Vietnam's Communist Party chief To Lam

ผู้นำเวียดนามจะเยือนเกาหลีเหนือครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี

ฮานอย 25 ก.ย.- เจ้าหน้าที่เวียดนามเปิดเผยว่า นายโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามจะเดินทางเยือนเกาหลีเหนือในเดือนตุลาคม นับเป็นผู้นำเวียดนามคนแรกในรอบเกือบ 20 ปีที่จะเยือนเกาหลีเหนือ เจ้าหน้าที่เวียดนาม 2 คนที่ขอสงวนนามไม่ได้ให้กรอบเวลาการเยือนที่ชัดเจนและประเด็นที่จะหารือ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวว่า นายเลิมจะพบกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการจากทั้งสองฝ่าย ผู้นำเวียดนามที่ไปเยือนเกาหลีเหนือคนล่าสุดคือ นายหน่ง ดึ๊ก หมั่น ไปเยือนเป็นเวลา 3 วัน ในปี 2550 เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์คนแรกที่ไปเยือนเกาหลีเหนือ นับจากประธานาธิบดีโฮจิมินห์ไปเยือนในปี 2500 ขณะที่นายคิม จอง อึน เดินทางไปเวียดนามครั้งแรกในปี 2562 เป็นการเยือนหลังจากประชุมสุดยอดเป็นครั้งที่ 2 กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ข้อมูลในเว็บไซต์ของสถานทูตเวียดนามประจำกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือบ่งชี้ว่า ประเทศคอมมิวนิสต์ทั้ง 2 ประเทศนี้ยังคงมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ใกล้ชิด แม้ว่าปัจจุบันไม่มีการความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน เจ้าหน้าที่ระดับล่างของทั้ง 2 ฝ่ายเดินทางไปประชุมที่เมืองหลวงของอีกฝ่ายในช่วงหลายปีมานี้ โดยได้ฟื้นการประชุมเมื่อปี 2567 หลังจากระงับไปนาน 5 ปี […]

เกาหลีเหนือพร้อมคุยกับสหรัฐหากเลิกกดดันเรื่องอาวุธนิวเคลียร์

โซล 22 ก.ย. – สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือรายงานวันจันทร์ว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กล่าวว่าไม่มีเหตุผลที่จะหลีกเลี่ยงการเจรจากับสหรัฐ หากสหรัฐหยุดยืนกรานให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์ แต่เขาจะไม่ยอมแลกเปลี่ยนคลังอาวุธนิวเคลียร์กับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร นายคิมกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสมัชชาประชาชนสูงสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า โดยส่วนตัวแล้ว เขายังคงมีความทรงจำที่ดีกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ โดยผู้นำทั้งสองเคยพบปะกันสามครั้งในช่วงที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยแรก นายคิมกล่าวว่า หากสหรัฐละทิ้งความหมกมุ่นที่ไร้สาระเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์และยอมรับความเป็นจริง รวมถึงต้องการการอยู่ร่วมกันอย่างสันติอย่างแท้จริง ก็ไม่มีเหตุผลใดที่เกาหลีเหนือจะไม่นั่งลงเจรจากับสหรัฐ นายคิมให้เหตุผลว่า การสร้างอาวุธนิวเคลียร์เป็นเรื่องของการอยู่รอดของประเทศ เพื่อปกป้องความมั่นคงจากภัยคุกคามร้ายแรงของสหรัฐและเกาหลีใต้ เขาอ้างถึงการซ้อมรบทางทหารของพันธมิตรทั้งสองที่เขากล่าวว่าได้พัฒนาเป็นการซ้อมรบเพื่อทำสงครามนิวเคลียร์ นายคิมกล่าวว่า ข้อเสนอการเจรจาล่าสุดจากสหรัฐและเกาหลีใต้นั้นไม่จริงใจ เพราะเจตนาพื้นฐานที่จะทำให้เกาหลีเหนืออ่อนแอและทำลายระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และข้อเสนอแบบเป็นขั้นตอนจากเกาหลีใต้เรื่องการยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือก็เป็นหลักฐานที่ชัดเจนในเรื่องนี้ เกาหลีเหนืออยู่ภายใต้มติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหลายฉบับที่บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการห้ามส่งอาวุธ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเงินทุนในการพัฒนาทางทหาร แต่เกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธทรงอานุภาพ ประธานาธิบดีลี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า มาตรการคว่ำบาตรเหล่านั้นท้ายที่สุดแล้วไม่สามารถยับยั้งเกาหลีเหนือได้ ซึ่งปัจจุบันยังคงเพิ่มอาวุธนิวเคลียร์จำนวนมหาศาล 15 ถึง 20 หัวรบเข้าสู่คลังแสงทุกปี เขากล่าวว่า ในความเป็นจริงคือแนวทางเดิมในการคว่ำบาตรและกดดันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา แต่กลับทำให้มันแย่ลง นายลีได้แสดงท่าทีเป็นมิตรตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมิถุนายน โดยกล่าวว่าการเจรจากับเกาหลีเหนือเป็นสิ่งจำเป็น และได้เสนอขั้นตอนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในที่สุด นายลีกล่าวกับรอยเตอร์ว่า มีอุปสรรคสำคัญในการรื้อฟื้นการเจรจากับเกาหลีเหนือ แต่เขายังคงเชื่อว่าแนวทางแบบเป็นขั้นตอนในการปลดโครงการนิวเคลียร์เป็นทางเลือกที่สมจริง และจำเป็นต้องสร้างเงื่อนไขที่เหมาะสมเพื่อนำเกาหลีเหนือกลับสู่โต๊ะเจรจา โดยนายทรัมป์มีบทบาทสำคัญในความพยายามเหล่านี้.-813.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเกาหลีเหนือสั่งเร่งพัฒนาโดรน

โซล 19 ก.ย. – ผู้นำเกาหลีเหนือสั่งการให้เร่งพัฒนาอากาศยานไร้คนขับเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสงครามยุคใหม่ ขณะที่ทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศมีมติประณามการทดลองนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ โทรทัศน์เคอาร๋ทีของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่าเมื่อวานนี้นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือได้ไปชมการทดสอบอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนซึ่งมีทั้งอากาศยานโจมตีไร้คนขับทางยุทธวิธี ‘กึมซอง’ และอากาศยานสอดแนมทางยุทธศาสตร์ไร้คนขับ ผลการทดสอบปรากฎว่าโดรนประสบความสำเร็จในการโจมตีเป้าหมายเป็นอย่างดี รายงานระบุว่านายคิมแสดงความพอใจอย่างยิ่งต่อผลการทดสอบครั้งนี้ และได้เน้นย้ำถึงการพัฒนาโดรนว่าเป็นภารกิจที่มีความสูงสุดสำหรับการปรับปรุงกองทัพเนื่องจากมีการใช้โดรนอย่างแพร่หลายมากขึ้นในสงครามยุดใหม่ ผู้นำเกาหลีเหนือเรียกร้องให้มีการยกระดับในการพัฒนาโดรนด้วยการนำเอาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอมาใช้ และกระตุ้นการผลิตโดรนให้มากขึ้น ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาเกาหลีเหนือได้พัฒนาโดรนมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่อาศัยเทคโนโลยีจากมิตรประเทศเช่นจีน และผลิตโดรนเลียนแบบรุ่นของต่างประเทศ ในช่วง 2 ปีมานี้นายคิมได้เน้นย้ำถึงการพัฒนาโดรนประเภทต่างๆ เป็นอย่างมากเพื่อเสริมเขี้ยวเล็บให้กับกองทัพอากาศและยกระดับขีดความสามารถในการรบทางอากาศของเกาหลีเหนือ อีกด้านหนึ่งเมื่อวานนี้ที่ประชุมทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอที่กรุงเวียนมา ของออสเตรีย มีการลงมติของประเทศต่างๆ โดยมี 96 ประเทศเห็นชอบให้ประณามการทดลองนิวเคลียร์จำนวน 6 ครั้งของเกาหลีเหนือที่ผ่านมา ขณะที่ 5 ประเทศออกเสียงคัดค้านซึ่งรวมถึงจีนและรัสเซียที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดของเกาหลีเหนือ ขณะที่อีก 17 ประเทศงดออกเสียง ไอเออีเอได้ออกรายงานเกี่ยวกับการพัฒนานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในเดือนสิงหาคมและแสดงความกังวลอย่างยิ่ง รายงานระบุว่าอาคารใหม่ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนี่ยมกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างในเมืองนยองบยอนทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ.-816.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นพิจารณาการเข้าร่วมเอเชียนเกมส์ 2026 ของเกาหลีเหนือ

โตเกียว 18 ก.ย. – รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า ญี่ปุ่นจะพิจารณาว่าจะอนุญาตให้นักกีฬาจากเกาหลีเหนือเข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนเกมส์ที่เมืองนาโกย่าของญี่ปุ่นในปีหน้าหรือไม่ หลังจากที่เกาหลีเหนือได้แสดงเจตจำนงที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ญี่ปุ่นและเกาหลีเหนือไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกัน และเกาหลีเหนือไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งล่าสุดที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 1994 ญี่ปุ่นได้ประกาศห้ามพลเมืองเกาหลีเหนือเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่ปี 2016 สืบเนื่องจากโครงการพัฒนาขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นเคยอนุญาตให้นักกีฬาเกาหลีเหนือเดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติมาแล้ว สำนักข่าวเกียวโดรายงานอ้างแหล่งข่าววงในว่า เกาหลีเหนือได้แสดงเจตจำนงที่จะส่งนักกีฬาประมาณ 150 คน เข้าร่วมการแข่งขันใน 17 ชนิดกีฬาในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ที่มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 กันยายนถึง 4 ตุลาคมปีหน้า นายโยชิมาสะ ฮายาชิ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่น กล่าวว่า คณะกรรมการจัดเอเชียนเกมส์ได้หารือกับกระทรวงกีฬาเกี่ยวกับการเข้าร่วมของนักกีฬาเกาหลีเหนือในครั้งนี้ เขากล่าวว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาคำขอผ่านการปรึกษาหารือกับกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เกาหลีเหนือเคยเข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งล่าสุดที่เมืองหางโจว ประเทศจีนในปี 2023 และสามารถคว้ามาได้ 11 เหรียญทอง และรวมทั้งหมด 39 เหรียญรางวัล.-813.-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นระบุเกาหลีเหนือเพิ่มการปราบปรามประชาชน

เจนีวา 12 ก.ย. – รายงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติที่เผยแพร่ในวันศุกร์ ระบุว่า การปราบปรามและควบคุมประชาชนในเกาหลีเหนือได้ทวีความรุนแรงขึ้นในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสอดแนมที่เข้มข้นขึ้น การบังคับใช้แรงงานที่ขยายวงกว้าง และการประหารชีวิตที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่มีการควบคุมจำกัดประชาชนมากที่สุดในโลก รายงานฉบับใหม่ของสหประชาชาตินี้ออกมาหลังจากที่รายงานฉบับประวัติศาสตร์ของสหประชาชาติเมื่อกว่าสิบปีก่อน ระบุว่า เกาหลีเหนือได้ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ โดยรายงานฉบับใหม่นี้ครอบคลุมการพัฒนาตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา และอ้างอิงจากการสัมภาษณ์พยานและเหยื่อกว่า 300 คนที่หลบหนีออกจากประเทศ และรายงานว่าเสรีภาพต่างๆ ได้ลดลงไปอีก รายงานระบุว่า การสอดแนมได้แพร่หลายมากขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากเทคโนโลยีใหม่ๆ ขณะที่บทลงโทษก็รุนแรงขึ้น รวมถึงการนำโทษประหารชีวิตมาใช้สำหรับความผิดต่างๆ เช่น การเผยแพร่ละครโทรทัศน์ของต่างชาติ รายงานความยาว 14 หน้าฉบับนี้ สรุปและระบุว่า ภายใต้กฎหมาย นโยบาย และแนวทางปฏิบัติที่นำมาใช้ตั้งแต่ปี 2015 พลเมืองได้ถูกเฝ้าระวังและควบคุมเพิ่มขึ้นในทุกส่วนของชีวิต ไม่มีประชากรชาติใดในโลกปัจจุบันที่ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม รายงานยังพบข้อดีที่อยู่ในวงจำกัดบางประการ เช่น การใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ในสถานที่ควบคุมตัวลดลง และมีการออกกฎหมายใหม่ที่ดูเหมือนจะช่วยเพิ่มการรับรองการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม.-813.-สำนักข่าวไทย

เผยผู้นำเกาหลีเหนือเสริมสถานะบุตรสาวให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจ

โซล 11 ก.ย. – สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้เปิดเผยในวันพฤหัสบดีโดยอ้างข้อมูลจากสำนักข่าวกรองของประเทศว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ดูเหมือนจะกำลังเสริมสถานะของ คิม จู แอ บุตรสาวของเขา ให้เป็นผู้สืบทอดอำนาจคนต่อไป หลังจากที่เธอได้ร่วมเดินทางไปเยือนประเทศจีนพร้อมกับเขา นายอี ซอง-กเวิน สมาชิกรัฐสภาในคณะกรรมาธิการข่าวกรองของรัฐสภาเกาหลีใต้ กล่าวว่า คิม จู แอ ได้พักอยู่ในสถานทูตเกาหลีเหนือและหลีกเลี่ยงการปรากฏตัวต่อสาธารณะระหว่างการเยือนกรุงปักกิ่ง แต่การที่ได้เดินทางไปต่างประเทศกับบิดาของเธอก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างเรื่องราวในฐานะผู้สืบทอดอำนาจคนต่อไปของระบอบการปกครอง นายพัค ซุน-วอน สมาชิกรัฐสภาอีกคนในคณะกรรมาธิการกล่าวว่า มีการให้ข้อสังเกตว่า สถานะของ คิม จู แอ ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้สืบทอดอำนาจคนต่อไป ด้วยการให้เธอปรากฏตัวเป็นครั้งคราว ในขณะที่เปิดโอกาสให้เธอได้สร้างประสบการณ์ในต่างประเทศ แต่ไม่ต้องออกงานสาธารณะ นอกจากนี้ สำนักข่าวกรองของเกาหลีใต้ยังเปิดเผยกับสมาชิกรัฐสภาอีกว่า เจ้าหน้าที่ของเกาหลีเหนือได้ถูกพบว่าพยายามทำลายร่องรอยเพื่อไม่ให้ข้อมูลทางชีวภาพของนายคิมและลูกสาวของเขาถูกเปิดเผยระหว่างการเดินทางไปจีน ซึ่งรวมถึงการใช้เครื่องบินพิเศษเพื่อขนส่งขยะ และการที่ทั้งสองคนเข้าพักในสถานทูตเกาหลีเหนือ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นายคิมได้เดินทางไปกรุงปักกิ่งอย่างไม่เคยมีมาก่อนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมขนาดใหญ่ โดยได้ยืนเคียงข้างกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ในพิธีสวนสนามทางทหารครั้งใหญ่ของจีน สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้กล่าวอีกว่า นายคิมยังได้ประชุมทวิภาคีกับผู้นำจีนและรัสเซียเพื่อแสดงภาพลักษณ์ว่าเกาหลีเหนือไม่ใช่ประเทศที่โดดเดี่ยวอีกต่อไป และกำลังพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับจีน […]

‘คิม จอง-อึน’ ตรวจการทดสอบเครื่องยนต์ขีปนาวุธเชื้อเพลิงแข็ง

โซล 9 ก.ย. – สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานวันอังคารว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ตรวจสอบการทดสอบเครื่องยนต์ขีปนาวุธเชื้อเพลิงแข็ง และกล่าวว่าการพัฒนาเครื่องยนต์ดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญต่อกองกำลังนิวเคลียร์ของประเทศ สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือ ระบุว่าการทดสอบครั้งนี้เป็นการทดสอบภาคพื้นดินครั้งที่ 9 ของเครื่องยนต์ และถือเป็นการทดลองขั้นสุดท้ายในกระบวนการพัฒนา เคซีเอ็นเออ้างคำพูดของนายคิมที่ระบุว่า ความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องยนต์เชื้อเพลิงแข็งคาร์บอนไฟเบอร์ที่ให้แรงขับสูงเป็นหนึ่งในผลลัพธ์เชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของการขับเคลื่อนการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย รายงานเรื้องนี้มีขึ้นหลังจากที่นายคิมเดินทางกลับจากกรุงปักกิ่งของจีน ซึ่งเขาได้พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างการสวนสนามทางทหารครั้งใหญ่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งถือเป็นการเดินทางเข้าร่วมการประชุมพหุภาคีที่หาได้ยากของนายคิม.-813.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนือยังนิ่งเฉยต่อข่าวภารกิจลับของหน่วยซีลสหรัฐปี 2019

โซล 7 ก.ย. – เกาหลีเหนือยังคงนิ่งเงียบในวันเสาร์ ไม่แสดงความเห็นใด ๆ ต่อรายงานข่าวล่าสุดที่ระบุว่าหน่วยรบพิเศษของสหรัฐ (United States Navy SEALs) ได้แทรกซึมเข้าไปในเกาหลีเหนือเมื่อต้นปี 2019 เพื่อติดตั้งอุปกรณ์ดักฟังการสื่อสารของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ หนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทมส์ (New York Times) รายงานก่อนหน้านี้ว่าภารกิจลับโดยหน่วยซีล ทีม ซิกซ์ (SEALTeam 6) ซึ่งเป็นหน่วยเดียวกับที่สังหารโอซามา บิน ลาเดน อดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ได้เกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลเกาหลีเหนือกำลังเจรจาระดับสูงเรื่องนิวเคลียร์กับรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐในสมัยแรก รายงานระบุว่าภารกิจดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จ หลังจากที่กองกำลังของสหรัฐได้เผชิญหน้ากับชาวประมงเกาหลีเหนือบนเรือลำหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งรายงานระบุว่า ชาวประมงเกาหลีเหนือถูกสังหารในเหตุการณ์นั้น ก่อนหน่วยปฎิบัติการพิเศษของสหรัฐจะถอนกำลังออกมา จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถื่น ซึ่งเป็นเวลาประมาณหนึ่งวันหลังจากมีรายงานข่าวออกมา ทั้งสื่อของรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือ ก็ยังไม่มีการออกแถลงการณ์ใด ๆ เกี่ยวกับรายงานข่าวเรื่องนี้ ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า การที่เกาหลีเหนือยอมรับว่ามีการแทรกซึมของสหรัฐจะเท่ากับการยอมรับว่าความมั่นคงบริเวณชายแดนและการปกป้องพลเมืองของพวกเขาล้มเหลว ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่อธิบายความนิ่งเฉยของรัฐบาลเกาหลีเหนือได้.-813.-สำนักข่าวไทย

เผยหน่วยซีลสหรัฐสังหารพลเรือนเกาหลีเหนือในภารกิจปี 2019

โซล 6 ก.ย. – หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ (New York Times) ของสหรัฐ รายงานในวันศุกร์ว่าหน่วยรบพิเศษ หรือหน่วยซีล ของสหรัฐ (U.S. Navy SEALs) ได้ยิงและสังหารพลเรือนชาวเกาหลีเหนือจำนวนหนึ่ง ในระหว่างภารกิจลับที่ล้มเหลวเมื่อปี 2019 ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อติดตั้งอุปกรณ์ดักฟังในเกาหลีเหนือ นิวยอร์กไทมส์ รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยนาม ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารทั้งในปัจจุบันและอดีตที่ทราบรายละเอียดลับของปฏิบัติการ ระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้อนุมัติภารกิจนี้ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งในสมัยแรก ขณะที่เขาเข้าร่วมในการเจรจาครั้งประวัติศาสตร์กับนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ นิวยอร์กไทมส์ระบุว่า นายทรัมป์อนุมัติภารกิจดังกล่าวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2018 แต่เมื่อถูกถามเกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว นายตอบว่าเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย เขาเพิ่งได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ภารกิจที่ล้มเหลวนี้มีจุดประสงค์เพื่อดักฟังการสื่อสารของผู้นำเกาหลีเหนือในขณะที่การเจรจาด้านนิวเคลียร์กับสหรัฐกำลังดำเนินอยู่ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า พลเรือนเกาหลีเหนือเหล่านี้ดูเหมือนกำลังดำน้ำเพื่อจับหอยในทะเล เมื่อพวกเขาบังเอิญไปพบกับหน่วยซีลที่ขึ้นฝั่งในเวลากลางคืน กองกำลังของสหรัฐ ซึ่งใช้เรือดำน้ำขนาดเล็ก 2 ลำ ในการเดินทาง จึงเปิดฉากยิงและสังหารทุกคนที่อยู่บนเรือประมงลำเล็กๆ นั้น โดยรายงานไม่ได้ระบุจำนวนผู้เสียชีวิตที่แน่นอน รายงานข่าวระบุว่า การทบทวนลับของกระทรวงกลาโหมสหรัฐในภายหลังได้ข้อสรุปว่าการสังหารดังกล่าวเป็นไปอย่างถูกต้องภายใต้กฎการปะทะ (rules of engagement) นายทรัมป์และนายคิม ประชุมสุดยอดร่วมกันที่สิงคโปร์ […]

ผู้นำเกาหลีเหนือกลับถึงกรุงเปียงยางแล้ว

โซล 6 ก.ย. – สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือรายงานในวันศุกร์ว่า นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เดินทางกลับถึงกรุงเปียงยางแล้วเมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังเสร็จสิ้นการเยือนประเทศจีน เพื่อร่วมชมพิธีสวนสนามครั้งใหญ่ในกรุงปักกิ่ง ภาพถ่ายที่เผยแพร่โดยสื่อของรัฐยืนยันว่า คิม จูแอ บุตรสาวของนายคิมได้ร่วมเดินทางด้วยรถไฟกลับบ้านพร้อมกับบิดาของเธอ ก่อนหน้านี้ เธอเคยปรากฏตัวขณะที่นายคิมลงจากรถไฟกันกระสุนเมื่อเดินทางถึงประเทศจีนในวันอังคาร แต่ไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณะตลอดช่วงที่เหลือของการเยือนจีนครั้งนี้ การปรากฏตัวของเธอในครั้งนี้ยิ่งเพิ่มการคาดเดาว่าเธออาจเป็นผู้สืบทอดอำนาจต่อจากบิดาของเธอในการปกครองประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งส่งต่ออำนาจการบริหารประเทศแบบสืบทอดทางตระกูลก่อนหน้านี้ เธอเคยปรากฏตัวเคียงข้างบิดาของเธอในการสังเกตการณ์การยิงขีปนาวุธครั้งสำคัญหลายครั้ง.-813.-สำนักข่าวไทย

‘คิม จอง อึน’ เดินทางออกจากกรุงปักกิ่งแล้ว

ปักกิ่ง 5 ก.ย. – โทรทัศน์เคอาร์ทีของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานวันนี้ว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ เดินทางออกจากกรุงปักกิ่งของจีนแล้ว หลังจากได้พบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน โทรทัศน์เคอาร์ทียืนยันว่านายคิมเดินทางออกจากกรุงปักกิ่งในวันพฤหัสบดีเพื่อกลับไปยังเกาหลีเหนือ โดยมีเจ้าหน้าที่อาวุโสของจีนเข้าร่วมส่งนายคิม ซึ่งรวมถึงนายไช่ ฉี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ และนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน นายคิม เดินทางเยือนจีนครั้งนี้เพื่อเข้าร่วมในพิธีสวนสนามครั้งใหญ่เพื่อฉลองครบรอบ 80 ปี สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายคิมยังได้พบหารือกับนายสี ในระหว่างที่เยือนกรุงปักกิ่งด้วย สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือรายงานในวันศุกร์ว่า นายคิมบอกกับประธานาธิบดีสีว่า เกาหลีเหนือจะยังคงสนับสนุนจีนในการปกป้องอำนาจอธิปไตย อาณาเขต และผลประโยชน์ในการพัฒนาของจีนต่อไป นายคิมได้บอกกับนายสี ในระหว่างการพูดคุยทวิภาคีที่กรุงปักกิ่งในวันพฤหัสบดีว่า ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ความรู้สึกมิตรภาพระหว่างเกาหลีเหนือและจีนจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เคซีเอ็นเอ รายงานด้วยว่า นายสีได้กล่าวกับนายคิมว่า จีนและเกาหลีเหนือเป็น เพื่อนบ้านที่ดี เพื่อนที่ดี และสหายที่ดี ที่มีชะตากรรมร่วมกัน เคซีเอ็นเอระบุว่า ผู้นำทั้งสองได้หารือเกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์และการปกป้องผลประโยชน์ร่วมกันในประเด็นระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค รวมถึงการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองประเทศและการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ให้มากขึ้น ในขณะเดียวกัน […]

ผู้นำเกาหลีเหนือให้คำมั่นจะสนับสนุนรัสเซียอย่างเต็มที่

โซล 4 ก.ย. – สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานในวันพฤหัสบดีว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ กล่าวว่า เกาหลีเหนือจะสนับสนุนกองทัพรัสเซียอย่างเต็มที่ในฐานะ “หน้าที่ฉันพี่น้อง” ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เรียกความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศว่าเป็น “ความสัมพันธ์ที่พิเศษ” นายคิมและนายปูตินได้พบหารือกันเมื่อวันพุธ นอกรอบงานเฉลิมฉลองของจีน เพื่อรำลึกถึงการยอมจำนนอย่างเป็นทางการของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สอง ที่กรุงปักกิ่ง การเดินทางเยือนปักกิ่งของนายคิมครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสแรกที่เขาได้พบกับนายปูติน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พร้อมกัน รวมถึงได้พบปะกับผู้นำประเทศอื่นๆ อีกกว่า 20 คนที่เข้าร่วมงานดังกล่าว เตซีเอ็นเอ รายงานว่า นายคิมและนายปูตินได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาในประเด็นสำคัญระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค นายปูตินยังได้ชื่นชมทหารเกาหลีเหนือที่สู้รบกับยูเครน และกล่าวว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศเป็นความสัมพันธ์ที่พิเศษในด้านความไว้วางใจ มิตรภาพ และความเป็นพันธมิตร เกาหลีเหนือได้ส่งทหาร กระสุนปืนใหญ่ และขีปนาวุธไปยังรัสเซีย เพื่อสนับสนุนรัสเซียในการทำสงครามกับยูเครน หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ประมาณการในสัปดาห์นี้ว่า ทหารเกาหลีเหนือที่ถูกส่งไปรบเพื่อรัสเซียได้เสียชีวิตไปแล้วประมาณ 2,000 นาย เชื่อกันว่าเกาหลีเหนือวางแผนที่จะส่งทหารอีก 6,000 นาย โดยมีทหารรบประมาณ 1,000 นายอยู่ในรัสเซียแล้ว […]

1 2 3 222
...