ญี่ปุ่นวางแผนฉีดวัคซีนโควิดครั้งใหญ่ก่อนโอลิมปิก

หนังสือพิมพ์โยมิอูริ ของญี่ปุ่น รายงานวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมีเป้าหมายจะเริ่มการฉีดงวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้ประชาชนทั่วไปครั้งใหญ่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป หรือ 2 เดือนก่อนการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพ

ข่าวดี! คนไทยได้รับวัคซีนครึ่งประเทศในปีนี้

ลัด สธ. แจงตั้งเป้าปี 64 จะได้วัคซีนมาฉีดให้คนไทยครึ่งประเทศ จากซิโนแวค เดือน ก.พ.-เม.ย. ต่อด้วยแอสตราเซเนกา 26 ล้านโดส ปลายเดือน พ.ค. และจะเจรจาขอซื้อเพิ่มให้ครบถ้วน 50% ในปี 64 ไม่ถือว่าล่าช้า

ศบค.ย้ำวัคซีนต้องปลอดภัยขณะที่ป่วยเพิ่ม 171 ราย

โฆษก ศบค. รับห่วง สมุทรสาคร – กทม. และชายแดนใต้ ขอความร่วมมือภาคเอกชนและภาคประชาชนร่วมดำเนินมาตรการป้องกันโควิด -19 เข้มข้น ย้ำวัคซีนต้องมีความปลอดภัย จึงจะฉีดให้ประชาชน ขณะที่ป่วยเพิ่ม 171 ราย

นพ.ประสิทธิ์ แจงการเลือกวัคซีนปลอดภัยมาก่อน

ศิริราช 19 ม.ค.-“นพ.ประสิทธิ์” แจงการเลือกวัคซีนโควิด-19 ไม่จำเป็นต้องเลือกวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ 100% แต่ต้องมีประสิทธิภาพไม่ต่ำ 50% ย้ำความปลอดภัยมาก่อน ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 หลังเริ่มมีการฉีดวัคซีนผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ว่าขณะนี้มีทั่วโลกอัตราการเพิ่มจำนวนของผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เห็นได้จากข้อมูลการที่หลายเดือนก่อนจะพบว่า โรคต้องใช้เวลาระบาดหลายสัปดาห์กว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มแตะหลักล้านคน แต่ขณะนี้ทุกๆ 3 วัน จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มแตะ 1 ล้านคน และ ยังพบว่ามีบางวันพบผู้ติดเชื้อถึง 1 ล้านคน ส่วนอัตราการเสียชีวิตพบเฉลี่ยวันละ 10,000 คน ทั้งนี้ ในหลายประเทศเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว ยังเร็วไปที่จะติดตามผลว่าวัคซีนได้ผลหรือไม่ ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของประเทศไทย ที่เห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่ม เพราะเป็นการตรวจเชิงรุก เช่น แรงงานข้ามชาติ ซึ่งถือว่า ยิ่งเยอะยิ่งดี แต่ที่ต้องเฝ่าระวังคือ อัตราการติดเชื้อในประเทศที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตรวจเชิงรุก แต่เป็นการติดแบบไม่รู้แหล่งที่มาของการระบาด คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ย้ำว่า การเลือกวัคซีนไม่จำเป็นต้องเลือก 100% แต่ต้องมีประสิทธิภาพไม่น้อย 50% โดยปัจจัยหลักที่ต้องคำนึงถึงคือความปลอดภัยของวัคซีน ต้องไม่เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนและอีกปัจจัยคือต้องมีวิธีบริหารจัดการวัคซีนอย่างมีคุณภาพ ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ […]

นายกฯ ยันรัฐคุมนำเข้าวัคซีนเพื่อความปลอดภัย

นายกฯ ชมผลงานวิจัยและนวัตกรรมป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ห่วงบุคลากรทางการแพทย์ทำงานด่านหน้า ยืนยันรัฐบาลควบคุมนำเข้าวัคซีนเพื่อความปลอดภัย ขออย่าสร้างขยะสังคม เพราะขยะพิษจากโควิด-19 เยอะแล้ว

ซัด “ธนาธร”มือไม่พายอย่าเอาอะไรมาราน้ำ

“อนุทิน” เดือด “ธนาธร” วิจารณ์ปมวัคซีนโยงบริษัท.สยามไบโอไซเอนซ์ ชี้มือไม่พาย ก็อย่าเอาอะไรมาราน้ำ เย้ย ถ้าอยากทำสิ่งที่ตัวเองต้องการก็ทำให้ตัวเองเข้ามาบริหารบ้านเมืองให้ได้ก่อน

อังกฤษคาดจะผ่อนคลายล็อกดาวน์ได้ในเดือนมี.ค.

ลอนดอน 17 ม.ค.- นายโดมินิก ร้าบ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษเผยว่า รัฐบาลหวังว่าจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ได้ตามเป้าหมาย และจะสามารถผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ได้ภายในเดือนมีนาคม นายร้าบให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์สกายนิวส์วันนี้ว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องการคือคลายมาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศให้ได้โดยเร็วที่สุดที่สามารถทำได้ หวังว่าภายในต้นฤดูใบไม้ผลิราวเดือนมีนาคม จะอยู่ในจุดที่ตัดสินใจเรื่องนี้ได้ โดยจะไม่ยกเลิกครั้งใหญ่ในคราวเดียว แต่จะเป็นการทยอยยกเลิกเป็นระยะ ๆ อังกฤษมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากที่สุดในยุโรปกว่า 88,000 คน และมีผู้ป่วยสะสมกว่า 3.35 ล้านคน ล็อกดาวน์ทั้งประเทศตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม ปิดโรงเรียนเกือบทั้งหมด ปิดธุรกิจที่ไม่จำเป็น และให้คนทำงานจากบ้านหากสามารถทำได้ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุ ผู้มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ และบุคลากรทางการแพทย์แนวหน้ารวมกว่า 13 ล้านคนภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์ เขาเผยในเวลานั้นว่า หากทุกอย่างดำเนินไปตามเป้าหมาย จะเริ่มพิจารณาเรื่องผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์.-สำนักข่าวไทย

อินเดียฉีดวัคซีนโควิดแล้วเกือบ 2 แสนคน

นิวเดลี 17 ม.ค.- กระทรวงสาธารณสุขอินเดียแจ้งว่า โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เริ่มต้นด้วยดี เพราะหลังจากฉีดเข็มแรกไปแล้วกว่า 190,000 คน ไม่มีใครมีอาการข้างเคียงถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล นายฮาร์ช วาร์ดัน รัฐมนตรีสาธารณสุขและสวัสดิการครอบครัวอินเดียแถลงวานนี้ว่า ได้รับผลตอบรับที่น่าพอใจในการฉีดวัคซีนวันแรก เจ้าหน้าที่กระทรวงแจ้งว่า ไม่มีรายงานผู้เข้าโรงพยาบาลหลังรับวัคซีนแม้แต่รายเดียว แต่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งของสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์อินเดีย ซึ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐชั้นนำในเขตเดลี เกิดอาการแพ้หลังรับวัคซีน อินเดียอนุมัติให้ใช้วัคซีนสองขนานเป็นการฉุกเฉินประกอบด้วย วัคซีนโควิชีลด์ของออกซ์ฟอร์ด/แอสตราเซนเนกาของอังกฤษ และวัคซีนโควาซินของภารตะไบโอเทค บริษัทอินเดีย ตั้งเป้าฉีดให้ได้ 300 ล้านคนจากประชากรทั้งประเทศ 1,300 ล้านคนภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงอย่างบุคลากรทางการแพทย์ ผู้มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และผู้มีโรคประจำตัว อย่างไรก็ดี ตัวแทนแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงนิวเดลีทำหนังสือถึงผู้บริหาร ขอให้ใช้แต่วัคซีนโควิชีลด์ เนื่องจากประชาชนไม่สบายใจที่จะรับวัคซีนโควาซินที่ยังอยู่ระหว่างการทดลองขั้นที่ 3 ซึ่งเป็นขั้นสุดท้าย อาจทำให้โครงการฉีดวัคซีนไม่ได้ผลตามเป้าประสงค์ ผลการสุ่มสำรวจคนในอินเดีย 18,000 คนเมื่อไม่นานมานี้พบว่า ร้อยละ 69 ยังไม่ต้องการรีบรับวัคซีน อินเดียมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมกว่า 10.5 ล้านคน มากเป็นอันดับสองของโลกรองจากสหรัฐ และมีผู้เสียชีวิตกว่า […]

แพทย์ มธ. ชี้ “ซิโนแวค” ป้องกันป่วยโควิดกลุ่มที่แสดงอาการได้มากถึง 78%

อาจารย์แพทย์ธรรมศาสตร์เปิดสถิติประสิทธิภาพการใช้วัคซีนซิโนแวคในบราซิล พบป้องกันการเกิดโรคในกลุ่มผู้ที่แสดงอาการได้มากถึง 78% ส่วนการป้องกันในกลุ่มผู้ที่แสดง-ไม่แสดงอาการอยู่ที่ 50% ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่

นายกฯ ลั่นไม่ยอมเป็นประเทศทดลอง

นายกฯ โพสต์เฟซบุ๊ก บอกสำหรับคนไทย ไม่ยอมให้รีบร้อนฉีดวัคซีนที่ยังทดสอบไม่ครบถ้วน และไม่ยอมเป็นประเทศทดลอง ต้องมั่นใจก่อนว่าปลอดภัย จึงจะนำมาใช้กับคนไทยได้ ชี้ความสำเร็จยับยั้งโรคที่ผ่านมา เกิดจากความร่วมมือกัน ขอให้เราทุกคนร่วมมือกันต่อไป

1 107 108 109 110 111 143
...