
ยูเอ็นวอนนานาชาติเพิ่มความช่วยเหลือเฮติ
เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องนานาชาติเพิ่มความช่วยเหลือเฮติ ทั้งด้านมนุษยธรรม และกองกำลังช่วยรักษาความมั่นคง หลังเฮติเผชิญวิกฤติร้ายแรงในภูมิภาคแคริบเบียน
เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องนานาชาติเพิ่มความช่วยเหลือเฮติ ทั้งด้านมนุษยธรรม และกองกำลังช่วยรักษาความมั่นคง หลังเฮติเผชิญวิกฤติร้ายแรงในภูมิภาคแคริบเบียน
นายกรัฐมนตรียินดีองค์การสหประชาชาติจัดอันดับความยั่งยืนไทยดีขึ้นและเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ตอกย้ำผลสัมฤทธิ์กำหนดเป็นเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาประเทศทุกระดับ
คาร์ทูม 9 มิ.ย.- รัฐบาลซูดานประกาศให้ทูตพิเศษของสหประชาชาติหรือยูเอ็น เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา กระทรวงต่างประเทศซูดานแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลซูดานได้แจ้งไปยังนายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นแล้วว่า ซูดานได้ประกาศให้นายโฟลเกอร์ แพร์ธีส ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการยูเอ็นเรื่องซูดาน เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนานับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การประกาศนี้มีขึ้นหลังจากนายพลอับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์มาน ผู้บัญชาการกองทัพซูดานส่งหนังสือถึงยูเอ็นเมื่อเดือนพฤษภาคม กล่าวโทษนายแพร์ธีสว่า ทำให้การสู้รบระหว่างกองทัพกับกองกำลังกึ่งทหารที่ดำเนินมาตั้งแต่กลางเดือนเมษายนทวีความรุนแรง และไม่เคารพอธิปไตยของซูดาน จึงขอให้ยูเอ็นปลดจากตำแหน่ง นายแพร์ธีส ชาวเยอรมัน วัย 65 ปี และคณะช่วยเหลือการเปลี่ยนถ่ายอย่างบูรณาการในซูดานของยูเอ็น (UNITAMS) ตกเป็นเป้าโจมตีของกองทัพและผู้ประท้วงในซูดานมาตั้งแต่ปลายปี 2565 ว่า เป็นต่างชาติแทรกแซงซูดาน ขณะนี้เขาปฏิบัติภารกิจอยู่ในกรุงแอดดิสอาบาบาของเอธิโอเปีย คณะช่วยเหลือฯ ตั้งขึ้นในปี 2563 เพื่อช่วยเหลือซูดานเปลี่ยนถ่ายการปกครอง หลังจากประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาชีร์ ที่ผูกขาดปกครองมาตั้งแต่ปี 2532 ถูกโค่นอำนาจในปี 2562 ที่ผ่านมาคณะช่วยเหลือฯ จะได้รับการต่ออายุเป็นรายปี แต่สัปดาห์ที่แล้วคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นได้ลงมติต่ออายุไปอีก 6 เดือนเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย
สหประชาชาติกล่าววันนี้ว่า เครือข่ายค้ายาเสพติดในเอเชียใช้เส้นทางในทะเลในการลักลอบขนส่งยาเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า ออกจากเมียนมาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนั้นยังเพิ่มกำลังการผลิตเคตามีน หรือ ยาเค เนื่องจากต้องการจะขยายธุรกิจผิดกฎหมายด้านนี้
นิวยอร์ก 27 พ.ค.- เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็นตกใจที่ผู้บัญชาการกองทัพซูดานขอให้ปลดทูตพิเศษด้านซูดาน โฆษกยูเอ็นแถลงเมื่อเย็นวันศุกร์ตามเวลานิวยอร์กของสหรัฐว่า นายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นมีความภูมิใจในผลงานของนายโฟลก์เกอร์ แพร์เธส ทูตพิเศษด้านซูดานของเลขาธิการยูเอ็น และมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในตัวเขา จึงรู้สึกตกใจที่ได้รับจดหมายจากนายพลอับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์มาน ผู้บัญชากองทัพซูดานที่ขอให้ปลดนายแพร์เธส นายแพร์เธสและคณะทูตพิเศษในซูดานถูกผู้สนับสนุนกองทัพและผู้เคร่งศาสนาอิสลามประท้วงอยู่หลายครั้ง โดยกล่าวหาว่าเป็นการแทรกแซงจากต่างชาติ นายพลบูร์มานกำลังทำสงครามกับนายพลโมฮัมเหม็ด ฮัมดาน ดาโกล ผู้บัญชาการกองหนุนเคลื่อนที่เร็วซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหาร ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหยุดยิงเป็นวันที่ 5 จากทั้งหมด 1 สัปดาห์ที่สหรัฐและซาอุดีอาระเบียเป็นคนกลางเจรจา และมักกล่าวหาว่าอีกฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิง สัปดาห์ที่แล้วนายพลบูร์มานได้สั่งปลดนายพลดาโกลออกจากตำแหน่งรองประธานสภาอธิปไตยเปลี่ยนผ่าน ซึ่งทำหน้าที่เหมือนรัฐบาลชั่วคราวของซูดาน และได้แต่งตั้งผู้สนับสนุนสายแข็งกร้าวให้ดำรงตำแหน่งใกล้ชิด ล่าสุดกระทรวงกลาโหมซูดานประกาศเมื่อวันศุกร์ให้ทหารเกษียณราชการและผู้ที่สามารถจับอาวุธได้ให้ไปรายงานตัวต่อหน่วยงานทหารที่ใกล้ที่สุดแล้วจับอาวุธเพื่อปกป้องตนเอง ครอบครัว และเพื่อนบ้าน แต่ได้แก้ไขประกาศในเวลาต่อมาว่า เรียกเฉพาะทหารกองเกินและทหารเกษียณราชการเท่านั้น สงครามในซูดานที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนทำให้มีคนล้มตายแล้วไม่ต่ำกว่า 18,000 คนตามข้อมูลของโครงการข้อมูลสถานที่และเหตุการณ์ความขัดแย้งทางอาวุธ (Armed Conflict Location and Event Data Project) ขณะที่ยูเอ็นประเมินว่า มีคนพลัดถิ่นในซูดานไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน และอพยพหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านราว 300,000 […]
ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น (UN) เผยว่า กองทัพเมียนมาได้นำเข้าอาวุธมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34,297 ล้านบาท) นับตั้งแต่รัฐประหารในปี 2564 และนำอาวุธเหล่านี้มาสร้างความโหดร้ายและใช้ละเมิดสิทธิมนุษยชน
นิวยอร์ก 13 พ.ค.- หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) กำลังเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นจากการที่ไซโคลนโมคา (Mocha) จะพัดถล่มบังกลาเทศและเมียนมาราวเที่ยงวันอาทิตย์นี้ องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานหรือไอโอเอ็ม (IOM) แจ้งว่า ไซโคลนโมคากำลังมุ่งหน้าตรงไปยังค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ เจ้าหน้าที่ไอโอเอ็มเผยจากเมืองค็อกบาซาร์ที่มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาเกือบล้านคนอาศัยตามค่ายต่าง ๆ เผยว่า บังกลาเทศมีแผนความเตรียมพร้อมขนานใหญ่ไว้แล้ว โดยมีไอโอเอ็มเข้าร่วมด้วย ค่ายผู้ลี้ภัยแต่ละค่ายจะมีอาสาสมัครที่ผ่านการฝึกอบรมแล้วคอยดูแล 100 คน และมีการใช้ระบบเตือนภัยด้วยธงในค่ายผู้ลี้ภัย 17 แห่งที่ไอโอเอ็มดูแลอยู่ อาสาสมัครทุกคนมีชุดอุปกรณ์ป้องกันตัวส่วนบุคคล และมีการจัดเตรียมชุดสุขอนามัยและอุปกรณ์ที่พักฉุกเฉินไว้พร้อม ด้านองค์การอนามัยโลกแจ้งว่า ได้เตรียมพร้อมรถฉุกเฉิน 40 คัน และทีมแพทย์เคลื่อนที่ 33 ทีมไว้ที่ค็อกซ์บาซาร์แล้ว เช่นเดียวกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งยูเอ็นหรือยูเอ็นเอชซีอาร์ (UNHCR) ที่ได้จัดเตรียมอาหารแห้ง 230 ตัน และบิสกิตเสริมสารอาหาร 24.5 ตัน รวมทั้งเตรียมพร้อมจัดส่งอาหารร้อนวันละ 50,000 ชุดในกรณีที่จำเป็น ด้านสำนักงานมนุษยธรรมยูเอ็นแจ้งว่า ชุมชนในเมียนมาได้รับแจ้งให้เตรียมตัวรับมือไซโคลนโมคา และมีการประกาศใช้แผนเตรียมพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉินด้านมนุษยธรรมทั่วทั้งเมียนมาแล้วตั้งแต่ต้นสัปดาห์ องค์กรมนุษยธรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐยะไข่ได้ตระเตรียมบุคลากรและสิ่งจำเป็นเท่าที่สามารถหาได้ ปัจจุบันมีคนในรัฐยะไข่และภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเมียนมาต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมากถึง 6 ล้านคน และมีคนพลัดถิ่นประมาณ 1 ล้าน […]
วอชิงตัน 1 พ.ค.- นายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติหรือยูเอ็นส่งผู้แทนไปยังซูดานที่กำลังเกิดสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะที่การสู้รบในซูดานล่วงเลยเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 แล้ว โฆษกของนายกูเตอร์เรสแถลงว่า เนื่องจากวิกฤตด้านมนุษยธรรมในซูดานกำลังเลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว นายมาร์ติน กริฟฟิธส์ ผู้ประสานการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินของยูเอ็นจะเร่งเดินทางไปยังซูดานโดยทันที โฆษกระบุด้วยว่า สถานการณ์ที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็วอยู่ในขณะนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในซูดาน ด้านนายกริฟฟิธส์แถลงว่า สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในซูดานใกล้ถึงจุดแตกหักแล้ว เขากำลังเดินทางไปซูดานเพื่อหาลู่ทางว่าจะสามารถบรรเทาทุกข์ให้แก่ชาวซูดานหลายล้านคนที่ต้องตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่มีความพลิกผันในชั่วข้ามคืนได้อย่างไร เนื่องจากสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่มีอยู่ตามสำนักงานและโกดังถูกปล้นชิงไปเกือบหมด จึงต้องหาทางนำสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปเพิ่มเติม และสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องยุติการสู้รบ นายกริฟฟิธส์ระบุด้วยว่า ครัวเรือนในซูดานกำลังขาดแคลนอาหาร น้ำ เชื้อเพลิง และสิ่งจำเป็นต่าง ๆ หลายครัวเรือนไม่สามารถอพยพออกจากพื้นที่ที่มีการสู้รบได้เนื่องจากต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก ขณะที่บริการด้านสาธารณสุขถูกจำกัดอย่างมาก ทำให้คนเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากสาเหตุที่สามารถป้องกันได้ การสู้บระหว่างกองทัพกับกองหนุนเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ (RSF) ที่เปิดฉากมาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน ทำให้มีคนล้มตายแล้วมากกว่า 500 คน และต้องกลายเป็นคนพลัดถิ่นอีกหลายหมื่นคน.-สำนักข่าวไทย
คาร์ทูม 30 เม.ย.- มีการสู้รบกันอย่างหนักหน่วงในกรุงคาร์ทูมของซูดานอีกครั้งในวันนี้ ทั้งที่ยังอยู่ในช่วงเวลาของการหยุดยิง ขณะที่อดีตนายกรัฐมนตรีซูดานเตือนว่าสถานการณ์อาจลุกลามจนกลายเป็นสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบ กองทัพบกและกองหนุนเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ (RSF) เปิดฉากปะทะกันมาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน และยังคงสู้รบกันอยู่แม้ว่าข้อตกลงหยุดยิงล่าสุดจะสิ้นสุดอย่างเป็นทางการหลังเที่ยงคืนนี้ ผู้ที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของกรุงคาร์ทูมเผยว่า มีการต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง ได้ยินเสียงปืนดังทุกนาทีมาตั้งแต่เช้า ขณะเดียวกันมีรายงานการปะทะรอบกองบัญชาการกองทัพบกใจกลางกรุงคาร์ทูม นอกจากนี้กองทัพยังใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเมืองออมดูร์มานที่เป็นเมืองคู่แฝดของกรุงคาร์ทูมด้วย นายอับดัลลา ฮัมด็อค อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวในที่กรุงไนโรบีของเคนยาว่า สถานการณ์ในซูดานอาจกลายเป็นสงครามกลางเมืองเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของโลก หากไม่สามารถหยุดยั้งได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และจะกลายเป็นฝันร้ายของโลก นายฮัมด็อคลาออกเมื่อเดือนมกราคม 2565 หลังจากถูกประชาชนประท้วงเพราะไม่พอใจที่เขาทำข้อตกลงแบ่งปันอำนาจกับกองทัพที่รัฐประหารเมื่อเดือนตุลาคม 2564 กระทรวงสาธารณสุขซูดานแจ้งเมื่อวันเสาร์ว่า มีคนล้มตายแล้ว 528 คน บาดเจ็บราว 4,600 คน มีการสู้รบใน 12 รัฐจากทั้งหมด 18 รัฐ รวมถึงภูมิภาคดาร์ฟูร์ สหประชาชาติหรือยูเอ็นเตือนว่า การสู้รบอาจทำให้คนในซูดานอดอยากอีกหลายล้านคน จากปัจจุบันที่อดอยากอยู่แล้ว 15 ล้านคน และมีคนพลัดถิ่นแล้ว 75,000 คน โดยอพยพไปชาด 20,000 คน เซาท์ซูดาน 4,000 คน […]
เลขาธิการสหประชาชาติ หนุนแอฟริกาเป็นคนกลางผลักดันการเจรจาแก้วิกฤติและสร้างสันติภาพ ในซูดาน ขณะที่การสู้รบในซูดานเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 500 ราย
ปักกิ่ง 28 เม.ย.- จีนกล่าวหาคณะผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ว่า กล่าวอ้างโดยไม่มีมูลความจริงจากการกล่าวหารัฐบาลจีนว่าบังคับชาวทิเบตจำนวนมากไปเข้าโครงการที่คุกคามอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาวทิเบต และอาจนำมาซึ่งการบังคับใช้แรงงาน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงในวันนี้ว่า ทิเบตมีเสถียรภาพทางสังคม มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจ มีเอกภาพทางชาติพันธุ์ มีความกลมกลืนทางศาสนา ประชาชนใช้ชีวิตอย่างสันติ ความกังวลของคณะผู้เชี่ยวชาญยูเอ็นจึงไร้มูลอย่างสิ้นเชิง ขอให้คณะผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้เคารพข้อเท็จจริงพื้นฐาน และอย่าตกเป็นเครื่องมือหรือผู้สมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มต่อต้านจีน คณะผู้รายงานพิเศษของยูเอ็น 6 คนออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีแสดงความกังวลต่อโครงการฝึกอาชีพและเคลื่อนย้ายแรงงานในจีนว่า กำลังถูกใช้เป็นเครื่องบังหน้าเพื่อบ่อนทำลายอัตลักษณ์ทางศาสนา ภาษา และวัฒนธรรมของชาวทิเบต และเพื่อเฝ้าจับตาและล้างสมองชาวทิเบต แถลงการณ์ระบุว่า มีรายงานว่าชาวทิเบตหลายแสนคนถูกทำให้เปลี่ยนจากการมีชีวิตชนบทแบบดั้งเดิม ไปเป็นแรงงานไร้ทักษะค่าจ้างต่ำตั้งแต่ปี 2558 ผ่านโครงการที่ระบุว่าเป็นความสมัครใจ แต่แท้จริงแล้วเป็นการบังคับให้ทำงาน.-สำนักข่าวไทย
โตเกียว 28 เม.ย.- ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ชี้ว่า ญี่ปุ่นควรคว่ำบาตรเมียนมาเช่นเดียวกับที่คว่ำบาตรรัสเซียเรื่องรุกรานยูเครน และได้ประณามเมียนมาว่าป่าเถื่อนและกดขี่ประชาชน นายโทมัส แอนดรูว์ส ผู้รายงานพิเศษยูเอ็นเรื่องสิทธิมนุษยชนในเมียนมากล่าวกับผู้สื่อข่าว หลังจากเสร็จสิ้นการตระเวนพบกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐและเอกชนของญี่ปุ่นว่า สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมาน่ากลัวและเลวร้ายลง ขอเรียกร้องให้ญี่ปุ่นพิจารณาเรื่องร่วมกับประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) ใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างเจาะจงกับกองทัพเมียนมาและแหล่งรายได้หลักของเมียนมา ดังที่ญี่ปุ่นกำลังใช้กับรัสเซียในวิกฤตยูเครน เพราะการคว่ำบาตรจะทำให้รัฐบาลทหารเมียนมาถูกลดทอดศักยภาพในการทำร้ายประชาชน ญี่ปุ่นได้ระงับโครงการความช่วยเหลือโครงการใหม่ ๆ หลังจากกองทัพเมียนมารัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลนางออง ซาน ซู จี ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 แต่ไม่มีผลต่อโครงการที่ยังดำเนินอยู่ กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นแถลงเมื่อเดือนกันยายน 2565 ว่า ได้ยุติการรับสมัครคนเข้าโครงการฝึกฝนทหารเมียนมาแล้ว แต่นายแอนดรูว์สได้ขอให้ญี่ปุ่นยุติโครงการโดยทันที ไม่เช่นนั้นกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นจะถูกโยงกับระบอบทหารที่โหดร้าย เพราะทหารเมียนมาที่รับการฝึกสู้รบและเรียนรู้การเป็นทหารและผู้บังคับบัญชาที่มีประสิทธิภาพจะกลับไปรับใช้กองทัพที่ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติและอาชญากรรมสงคราม ผู้รายงานพิเศษยูเอ็นฯ ขอให้ญี่ปุ่นนำงบประมาณสำหรับโครงการช่วยเหลือโครงการใหม่ ๆ ที่ถูกระงับไปแล้ว ไปใช้สนับสนุนโครงการปันส่วนอาหารให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาที่อาศัยอยู่ในบังกลาเทศราว 1 ล้านคน ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ส่วนใหญ่อพยพมาหลังจากกองทัพเมียนมายกกำลังไปปราบปรามในปี 2560 โครงการปันส่วนอาหารถูกตัดลดงบประมาณไปแล้วร้อยละ 17 ในเดือนมีนาคม และกำลังจะถูกลดลงอีกร้อยละ 20 ซึ่งจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเด็ก ๆ […]