น้ำท่วมฉับพลันในแคชเมียร์ตาย-สูญหายหลายร้อย

นิวเดลี 15 ส.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นรัฐชัมมูร์และแคชเมียร์ของอินเดียทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 46 คนและสูญหายอีกกว่า 200 คน เหตุภัยพิบัติครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ที่เมืองชาโซติในเขตคิชต์วาร์ ซึ่งเป็นจุดแวะพักบนเส้นทางแสวงบุญยอดนิยม เจ้าหน้าที่อินเดียเปิดเผยว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันพัดพาเอาโรงครัวชุมชนและจุดรักษาความปลอดภัยที่ตั้งขึ้นในหมู่บ้านลอยไปกับกระแสน้ำ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 46 คน และหลายคนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ผู้บัญชาการกองพลเขตคิชต์วาร์ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นระบุว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11 นาฬิกา 30 นาทีซึ่งในเวลาดังกล่าวผู้แสวงบุญกำลังรับประทานอาหารเที่ยงกันอยู่ และเวลานี้ทหารอินเดียกำลังเร่งค้นหาผู้สูญหายที่มีจำนวนมากกว่า 200 คน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนเส้นทางแสวงบุญที่มีชื่อว่า “มาไจล ยาตรา” ซึ่งเป็นเส้นทางไปยังวัดมาไจล มาตา เพื่อสักการะเจ้าแม่ทุรคา โดยผู้แสวงบุญจะต้องเดินเท้าจากหมู่บ้านในเมืองชาโซติซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดทางรถยนต์เพื่อจะไปยังวัดดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่บนที่สูงในเขตเทือกเขาหิมาลัย ฝนที่ตกหนักอย่างฉับพลันเกิดจากปรากฎการณ์ที่เรียกว่า “เมฆระเบิด” หรือ “คลาวด์เบิร์สต์” (cloudburst) ซึ่งทางสำนักอุตุนิยมวิทยาของอินเดียรายงานว่า ฝนตกหนักฉับพลันหมายถึงฝนหนักที่มีปริมาณฝนมากกว่า 100 มิลลิเมตรในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และหายนะภัยได้โดยเฉพาะพื้นที่ภูเขาในช่วงฤดูมรสุม

คาดนายกฯ อินเดียจะพบ ‘ทรัมป์’ ที่สหรัฐเดือนหน้า

นิวเดลี 13 ส.ค. (รอยเตอร์) – หนังสือพิมพ์อินเดียน เอ็กซ์เพรส (Indian Express) ของอินเดียรายงานวันนี้อ้างแหล่งข่าวว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย มีแนวโน้มที่จะเข้าพบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ในระหว่างการเยือนสหรัฐในเดือนหน้า เพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ อินเดียน เอ็กซ์เพรส รายงานว่า แม้เหตุผลหลักของการเยือนครั้งนี้ของนายโมดี คือการเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก แต่ยังมีเป้าหมายสำคัญคือการเจรจากับนายทรัมป์ เพื่อแก้ไขปัญหาการค้าและภาษีที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเริ่มตึงเครียด รายงานข่าวเรื่องความเป็นไปได้ในการเยือนสหรัฐของนายโมดีเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่นายทรัมป์ประกาศเก็บภาษีอินเดียเพิ่มเติมร้อยละ 25 เพื่อลงโทษรัฐบาลนิวเดลีที่ยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย การเก็บภาษีเพิ่มเติมนี้ทำให้ภาษีรวมของสินค้าอินเดียที่ส่งออกไปยังสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 50 ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงที่สุดในบรรดาคู่ค้าของสหรัฐ การเจรจาการค้าระหว่างอินเดียกับสหรัฐมีอันต้องล่มลง หลังจากเจรจากันมา 5 รอบ เนื่องจากมีความเห็นไม่ตรงกันในประเด็นการเปิดตลาดภาคการเกษตรและปศุสัตว์ขนาดใหญ่ของอินเดีย และการยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย.-813.-สำนักข่าวไทย

ศาลอินเดียสั่งย้ายหมาจรจัดออกจากเมืองหลวง

นิวเดลี 13 ส.ค. – ศาลสูงอินเดียสั่งย้ายสุนัขจรจัดออกไปนอกเมืองหลวงและปริมณฑลภายในเวลา 8 สัปดาห์ หลังพบว่าสุนัขกัดผู้คนจนทำให้มีผู้ป่วยโรคพิษสุนัขบ้าสูงขึ้นมาก รวมถึงเด็ก ๆ ด้วย ศาลสูงอินเดียออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ในกรุงเดลี ให้เริ่มนำสุนัขจรจัด 5,000 ตัวออกไปจากพื้นที่เสี่ยงสูง จัดการทำหมันก่อนพาพวกมันไปไว้ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ถาวร ศาลระบุว่า ผู้คนทั่วไปโดยเฉพาะเด็ก ๆ ไม่ควรตกเป็นเหยื่อของโรคพิษสุนัขบ้า พวกเขาควรได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นใจโดยที่ปราศจากความหวาดกลัวว่าจะถูกสุนัขกัด รัฐบาลอินเดียเผยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า มีรายงานสุนัขกัดคนทั่วประเทศเกือบ 430,000 กรณีในเดือนมกราคม ขณะที่ตลอดปี 2024 มีเหตุสุนัขกัดราว 3.7 ล้านกรณี ข้อมูลจากโรงพยาบาลพบว่า มีคนถูกสุนัขกัดเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในกรุงนิวเดลีเกือบวันละ 2,000 กรณี เป็นตัวเลขที่อันตรายและน่ากังวลมาก ขณะที่ข้อมูลจากหน่วยงานสำรรวจสุนัขจรจัด พบว่า อินเดียมีสุนัขจรจัดราว 52.5 ล้านตัว ในจำนวนนี้ราว 8 ล้านตัวที่อยู่ในสถานสงเคราะห์สัตว์แล้ว คาดว่าเฉพาะในกรุงนิวเดลี อาจมีสุนัขจรจัดมากถึง 1 ล้านตัว จึงไม่น่าแปลกใจที่มีสุนัขกัดเด็กในเมืองหลวงมากขึ้นเรื่อย ๆ และหลายกรณีมีอาการร้ายแรง อย่างไรก็ตาม มีเสียงเรียกร้องมากขึ้นว่าให้ทำหมันพวกมันเพื่อป้องกันการขยายพันธุ์ แต่การทำเช่นนั้นยังไม่อาจยับยั้งโรคพิษสุนัขบ้าได้ทั้งหมด และยังมีเสียงวิจารณ์เรื่องการย้ายถิ่นสุนัขจรจัดเหล่านี้ ว่าจะนำไปไว้ที่สถานสงเคราะห์แห่งใด […]

Modi vows to protect farmers amid US tariff hike

อินเดียประกาศปกป้องเกษตรกรจากภาษี “ทรัมป์”

นิวเดลี 7 ส.ค.- นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียประกาศไม่ยอมอ่อนข้อเรื่องผลประโยชน์ของเกษตรกรชาวอินเดีย แม้ว่าต้องเผชิญกับผลลัพธ์ที่ร้ายแรงก็ตาม หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดียรวมเป็นร้อยละ 50 นายโมดีกล่าวในงานแห่งหนึ่งที่กรุงนิวเดลีในวันนี้ว่า อินเดียจะไม่มีวันยอมประนีประนอมเรื่องความเป็นอยู่ที่ดีของเกษตรกร เกษตรกรโคนม และชาวประมง แม้เขาทราบดีว่า เขาจะต้องเผชิญกับผลลัพธ์ที่ร้ายแรงก็ตาม ผู้นำอินเดียกล่าวเรื่องนี้ หลังจากผู้นำสหรัฐประกาศเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ขึ้นภาษีอินเดียอีกร้อยละ 25 เพิ่มเติมจากร้อยละ 25 ที่ประกาศก่อนหน้านี้ทำให้รวมเป็นร้อยละ 50 มีผลตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคมตามเขตเวลาออมแสงตะวันออก ซึ่งช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง เพื่อลงโทษอินเดียที่ยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า แม้ว่านายโมดีไม่ได้เอ่ยชื่อสหรัฐหรือการเจรจาการค้ากับสหรัฐที่ล้มเหลว แต่คำพูดดังกล่าวได้สะท้อนจุดยืนของเขาอย่างชัดเจน ด้านประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวาของบราซิลซึ่งถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีสูงถึงร้อยละ 50 กล่าวเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า จะเปิดการสนทนาหารือระหว่างประเทศสมาชิกกลุ่มบริกส์ (BRICS) เรื่องรับมือกับภาษีทรัมป์ โดยเตรียมจะโทรศัพท์ถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนและนายกรัฐมนตรีโมดีของอินเดีย ขณะเดียวกันกลุ่มผู้สนับสนุนนายโมดีและพรรคคองเกรสที่เป็นพรรคฝ่ายค้านพากันเรียกร้องให้เขาตอบโต้สหรัฐอย่างแข็งขันด้วยความเคารพในตัวเองและมีศักดิ์ศรี ด้านประธานสภาส่งเสริมการส่งออกสิ่งทอของอินเดียระบุว่า ภาคอุตสาหกรรมไม่สามารถรับมือกับอัตราภาษีสูงดังกล่าวได้ ขอให้รัฐบาลให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อบรรเทาผลกระทบ.-814.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ เรียกเก็บภาษีสินค้าอินเดียเพิ่มอีก 25%

วอชิงตัน/นิวเดลี 7 ส.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐประกาศในวันพุธ เรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติม 25% กับสินค้าจากอินเดีย โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลนิวเดลียังคงนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียอย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก หลังจากที่การเจรจาทางการค้าไม่สามารถหาข้อสรุปได้ อัตราภาษีนำเข้าใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ 21 วันหลังจากวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งจะทำให้อากรขาเข้าสำหรับสินค้าส่งออกบางประเภทของอินเดียพุ่งสูงถึง 50% ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราภาษีที่สูงที่สุดที่สหรัฐเคยเรียกเก็บจากประเทศคู่ค้า คำสั่งทางการบริหารของนายทรัมป์ที่เรียกเก็บภาษีเพิ่มไม่ได้กล่าวถึงจีน ซึ่งเป็นอีกประเทศที่นำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย แต่นายทรัมป์กล่าวในภายหลังว่า เขาสามารถประกาศเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมในลักษณะเดียวกันกับสินค้าจีนได้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า การกระทำของนายทรัมป์ครั้งนี้ถือเป็นจุดตกต่ำที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-อินเดียนับตั้งแต่เขากลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา อัตราภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเข้าถึงตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกรวมเกือบ 8.7 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2024 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น สิ่งทอ รองเท้า อัญมณี และเครื่องประดับ นอกจากนี้ยังถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากความสัมพันธ์อันดีที่เคยเห็นในช่วงการพบปะกันของนายทรัมป์และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียในเดือนกุมภาพันธ์ โดยนักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นถึงคำพูดล่าสุดของนายทรัมป์ที่เรียกเศรษฐกิจของอินเดียว่า “ตายไปแล้ว” และกล่าวว่ามาตรการกีดกันทางการค้าของอินเดียนั้น “น่ารังเกียจ” พร้อมทั้งกล่าวหาว่าอินเดียได้ผลประโยชน์จากน้ำมันรัสเซียราคาถูกในขณะที่เพิกเฉยต่อการสังหารชาวยูเครนในการรุกรานของรัสเซียที่ดำเนินมาสามปีครึ่ง กระทรวงการต่างประเทศของอินเดียกล่าวว่า การตัดสินใจของสหรัฐครั้งนี้ “น่าเสียดายอย่างยิ่ง” และชี้ว่าประเทศอื่นๆ อีกมากมายก็มีการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศตนเช่นกัน พร้อมกับระบุว่า อินเดียจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ […]

เร่งค้นหาผู้สูญหายโคลนถล่มอินเดีย

นิวเดลี 7 ส.ค. – ทหารจากกองทัพอินเดียเดินหน้าลุยค้นหาผู้สูญหายที่ยังไม่ทราบชะตากรรมอีกมากกว่า 50 คน ในเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนถล่มในรัฐอุตตราขัณฑ์ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 คน กองทัพอินเดียได้นำสุนัขดมกลิ่น, โดรนและเครื่องมือหนักในการขนดิน ออกค้นหาผู้สูญหายจำนวนมาก หนึ่งวันหลังเกิดน้ำท่วมฉับพลันรุนแรงในบริเวณเทือกเขาหิมาลัย เจ้าหน้าที่กู้ภัยแถลงว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และยังไม่ทราบชะตากรรมอีกกว่า 50 คน หลังจากน้ำผสมดินโคลนและเศษซากต่าง ๆ ไหลบ่าลงมาตามภูมิประเทศที่เป็นภูเขา เข้าท่วมถนน อาคารและร้านค้าต่างๆ หมู่บ้านธาราลี (Dharali) ในเขตอุตตาร์คาชี แหล่งท่องเที่ยวหน้าร้อนชื่อดังในรัฐอุตตราขัณฑ์ ฝนที่ยังคงตกหนักต่อเนื่อง เป็นอุปสรรคต่อความพยายามกู้ภัย การสื่อสารอยู่ทำได้อย่างจำกัดและสายส่งโทรศัพท์ได้รับความเสียหาย เส้นทางที่มุ่งไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบพังถล่มหรือถูกปิดกั้นด้วยก้อนหิน ทำให้การเข้าถึงทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม เมื่อทหารและทีมกู้ภัยไปถึงที่เกิดเหตุ การประเมินจำนวนผู้สูญหายก็ลดลง จากเดิมที่มีรายงานว่าสูญหายราว 100 คนเมื่อช่วงค่ำวันอังคารที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ทหาร 11 นายก็ยังสูญหายไม่ทราบชะตากรรมจากหมู่บ้านฮาร์ซิล ที่อยู่ใกล้เคียงและเผชิญเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินโคลนด้วย ขณะที่ก่อนหน้านี้ ทหารและเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้อพยพผู้ประสบภัยออกมาได้แล้วราว 130 คน.-815.-สำนักข่าวไทย

อินเดียเร่งกู้ภัยดินถล่ม

นิวเดลี 6 ส.ค. – รัฐบาลท้องถิ่นรัฐอุตตราขัณฑ์ ในภูมิภาคหุบเขาหิมาลัย ภาคเหนือของอินเดีย เร่งภารกิจค้นหาและกู้ภัยเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันอังคาร นายพุชการ์ ซิงห์ ธามี (Pushkar Singh Dhami) มุขมนตรีรัฐอุตตราขัณฑ์ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินปริมาณมหาศาลถล่มลงมาจากภูเขา ไหลทะลักเข้าทับถมอาคารและบ้านเรือนประชาชนที่อยู่เบื้องล่าง อันเป็นผลจากปรากฏการณ์ คลาวด์เบิร์ส หรือ เมฆระเบิด ที่ทำให้เกิดฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนักและฉับพลัน ในระยะเวลาสั้น ส่วนใหญ่เกิดในเขตภูเขาซึ่งมักก่อผลกระทบอย่างรุนแรง เหตุภัยพิบัติเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงวันอังคาร พื้นที่เกิดเหตุเป็นหมู่บ้านดาราลีและเขตอุตตรากาสี แหล่งท่องเที่ยวหน้าร้อนชื่อดังของภูมิภาค มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คนและมีผู้สูญหายระหว่าง 50-100 คน ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย ทำได้อย่างยากลำบาก เนื่องจากดินถล่มกีดขวางการจราจรบนทางด่วนสายหลักและถนนหลายจุดทรุดตัวและขาด อีกทั้งยังเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง นายธามีกล่าวว่า สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้แล้ว 130 คน ส่วนกรณีระบบการสื่อสารประสบปัญหาขัดข้อง เพราะเสาส่งสัญญาณ และ เสาไฟฟ้าถูกกระแสน้ำซัดหายไป เจ้าหน้าที่ได้มอบโทรศัพท์ดาวเทียม ให้ทีมกู้ภัยใช้ติดต่อสื่อสาร พร้อมกันนี้ ยังจัดเตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้รองรับการจัดส่งสิ่งของช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยที่ยังติดค้างอยู่ตามที่ต่างๆ ขณะที่สถานีข่าว เอ็นดีทีวี รายงานด้วยว่า ค่ายทหารในเมืองฮาร์ซิลที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านดาราลี 4 กิโลเมตร เผชิญเหตุน้ำท่วมฉับพลันด้วยและมีเจ้าหน้าที่ทหารสูญหาย […]

News of Trump's tariff on India

อินเดียจะซื้อน้ำมันรัสเซียต่อไปไม่หวั่น “ทรัมป์” ขู่

นิวเดลี 3 ส.ค.- แหล่งข่าวในรัฐบาลอินเดียเปิดเผยว่า อินเดียจะเดินหน้าซื้อน้ำมันจากรัสเซียต่อไป แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐขู่ใช้มาตรการลงโทษ และจะเดินหน้าเจรจาการค้ากับสหรัฐหลังจากถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีร้อยละ 25 ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมว่า จะลงโทษอินเดียเพิ่มเติมหากยังซื้อน้ำมันจากรัสเซีย จากนั้นได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมกำหนดใช้อัตราภาษีศุลกากรใหม่กับหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงอินเดียที่จะต้องเสียในอัตราร้อยละ 25 ต่อมาผู้นำสหรัฐกล่าวกับสื่อในวันรุ่งขึ้นว่า ทราบมาว่าอินเดียจะไม่ซื้อน้ำมันจากรัสเซียอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ในสหรัฐรายงานอ้างเจ้าหน้าที่อาวุโสอินเดีย 2 คนเมื่อวันเสาร์ว่า รัฐบาลอินเดียไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายใด ๆ เช่นเดียวกับรอยเตอร์ที่อ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลอินเดีย 2 คนว่า ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ อย่างฉับพลัน สัญญาซื้อขายน้ำมันเป็นสัญญาระยะยาว ไม่สามารถหยุดซื้อได้ง่าย ๆ ในชั่วข้ามคืน นอกจากนี้การที่อินเดียซื้อน้ำมันจากรัสเซียยังช่วยคงราคาน้ำมันโลกไม่ให้แพงขึ้นอย่างกะทันหันด้วย ปัจจุบันอินเดียซื้อน้ำมันดิบรัสเซียในราคาต่ำกว่าเพดานราคาที่สหภาพยุโรปหรืออียูกำหนดไว้ตามมาตรการลงโทษรัสเซียเรื่องรุกรานยูเครน อินเดียเป็นประเทศที่นำเข้าและใช้น้ำมันมากเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยนำเข้าจากรัสเซียราว 1 ใน 3 ของการใช้งานทั้งหมด เฉพาะช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายนของปีนี้นำเข้าจากรัสเซีย 1.75 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม […]

อินเดียจะยังคงซื้อน้ำมันรัสเซียแม้ ‘ทรัมป์’ จะขู่ลงโทษก็ตาม

นิวเดลี 2 ส.ค. – หนังสือพิมพ์เดอะ นิวยอร์ค ไทมส์ รายงานวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่อินเดียกล่าวว่า อินเดียจะยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซียต่อไป แม้จะมีความเสี่ยงที่จะถูกลงโทษจากคำขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐก็ตาม เจ้าหน้าที่อาวุโสของอินเดีย 2 คนระบุว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายใด ๆ และเจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวว่ารัฐบาลไม่ได้ออกคำสั่งใด ๆ ให้บริษัทน้ำมันลดการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ทำเนียบขาวของสหรัฐ กระทรวงต่างประเทศของอินเดีย และกระทรวงปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติของอินเดียยังไม่ได้ตอบคำขอของสำนักข่าวรอยเตอร์ให้แสดงความเห็นในเรื่องนี้ ในขณะที่รอยเตอร์ยังไม่สามารถยืนยันข่าวเรื่องนี้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ เมื่อเดือนที่แล้ว นายทรัมป์เคยโพสต์ข้อความบนแอปพลิเคชัน ทรูธโซเชียล ของเขาว่าอินเดียจะต้องเผชิญกับการลงโทษเพิ่มเติมหากยังคงซื้ออาวุธและน้ำมันจากรัสเซีย อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเขากล่าวว่าเขาไม่สนใจว่าอินเดียจะทำอะไรกับรัสเซียเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายทรัมป์ได้บอกกับนักข่าวว่าเขาได้ยินมาว่าอินเดียจะไม่ซื้อน้ำมันจากรัสเซียอีกต่อไป ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าโรงกลั่นของรัฐบาลอินเดียได้หยุดซื้อน้ำมันรัสเซียในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากส่วนลดมีน้อยลงในเดือนกรกฎาคม เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม นายทรัมป์เคยขู่ว่าจะเก็บภาษี 100% กับประเทศที่ซื้อน้ำมันรัสเซีย เว้นแต่ว่ารัฐบาลมอสโกจะบรรลุข้อตกลงสันติภาพที่สำคัญกับยูเครน ทั้งนี้ รัสเซียเป็นผู้จัดหาน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของอินเดีย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 35% ของปริมาณน้ำมันทั้งหมดที่อินเดียนำเข้าจากต่างประเทศ.-813.-สำนักข่าวไทย

‘อัญมณีพระพุทธเจ้า’ ถูกส่งกลับมายังอินเดีย

ฮ่องกง 31 ก.ค. – ชุดอัญมณีหลายร้อยชิ้นที่เกี่ยวข้องกับพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าได้กลับคืนมายังประเทศอินเดียแล้ว หลังจากผ่านไป 127 ปี ภายหลังจากที่มีแผนการจะนำอัญมณีเหล่านี้ออกประมูล ซึ่งทำให้รัฐบาลอินเดียขู่ว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมาย นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ได้กล่าววานนี้แสดงความชื่นชมการกลับมาสู่ประเทศอินเดียของชุดอัญมณีนี้ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ “อัญมณีปิปราห์วา” (The Piprahwa Gems) เขาโพสต์ข้อความทางแอปพลิเคชั่นเอ็กซ์ว่า เป็นวันที่น่ายินดีสำหรับมรดกทางวัฒนธรรมของอินเดียและจะทำให้ชาวอินเดียทุกคนภาคภูมิใจ ชุดอัญมณีมากกว่า 300 ชิ้นนี้มีอายุย้อนไปถึงสมัยจักรวรรดิเมารยะ (Maurya Empire) หรือประมาณ 240-200 ปีก่อนคริสต์ศักราช เดิมทีชุดอัญมณีนี้มีกำหนดจะถูกนำออกประมูลโดย สถาบันประมูลโซธบีส์ (Sotheby’s) ในฮ่องกงในเดือนพฤษภาคม แต่การประมูลถูกเลื่อนออกไปหลังจากรัฐบาลอินเดียขู่ว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายและเรียกร้องให้นำอัญมณีกลับคืนมา หลังจากนั้น โซธบีส์ ได้ระบุว่าบริษัทเครือ โกเดรจ อินดัสทรีส์ กรุ๊ป (Godrej Industries Group) ของอินเดียเป็นผู้ซื้อ และได้มีการขายและส่งผลให้อัญมณีกลับคืนสู่อินเดียเป็นการถาวร ซึ่งจะนำไปจัดแสดงต่อสาธารณะต่อไป โซธบีส์กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพุธว่า โซธบีส์รู้สึกยินดีที่ได้อำนวยความสะดวกในการส่งมอบอัญมณีปิปราห์วากลับคืนสู่อินเดีย อัญมณีเหล่านี้ถูกขุดพบในปี 1898 จากสถูปโบราณในเมืองปิปราห์วา ทางตอนเหนือของอินเดีย โดยวิลเลียม แคลกซ์ตัน เปปเป้ […]

tree cut to block Bangladesh youth rally

ม็อบชนม็อบในบังกลาเทศตาย-เจ็บนับสิบ

ธากา 17 ก.ค.- เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นระหว่างการชุมนุมทางการเมืองในบังกลาเทศเมื่อวานนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คนและบาดเจ็บอีกนับสิบคน การชุมนุมของพรรคพลเมืองแห่งชาติของบังกลาเทศหรือเอ็นซีพี (NCP) นำโดยกลุ่มนักศึกษาที่เมืองโคปาลคัญช์ทางภาคใต้  เป็นการชุมนุมอย่างสงบเนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีของการขับไล่นางชีค ฮาสินา พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ผูกขาดมานาน และต้องลี้ภัยไปอยู่ในอินเดียเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว อีกทั้งยังเป็นการชุมนุมเพื่อเรียกร้องเรื่องการปฏิรูปการเมืองที่ล่าช้าไม่มีความคืบหน้า นายโมฮัมหมัด ยานูส นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพ ซึ่งมีตำแหน่งหัวหน้าคณะที่ปรึกษาของรัฐบาลรักษาการบังกลาเทศโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สมาชิกพรรคเอ็นซีพี  ตำรวจ และสื่อมวลชนถูกทำร้ายระหว่างการชุมนุมอย่างสงบ และยังมีการทำลายรถยนต์ ตลอดจนมีบุคคลอื่น ๆ ถูกทำร้ายร่างกายด้วย นายยานูสระบุว่า การขัดขวางกลุ่มเยาวชนไม่ให้จัดการชุมนุมอย่างสันติเพื่อรำลึกครบรอบ 1 ปีการเคลื่อนไหวปฏิวัติของกลุ่มเอ็นพีซีถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอย่างน่าละอาย พร้อมทั้งกล่าวโทษว่า เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของสมาชิกพรรคการเมืองสันนิบาตอาวามีบังกลาเทศหรือบีเอแอล (BAL) ของนางฮาสินา เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 10 คน สมาชิกพรรคบีเอแอลหยิบจับอาวุธที่หาได้ออกมารวมตัวกันเพื่อก่อกวนการชุมนุม ด้วยการตัดต้นไม้ให้ล้มกีดขวางถนนในหลายเส้นทาง โจมตีขบวนรถของกลุ่มนักเคลื่อนไหวเอ็นพีซี และทำลายสถานที่จัดการชุมนุมของเอ็นซีพีในสวนธารณะแห่งหนึ่ง ด้านรัฐบาลประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 20.00 น.วานนี้มีผลไปจนถึง 18.00 น.วันนี้เพื่อควบคุมสถานการณ์.-816(814).-สำนักข่าวไทย

‘เทสลา’ เปิดตัวในอินเดียอย่างเป็นทางการ

มุมไบ, 15 ก.ค. – “เทสลา” (Tesla) บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐเปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดอินเดียในวันนี้ โดยเปิดโชว์รูมแห่งแรกในเมืองมุมไบ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของอินเดีย และเริ่มรับการสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ “เทสลา” ยังเปิดตัวรยนต์ไฟฟ้ารุ่น “เทสลา โมเดล วาย” (Tesla Model Y) ด้วยราคาจำหน่ายในอินเดียประมาณ 70,000 ดอลลาร์ หรือ 2,269,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาสูงที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดสำคัญอื่นๆ โดยเปรียบเทียบกับราคาเริ่มต้นในประเทศอื่นๆ แล้วในสหรัฐราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 44,990 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,458,000 บาท ในจีน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 263,500 หยวน หรือประมาณ 1,190,000 บาท และ เยอรมนี ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 45,970 ยูโร หรือประมาณ 1,741,000 บาท ในขณะที่ “เทสลา” กำลังเผชิญกับการชะลอตัวของยอดขาย จึงได้วางเดิมพันกับโอกาสทางธุรกิจในอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่อีลอน มัสก์ ซีอีโอของ “เทสลา” […]

1 2 3 4 5 142
...