น้ำท่วมครั้งใหญ่รอบ 100 ปีของมาเลเซีย เสียชีวิต 5 ราย

กัวลาลัมเปอร์ 20 ธ.ค. – เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบ 100 ปีของมาเลเซียช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 รายในรัฐสลังงอร์และรัฐปะหังของมาเลเซีย และมีผู้สูญหาย 8 คน ตำรวจของนครชาห์อาลัม ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐสลังงอร์ เผยวันนี้ว่า พบผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม 3 รายที่นครชาห์อาลัม ขณะที่สำนักข่าวแห่งชาติมาเลเซีย หรือเบอร์นามา รายงานว่า พบผู้เสียชีวิต 1 รายที่นครกวนตันในรัฐปะหัง และอีก 1 รายที่เมืองกัมปุงเจมปากาของรัฐสลังงอร์ นอกจากนี้ ยังได้รับแจ้งว่ามีผู้สูญหายอีก 8 คนในรัฐปะหัง โดยคาดว่าทั้งหมดถูกกระแสน้ำพัดหาย สำนักข่าวเบอร์นามารายงานอ้างคำพูดของเลขาธิการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและน้ำของมาเลเซียว่า ปกติกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียมีปริมาณน้ำฝนต่อปีที่ 2,400 มม. แต่ปริมาณน้ำฝนเมื่อวันศุกร์วันเดียวกลับสูงกว่าค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำฝนต่อเดือน ซึ่งเป็นสิ่งที่เกินคาดหมายและมักเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบ 100 ปี นอกจากนี้ เหตุน้ำท่วมในครั้งนี้ยังทำให้ประชาชนกว่า 41,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว และมีหลายคนที่ติดอยู่ในรถยนต์และที่อยู่อาศัย ขณะที่สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของมาเลเซียระบุว่า มี 7 รัฐ และ 1 ดินแดนที่รัฐบาลกลางปกครองโดยตรงที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ ได้แก่ รัฐกลันตัน […]

อพยพกว่า 21,000 คนหนีน้ำท่วมมาเลเซีย

กัวลาลัมเปอร์ 19 ธ.ค.- สำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซียรายงานวันนี้ว่า มีประชาชนได้รับการอพยพออกจากบ้านเรือนมากกว่า 21,000 คน เนื่องจากน้ำท่วมที่เกิดจากฝนตกหนัก เบอร์นามารายงานว่า ประชาชนมากกว่า 21,000 คนได้รับการอพยพออกจากบ้านเรือนไปยังศูนย์บรรเทาทุกข์จนถึงช่วงเที่ยงที่ผ่านมา เนื่องจากน้ำท่วมที่เกิดขึ้นใน 7 รัฐ โดยมีรัฐเประเป็นพื้นที่ประสบภัยล่าสุด ประชาชนมากกว่า 11,000 คนอพยพออกมาตั้งแต่วันเสาร์ เพราะฝนที่เริ่มตกหนักตั้งแต่เช้าวันศุกร์ทำให้ถนนหลายสายถูกปิดและการขนส่งถูกกระทบ นายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ยาคอบแถลงข่าวที่รัฐสลังงอร์ ซึ่งเป็นรัฐที่ร่ำรวยที่สุดและมีประชากรมากที่สุดของประเทศ อยู่รอบกรุงกัวลาลัมเปอร์ว่า ประชาชนประมาณ 15,000 คนได้รับการอพยพไปยังศูนย์บรรเทาทุกมากกว่า 100 แห่ง ปริมาณน้ำฝนที่ตกเมื่อวันก่อนเพียงวันเดียวเท่ากับปริมาณน้ำฝนที่ตกทั้งเดือนในช่วงเวลาปกติ เจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือผู้ติดอยู่ในยานยนต์และสถานที่ต่าง ๆ ส่วนผู้ติดอยู่ตามบ้านเรือนได้รับการช่วยเหลือแล้ว ทางการระดมกำลังทหาร ตำรวจและนักดับเพลิงมากกว่า 66,000 นายไปช่วยเหลือประชาชนเพื่อนำไปยังศูนย์พักพิงแล้ว นอกจากนี้รัฐบาลจะจัดสรรเงินเบื้องต้น 100 ล้านริงกิต (ราว 790 ล้านบาท) สำหรับซ่อมแซมบ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน และจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ.-สำนักข่าวไทย

ไต้ฝุ่น “ราอี” ทวีกำลังแรงสุดก่อนพัดขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์

มะนิลา 16 ธ.ค. – พายุไต้ฝุ่นราอีทวีกำลังเป็นพายุที่มีความรุนแรงระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ก่อนขึ้นฝั่งพื้นที่ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ในวันนี้ ทำให้ทางการต้องเร่งอพยพประชาชนจำนวนมากออกจากพื้นที่ประสบภัยและสั่งยกเลิกเที่ยวบินหลายเที่ยว ขณะที่ชุมชนในพื้นที่ราบต่ำมีน้ำท่วมสูงถึงระดับอกแล้ว สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์รายงานว่า พายุไต้ฝุ่นราอี ซึ่งเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 15 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ ได้พัดขึ้นฝั่งบนเกาะซูรีเกาของจังหวัดซูรีเกา เดล นอร์เต ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ โดยมีความเร็วลมสูงสุด 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทางการฟิลิปปินส์เร่งอพยพประชาชนเกือบ 100,000 คนออกจากบ้านเรือนไปยังที่ปลอดภัยในขณะที่พายุไต้ฝุ่นราอี ซึ่งเป็นพายุที่มีความรุนแรงสูงเป็นอันดับสองของปีนี้ ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่หมู่เกาะทางใต้จนถึงตอนกลางของประเทศ ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า ได้รับแจ้งเหตุไฟฟ้าดับและน้ำท่วมในบางพื้นที่แล้ว แต่ยังไม่มีรายงานพบผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดียวกัน หน่วยยามฝั่งของฟิลิปปินส์ได้เผยแพร่ภาพที่แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังลุยน้ำลึกระดับอกในเมืองคากายันเดโอโรที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางเหนือบนเกาะมินดาเนา และนำเรือยางเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน ส่วนทางการฟิลิปปินส์ได้สั่งยกเลิกเที่ยวบินหลายสิบเที่ยว รวมถึงสั่งห้ามการสัญจรทางทะเลและทางบกในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ของประเทศ ทำให้มีประชาชนหลายพันคนตกค้างอยู่ที่ท่าเรือ นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์ยังสั่งหยุดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดให้แก่ประชาชนเป็นการชั่วคราวหลังพายุไต้ฝุ่นราอีได้พัดขึ้นฝั่งในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

หลายจังหวัดภาคใต้ จับตาน้ำทะเลหนุนสูง

สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้จากฝนตกหนัก และสภาวะน้ำทะเลหนุนสูงยังน่าห่วง โดยเฉพาะช่วงค่ำวันนี้จะมีน้ำทะเลหนุนอีกรอบ แต่ละจังหวัดสั่งจับตาตลอด 24 ชั่วโมง

น้ำท่วมดินถล่มในเวียดนาม สูญหาย 18 คน

ฮานอย 2 ธ.ค.- รัฐบาลเวียดนามแจ้งว่า ฝนที่ตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มทางตอนกลางของประเทศ เป็นเหตุให้มีผู้สูญหาย 18 คน ในจำนวนนี้บางรายอาจเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนและถนนเสียหาย แถลงการณ์ของรัฐบาลเวียดนามระบุว่า ปริมาณฝนเริ่มลดลงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ระหว่างตามหาผู้สูญหาย ขณะที่ทางหลวง ทางเชื่อมระหว่างจังหวัด และถนนสายย่อยถูกกีดขวางบางส่วน ภาพข่าวตามเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ช่วงหลายวันมานี้เห็นน้ำท่วมสีโคลนไหลเชี่ยว ประชาชนต้องใช้เรือสัญจรบนถนนที่แปรสภาพเป็นคลอง หรือเดินลุยน้ำท่วมสูงระดับเอว หลายคนเข็นรถจักรยานยนต์ที่เครื่องดับแล่นต่อไม่ได้ จังหวัดฟู้เอียนและจังหวัดบิ่ญดิ่ญที่อยู่ริมชายฝั่งตอนกลาง และจังหวัดดั๊กลัก แหล่งปลูกกาแฟของเวียดนามเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด มีรายงานว่า น้ำท่วมนาข้าวกินพื้นที่ราว 7.8 ตารางกิโลเมตร แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายของไร่กาแฟ เวียดนามมีแนวชายฝั่งยาวจึงเสี่ยงประสบภัยพายุและน้ำท่วมอยู่เสมอ ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ส่วนใหญ่เป็นน้ำท่วมและดินถล่มคร่าชีวิตคนไป 378 คนเมื่อปีก่อน.-สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมชุมพรยังน่าห่วง เร่งอพยพผู้ประสบภัย

สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดชุมพรยังน่าห่วง ถนนเอเชีย 41 น้ำท่วมสูงบางช่วง รถเล็กสัญจรไม่ได้ ด้านเจ้าหน้าที่เร่งอพยพผู้ประสบภัย ติดในพื้นที่น้ำท่วมสูง และจัดเตรียมอาหารให้ผู้ได้รับความเดือดร้อน

น้ำป่าหลากถนนเอเชีย 41 ช่วง จ.ชุมพร รถเล็กผ่านไม่ได้

น้ำป่าหลากถนนสายเอเชีย 41 ช่วง อ.สวี จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ปิดถนนตั้งแต่สามแยกวังตะกอ อ.หลังสวน ระยะทาง 30 กม. รถเล็กผ่านไม่ได้ แนะใช้ทางเลี่ยง

ฝนหนักต่อเนื่อง ทำน้ำท่วม อ.หลังสวน จ.ชุมพร

ฝนตกหนักติดต่อกันตลอดทั้งวันทั้งคืนในพื้นที่ จ.ชุมพร ทำให้มวลน้ำจากแม่น้ำพะโต๊ะ ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจและในหลายพื้นที่ของ อ.หลังสวน

1 150 151 152 153 154 361
...