เกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพประชุมรักษาสันติภาพแบบออนไลน์

เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเกาหลีใต้กล่าววันนี้ว่า การประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นที่กรุงโซล นครหลวงของเกาหลีใต้ในสัปดาห์หน้า จะจัดแบบออนไลน์ เนื่องจากความกังวัลเรื่องเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์โอไมครอน

ดร.วิลาวรรณ ได้รับเลือกตั้งจาก UN เป็น กมธ.กฎหมายระหว่างประเทศ

ดร.วิลาวรรณ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ผู้สมัครสตรีคนแรกของไทย ได้รับเลือกตั้งจากสหประชาชาติ เป็นคณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศ

นักเคลื่อนไหวขอให้ยูเอ็นแทรกแซงในเมียนมา

กลุ่มปกป้องสิทธิพลเมืองมากกว่า 500 กลุ่ม เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเปิดการประชุมหารือเพื่อหาทางยุติปฎิบัติการทางทหาร

เมิร์คไฟเขียวแจกสูตรยา “โมลนูพิราเวียร์” ให้ประเทศยากจน

วอชิงตัน 29 ต.ค. – เมิร์ค แอนด์ โค บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ เผยเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า ได้ลงนามในข้อตกลงด้านสิทธิบัตรยากับองค์การจัดการสิทธิบัตรยา (MPP) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เพื่อเปิดทางให้บริษัทยาในประเทศรายได้ต่ำถึงปานกลาง 105 ประเทศเข้าถึงยาโมลนูพิราเวียร์ เมิร์คและองค์การจัดการสิทธิบัตรยาระบุในแถลงการณ์ร่วมว่า บริษัทยาในประเทศรายได้ต่ำถึงปานกลาง 105 ประเทศสามารถยื่นเรื่องขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีผลิตยาโมลนูพิราเวียร์โดยไม่เสียค่าสิทธิบัตรตราบเท่าที่องค์การอนามัยโลกยังคงจัดให้การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ อย่างไรก็ดี องค์การแพทย์ไร้พรมแดน หรือเอ็มเอสเอฟ ได้แสดงความผิดหวังเกี่ยวกับการให้สิทธิบัตรยาดังกล่าวอย่างจำกัดของเมิร์ค เนื่องจากไม่นับรวมประชากรอีกเกือบครึ่งหนึ่งของโลกและประเทศที่มีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูงที่มีกำลังการผลิตยาสูง เช่น บราซิลและจีน ขณะนี้ สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอ กำลังพิจารณาอนุมัติใช้ยาโมลนูพิราเวียร์เป็นกรณีฉุกเฉิน โดยที่ผลการทดลองทางคลินิกระบุว่า ยาดังกล่าวช่วยลดอัตราป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ร้อยละ 50 ในกลุ่มผู้ป่วยโควิดที่ได้รับยาตั้งแต่เนิ่น ๆ.-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นเตือนโลกร้อนขึ้น 2.7 องศาเซลเซียส

รายงานของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า ความมุ่งมั่นของประเทศต่าง ๆ ในขณะนี้เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทำให้โลกมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 2.7 องศาเซลเซียสในศตวรรษนี้ โดยที่รายงานดังกล่าวมีขึ้นก่อนเปิดฉากการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศของยูเอ็น (COP26) ในสัปดาห์หน้า

ยูเอ็นแต่งตั้งชาวสิงคโปร์เป็นทูตพิเศษเมียนมาคนใหม่

นิวยอร์ก 26 ต.ค. – นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ประกาศแต่งตั้งนางโนลีน เฮย์เซอร์ นักสังคมวิทยาชาวสิงคโปร์ เป็นทูตพิเศษว่าด้วยกิจการเมียนมาคนใหม่ของยูเอ็น นางเฮย์เซอร์ วัย 73 ปี ระบุในแถลงการณ์ที่ส่งให้สำนักข่าวซีเอ็นเอของสิงคโปร์ว่า เธอรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตพิเศษว่าด้วยกิจการเมียนมาของยูเอ็น และจะเข้ารับตำแหน่งดังกล่าวในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ เธอหวังว่าจะได้รับฟังความปรารถนาและมุมมองของทุกฝ่ายในการแก้ปัญหาทางการเมืองในเมียนมาโดยสันติเพื่ออนาคตที่ดีขึ้นของชาวเมียนมาทุกคน ทั้งนี้ นางเฮย์เซอร์จะเข้ารับตำแหน่งทูตพิเศษว่าด้วยกิจการเมียนมาต่อจากนางคริสติน ชราเนอร์ เบอร์กเนอร์ นักการทูตชาวสวิส วัย 58 ปี ที่ดำรงตำแหน่งนี้มาเป็นเวลา 3 ปีครึ่ง ก่อนหน้านี้ นางเฮย์เซอร์เคยดำรงตำแหน่งระดับสูงของยูเอ็นมาแล้วหลายตำแหน่ง เช่น เลขาธิการคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจและสังคมประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอสแคป ในปี 2550-2557 และที่ปรึกษาพิเศษประจำติมอร์-เลสเตในปี 2556-2558 นอกจากนี้ เธอยังเคยทำงานอย่างใกล้ชิดกับสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน และทางการเมียนมาในด้านการพัฒนาและการลดปัญหาความยากจน. -สำนักข่าวไทย

รบ. ทหารเมียนมาว่าตัวแทนยูเอ็นมีอคติและแทรกแซงภายใน

เนปิดอว์ 25 ต.ค. – รัฐบาลทหารเมียนมาระบุว่า รายงานเกี่ยวกับเมียนมาของสองตัวแทนจากสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ใช้แหล่งข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือที่ทำให้เกิดข้อกล่าวหาอย่างกว้างขวางและละเมิดอำนาจอธิปไตยของประเทศ กระทรวงต่างประเทศของรัฐบาลทหารเมียนมากล่าวโต้แย้งเมื่อวันอาทิตย์ว่า รายงานและข้อคิดเห็นล่าสุดเกี่ยวกับเมียนมาโดยนางคริสติน ชราเนอร์ เบอร์กเนอร์ ทูตพิเศษว่าด้วยกิจการเมียนมา และนายทอม แอนดรูวส์ ผู้รายงานพิเศษของยูเอ็น ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงและสะท้อนให้เห็นอคติของยูเอ็น เมียนมาไม่ยอมรับวัตถุประสงค์ของยูเอ็นในการกำหนดเป้าหมายต่อเมียนมา และใช้ประเด็นสิทธิมนุษยชนเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อแทรกแซงกิจการภายใน กระทรวงต่างประเทศเมียนมาระบุในแถลงการณ์ว่า นางชราเนอร์ เบอร์กเนอร์ รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ไม่น่าเชื่อถือ กล่าวหารัฐบาลทหารโดยไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน ลดทอนความรุนแรงที่เกิดจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเกินจริง และไม่กล่าวถึงสาเหตุของการยึดอำนาจการปกครองว่ามีที่มาจากการทุจริตการเลือกตั้ง ขณะที่คำปราศรัยของนายแอนดรูวส์เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่กล่าวหาว่ารัฐบาลทหารเมียนมาทรมาน กักขัง ลักพาตัว และขับไล่ประชาชนจำนวนมากออกจากพื้นที่นั้นเป็นการอ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ไม่ได้รับการยืนยันแน่ชัด ก่อนหน้านี้ นางชราเนอร์ เบอร์กเนอร์ ซึ่งลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวหลังทำงานมากว่า 3 ปี เผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กองทัพเมียนมาไม่ได้สนใจที่จะหาโอกาสใช้การประนีประนอมหรือการเจรจากับประชาคมระหว่างประเทศเพื่อให้เมียนมากลับไปสู่หนทางที่ถูกต้อง. -สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นเตือนชาวอัฟกันครึ่งหนึ่งเสี่ยงเผชิญวิกฤติด้านอาหาร

นิวยอร์ก 25 ต.ค.- โครงการอาหารโลกของสหประชาชาติหรือยูเอ็น เตือนว่า ช่วงฤดูหนาวปีนี้ชาวอัฟกันครึ่งหนึ่งเสี่ยงเผชิญวิกฤติด้านอาหาร หากไม่มีการเร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลือ โครงการอาหารโลกและองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติหรือเอฟเอโอ แถลงว่า ชาวอัฟกันครึ่งหนึ่งเสี่ยงเผชิญภาวะขาดแคลนอาหารในระยะ 3 คือ “ขั้นวิกฤติ” หรือ ระดับ 4 คือ “ขั้นฉุกเฉิน” ซึ่งต่ำกว่า “ขั้นอดอยาก” หนึ่งระดับ เจ้าหน้าที่หลายคนระบุว่า วิกฤตในอัฟกานิสถานใหญ่หลวงกว่าวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นในซีเรียหรือเยเมน นายเดวิด บีสลีย์ ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลกชี้ว่า อัฟกานิสถานกำลังเผชิญวิกฤตด้านมนุษยธรรมเลวร้ายที่สุดของโลก และความมั่นคงด้านอาหารได้พังทลายไปแล้ว ขณะนี้เป็นช่วงเวลาของการนับถอยหลังเข้าสู่หายนะ หากไม่ดำเนินการทันที จะเกิดภัยพิบัติเต็มรูปแบบในเร็ว ๆ นี้ จนถึงขณะนี้หน่วยงานยูเอ็นได้รับเงินสนับสนุนด้านมนุษยธรรมเพียง 1 ใน 3 ของที่ต้องการใช้ พร้อมกับย้ำว่า ประชาคมโลกจะต้องร่วมกันแก้ไขวิกฤตนี้ที่กำลังจะลุกลามจนเกินความควบคุม เอฟเอโอกำลังขอเงินทุนฉุกเฉิน 11.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 377 ล้านบาท) และเงินอีก 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,620 ล้านบาท) สำหรับฤดูเพาะปลูกจนถึงปีหน้า.-สำนักข่าวไทย

ย้ำความสำคัญสหประชาชาติ ไทยพร้อมร่วมมือทุกมิติ

นายกฯ ย้ำความสำคัญของสหประชาชาติ ไทยพร้อมให้ความร่วมมือในทุกมิติ เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะเยาวชนร่วมสนับสนุนภารกิจของสหประชาชาติ

เมียนมาจะไม่กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่

โฆษกองค์การสหประชาชาติกล่าววานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า จะไม่มีผู้แทนจากเมียนมา ขึ้นกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมประจำปีของสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาติในครั้งนี้ ขณะที่มีการกล่าวอ้างเป็นตัวแทนของเมียนมาประจำองค์การสหประชาชาติจากทั้งฝ่ายรัฐบาลที่โดนยึดอำนาจไปและกองทัพที่ก่อรัฐประหารในเมียนมา

สหประชาชาติเตือนจีน-สหรัฐเลี่ยงทำสงครามเย็นครั้งใหม่

เจนีวา 20 ก.ย.-เลขาธิการสหประชาชาติ เตือนเกี่ยวกับสงครามเย็นครั้งใหม่ที่อาจเกิดขึ้น และเรียกร้องให้จีนกับสหรัฐแก้ไขความสัมพันธ์ที่มีปัญหา ก่อนที่ปัญหาของทั้งสองประเทศมหาอำนาจจะขยายวงกว้างไปสู่พื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เผยกับสำนักข่าวเอพีในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนเปิดฉากการประชุมผู้นำโลกประจำปีของยูเอ็นในสัปดาห์นี้ท่ามกลางปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ความวิตกกังวลเรื่องสภาพอากาศ และข้อพิพาทที่เกิดขึ้นทั่วโลกว่า จีนกับสหรัฐควรร่วมมือกันในเรื่องสภาพอากาศและเจรจาเกี่ยวกับการค้าและเทคโนโลยี แม้จะเกิดปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน เศรษฐกิจ ความปลอดภัยของเครือข่ายออนไลน์ และอำนาจอธิปไตยในทะเลจีนใต้ นายกูเตอร์เรสได้ย้ำเตือนว่า กลยุทธ์ทางการเมืองและการทหารของจีนกับสหรัฐจะก่อให้เกิดอันตรายและทำให้โลกแตกแยก จึงต้องแก้ไขความสัมพันธ์ที่มีปัญหาของทั้งสองประเทศให้ได้โดยเร็ว นายกูเตอร์เรสยังระบุว่า ทุกฝ่ายต้องหลีกเลี่ยงการทำให้เกิดสงครามเย็นที่จะแตกต่างจากครั้งก่อนและอาจเป็นสงครามที่อันตรายและจัดการได้ยากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากสงครามเย็นระหว่างสหภาพโซเวียตกับสหรัฐมีกฎเกณฑ์ชัดเจนและทั้งสองฝ่ายต่างตระหนักถึงความเสี่ยงจากการทำลายล้างด้วยอาวุธนิวเคลียร์ แต่ในปัจจุบันสิ่งต่าง ๆ ล้วนแปรเปลี่ยนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังกล่าวว่า ข้อตกลงระหว่างสหรัฐกับอังกฤษในการมอบเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ให้ออสเตรเลียเพื่อให้ปฏิบัติการได้โดยไม่มีการตรวจพบในทวีปเอเชียเป็นเพียงชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของปริศนาซับซ้อนในความสัมพันธ์ที่มีปัญหาระหว่างจีนกับสหรัฐ เลขาธิการยูเอ็นยังกล่าวถึงสามประเด็นสำคัญที่บรรดาผู้นำโลกจะหารือร่วมกันในสัปดาห์นี้ว่า ประกอบด้วยปัญหาวิกฤตสภาพอากาศที่เลวร้าย การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงรุนแรง และอนาคตที่ไม่แน่นอนของอัฟกานิสถานภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ของกลุ่มตาลีบัน. -สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นจะจัดประชุมว่าด้วยความช่วยเหลืออัฟกานิสถาน

สหประชาชาติจะจัดการประชุมด้านความช่วยเหลือระหว่างประเทศที่กรุงนครเจนิวา ของสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 13 กันยายนนี้ เพื่อช่วยป้องกันสิ่งที่นายอันโตนิโอ กูเทอร์เรซ เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ เรียกว่าเป็น มหันตภัยทางด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่ มิให้เกิดขึ้นในอัฟกานิสถาน

1 9 10 11 12 13 39
...