
ไฟไหม้โรงพยาบาลในอินเดีย
เกิดเพลิงไหม้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอินเดีย ส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
เกิดเพลิงไหม้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอินเดีย ส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
กรุงนิวเดลี นครหลวงของอินเดียถูกปกคลุมไปด้วยอากาศพิษในวันนี้ ในขณะที่ระดับมลพิษทางอากาศยังคงอยู่ในระดับสูงที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากชาวอินเดียที่ร่วมฉลองงานเทศกาลเมินคำสั่งห้ามจุดดอกไม้ไฟในระหว่างเทศกาลดิวาลี ที่สำคัญของชาวฮินดู ในขณะที่ชาวนาในรัฐที่อยู่ไกล้เคียงเผาทำลายโคนต้นข้าวที่เหลืออยู่หลังการเก็บเกี่ยว
รัฐบาลอินเดียลดภาษีน้ำมันเบนซินและดีเซลก่อนถึงเทศกาลสำคัญ หวังฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบหนักจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19
อินเดียฉลองที่ประสบความสำเร็จในการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโรคโคโรนา 2019 ให้ประชาชนไปได้แล้ว 1,000 ล้านโดสในวันนี้ ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 โดยรัฐบาลเผยแพร่บทเพลงและวิดีโอที่กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้
เหตุน้ำท่วมและดินถล่มครั้งใหญ่ในอินเดียและเนปาลทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 116 ราย และมีผู้สูญหายอีกจำนวนมาก ขณะที่ถนนและบ้านเรือนหลายหลังได้รับความเสียหายจากเหตุดังกล่าวเช่นกัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนามสองรายที่ระบุวันนี้ว่า อินเดียจะเลื่อนการส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้โครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลก หลังจากที่เมื่อวานนี้องค์การอนามัยโลกเผยว่าไม่สามารถลดขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อประกาศรับรองวัคซีนโควาซินที่อินเดียผลิตขึ้นเองในประเทศได้
ทางการอินเดียแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 คน หลังจากฝนตกหนักในรัฐเกรละ ทางใต้ของอินเดียช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม
อิสลามาบัด 10 ต.ค.- กระทรวงมหาดไทยปากีสถานแจ้งว่า อับดุล กาเดียร์ ข่าน “บิดาแห่งระเบิดนิวเคลียร์ปากีสถาน” ถึงแก่กรรมในวันนี้ด้วยวัย 85 ปี หลังจากป่วยเรื้อรังมานาน กระทรวงแถลงเพียงสั้น ๆ ว่า นายข่านถึงแก่กรรมที่โรงพยาบาลในกรุงอิสลามาบัด ทางการจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติให้ในช่วงบ่าย นายข่านสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านวิศวกรรมโลหการจากมหาวิทยาลัยในเบลเยียม นายกรัฐมนตรีซัลฟิการ์ อาลี บุตโตของปากีสถานเห็นชอบตามที่นายข่านเสนอในปี 2517 ว่าจะพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกของประเทศ หลังจากอินเดียทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ทางสันติลูกแรกสำเร็จ ทั้งสองประเทศเดินหน้าพัฒนานิวเคลียร์ และประกาศตัวเป็นประเทศที่มีระเบิดนิวเคลียร์ในปี 2541 นายข่านเคยทำงานที่ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ในเนเธอร์แลนด์ช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1970 เขาถูกกล่าวหาว่า ขโมยเทคโนโลยีการเสริมสมรรถนะแร่ยูเนียมจากศูนย์แห่งนี้มาพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ และถูกสหรัฐกล่าวหาว่า ขายความลับนิวเคลียร์ให้อิหร่านและเกาหลีเหนือ แต่สำหรับคนในประเทศเขาคือวีรบุรุษ และบิดาแห่งระเบิดนิวเคลียร์ปากีสถาน นายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน ยกย่องเขาเป็น สัญลักษณ์แห่งชาติ เพราะโครงการระเบิดนิวเคลียร์ของเขาทำให้ปากีสถานมีความปลอดภัยจากประเทศนิวเคลียร์ข้างเคียงที่มีขนาดใหญ่กว่า.-สำนักข่าวไทย
เบงกาลูรู 28 ก.ย. – หน่วยงานกำกับดูแลยาของอินเดียอนุญาตให้สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของประเทศ เปิดลงทะเบียนรับสมัครเด็กอายุ 7-11 ปีเพื่อเข้าร่วมการทดลองฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในขณะที่อินเดียกำลังเตรียมวางแผนปกป้องเด็กจากโรคโควิด-19 ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านขององค์การควบคุมมาตรฐานยาของอินเดียระบุว่า หลังจากที่ได้พิจารณาข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วน คณะกรรมการอนุญาตให้เปิดลงทะเบียนรับสมัครเด็กอายุ 7-11 ปีเพื่อเข้าร่วมการทดลองฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดที่เป็นไปตามระเบียบ ในขณะเดียวกัน สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดียได้ทำการทดลองฉีดวัคซีนของโนวาแวกซ์ บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ ที่อินเดียนำมาผลิตเองในประเทศในกลุ่มเด็กอายุ 12-17 ปี และได้ยื่นข้อมูลด้านความปลอดภัยของกลุ่มอาสาสมัคร 100 คนแรกให้หน่วยงานกำกับดูแลยาของอินเดียพิจารณาแล้ว ขณะนี้ อินเดียฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้แก่ประชาชนวัยผู้ใหญ่กว่า 870 ล้านโดสจากประชากรทั้งหมดเกือบ 1.4 พันล้านคน และมีเพียงวัคซีนของไซดัส คาดิลา บริษัทเวชภัณฑ์ของอินเดียและเป็นวัคซีนชนิดดีเอ็นเอ ที่ได้รับการอนุมัติใช้เป็นกรณีฉุกเฉินในผู้ใหญ่และเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป.-สำนักข่าวไทย
เกษตรกรอินเดียผู้คัดค้านการปฏิรูปที่ถูกมองว่าคุกคามชีวิตความเป็นอยู่ จะประท้วงทั่วประเทศในวันนี้ ครบหนึ่งปีที่ทางการออกกฎหมายเปิดเสรีภาคการเกษตร
นายกรัฐมนตรีอินเดีย แถลงต่อที่ประชุมยูเอ็นจีเอ เชิญชวนกลุ่มบริษัทผู้ผลิตยาทั่วโลกเข้าไปตั้งฐานผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในอินเดีย
ผู้นำของสหรัฐ ญี่ปุ่น อินเดีย และออสเตรเลีย ให้คำมั่นร่วมกันว่า จะเดินหน้าผลักดันให้ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เสรีและเปิดกว้างโดยไม่ย่อท้อกับการกดดันบีบบังคับ ในระหว่างที่ทั้ง 4 พบปะกันในการประชุมสุดยอดครั้งแรก ที่ต่างก็มีความกังวลร่วมกันเกี่ยวกับการขยายอิทธิพลของจีน