Colombia President speaks in front of UN headquarters in New York

สหรัฐจะเพิกถอนวีซ่า ปธน.โคลอมเบีย

วอชิงตัน 27 ก.ย.- สหรัฐจะเพิกถอนวีซ่าเข้าประเทศของประธานาธิบดีกุสตาโบ เปโตรของโคลอมเบีย โดยระบุว่า ผู้นำโคลอมเบียเรียกร้องให้ทหารอเมริกันขัดขืนไม่ฟังคำสั่งและยุยงให้เกิดความรุนแรงขณะอยู่ในสหรัฐ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐโพสต์ผ่านเอ็กซ์ (X) เมื่อวันศุกร์ว่า กระทรวงจะเพิกถอนวีซ่าของนายเปโตร เพราะการกระทำที่ไร้ความยั้งคิดและก่อความไม่สงบของเขา สหรัฐประกาศเรื่องนี้หลังจากผู้นำโคลอมเบีย  ซึ่งไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 หรือยูเอ็นจีเอ 80 (UNGA80) ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐ กล่าวกับฝูงชนหน้าสำนักงานใหญ่ยูเอ็นว่า ขอให้ทหารทุกนายในกองทัพสหรัฐไม่เล็งปืนไปที่ประชาชน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ปฏิบัติตามคำสั่งด้านมนุษยธรรม ประธานาธิบดีเปโตร วัย 65 ปี ใช้การกล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้นำโลกเมื่อวันที่ 23 กันยายนตามเวลาท้องถิ่น กล่าวโจมตีนายทรัมป์ว่า สมรู้ร่วมคิดในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา พร้อมกับเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีอาญากับสหรัฐ กรณีที่ใช้ขีปนาวุธยิงทำลายเรือต้องสงสัยค้ายาเสพติดที่กำลังแล่นในทะเลแคริบเบียน ผู้นำโคลอมเบียได้นำคลิปที่เขาไปกล่าวกับกลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ที่ชุมนุมประท้วงในนครนิวยอร์กมาโพสต์ซ้ำในสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเมื่อวันศุกร์ เขาเป็นหนึ่งในผู้แสดงตัวคัดค้านอย่างเปิดเผยต่อการที่อิสราเอลทำสงครามในกาซา และได้สั่งระงับการส่งออกถ่านหินไปให้อิสราเอล นายเปโตรเป็นอดีตสมาชิกกลุ่มกองโจรเอ็ม-19 (M-19) ที่เคลื่อนไหวในโคลอมเบียช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1970 และคริสต์ทศวรรษ 1980 เคยถูกกองทัพจับกุมในปี 2528 ข้อหาครอบครองอาวุธและถูกจองจำนาน 18 เดือน ต่อมาในปี 2533 เขาและพรรคพวกยอมวางอาวุธ หลังจากเจรจากับรัฐบาลเรื่องการนิรโทษกรรมและผันตัวเป็นพรรคการเมือง […]

‘ทรัมป์’ ให้หน่วยอารักขาสอบเหตุบันไดเลื่อนขัดข้องที่ยูเอ็น

วอชิงตัน 24 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววันพุธว่า หน่วยหน่วยอารักขาประธานาธิบดี หรือ ซีเครตเซอร์วิส (Secret Service) กำลังสอบสวนสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็น “การก่อวินาศกรรม” ที่องค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น (UN) โดยอ้างว่าเหตุบันไดเลื่อนขัดข้อง ความผิดพลาดของเครื่องเทเลพรอมเตอร์ และปัญหาด้านระบบเสียง ได้ขัดขวางภารกิจของเขาในการปรากฏตัวที่ยูเอ็นเมื่อวันอังคาร นายทรัมป์ระบุในข้อความที่เขาโพสต์บนแพลตฟอร์ม “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) ว่า บันไดเลื่อนที่เขากำลังใช้งานพร้อมกับนางเมลาเนีย ผู้เป็นภรรยา ได้หยุดกระทันหัน ขณะกำลังขึ้นไปยังชั้นหลักของอาคารสหประชาชาติ จนเกือบทำให้ทั้งคู่ล้มลง และเขาเรียกร้องให้มีการจับกุมผู้ที่รับผิดชอบ นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า เทเลพรอมเตอร์ หรือ เครื่องฉายบท ของเขาดับลงตั้งแต่เริ่มกล่าวสุนทรพจน์ และผู้นำโลกรวมถึงผู้เข้าร่วมประชุมในห้องโถงไม่สามารถได้ยินสิ่งที่เขาพูด เนื่องจากระบบเสียงมีปัญหา นายทรัมป์ระบุว่า ไม่ใช่แค่หนึ่ง ไม่ใช่แค่สอง แต่เป็นเหตุการณ์เลวร้ายถึงสามครั้ง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของยูเอ็นชี้แจงว่า กลไลรักษาความปลอดภัยภายในตัวบันไดเลื่อนเปิดเดินระบบทำงานโดยอัตโนมัติ และเครื่องเทเลพรอมเตอร์นั้นถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ไม่ใช่องค์การสหประชาชาติ นายทรัมป์เรียกเหตุการณ์เหล่านี้ว่าเป็น “การก่อวินาศกรรมสามครั้งซ้อน” พร้อมระบุว่าเขาได้ขอให้ยูเอ็นเก็บรักษาภาพจากกล้องวงจรปิดไว้ และเรียกร้องให้มีการสอบสวน […]

9 ทันโลก : “โดนัลด์ ทรัมป์” ขวางโลกในสหประชาชาติ

24 ก.ย.- เมื่อวานนี้การแสดงสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติครั้งที่ 80 ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยไฮไลท์ในวันแรกหนีไม่พ้น นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งตอกย้ำสิ่งที่หลายคนเรียกว่า แนวทางขวางโลกของเขา ติดตามในรายงาน 9 ทันโลก .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ไม่ไปยูเอ็นแล้ว กลัวกลับมาไม่ทันแถลงนโยบาย

ภูมิใจไทย 23 ก.ย. – นายกฯ ไม่ไปยูเอ็นแล้ว เหตุเงื่อนเวลาไม่เอื้อ หวั่นกลับมาไม่ทันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ไม่เสียโอกาสแจงเรื่องอธิปไตย เชื่อชาวโลกรู้ไทยมีนโยบายชัดเจน ยันร่างนโยบายปกน้ำเงินเสร็จแล้ว นำเข้า ครม.นัดพิเศษ พรุ่งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำโลก UNGA ครั้งที่ 78 ว่า ได้มีการหารือกับฝ่ายคนใหม่แล้ว ซึ่งจากการดูเวลา กลัวจะไม่ทันการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่ทั้งนี้ก็จะมีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่สำคัญมีเรื่องของอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ด้วย ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้ดี มีความคิดเห็นหลากหลาย ทั้งไปได้และไปไม่ได้ แต่ทั้งนี้มีแนวทางที่ชัดเจน ไม่ได้มีการลงนามในข้อตกลง แต่แนวทางของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลนี้เข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นที่เรียบร้อย ก็มีความชัดเจนที่จะบริหารสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างไร ส่วนจะเป็นการเสียโอกาสในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าความเชื่อมั่นอยู่ที่การจัดการและการได้รับการสนับสนุนจากประชาชนที่มีต่อรัฐบาลและกองทัพ ซึ่งความเชื่อมั่นอยู่ตรงจุดนี้ ไม่ใช่อยู่ที่เวทีไหน เพราะเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ขณะที่ทุกฝ่ายในบ้านเรามีความพร้อม ประชาชนให้การสนับสนุนนโยบายต่างๆ นโยบายของกองทัพและรัฐบาล นี่ต่างหากคือความเชื่อมั่น ส่วนกรณีที่กฤษฎีกาชี้ว่า หากมีเหตุที่จำเป็น ก็ถือว่าดำเนินการได้ นายอนุทิน กล่าวว่า คำว่าจำเป็นคืออะไร อย่างสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ไม่จำเป็นจะต้องชี้แจงกับใคร เพราะประชาคมโลกก็รับทราบสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว […]

ประเทศที่ยอมรับรัฐปาเลสไตน์เพิ่มขึ้นก่อนการประชุมยูเอ็น

วอชิงตัน 23 ก.ย. – จำนวนประเทศที่ให้การยอมรับสถานะรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความพยายามทางการทูตที่กำลังได้รับแรงหนุนในช่วงเวลาที่ผู้นำทั่วโลกมารวมตัวกันที่นครนิวยอร์กเพื่อร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในสัปดาห์นี้ สหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลีย เป็นกลุ่มประเทศล่าสุดที่ให้การยอมรับรัฐปาเลสไตน์ ทำให้มีประเทศที่ยอมรับแล้วมากกว่า 145 ประเทศ ในระหว่างการประชุมที่องค์การสหประชาติ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ได้ประกาศว่าฝรั่งเศสจะเข้าร่วมในการยอมรับรัฐปาเลสไตน์ด้วย ซึ่งการประกาศของเขาได้รับเสียงปรบมือชื่นชมในที่ประชุม นายมาครงกล่าวว่า ด้วยความมุ่งมั่นอันยาวนานของประเทศฝรั่งเศสที่มีต่อตะวันออกกลาง เพื่อสันติภาพระหว่างชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ นี่คือเหตุผลที่เขาขอประกาศว่าในวันนี้ว่า ฝรั่งเศสให้การยอมรับสถานะรัฐปาเลสไตน์ นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ มองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นก้าวหนึ่งสู่การยุติสงครามในฉนวนกาซา เขากล่าวว่า อังกฤษกำลังดำเนินการเพื่อรักษาความเป็นไปได้ของสันติภาพ เขาระบุด้วยว่า สันติภาพต้องมีอิสราเอลที่ปลอดภัยและมั่นคง ควบคู่ไปกับรัฐปาเลสไตน์ที่มีศักยภาพ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีทั้งสองอย่าง กระแสหนุนการยอมรับรัฐปาเลสไตน์ยังคงดำเนินต่อเนื่องในวันจันทร์ เมื่อฝรั่งเศสและซาอุดีอาระเบียเป็นเจ้าภาพร่วมจัดการประชุมสันติภาพนานาชาติในนิวยอร์ก ซึ่งมีอีก 10 ประเทศ ได้แก่ เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก โปรตุเกส และมอลตา ให้การยอมรับปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการในการประชุมครั้งนี้ สหรัฐอและอิสราเอลยังคงคัดค้านเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ตำหนิการยอมรับดังกล่าว โดยเตือนว่าจะเป็นการส่งเสริมให้กลุ่มฮามาสมีกำลังใจมากขึ้น แทนที่จะส่งเสริมสันติภาพ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนับสนุนการยอมรับกลับโต้แย้งในทางตรงกันข้าม โดยระบุว่าเป็นการวางรากฐานสำหรับการเจรจาหาข้อยุติ […]

ยูเอ็นโหวตหนุนหยุดยิงถาวรในกาซ่าแต่สหรัฐคัดค้าน

นิวยอร์ก 19 ก.ย. – คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติเสียงส่วนใหญ่เห็นชอบร่างมติเรียกร้องให้หยุดยิงถาวรในฉนวนกาซ่า ขณะที่สหรัฐเป็นประเทศเดียวที่ออกเสียงคัดค้าน สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ 14 ประเทศมีมติเห็นชอบร่างมติเรียกร้องให้หยุดยิงถาวรในฉนวนกาซ่าโดยไม่มีเงื่อนไข และให้อิสราเอลยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมดในการส่งมอบความช่วยเหลือเข้าไปในฉนวนกาซ่า ร่างมติดังกล่าวจัดทำขึ้นโดยสมาชิกคณะมนตรีฯ 10 ประเทศที่ได้รับเลือกจากสมาชิกทั้งหมด 15 ประเทศ ซึ่งในร่างญัตตินี้ยังเรียกร้องให้ปล่อยตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสและกลุ่มอื่นๆ จับตัวเอาไว้โดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกด้วย ทูตเดนมาร์กประจำสหประชาชาติกล่าวว่าฉนวนกาซ่ากำลังเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายด้านมนุษยธรรมและกำลังจะทวีความรุนแรงขึ้นจากการที่อิสราเอลเดินหน้ารุกคืบโจมตีกาซ่าซิตี้ ขณะที่สหรัฐเป็นเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่คัดค้านร่างมตินี้ นับเป็นครั้งที่ 6 แล้วที่สหรัฐใช้อำนาจออกเสียงยับยั้งหรือวีโต้ร่างมติของคณะมนตรีฯ ที่เกี่ยวข้องกับสงครามในฉนวนกาซ่าระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสซึ่งยืดเยื้อมานานเกือบ 2 ปีแล้ว นักการทูตสหรัฐกล่าวก่อนการลงมติว่ากลุ่มฮามาสจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเพราะเป็นฝ่ายเริ่มและยังไม่ยอมยุติสงคราม ซึ่งสงครามอาจจะยุติลงในวันนี้หากฮามาสยอมปล่อยตัวประกันและยอมวางอาวุธ.-816.-สำนักข่าวไทย

Myanmar security forces

ยูเอ็นเปิดรายงานเมียนมาทรมานอย่างเป็นระบบ

เจนีวา 12 ส.ค.- คณะสอบสวนของสหประชาชาติหรือยูเอ็นเปิดเผยรายงานที่ระบุว่า พบหลักฐานว่ากองกำลังรักษาความมั่นคงเมียนมามีการทรมานคนอย่างเป็นระบบ และมีรายชื่อผู้กระทำผิดระดับสูงบางคนรวมอยู่ด้วย นายนิโคลัส คูมเจียน หัวหน้ากลไกสืบสวนอิสระเพื่อเมียนมาของยูเอ็นหรือไอไอเอ็มเอ็ม (IIMM) ที่ตั้งขึ้นในปี 2561 เพื่อวิเคราะห์การละเมิดกฎหมายสากลอย่างร้ายแรงในเมียนมาแถลงวันนี้พร้อมกับรายงานหนา 16 หน้าว่า พบหลักฐานสำคัญ รวมถึงคำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์ ที่แสดงให้เห็นถึงการทรมานอย่างเป็นระบบตามสถานกักขังของเมียนมา มีทั้งการทุบตี การใช้กระแสไฟฟ้าช็อต การรัดคอให้หายใจไม่ออก และการทรมานในรูปแบบอื่น เช่น ถอดเล็บ การทรมานบางครั้งทำให้เหยื่อเสียชีวิต โดยมีเด็กที่ถูกกักขังอย่างผิดกฎหมายแทนพ่อแม่ที่หายตัวไปตกเป็นเหยื่อการทรมานด้วย รายงานระบุว่า ทีมสืบสวนได้ติดต่อขอข้อมูลเรื่องอาชญากรรมเหล่านี้จากรัฐบาลเมียนมามากกว่ายี่สิบครั้งและขอเข้าไปในเมียนมา แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง หลักฐานในรายงานฉบับนี้อ้างอิงจากข้อมูลมากกว่า 1,300 แหล่ง ครอบคลุมถึงคำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์หลายร้อยคน หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เอกสาร และภาพถ่าย ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2567 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายนปีนี้ รายงานได้ระบุรายชื่อผู้กระทำผิดที่มีผู้บังคับการระดับสูงรวมอยู่ด้วย แต่โฆษกไอไอเอ็มเอ็มไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากการสืบสวนยังไม่แล้วเสร็จ จึงไม่ต้องการให้ผู้กระทำผิดไหวตัวทัน นอกจากนี้รายงานระบุด้วยว่า ทั้งกองกำลังรักษาความมั่นคงของเมียนมาและกลุ่มติดอาวุธฝ่ายต่อต้านล้วนใช้การประหารชีวิตแบบรวบรัด (summary execution) และได้ระบุตัวผู้กระทำผิดเหล่านี้ด้วย ไอไอเอ็มเอ็มเปิดเผยว่า กำลังสืบสวนการก่ออาชญากรรมในเมียนมาย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2554 […]

Australia to recognise Palestinian state in September

ออสเตรเลียเตรียมรับรองรัฐปาเลสไตน์

แคนเบอร์รา 11 ส.ค.- นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซีของออสเตรเลียเปิดเผยว่า ออสเตรเลียจะรับรองรัฐปาเลสไตน์ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติหรือยูเอ็นจีเอ (UNGA) หลังจากฝรั่งเศส อังกฤษ และแคนาดาประกาศจะดำเนินการดังกล่าว ขณะที่นิวซีแลนด์กำลังพิจารณาอยู่ นายอัลบาเนซีแถลงต่อสื่อมวลชนที่กรุงแคนเบอร์ราในวันนี้ว่า ออสเตรเลียจะให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ในการประชุมยูเอ็นจีเอครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐในเดือนกันยายน เพื่อร่วมสนับสนุนกระแสการผลักดันสากลเรื่องทางออก 2 รัฐ การหยุดยิงในกาซา และการปล่อยตัวประกัน การรับรองดังกล่าวจะเป็นไปตามที่คำมั่นออสเตรเลียได้รับจากองค์การบริหารปาเลสไตน์ว่า จะปฏิรูปการปกครอง จะทำให้ปาเลสไตน์เป็นเขตปลอดทหารและจัดการเลือกตั้งทั่วไป และจะไม่ให้กลุ่มฮามาสมีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับรัฐปาเลสไตน์ที่จะตั้งขึ้นในอนาคต ผู้นำออสเตรเลียกล่าวด้วยว่า ทางออก 2 รัฐเรื่องการมีรัฐปาเลสไตน์และรัฐอิสราเอลตั้งอยู่คู่กันเป็นความหวังที่ดีที่สุดของมนุษยชาติที่จะยุติวงจรความรุนแรงในตะวันออกกลาง และนำมาซึ่งการยุติความขัดแย้ง ความทุกข์ยาก และความอดอยากในกาซา เขาได้แจ้งระหว่างสนทนากับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วว่า จำเป็นต้องใช้ทางออกทางการเมือง ไม่ใช่ทางการทหาร ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนายอัลบาเนซีได้ระบุในแถลงการณ์ร่วมกับนางเพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย วิจารณ์แผนการของอิสราเอลจะที่ใช้กำลังทหารยึดครองกาซา และชี้ว่าการที่ผู้นำอิสราเอลเพิกเฉยต่อเสียงเรียกร้องของประชาคมโลกและไม่ปฏิบัติตามพันธกิจทางกฎหมายและจริยธรรมในกาซา ยิ่งทำให้ออสเตรเลียต้องตัดสินใจให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ ขณะที่นางหว่องเปิดเผยว่า ได้แจ้งเรื่องนี้ต่อนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐแล้ว ทั้งนี้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้วิจารณ์แคนาดาที่ตัดสินใจจะให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ ส่วนนายรูบิโอวิจารณ์การตัดสินใจของฝรั่งเศสว่า ไร้ความยั้งคิด ขณะที่นายวินสตัน ปีเตอร์ส รัฐมนตรีต่างประเทศนิวซีแลนด์กล่าววันนี้ว่า […]

“มาริษ” ย้ำจุดยืนแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ด้วยสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 24 ก.ค. – “มาริษ” ย้ำจุดยืนแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ด้วยสันติวิธี ยื่นประท้วงยูเอ็นและภาคีอนุสัญญาออตตาวา หลังพบการละเมิดบูรณภาพดินแดน ชี้เขมรบิดเบือนกับประเทศที่สาม อ้างไทยไม่ยอมเจรจา ขณะที่ “กต.-คมนาคม-เอกชน” พร้อมอพยพคนไทยกลับ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงระหว่างการปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ผ่าน VDO Conference เพื่อเป็นประธานเปิดการประชุมเกี่ยวกับแผนการช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชา โดยระบุว่า ตนเองได้ใช้โอกาสในการประชุมหารือและชี้แจงกับผู้นำระดับสูงหลายประเทศ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งขณะนี้มีความตึงเครียดจากกรณีการโจมตีอย่างต่อเนื่องของกองทัพกัมพูชาในเขตฝั่งไทย และการใช้กับระเบิดละเมิดอำนาจอธิปไตยของไทย พร้อมเปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ซึ่งมีปากีสถานเป็นประธานหมุนเวียนในครั้งนี้ โดยได้กล่าวถ้อยแถลงในนามรัฐบาลไทย ย้ำจุดยืนสนับสนุนการแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างประเทศผ่านการเจรจาทวิภาคีอย่างสันติและด้วยความจริงใจ (in good faith) พร้อมยืนยันว่าไทยยังคงยึดมั่นในหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติอย่างเคร่งครัดในการป้องกันตนเองจากการรุกราน นายมาริษ กล่าวว่า ในการหารือทวิภาคีกับผู้แทนระดับสูงจากหลายประเทศ ได้พบกับ รมว.กต.ปากีสถาน เลขาธิการสหประชาชาติ และรัฐมนตรีจากประเทศสมาชิกอื่นๆ รวมถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประธานภาคีอนุสัญญาออตตาวาในปีนี้ โดยฝ่ายไทยได้ยื่นหนังสือประท้วงและชี้แจงเหตุการณ์ละเมิดจากกัมพูชาอย่างเป็นทางการ พร้อมระบุว่าการที่กัมพูชาใช้กับระเบิดในพื้นที่เขตแดนไทย ซึ่งส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา […]

“มาริษ” แจง UN ไทยถูกกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน

ทำเนียบฯ 24 ก.ค. – “มาริษ” รมว.ต่างประเทศ ประชุมอยู่ที่สหประชาชาติ ระบุจะใช้เวลาชี้แจงความเข้าใจสมาชิก UN ว่าไทยถูกเปิดฉากยิงก่อน และถูกละเมิดอธิปไตย พร้อมทั้งกัมพูชาละเมิดหลักการ มุ่งโจมตีพื้นที่ของพลเรือนและโรงพยาบาลของไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม 2568 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025 : HLPF2025) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ (UN) นครนิวยอร์ก โดยการประชุม HLPF2025 เป็นเวทีสำคัญประจำปีของ UN ที่มุ่งติดตามและเร่งรัดการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยที่ขณะนี้ได้อยู่ในเวทีสหประชาชาติในห้วงที่เกิดความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา นายจิรายุ กล่าวว่าวันนี้ เวลา […]

“ภูมิธรรม” มอบอำนาจกองทัพดูแลเหตุการณ์ชายแดน-รมว.กต.คุยยูเอ็นแล้ว

ทำเนียบฯ 24 ก.ค. – “ภูมิธรรม” เผยประชุมสภาความมั่นคง และ ครม.วาระพิเศษ แก้ไขสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันกัมพูชายั่วยุเปิดฉากยิงก่อน เป้าหมายไม่ชัดเจน ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 10 ราย ทหาร 1 นาย มอบจังหวัดดูแลประชาชนอพยพห่างชายแดน 50 กิโลเมตร ยังไม่คุยกัมพูชา จนกว่าสถานการณ์จะยุติ ระบุไม่มีประกาศสงคราม แต่มอบอำนาจกองทัพตัดสินใจดูแลเหตุการณ์ ก่อนรายงานรัฐบาล แต่ย้ำต้องอยู่ภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่จำเป็นดึงต่างประเทศเป็นตัวกลางเจรจา พร้อมเผย “มาริษ“ คุยยูเอ็นแล้ว ย้ำปฏิบัติการทางทหารจะยุติเร็วที่สุด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ วาระพิเศษ ที่มีคณะรัฐมนตรี ตัวแทนเหล่าทัพ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ว่าเนื่องจากเกิดเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะเดียวกันยังเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษไปด้วย โดยเชิญเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเข้าร่วม ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ดังนั้น จึงเป็นการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาตินัดพิเศษ และคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษด้วย เพราะหลายเรื่องจำเป็นต้องใช้มติคณะรัฐมนตรีในการดำเนินการ พร้อมระบุว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ปะทะกัน เท่าที่รับรายงานจากหน่วยทหารที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่ากัมพูชาได้ยิงเข้ามาและเปิดฉากใส่ทหารไทยก่อน จนนำไปสู่เหตุการณ์บานปลาย จนถึงเวลานี้มีการใช้อาวุธหนัก แต่สิ่งสำคัญคือการยิงของกัมพูชาใช้อาวุธหนัก […]

จีน-รัสเซียร่วมปกป้องอำนาจยูเอ็น-ผลประโยชน์ประเทศกำลังพัฒนา

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าววันนี้ว่าจีนพร้อมทำงานร่วมกับรัสเซียเพื่อปกป้องอำนาจหน้าที่และสถานะของสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น (UN) รวมถึงมุ่งมั่นปกป้องสิทธิประโยชน์

1 2 3 37
...