีขึ้นก่อนหน้าที่เขาจะเดินทางเยือนสหรัฐ ซึ่งเขามีกำหนดประชุมสุดยอดกับนายทรัมป์ในวันที่ 25 สิงหาคม.-813.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้เตือนฝนตกหนักทั่วภาคกลาง

โซล 13 ส.ค. – สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของเกาหลีใต้ หรือ เคเอ็มเอ (KMA) แจ้งเตือนฝนตกหนักในบางพื้นที่ของประเทศในวันพุธ โดยคาดว่าจะมีฝนตกหนักถึง 150 มิลลิเมตรต่อชั่วโมงในเขตปริมณฑลของกรุงโซลจนถึงวันพฤหัสบดี สำนักข่าวยอนฮับ รายงานว่า ปริมาณน้ำฝนกว่า 100 มิลลิเมตรตกในเขตเมืองหลวง โดยเฉพาะที่เขตองจิน (Ongjin) ของนครอินชอน ที่มีฝนตกหนักถึง 149.2 มิลลิเมตรภายในหนึ่งชั่วโมง ซึ่งถือเป็นปริมาณฝนที่หนักที่สุดที่บันทึกสถิติได้ในฤดูร้อนนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 11.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ทางการประกาศเตือนฝนตกหนักในพื้นที่ส่วนใหญ่ของเขตปริมณฑลของกรุงโซล และบางส่วนของนครอินชอนและจังหวัดคย็องกีตอนเหนือ ขณะที่มีคำแนะนำเฝ้าระวังในบางพื้นที่ตอนในของจังหวัดคังวอน รวมถึงบางเมืองในจังหวัดคย็องกีตอนใต้และชายฝั่งตะวันตก จังหวัดคย็องกีได้ยกระดับมาตรการรับมือฉุกเฉินขึ้นหนึ่งระดับ เป็นระดับ 2 ของระบบรับมือภัยพิบัติและมาตรการความปลอดภัยส่วนกลาง ทางการประกาศให้ประชาชนอพยพในพื้นที่ใกล้แม่น้ำที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมในกรุงโซลและบางส่วนของจังหวัดคย็องกี ขณะที่ฝนที่ตกหนักในจังหวัดคย็องกีตอนเหนือทำให้ประชาชนตกค้างและต้องปิดถนนและเส้นทางรถไฟหลายสาย แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ เคเอ็มเอคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนัก 30 ถึง 50 มิลลิเมตรในพื้นที่ภาคกลางต่อเนื่องไปจนถึงเช้าวันพฤหัสบดี และสำหรับเขตเมืองหลวงจะยังมีฝนตกหนัก 50 ถึง 150 มิลลิเมตร และอาจสูงถึง […]

South Korea Leader and wife at Presidential plane Apr 2023

เกาหลีใต้จับอดีตสตรีหมายเลข 1

โซล 13 ส.ค.- นางคิม คอน ฮี อดีตสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ ถูกควบคุมตัวตามที่ศาลออกหมายจับเมื่อค่ำวานนี้ หลังจากอัยการยื่นขอหมายจับเพราะเกรงว่าเธอจะทำลายหลักฐานและแทรกแซงการสอบสวนในคดีที่ถูกกล่าวหาหลายคดี นางคิม ซึ่งจะมีอายุครบ 53 ปีในเดือนกันยายน เป็นอดีตสตรีหมายเลข 1 คนแรกของเกาหลีใต้ที่ถูกจับกุม ขณะที่สามีของเธอ คือ อดีตประธานาธิบดียุน ซอก ยอล วัย 64 ปี กำลังถูกคุมขังระหว่างรอการพิจารณาคดี หลังจากถูกถอดถอนจากตำแหน่งกรณีประกาศกฎอัยการศึกเมื่อปลายปี 2567 ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันนางคิมได้โค้งคำนับและไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวขณะเดินทางถึงศาล จากนั้นไปรอฟังคำตัดสินที่สถานกักขังในกรุงโซลตามธรรมเนียมปฏิบัติของเกาหลีใต้ โฆษกคณะอัยการพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อต้นเดือนมิถุนายนแถลงว่า อัยการยื่นขอหมายจับนางคิม เนื่องจากเกรงว่าเธอจะทำลายหลักฐานและแทรกแซงการสอบสวน สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า ศาลอนุมัติหมายจับตามคำแถลงเรื่องเธอมีความเสี่ยงที่จะทำลายหลักฐาน อดีตสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ถูกตั้งข้อหาหลายคดี ตั้งแต่การปั่นหุ้นไปจนถึงการรับสินบนและการใช้อิทธิพลแทรกแซงอย่างผิดกฎหมายที่พัวพันกับเจ้าของธุรกิจ บุคคลทางศาสนา และผู้มีอิทธิพลทางการเมือง เธอถูกกล่าวหาว่า ทำผิดกฎหมายเรื่องสร้อยคอประดับจี้ยี่ห้อหรูที่สวมไปร่วมการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ที่สเปน พร้อมกับสามีในปี 2565 เนื่องจากไม่ได้แจ้งรายการทรัพย์สินจี้ดังกล่าวที่มีข่าวว่าราคาสูงกว่า 60 ล้านวอน (กว่า 1.4 ล้านบาท) เธอให้การกับอัยการว่าเป็นของปลอมที่ซื้อในฮ่องกงเมื่อ […]

ทหารเกาหลีใต้ลดลง 20% ใน 6 ปี เหตุประชากรชายลดลง

โซล 10 ส.ค. – จำนวนทหารในกองทัพเกาหลีใต้ลดลงร้อยละ 20 ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เหลือเพียง 450,000 นาย ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการลดลงอย่างรวดเร็วของประชากรชายวัยเกณฑ์ทหารในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีอัตราการเกิดต่ำที่สุดในโลก รายงานจากกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุว่า การลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วของกลุ่มประชากรชายที่สามารถเข้าเป็นทหารได้ ยังทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนนายทหาร และอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป กองทัพเกาหลีใต้มีจำนวนกำลังพลลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 2000 ที่มีกำลังพลประมาณ 690,000 นาย โดยจำนวนลดลงเร็วขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 2010 และมีทหารประจำการรวมถึงนายทหารประมาณ 563,000 นายในปี 2019 ในขณะที่เกาหลีเหนือเชื่อว่ามีทหารประจำการประมาณ 1.2 ล้านนาย จากการประมาณการล่าสุดของกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ในปี 2022 ข้อมูลของรัฐบาลระบุว่า ในช่วงระหว่างปี 2019 ถึง 2025 จำนวนประชากรชายวัย 20 ปีลดลงถึงร้อยละ 30 เหลือ 230,000 คน ซึ่งเป็นอายุที่ผู้ชายส่วนใหญ่ที่ผ่านการตรวจร่างกายจะเข้ารับราชการทหารภาคบังคับที่มีระยะเวลา 18 เดือนในปัจจุบัน กองทัพได้อ้างถึงความสามารถที่เพิ่มขึ้นเป็นเหตุผลสำคัญในการย่นระยะเวลาการเป็นทหารให้น้อยลง ซึ่งเป็นผลมาจากพันธมิตรทางทหารกับสหรัฐและการพัฒนาอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศที่ทำให้เกาหลีใต้กลายเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ ในอดีต ผู้ชายที่ร่างกายแข็งแรงจะต้องเข้าเป็นทหารเป็นระยะเวลา 36 เดือนในช่วงปี […]

โออีซีดีชี้ขยะพลาสติกในเอเชียจะเพิ่มขึ้น 70% ภายในปี 2050

ปารีส 10 ส.ค. – องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ โออีซีดี (OECD) เปิดเผยในรายงานล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ว่า ขยะพลาสติกที่รั่วไหลหลุดรอดออกไปจากระบบการจัดการไปสู่สิ่งแวดล้อมในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ อาจเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 70 ภายในปี 2050 เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณขยะในปี 2022 หากไม่มีมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการลดมลพิษ สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่น รายงานว่า โออีซีดีกล่าวในรายงานว่า ภูมิภาคนี้เป็นแหล่งรวมของมลพิษจากพลาสติกโดยปัญหาการจัดการขยะพลาสติกที่ไม่เหมาะสมยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เพราะมีขยะพลาสติกถึง 8.4 ล้านตันรั่วไหลจากระบบการจัดการสู่สิ่งแวดล้อมในภูมิภาคนี้เมื่อปี 2022 รายงาน “รีจินอล พลาสติกส์ เอาท์ลุค” (Regional Plastics Outlook) ระบุว่า การปฏิบัติที่ไม่เป็นทางการและไม่ปลอดภัย เช่น การเผาหรือทิ้งขยะในที่โล่ง ยังคงมีอยู่มากในประเทศสมาชิกอาเซียนส่วนใหญ่และในจีน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท ขยะพลาสติกถือเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ เพราะทำให้เกิดมลพิษในแม่น้ำและมหาสมุทร และยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพของสัตว์ป่าและมนุษย์ เนื่องจากไมโครพลาสติกสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ โออีซีดีคาดการณ์ว่า ปริมาณขยะพลาสติกที่รั่วไหลสู่สิ่งแวดล้อมในภูมิภาคนี้ต่อปีอาจสูงถึง 14.1 ล้านตันภายในปี 2050 ซึ่งในจำนวนนี้ 5.1 ล้านตันอาจไปสิ้นสุดที่แม่น้ำ พื้นที่ชายฝั่ง และมหาสมุทร […]

เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น เตรียมประชุมสุดยอดผู้นำในเดือนนี้

โตเกียว 10 ส.ค. – สำนักงานของประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง แห่งเกาหลีใต้ และนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ แห่งญี่ปุ่น กำลังประสานงานเพื่อจัดการประชุมสุดยอดผู้นำสองประเทศที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นในปลายเดือนนี้ สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า หนังสือพิมพ์อาซาฮีชิมบุนของญี่ปุ่นรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาลหลายแห่งว่า การประชุมดังกล่าวมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในช่วงประมาณวันที่ 23 สิงหาคมนี้ ในขณะที่โฆษกประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายกำลังประสานงานเรื่องการประชุมสุดยอดจริง แต่ยังไม่ได้มีการยืนยันกำหนดการที่แน่นอน หากการประชุมครั้งนี้เกิดขึ้น จะถือเป็นการเยือนญี่ปุ่นครั้งแรกของประธานาธิบดีอี นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นเดือนมิถุนายน และจะเป็นการส่งสัญญาณถึงการกลับมาดำเนิน “การทูตแบบเดินทางไปมาระหว่างกัน” (shuttle diplomacy) ของผู้นำทั้งสองประเทศ ประธานาธิบดีอีและนายกรัฐมนตรีอิชิบะเคยพบปะกันครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน นอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอุตสาหกรรมฃั้นนำของโลก หรือ จี7 ที่ประเทศแคนาดา ซึ่งในครั้งนั้นทั้งสองได้หารือถึงแนวทางในการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีและเสริมสร้างความร่วมมือไตรภาคีกับสหรัฐ นอกจากนี้ คาดว่าประธานาธิบดีอีจะเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันของสหรัฐเพื่อประชุมสุดยอดครั้งแรกกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ในช่วงปลายเดือนนี้ด้วยเช่นกัน แม้ว่าทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้จะยังไม่ได้ประกาศกำหนดการอย่างเป็นทางการก็ตาม.-813.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนือเริ่มรื้อถอนลำโพงโฆษณาชวนเชื่อตามแนวชายแดน

โซล 9 ส.ค. – กองทัพเกาหลีใต้แถลงวันเสาร์ว่า ตรวจพบการเคลื่อนไหวของกองทัพเกาหลีเหนือที่กำลังรื้อถอนลำโพงโฆษณาชวนเชื่อบางส่วนที่หันเข้าหาฝั่งเกาหลีใต้ตามแนวชายแดน หลังจากที่เกาหลีใต้ได้ดำเนินการในลักษณะเดียวกันไปแล้วก่อนหน้านี้ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ออกแถลงการณ์ลักษณะเช่นนี้ นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีอี แจ มย็อง เข้ารับตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของเกาหลีใต้เมื่อสองเดือนที่แล้ว และฝ่ายเกาหลีใต้เริ่มรื้อถอนลำโพงของตนเอง กองทัพเกาหลีใต้ระบุว่าจำเป็นต้องมีการยืนยันเพิ่มเติมว่าการรื้อถอนดังกล่าวกำลังเกิดขึ้นในทุกพื้นที่หรือไม่ พร้อมเสริมว่าจะเฝ้าติดตามกิจกรรมที่เกี่ยวข้องต่อไป รัฐบาลสายเสรีนิยมของประธานาธิบดีอี ซึ่งเข้ามาแทนที่รัฐบาลสายอนุรักษ์นิยม ต้องการลดความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือและได้สั่งยุติการออกอากาศโฆษณาชวนเชื่อที่วิพากษ์วิจารณ์ระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือทันทีหลังจากที่นายอีเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางการเกาหลีใต้เริ่มดำเนินการถอดลำโพงที่ใช้กระจายเสียงโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านเกาหลีเหนือตามแนวชายแดน เพื่อหาทางฟื้นฟูการเจรจาที่ชะงักงันระหว่างสองประเทศที่เป็๋นปรปักษ์กันมายาวนาน สำหรับเกาหลีทั้งสองฝ่ายยังคงถือว่าอยู่ในภาวะสงครามในทางเทคนิค เนื่องจากสงครามเกาหลีปี 1950-1953 สิ้นสุดลงด้วยการสงบศึก และความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายย่ำแย่ลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การกระจายเสียงโฆษณาชวนเชื่อข้ามพรมแดนผ่านลำโพงถูกนำมาใช้โดยทั้งสองฝ่ายมาโดยตลอด ตามความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือที่ขึ้นๆ ลงๆ มานานหลายปี.-813.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5 274
...