
ชัวร์ก่อนแชร์: Moderna ยอมรับ DNA ตกค้างในวัคซีน ก่อมะเร็ง Turbo Cancer จริงหรือ?
Moderna กังวลถึงผลกระทบของการใช้วัคซีน DNA ไม่ใช่วัคซีน mRNA ไม่มีหลักฐานว่าดีเอ็นเอตกค้างจากชีววัตถุหรือวัคซีน mRNA เป็นอันตรายต่อร่างกาย
Moderna กังวลถึงผลกระทบของการใช้วัคซีน DNA ไม่ใช่วัคซีน mRNA ไม่มีหลักฐานว่าดีเอ็นเอตกค้างจากชีววัตถุหรือวัคซีน mRNA เป็นอันตรายต่อร่างกาย
หนูที่ตายจากมะเร็งได้รับวัคซีน Pfizer ปริมาณมากกว่ามนุษย์ 600 เท่า ไม่สามารถเทียบผลที่จะเกิดกับมนุษย์ได้ งานวิจัยมากมายไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างวัคซีนกับมะเร็ง หรือวัคซีนโควิด-19 กับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
เป็นการกล่าวอ้างโดยแพทย์ที่ถูกสอบสวนเรื่องจรรยาบรรณ และเป็นการกล่าวอ้างที่ไม่มีหลักฐานอ้างอิง
ตัวเลข 14,000% นำมาจากรายงานที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบว่าวัคซีนคือสาเหตุของโรคหรือไม่ FDA ไม่พบสัญญาณการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยมะเร็งจากวัคซีนโควิด-19
งานวิจัยพบว่า RNA ไม่ดัดแปลงยับยั้งมะเร็งในหนูทดลองดีกว่า RNA ดัดแปลง แต่ไม่ได้บอกว่า RNA ดัดแปลงกระตุ้นมะเร็ง เปรียบเทียบกับหนูที่ได้รับยาหลอก พบว่าการเติบโตของเซลล์มะเร็งไม่แตกต่างจากหนูที่ได้รับ RNA ดัดแปลง
เป็นการนำเสนอข้อมูลเท็จ จากการอ่านช่วงอายุผู้ป่วยมะเร็งเต้านมผิด
ผู้วิจัยไม่มีข้อมูลการฉีดวัคซีนของผู้เสียชีวิต จึงไม่สามารถระบุได้ว่าการตายจากมะเร็งที่เพิ่มขึ้นเป็นเพราะวัคซีนหรือไม่
เคมบริดจ์ 16 พ.ค. – แอสตราเซเนกาเผยวันนี้ว่า ผลการทดลองในระยะปลายพบว่าการให้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปชื่อ ซิปาวิบาร์ต (sipavibart) สามารถลดความเสี่ยงติดเชื้อโรคโควิด-19 ให้แก่ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายหลักของการทดลอง แอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นบริษัทยาและเทคโนโลยีชีวภาพของอังกฤษและสวีเดนแถลงว่า การให้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (Long-acting antibody (LAAB)) นี้สามารถลดความเสี่ยงมีอาการโควิดอย่างมีนัยสำคัญให้แก่ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยมะเร็งในระบบเลือด (มะเร็งเม็ดเลือดขาว, มะเร็งต่อมน้ำเหลือง, มะเร็งไขกระดูก) ผู้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ต้องฟอกไตทุกวัน ผู้ป่วยที่รับยากดภูมิคุ้มกัน แอสตราเซเนการะบุว่า ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีสัดส่วนถึง 1 ใน 4 ของผู้ป่วยโควิดที่ต้องได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาล, หอผู้ป่วยวิกฤติ และผู้ป่วยที่เสียชีวิต ทั้งที่รับการฉีดวัคซีนแล้วหลายเข็ม แอสตราเซเนกาซื้อภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปนี้จากบริษัทอาร์คิว ไบโอ (RQ Bio) ในอังกฤษเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 แอสตราเซเนกาแจ้งผลการทดลองดังกล่าว หลังจากเรียกคืนวัคซีนต้านโควิด เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน โดยให้เหตุผลว่า วัคซีนรุ่นล่าสุดมีปริมาณเกินความต้องการ บริษัทถูกตรวจสอบอย่างละเอียดในช่วงหลายเดือนมานี้เกี่ยวกับผลข้างเคียงหายากเรื่องผู้ฉีดวัคซีนเกิดภาวะลิ่มเลือดและเกล็ดเลือดต่ำ และกำลังถูกฟ้องร้องในกรุงลอนดอนจากผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 50 ราย.-814.-สำนักข่าวไทย
โตเกียว 11 พ.ค.- รัฐบาลญี่ปุ่นจะทำลายยาต้านโควิด-19 ชนิดรับประทานประมาณร้อยละ 77 ของที่ซื้อมาในช่วงที่โควิดระบาด เนื่องจากเป็นยาที่คงเหลือมาจนถึงปัจจุบันและหมดอายุแล้ว กระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการของญี่ปุ่นแจ้งว่า ซื้อยาเม็ดโซโควา (Xocova) ผลิตโดยบริษัทชิโอโนกิของญี่ปุ่น สำหรับผู้ป่วย 2 ล้านคน ยาแคปซูลลาเกวริโอ (Lagevrio) ผลิตโดยบริษัทเมอร์คของสหรัฐ สำหรับผู้ป่วย 1.6 ล้านคน และยาเม็ดแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) ผลิตโดยบริษัทไฟเซอร์ของสหรัฐ สำหรับผู้ป่วย 2 ล้านคน แต่ไม่ได้เปิดเผยมูลค่าของยาที่ซื้อมาทั้งหมด เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นคำนวณจากข้อมูลปริมาณการสั่งซื้อและแจกจ่ายยาของกระทรวงฯ ว่า รัฐบาลได้ซื้อยาต้านโควิดชนิดรับประทานสำหรับผู้ป่วย 5.6 ล้านคน แต่คงเหลือสำหรับผู้ป่วยมากถึง 4.3 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 77 ของที่ซื้อมา โดยมีโซโควาเหลือสำหรับผู้ป่วย 1.77 ล้านคน ลาเกวริโอเหลือสำหรับผู้ป่วย 780,000 คน และแพ็กซ์โลวิดเหลือสำหรับผู้ป่วย 1.75 ล้านคน ยาแต่ละขนานมีราคาต่อผู้ป่วย 1 คนที่ 52,000 เยน (ราว […]
09 พฤษภาคม 2567แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ก่อนหน้าที่ สตู ปีเตอร์ส นักจัดรายการผู้มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง จะโด่งดังกับสารคดีต่อต้านวัคซีนโควิด-19 ทั้ง Died Suddenly และ Final Days ช่วงกลางปี 2022 เขาได้นำเสนอสารคดีความยาว 45 นาทีเรื่อง Watch the Water เนื้อหาเป็นการสัมภาษณ์ ไบรอัน อาร์ดิส อดีตแพทย์ด้านการบำบัดโรคด้วยการจับกระดูกสันหลัง ผู้มีประวัติสร้างข่าวปลอมเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้ยาต้านไวรัส Remdesivir รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทฤษฎีที่ ไบรอัน อาร์ดิส ชักจูงให้ผู้ชมคล้อยตามใน Watch the Water คือการอ้างว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นผลจากแผนอันชั่วร้ายที่เรียกว่า Plandemic จากการร่วมมือระหว่างศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) และคริสตจักรโรมันคาทอลิก โดยอ้างว่าไวรัสโควิด-19 แท้จริงแล้วเกิดมาจากพิษของงู, ยาต้านไวรัส Remdesivir มีส่วนประกอบของพิษงู และมีแผนแพร่เชื้อโควิด-19 ผ่านทางแหล่งน้ำอีกด้วย […]
29 เมษายน 2567แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล ความโด่งดังของ Died Suddenly ส่งผลให้ สตู ปีเตอร์ส กลับมาผลิตสารคดีโจมตีวัคซีนโควิด-19 อีกครั้งในปี 2023 ในชื่อตอนว่า Final Days บุคคลที่ สตู ปีเตอร์ส เลือกมาโจมตีวัคซีนโควิด-19 ใน Final Days ได้แก่ คาเรน คิงสตัน อดีตพนักงานของบริษัท Pfizer ที่อ้างว่านำความลับเบื้องหลังการผลิตวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท Pfizer มาเปิดเผยต่อสังคม ข้อมูลเท็จที่ คาเรน คิงสตัน อ้างไว้ใน Final Days มีตั้งแต่การอ้างว่า การระบาดของโควิด-19 เป็นสิ่งที่เตรียมการไว้แล้ว สาเหตุการระบาดไม่ได้เกิดจากไวรัส แต่เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่เรียกว่า Lipid Nanoparticles ที่จงใจเผยแพร่ไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการระบาดและทำให้วัคซีนเป็นที่ต้องการไปทั่วโลก ส่วนวัคซีนก็ไม่ใช่ยาที่ผลิตเพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่เป็นอาวุธชีวภาพที่ใช้เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นมนุษย์ดัดแปลงหรือ Humanoid […]
27 เมษายน 2567แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล หนึ่งในสารคดีที่สร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนโควิด-19 มากที่สุด ได้แก่ Died Suddenly สารคดีความยาว 69 นาที ผลงานของ สตู ปีเตอร์ส พิธีกรชาวอเมริกันผู้สร้างชื่อจากการเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิด เนื้อหาใน Died Suddenly พยายามอ้างว่า หลังการรณรงค์วัคซีนโควิด-19 พบผู้เสียชีวิตอย่างเฉียบพลันมากขึ้น (Died Suddenly) จึงพยายามเชื่อมโยงว่า สาเหตุมาจากการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในร่างกายของผู้ฉีดวัคซีนโควิด-19 สตู ปีเตอร์ส เริ่มเข้าสู่วงการในฐานะนักร้องเพลงแร็ปและนักล่าเงินรางวัล ก่อนจะผันตัวมาจัดรายการพอดแคสต์ของตัวเองในชื่อ The Stew Peters Show เมื่อปี 2020 โดยเนื้อหาเน้นเผยแพร่แนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง ทั้งการเชิดชูคนผิวขาว เหยียดหยามผู้มีความหลากหลายทางเพศ เหยียดคนเชื้อชาติยิว ไม่ยอมรับการมีอยู่ของเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมถึงข่าวปลอมเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 จน Spotify and iHeartRadio เคยลบเนื้อหาบางตอนของ The Stew Peters […]