
“ทรัมป์” ฉีกหน้าผู้นำแอฟริกาใต้ต่อหน้าสื่อ
ผู้นำสหรัฐเปิดคลิปและกล่าวอ้างผิด ๆ ต่อหน้าสื่อมวลชน เรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนผิวขาวและการยึดที่ดินในแอฟริกาใต้ ระหว่างให้การต้อนรับผู้นำแอฟริกาใต้ที่ทำเนียบขาว
ผู้นำสหรัฐเปิดคลิปและกล่าวอ้างผิด ๆ ต่อหน้าสื่อมวลชน เรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนผิวขาวและการยึดที่ดินในแอฟริกาใต้ ระหว่างให้การต้อนรับผู้นำแอฟริกาใต้ที่ทำเนียบขาว
วอชิงตัน 20 มี.ค.- รอยเตอร์รายงานอ้างแถลงสรุปของทำเนียบขาวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารที่คาดการณ์กันมานานเรื่องปิดกระทรวงศึกษาธิการตามที่ได้หาเสียงไว้ แถลงสรุปของทำเนียบขาวระบุว่า คำสั่งดังกล่าวสั่งการให้นางลินดา แมคแมน รัฐมนตรีศึกษาธิการดำเนินทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การปิดกระทรวงศึกษาธิการ และคืนอำนาจการศึกษากลับไปสู่ทางการระดับรัฐ ขณะเดียวกันให้เดินหน้าสร้างความมั่นใจว่า การให้บริการด้านการศึกษาที่ชาวอเมริกันต้องการจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่น นอกจากนี้โครงการหรือกิจกรรมใด ๆ ที่ยังคงใช้งบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการไม่ควรส่งเสริมเรื่องความหลากหลาย ความเสมอภาค และความครอบคลุมหรือดีอีไอ (DEI) หรือเรื่องอุดมการณ์ทางเพศ ข้อความสรุประบุด้วยว่า การที่รัฐบาลกลางควบคุมการศึกษาได้สร้างความผิดหวังให้แก่นักเรียน ผู้ปกครองและครูอาจารย์ กระทรวงศึกษาธิการใช้งบประมาณไปแล้วมากกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 100 ล้านล้านบาท) นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2522 แต่ไม่ได้ยกระดับความสำเร็จของนักเรียนเมื่อวัดจากผลคะแนนสอบมาตรฐาน กระทรวงศึกษาธิการของสหรัฐดูแลโรงเรียนรัฐบาลราว 100,000 โรง และโรงเรียนเอกชนราว 34,000 โรง โดยที่งบประมาณของโรงเรียนรัฐบาลมากกว่าร้อยละ 85 มาจากรัฐบาลระดับรัฐและระดับท้องถิ่น นอกจากนี้ยังดูแลหนี้การศึกษาของชาวอเมริกันหลายล้านคนจำนวน 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 53.75 ล้านล้านบาท) นายทรัมป์เคยเสนอปิดกระทรวงศึกษาธิการเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก ครั้งนั้นรัฐสภาไม่ดำเนินการใด ๆ ทั้งนี้การปิดหน่วยงานระดับกระทรวงของรัฐบาลกลางจะกระทำได้ต่อเมื่อรัฐสภาผ่านร่างกฎหมายให้ปิด ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกวุฒิสภาอย่างน้อย 60 เสียงจากทั้งหมด […]
เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีและบุคคลสำคัญของสหรัฐยิงมือปืนต้องสงสัยด้านนอกทำเนียบขาว ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้อยู่ในทำเนียบตอนที่เกิดเหตุ
วอชิงตัน 9 มี.ค.- กลุ่มผู้ชุมนุมร่วมกันกางธงชาติยูเครนที่อ้างว่า เป็นธงชาติยูเครนผืนใหญ่ที่สุดในโลก ใกล้ทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ของสหรัฐ เพื่อแสดงความสนับสนุนยูเครนที่ทำสงครามกับรัสเซียมานานกว่า 3 ปี กลุ่มผู้ชุมนุมจัดกิจกรรมเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ร่วมกันตะโกนคำขวัญสนับสนุนยูเครนและตำหนิรัสเซีย ขณะช่วยกันกางธงชาติยูเครนขนาด 172×110 ฟุต หรือราว 52.43×33.53 เมตร และหนัก 150 กิโลกรัม ที่ดิเอลลิปส์ (The Ellipse) ซึ่งเป็นสนามกว้างใกล้ทำเนียบขาว เพื่อแสดงความสนับสนุนยูเครน ผู้ร่วมงานมีทั้งชาวอเมริกัน ชาวยูเครน ชาวโปแลนด์ และชาวยุโรปตะวันออกที่ใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้ระงับการให้ความช่วยเหลือด้านการทหารและการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับยูเครนในสัปดาห์นี้ หลังจากปะทะคารมกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนที่มาพบที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ อีกทั้งยังกล่าวหาผู้นำยูเครนว่า ไม่จริงจังที่จะบรรลุข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซียที่ยึดดินแดนยูเครนไปแล้วร้อยละ 20.-820(814).-สำนักข่าวไทย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววันศุกร์ว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ที่เขาปะทะคารมด้วยที่ทำเนียบขาวก่อนหน้านี้ ดูไม่เหมือนผู้ที่ต้องการสันติภาพในยูเครน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ จะไม่ให้ผู้สื่อข่าวของเอพี (AP) ซึ่งเป็นสำนักข่าวของสหรัฐ เข้าห้องทำงานรูปไข่ ในทำเนียบขาว
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล จะเดินทางเยือนสหรัฐเพื่อพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ
จิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐ เปิดทำเนียบขาวอวดความสวยงามด้านในหลังได้รับการประดับตกแต่งเพื่อต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเลือกแคโรไลน์ เลวิตต์ ผู้ช่วยในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของเขาให้ดำรวตำแหน่งโฆษกประจำทำเนียบขาว
วอชิงตัน 10 พ.ย.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเชิญนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ผู้นำสหรัฐคนใหม่ พบหารือกันที่ทำเนียบขาวในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ โฆษกทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันเสาร์ว่า ประธานาธิบดีไบเดนได้เชิญนายทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีพบหารือกันที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในเวลา 11.00 น.วันที่ 13 พฤศจิกายนตามเวลาท้องถิ่น โดยจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการพบหารืออีกครั้ง ด้านไบเดนกล่าวกับสื่อสั้น ๆ หลังเสร็จสิ้นการเข้าร่วมพิธีมิสซาขณะไปพักผ่อนที่บ้านพักในรัฐเดลาแวร์เมื่อวันเสาร์ว่า จะพบกับทรัมป์ในวันที่ 13 พฤศจิกายน ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่า ประธานาธิบดีไบเดนได้โทรศัพท์แสดงความยินดีกับทรัมป์เมื่อวันพุธ หนึ่งวันหลังการเลือกตั้ง และเชิญทรัมป์เข้าทำเนียบขาว ด้านทรัมป์เผยกับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี (NBC) ในวันต่อมาว่า ได้ตกลงกับประธานาธิบดีไบเดนระหว่างสนทนาทางโทรศัพท์ว่า จะรับประทานมื้อเที่ยงด้วยกันในเร็ว ๆ นี้ ซีเอ็นเอ็นระบุว่า เป็นธรรมเนียมปฏิบัติในสหรัฐที่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันจะเชิญผู้ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีเข้าทำเนียบขาว เพื่อให้การถ่ายโอนอำนาจเป็นไปอย่างราบรื่น อย่างไรก็ดี เมื่อครั้งที่นายทรัมป์แพ้เลือกตั้งให้แก่นายไบเดนในการเลือกตั้งปี 2563 เขาไม่ได้เชิญนายไบเดนมาพบหารือที่ทำเนียบขาว และไม่ได้เข้าร่วมพิธีสาบานตนของไบเดนเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 ด้วย.-820(814).-สำนักข่าวไทย
ฟลอริดา 8 พ.ย. – นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศวานนี้ว่า “ซูซี ไวลส์” (Susie Wiles)หนึ่งในสองผู้จัดการการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของเขา จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหารประจำทำเนียบขาว ซึ่งเป็นการผลักดันผู้ที่ช่วยเหลือให้พรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสูงในรัฐบาล ไวลส์ วัย 67 ปี จะเป็นสตรีคนแรกที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหารประจำทำเนียบชาว นายทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์ว่า ไวลส์ เป็นคนแข็งแกร่ง ฉลาด มีความคิดสร้างสรรค์และได้รับการชื่นชมและความเคารพอย่างกว้างขวาง และเขาไม่สงสัยเลยว่า เธอจะทำให้ให้ประเทศนี้ภาคภูมิใจ ไวลส์ เป็นนักยุทธศาสตร์ทางการเมืองที่อยู่ในรัฐฟลอริดามาอย่างยาวนานเป็นผู้จัดการการหาเสียงเลือกตั้งของนายทรัมป์ร่วมกับคริส ลาซีวิตา นายทรัมป์ กล่าวขอบคุณทั้งสองในระหว่างกล่าวปราศรัยประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตำแหน่งหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว ถือว่าเป็นตำแหน่งหนึ่งที่ทรงอิทธิพลในรัฐบาล เป็นเสมือนแม่บ้านของประธานาธิบดี ดูแลเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว จัดเตรียมเวลาและกำหนดการต่าง ๆ ของประธานาธิบดีและติดต่อกับกระทรวงอื่น ๆ ของรัฐบาลและประสานงานกับสมาชิกรัฐสภา.-813.-สำนักข่าวไทย
ฟลอริดา 7 พ.ย.- ทีมงานหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้โทรศัพท์แสดงความยินดีกับนายทรัมป์ หลังคว้าชัยชนะการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ และมีคำเชิญให้นายทรัมป์ไปเยือนทำเนียบขาว นายสตีเวน เชือง โฆษกทีมงานหาเสียงของทรัมป์เผยว่า ประธานาธิบดีไบเดนเชิญทรัมป์ไปทำเนียบขาวเพื่อเตรียมการถ่ายโอนอำนาจในการบริหารประเทศให้เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งนายทรัมป์ตั้งตาคอยที่จะได้พบปะกัน และได้กล่าวขอบคุณที่นายไบเดนโทรศัพท์มา ด้านประธานาธิบดีไบเดนจะปราศรัยต่อคนทั่วประเทศในเวลา 11.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทำเนียบขาวระบุว่า ไบเดนให้คำมั่นว่าจะทำให้การถ่ายโอนอำนาจระหว่างเขากับนายทรัมป์ซึ่งจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมปีหน้าเป็นไปอย่างราบรื่น.-816(814).-สำนักข่าวไทย