อพยพ

มะนิลา 26 ก.ย. – ประชาชนในกรุงมะนิลา นครหลวงของฟิลิปปินส์เตรียมพร้อมด้วยการเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่พายุโซนร้อนกำลังแรง “บัวลอย” (Bualoi) ซึ่งฟิลิปปินส์เรียกพายุลูกนี้ว่า “โอปง” (Opong) เคลื่อนตัวเข้าใกล้ฟิลิปปินส์ สำนักอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ระบุว่า ศูนย์กลางของพายุอยู่ใกล้กับเมืองซานอิซิโดร ในจังหวัดซามาร์เหนือ (Northern Samar) โดยมีความเร็วลมสูงสุดต่อเนื่องที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีลมกระโชกแรงถึง 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำนักอุตุนิยมวิทยารายงานว่า เขตเมโทรมะนิลา (Metro Manila) และพื้นที่ใกล้เคียง อาจประสบกับฝนตกหนัก พร้อมความเป็นไปได้ที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน หรือดินถล่ม โดยเฉพาะในชุมชนเสี่ยงที่ตั้งอยู่ตามริมแม่น้ำและพื้นที่ชายฝั่ง สำนักอุตุนิยมวิทยากล่าวเสริมว่า ขณะที่พายุโอปงเคลื่อนผ่านหมู่เกาะต่างๆ นั้น คาดว่าน่าจะยังคงความแรงในระดับพายุโซนร้อนกำลังแรง และมีแนวโน้มสูงที่จะกลับมาทวีกำลังขึ้นอีกครั้ง เมื่อพายุเคลื่อนตัวออกจากฝั่งและเข้าสู่ทะเลจีนใต้.-813.-สำนักข่าวไทย

ฮวาเหลียน, ไต้หวัน, 24 ก.ย. – ประชาชนที่อาศัยในเมืองทางตะวันออกของไต้หวัน ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมจากพายุไต้ฝุ่นรุนแรงที่คร่าชีวิตผู้คนไป 14 ราย รีบพากันไปหลบภัยในที่พักชั่วคราวด้วยความหวาดกลัวภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นอีก ในขณะที่นายกรัฐมนตรีเฉา จุงไถ ได้สั่งให้มีการสอบสวนถึงความผิดพลาดในการออกคำสั่งอพยพประชาชน ไต้หวันซึ่งมักได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่น มีกลไกการรับมือภัยพิบัติที่ค่อนข้างเป็นระบบที่ดีอยู่แล้ว และะมักจะป้องกันการสูญเสียรุนแรงได้โดยการอพยพผู้คนออกจากพื้นที่เสี่ยงอันตรายได้อย่างรวดเร็ว แต่ชาวบ้านหลายคนในเมืองกวงฟู่ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวในเขตฮวาเหลียนที่ถูกน้ำท่วม กล่าวว่าไม่ได้รับการเตือนภัยที่มากเพียงพอเมื่อทะเลสาบสันดอนกั้น มีน้ำเอ่อล้นในช่วงที่ฝนตกหนักจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซาเมื่อวันอังคาร นายเฉากล่าวว่า สิ่งสำคัญเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือการตามหาผู้สูญหาย ซึ่งตัวเลขได้เพิ่มขึ้นเป็น 152 รายแล้ว สำหรับผู้เสียชีวิต 14 รายจะต้องมีการสอบสวนว่าทำไมคำสั่งอพยพจึงไม่ถูกดำเนินการในพื้นที่ที่กำหนดไว้ เขาระบุว่า ไม่ใช่เรื่องของการกล่าวโทษ แต่เป็นการค้นหาความจริง ทะเลสาบสันดอนกั้นมีน้ำล้นคันกั้นทำให้ปริมาณน้ำมหาศาลไหลเข้าท่วมเมืองกวงฟู่ ในขณะที่ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่องในเมืองฮวาเหลียน รถตำรวจได้แจ้งเตือนภัยน้ำท่วมครั้งใหม่ในเมืองกวงฟู่ในวันพุธ ทำให้ผู้คนต้องรีบหาพื้นที่ที่ปลอดภัย นายหวง เจ้าฉิน รองหัวหน้าศูนย์บัญชาการภัยพิบัติ กล่าวว่า ปริมาณน้ำฝนที่ลดลงและน้ำจากเขื่อนส่วนใหญ่ได้ถูกปล่อยออกไปแล้ว เขาจึงไม่คาดว่าจะเกิดเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ซ้ำรอยเหมือนเมื่อวันอังคาร ไต้หวันถูกพายุพัดถล่มตั้งแต่วันจันทร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของไต้ฝุ่นรากาซา ซึ่งถูกลดระดับจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นแล้วและขณะนี้กำลังพัดถล่มชายฝั่งทางใต้ของจีนและฮ่องกง พายุไต้ฝุ่นได้ทำให้มีฝนตกประมาณ 700 มิลลิเมตร ในพื้นที่ทางตะวันออกของไต้หวัน แต่พื้นที่ชายฝั่งตะวันตกที่มีประชากรหนาแน่นและเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่สำคัญไม่ได้รับผลกระทบรุนแรง.-813.-สำนักข่าวไทย

กาซา 9 ก.ย. – กองทัพอิสราเอลโปรยใบปลิวเพื่อสั่งให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากเมืองกาซ่าซิตี้โดยทันที ก่อนที่อิสราเอลจะยกระดับปฏิบัติการทางทหารในเมืองแห่งนี้เพื่อกดดันให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันที่ยังเหลือออยู่ การโปรยใบปลิวสร้างความตื่นตระหนกและสับสนให้แก่ชาวปาเลสไตน์อย่างมากบางส่วนบอกว่าไม่มีทางเลือกอย่างอื่นนอกจากจะต้องอพยพลงไปทางใต้ของฉนวนกาซ่า ขณะที่บางส่วนบอกว่าจะไม่อพยพออกจากกาซ่าซิตี้เพราะไม่ว่าที่ไหนก็ไม่ปลอดภัยทั้งสิ้น นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลบอกว่าอิสราเอลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องถอนรากถอนโคนกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก นับตั้งแต่สงครามในฉนวนกาซ่าเริ่มขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2566 อิสราเอลสามารถยึดครองพื้นที่ในฉนวนกาซ่าได้แล้วถึงร้อยละ 75.-816.-สำนักข่าวไทย

อิสลามาบัด 28 ส.ค. – ชาวปากีสถานกว่า 2 แสนคนในจังหวัดปันจาบต้องอพยพหนีน้ำท่วมหลังมีฝนตกหนักและอินเดียปล่อยน้ำออกจากเขื่อนเข้าท่วมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ทางการปากีสถานได้ส่งทหารเข้าไปช่วยเหลืออพยพชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมรุนแรงในจังหวัดปันจาบทางภาคตะวันออกซึ่งขณะนี้หลายพื้นที่กำลังจมอยู่ใต้น้ำหลังมีฝนตกหนักตลอดหลายวันที่ผ่านมา ประกอบกับเมื่อวานนี้อินเดียได้เริ่มระบายน้ำออกจากเขื่อนหลัก 2 แห่งในรัฐชัมมูร์และแคชเมียร์ ซึ่งทางอินเดียได้แจ้งให้รัฐบาลปากีสถานทราบล่วงหน้าถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ปลายน้ำ จนถึงขณะนี้มีชาวบ้านในจังหวัดปันจาบได้รับความช่วยเหลือแล้วราว 2 แสน 1 หมื่นคน ชาวบ้านหลายคนต่างขอบคุณเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่นำเรือเข้ามาช่วยเหลือพาครอบครัวของพวกเขาออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย แต่บางคนก็ปฏิเสธที่จะอพยพไปกับเรือเพราะเป็นห่วงปศุสัตว์ที่เลี้ยงเอาไว้เนื่องจากเรือกู้ภัยไม่สามารถเคลื่อนย้ายปศุสัตว์ขนาดใหญ่ได้ บางคนต้องต้อนวัวควายเดินลุยฝ่ากระแสน้ำที่ท่วมสูงกันอย่างทุลักทุเล จังหวัดปันจาบถือได้ว่าเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของปากีสถานและเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรราวครึ่งหนึ่งของทั้งประเทศที่มีอยู่ราว 240 ล้านคน นับตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ฤดูมรสุมเมื่อปลายเดือนมิถุนายน ปากีสถานมีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมและฝนตกหนักไปแล้วราว 800 คน เฉพาะในเดือนนี้มีผู้เสียชีวิตถึง 400 คน.-816.-สำนักข่าวไทย

ฮานอย 25 ส.ค.- ทางการเวียดนามสั่งอพยพประชาชนหลายแสนคน  มีการปิดโรงเรียน สนามบิน และโรงงานหลายแห่งเพื่อเตรียมรับมือกับไต้ฝุ่นคาจิกิ (Kajiki) ที่จะพัดขึ้นฝั่งในบ่ายวันนี้ และจะเป็นพายุรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้ เวียดนามประกาศแผนการอพยพประชาชนกว่า 586,000 คนในหลายจังหวัดทางภาคกลาง ได้แก่จังหวัดทัญฮว้า, กว๋างจิ, เว้ และดานัง ก่อนที่ไต้ฝุ่นคาจิกิกำลังแรงจะพัดขึ้นฝั่งในบ่ายวันนี้ โดยคาดว่าพายุจะพัดขึ้นฝั่งในพื้นที่ระหว่างจังหวัดทัญฮว้าและจังหวัดเหงะอานราวเวลา 16 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลาเดียวกันในไทย ท่าอากาศยาน 2 แห่งในจังหวัดทัญฮว้าและจังหวัดกว๋างจิต้องปิดทำการ ทำให้เที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกในพื้นที่หลายสิบเที่ยวถูกยกเลิก  โรงเรียนในหลายจังหวัด  ตลอดจนโรงงานต่าง ๆ ต้องปิดทำการด้วยเช่นกัน  สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเวียดนามรายงานว่า ไต้ฝุ่นคาจิกิมีความเร็วลมสูงสุดถึง 166 กิโลเมตรต่อ ชั่วโมง รัฐบาลเตือนว่า ไต้ฝุ่นลูกนี้เคลื่อนที่เร็วและเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เทียบเท่ากับไต้ฝุ่นยาหงิ (Yagi) ที่พัดถล่มเวียดนามเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2567 ครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 325 คน สร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินราว 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 107,000 ล้านล้านบาท) พร้อมกันนี้ยังเตือนให้ระวังอันตรายจากน้ำท่วมและดินถล่ม โดยคาดว่าบางพื้นที่ทางชายฝั่งตอนเหนืออาจมีปริมาณฝนมากถึง 600 […]

ฮานอย 24 ส.ค. – เวียดนามได้วางแผนอพยพประชาชนกว่า 5 แสนคน และสั่งให้เรือทุกลำกลับเข้าฝั่ง ขณะที่เมืองซานย่าทางตอนใต้ของจีนได้สั่งปิดธุรกิจและระงับการขนส่งสาธารณะในวันอาทิตย์นี้ เพื่อเตรียมรับมือกับพายุไต้ฝุ่น ‘คาจิกิ’ (Kajiki) ที่กำลังทวีกำลังรุนแรงขึ้น ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของจีนระบุว่า พายุลูกนี้อาจขึ้นฝั่งตามแนวชายฝั่งทางใต้ของมณฑลไหหลำในช่วงบ่ายถึงเย็นวันอาทิตย์ หรืออาจจะเคลื่อนตัวเลียบชายฝั่งทางใต้ก่อนมุ่งหน้าสู่เวียดนาม หน่วยงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติของเวียดนามรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ตามเวลาเวียดนาม ซึ่งตรงกับเวลาเดียวกันในประเทศไทย พายุมีความเร็วลมสูงสุด 149 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอยู่ห่างจากชายฝั่งตอนกลางของเวียดนามประมาณ 500 กิโลเมตร โดยพายุเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่หน่วยงานพยากรณ์อากาศของจีนระบุว่า พายุมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น โดยมีความเร็วลมสูงถึง 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สื่อของรัฐบาลเวียดนามรายงานว่า ทางการเวียดนามวางแผนที่จะอพยพประชาชนกว่า 586,000 คนจากจังหวัดทางตอนกลาง ได้แก่ ถั่นฮวา, กว๋างจิ, เว้ และดานัง ซึ่งคาดว่าจะเป็นพื้นที่ที่ไต้ฝุ่นจะขึ้นฝั่งในช่วงเช้าวันจันทร์ นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานว่า 7 จังหวัดชายฝั่งของเวียดนามได้สั่งห้ามเรือออกจากชายฝั่งตั้งแต่เช้าวันอาทิตย์ ขณะที่เวียดนามแอร์ไลน์ส (Vietnam Airlines) สายการบินแห่งชาติ ได้ยกเลิกอย่างน้อย […]

ไทเป 12 ส.ค.- ทางการไต้หวันเร่งอพยพประชาชนออกจากเส้นทางที่ไต้ฝุ่นพอดึล (Podul) มีแนวโน้มจะพัดผ่าน โดยคาดว่าไต้ฝุ่นจะขึ้นฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ในวันพรุ่งนี้ สำนักงานสภาพอากาศกลางของไต้หวันแถลงว่า ไต้ฝุ่นพอดึล ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งโดยเกาหลีเหนือ หมายถึงต้นไม้ในตระกูลต้นหลิว มีความเร็วลมกระโชกสูงถึง 155 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยังเมืองไถตง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวัน โดยทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งราวเที่ยงวันพุธที่ 13 สิงหาคมตามเวลาท้องถิ่น จากนั้นคาดว่า ไต้ฝุ่นจะพัดผ่านชายฝั่งตะวันตกของไต้หวันที่มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น และเคลื่อนตัวต่อไปยังมณฑลฝูเจี้ยน ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ สำนักงานฯ พยากรณ์ด้วยว่า อาจจะมีฝนตกหนักถึง 600 มิลลิเมตรตามพื้นที่เทือกเขาทางตอนใต้ของไต้หวันในช่วงหลายวันข้างหน้า หลังจากช่วง 1 สัปดาห์ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคมมีฝนตกหนักมากกว่าปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งปี คร่าชีวิตคน 5 คน และทำให้น้ำท่วมและดินถล่มทางตอนกลางและตอนใต้ของไต้หวัน เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติเพื่อการบรรเทาภัยพิบัติของไต้หวันแจ้งว่า ประชาชนเกือบ 700 คนในเทศมณฑลฮวาเหลียน ทางตะวันออกของไต้หวันจะได้รับการอพยพออกจากบ้านเรือน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะมีน้ำไหลทะลักลงจากคันกั้นน้ำที่ก่อตัวขึ้นตามธรรมชาติจากดินถล่มเพราะไต้ฝุ่นลูกก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ทางการยังเร่งอพยพผู้ที่บ้านเรือนเสียหายจากไต้ฝุ่นดานัส (Danas) ที่ขึ้นฝั่งตะวันตกของไต้หวันเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม และทำให้เกิดลมพัดแรงเป็นประวัติการณ์.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ไทเป 4 ส.ค. – ไต้หวันมีผู้เสียชีวิต 4 คน และต้องอพยพมากกว่า 5,900 คน ในพื้นที่ภาคใต้ที่มีฝนตกหนักตลอดสัปดาห์มากกว่าปริมาณน้ำฝนตลอดทั้งปี เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มเป็นวงกว้าง สำนักอุตุนิยมวิทยากลางของไต้หวันแจ้งวันนี้ว่า ช่วง 7 วันที่ผ่านมา หลายพื้นที่ทางตอนใต้ที่เป็นพื้นที่เทือกเขามีฝนตกหนัก วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 2.6 เมตร เทียบกับปริมาณฝนตกทั้งปีที่ 2.1 เมตร นอกจากผู้เสียชีวิตและผู้อพยพแล้ว ยังมีผู้สูญหาย 3 คน และได้รับบาดเจ็บ 77คน นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม เมื่อพายุดีเปรสชั่นและกระแสลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดแรง ทำให้เกิดฝนตกหนัก จนเกิดน้ำท่วมและดินถล่มในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคทำการเกษตรที่สำคัญของไต้หวัน ด้านนายกรัฐมนตรีจั๋ว หรงไท่ ของไต้หวัน ลงพื้นที่วันนี้ เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยในเมืองไถหนานที่ถูกไต้ฝุ่นดานัส (Danas) ขึ้นฝั่งเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม และถูกซ้ำเติมด้วยฝนตกหนักต่อเนื่อง เขาเปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมเสนองบประมาณพิเศษในสัปดาห์นี้เพื่อจัดสรรความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์.-814.-สำนักข่าวไทย