“อนุทิน” ลุย​บ้านทุ่งสมเด็จ บอกนายกฯ ฝากให้กำลังใจ

อุบลราชธานี 8 มิ.ย. – “อนุทิน” ลุย​ ชายแดนบ้านทุ่งสมเด็จ ปลุกใจชาวบ้าน อย่าว่าแต่ตารางเมตรเดียว มิลเดียวก็ไม่ได้​ พร้อมกำชับ ผู้ว่าฯ อยู่ในพื้นที่ตลอด พร้อมทำศูนย์พักพิงให้ ไม่ใช่แค่ที่ซุกหัวนอน แต่ต้องเป็นบ้านหลังที่​ 2 ฝาก อส. – ชรบ. ดูแลบ้านเรือนหากเกิดการอพยพ หยอดคำหวานทหาร ดูแลเรื่องรบไปเลย​ มท.ดูเรื่องรักให้​ พร้อมพูดเป็นนัย​ ตอนนี้ต้องทิ้งการเมือง​ ความปลอดภัยประชาชนต้องมาก่อน​ ต้องไม่มีคำว่าทะเลาะเบาะแว้ง ไม่มีคำว่าเตะตัดขา บอก “นายกฯ” ฝากให้กำลังใจประชาชนด้วย​ นายอนุทิน ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขึ้น​เฮลิคอปเตอร์​ ปักเป้า พร้อมปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครอง​ ลงพื้นที่​จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยจุดแรกไปที่ศูนย์พัฒนาเขตพื้นที่ชายแดน บ้านทุ่งสมเด็จ ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี​ ทันทีที่มาถึง​ นายอนุทิน​ ได้รับฟังรายงานจากกองอาสารักษาดินแดน​ ก่อนจะเข้าไปสวมกอดให้กำลังใจ​ และเดินทักทาย​ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน​ หรือ​ ชรบ.​ […]

ส่งยางเก่า 2,000 เส้นให้ทหารทำบังเกอร์

อยุธยา 7 มิ.ย.-ร้านแบงค์ยางซ่า ร้านดังอยุธยา ขนยางเก่า 2,000 เส้นให้ทหารทำบังเกอร์ หวังเป็นกำลังใจให้ทหารป้องกันแนวชายแดน จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า แบงค์ ยางซ่า ร้านดังอยุธยา ได้โพสต์ว่า “ผมจะเอายางไปส่งทหาร ผมอยากได้ช่องทาง การติดต่อกันยังงัย และ ที่ไหนสำคัญมาก ที่ต้องการจะใช้ก่อน ผมมีข้าวสารอาหารแห้งไปให้ด้วย จะได้ไปด้วยตัวเองเลยอยากไปเห็นกะตา เป็นกำลังใจให้พี่ทหารกล้าทุกท่าน” ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นาย วันชัย กัณรงค์ อายุ 36 ปี เจ้าของร้านแบงค์ยางซ่า ริมถนนจอมพลปอ อำเภอบางปะอิน จังหวัดอยุธยา และได้พูดคุยพร้อมพาไปดูยางเก่าที่ทางร้านมีจำนวน 1,000 กว่าเส้น และของเพื่อนที่ เป็นร้านยางด้วยกันจะนำมาช่วยรวมด้วย รวมกันจำนวนประมาณ 2,000 เส้น นอกจากนี้ยังมีน้ำดื่มและอาหารแห้งอีกจำนวนหนึ่ง โดยมีกลุ่มเพื่อนๆพันธมิตรจะนำรถเทเลอร์มาขนให้ในวันนี้หากขนเสร็จก็จะออกเดินทางทันที โดยจะนำไปมอบ เป็นกำลังใจให้พี่ๆ ทหารที่อยู่ตามแนวชายแดน จ.สุรินทร์ และรู้สึกว่าได้ช่วยๆ พี่ทหารแล้วเหมือนกับได้ช่วยชาติ ซึ่งการสนับสนุนในครั้งนี้ไม่เพียงช่วยลดภาระ แต่ยังสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

กองทัพไทย ประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ พร้อมปกป้องอธิปไตย

กองทัพอากาศ 6 มิ.ย.-กองบัญชาการกองทัพไทย จัดประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ย้ำความพร้อมปกป้องอธิปไตยชาติ และความปลอดภัยของประชาชน ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ ทบ. ยันกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน กองบัญชาการกองทัพไทย จัดการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ กองบัญชาการกองทัพอากาศ โดยมี พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้กล่าวแสดงความขอบคุณ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ร่วมกันปฏิบัติภารกิจในการสนับสนุนรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะการรักษาอธิปไตยบริเวณแนวชายแดนในทุกสถานการณ์ พร้อมย้ำถึงความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกเหล่าทัพได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมสนับสนุนกองทัพบกในทุกมิติ ในการนี้ กองทัพบกได้รายงานต่อที่ประชุมอย่างละเอียดถึงเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเหตุการณ์ โดยยืนยันว่าการปฏิบัติของทหารไทยเป็นไปตามกฎหมายและกฎการใช้กำลังอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการลุกลาม โดยอิงตามแนวเส้นปฏิบัติการที่ประเทศไทยถือปฏิบัติต่อเนื่องมาโดยตลอด ทั้งนี้ กองทัพบกได้ชี้แจงว่าเหตุปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นระหว่างทหารไทยทำการลาดตระเวนในพื้นที่ประเทศไทย และถูกฝ่ายทหารกัมพูชาเปิดฉากการยิง จึงได้ทำการยิงตอบโต้ ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการชี้แจงผ่านช่องทางทางการแล้วโดยครบถ้วน อย่างไรก็ตาม […]

สมช.ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ปัญหามั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- สมช. ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มอบ “กองทัพ” ประสานการปฏิบัติ พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์-ปกป้องอธิปไตย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ออกเอกสารข่าว ภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2568 โดยที่ประชุม สมช. ได้รับทราบพัฒนาการของสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมฯ ได้เตรียมพร้อมการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และการสื่อสารทำความเข้าใจกับสังคมและประชาชน รวมถึงนานาชาติ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ โดยให้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำหน้าที่ติดตาม ประสานงาน และเสนอแนะมาตรการเพิ่มเติม หากฝ่ายกัมพูชามีการยกระดับปัญหา ในการนี้ มอบหมายให้กองทัพประสานการปฏิบัติ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ โดยให้ความสำคัญกับการปกป้องอธิปไตยและการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ทั้งนี้ จะดำเนินการโดยสอดคล้องกับแนวทางการเจรจาใน JBC ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 […]

“บิ๊กป้อม” ฟาดแรง อย่าอ่อนข้อบนเวทีอธิปไตย

กทม. 6 มิ.ย.-“บิ๊กป้อม” ฟาดแรง อย่าอ่อนข้อบนเวทีอธิปไตย เกมการเมืองต้องเดินอย่างรู้ทัน​ แสดงจุดยืนหนักแน่น ไทยต้องตอบโต้กรณีกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยอย่างสมน้ำสมเนื้อ ไม่ประนีประนอม​ พร้อมให้กำลังใจทหารแนวหน้า เตือนอย่าให้ใครตีความอดทนเป็นความอ่อนแอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การรุกล้ำอธิปไตยของกัมพูชา พร้อมสะท้อนประสบการณ์ตลอดหลายทศวรรษที่เคยปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน โดยย้ำว่าความมั่นคงของประเทศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และความเชี่ยวชาญในเชิงยุทธศาสตร์อย่างแท้จริง​ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและเด็ดขาด ไม่ยอมให้การรุกล้ำอธิปไตยถูกมองข้าม และให้ความสำคัญกับมาตรการตอบโต้ที่สมเหตุสมผล ทั้งด้านการทูต เศรษฐกิจ กฎหมาย และศักยภาพทางทหาร เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทย พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ไทยยึดหลักสันติวิธี ไม่ต้องการเผชิญหน้า แต่หากอีกฝ่ายไม่มีความจริงใจ ไม่ยอมใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ กลับปลุกปั่น ป้ายสี และยกระดับปัญหาไปสู่เวทีโลก ไทยก็จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือในทุกมิติ เพราะการประนีประนอมแบบไม่ลึกซึ้งจะยิ่งทำให้คู่เจรจาไม่เกรงใจและไม่เกรงกลัว พล.อ.ประวิตร​ ย้ำว่ากติกาสากลมีไว้ใช้กับ “สุภาพบุรุษ” และเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมเจรจาด้วยความจริงใจ ก็ต้องเตรียมมาตรการเชิงรุกที่สร้างแต้มต่อให้ฝ่ายไทยได้เปรียบ ไม่หลงกล ไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ พร้อมเรียกร้องให้มีการสื่อสารกับประชาชนและมิตรประเทศอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดในเวทีระหว่างประเทศ พล.อ.ประวิตร​ ขอส่งสารไปถึงกำลังพลในพื้นที่ชายแดน โดยขอชื่นชมกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ โดยเฉพาะแม่ทัพภาคที่ […]

ทบ.ยันเหตุปะทะช่องบก ทหารกัมพูชายิงก่อน

กองทัพบก 5 มิ.ย.-ทบ.โต้กัมพูชา เหตุปะทะช่องบก ทหารกัมพูชายิงก่อน เพราะหน่วยระดับบริหาร-ปฏิบัติ ไร้ความชัดเจน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้กล่าวถึงกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์วันนี้ พบมีบางประเด็นที่พาดพิงถึงทหารฝ่ายไทย โดยอ้างถึงเหตุการณ์ปะทะที่ช่องบกว่า ฝ่ายไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อนนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมา กองทัพบกโดย ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เน้นย้ำหน่วยและกำลังพลให้เคร่งครัดในเรื่องของ กฎการปะทะ ยืนยันว่าการปะทะในครั้งนั้นเป็นไปในลักษณะของการป้องกันตัวระดับบุคคล เนื่องจากขณะนั้น หน่วยได้รับข่าวสารว่ามีทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธได้รุกล้ำเข้ามาวางกำลังในพื้นที่ของประเทศไทย ฝ่ายไทยจัดกำลังขนาดเล็กเข้าไปเพื่อลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ แต่ฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธตอบโต้ จึงเกิดการปะทะกัน ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้ว “ขอยืนยันว่า กรณีเกิดเหตุข้อพิพาทในพื้นที่ ฝ่ายไทยได้พยายามดำเนินการผ่านกลไกการเจรจาระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่ ตามที่ทั้งสองประเทศเคยตกลงกันไว้ แต่กลับเป็นฝ่ายกัมพูชาเองที่ไม่มีท่าทีให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในระยะหลัง”พล.ต.วินธัย กล่าว โฆษกกองทัพบก กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน กองทัพบกมีความพร้อมต่อปฏิบัติการทางทหารในระดับสูง เพื่อรองรับกรณีที่จำเป็นต้องใช้มาตรการทางทหารตอบโต้ปัญหาการรุกล้ำอธิปไตย ที่ผ่านมา กองทัพบก และกองกำลังป้องกันชายแดน ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ได้ติดตามและรวบรวมข่าวสารของทางฝั่งกัมพูชา ตั้งแต่หน่วยระดับปฏิบัติ จนถึงหน่วยงานในระดับบริหาร พบว่ามีลักษณะท่าทีในการร่วมกันแก้ปัญหาที่ขาดความชัดเจน อีกทั้งปรากฏสิ่งบอกเหตุว่าฝ่ายกัมพูชา ยังคงดำเนินการเตรียมความพร้อมทางทหารอย่างเข้มข้น ควบคู่กับมาตรการด้านการต่างประเทศมาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นความน่ากังวลในแง่มุมทางทหาร ทำให้ตลอดห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารบก […]

ไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ย้ำขอใช้กรอบ JBC

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยันประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบันแล้ว ย้ำขอใช้กรอบ JBC ในทุกระดับแก้ปัญหาระหว่างกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดแหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เวลา 16.30 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว เป็นฉบับที่ 2 ดังนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Border Commission: JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม […]

“มาริษ” แถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC”

.ต่างประเทศ 1 มิ.ย.-“มาริษ” นำแถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยันทำทุกทางไม่ให้บานปลาย ย้ำ กต.ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยยกหูหา “รองนายกฯ กัมพูชา” แล้ว เห็นพ้องตรงกัน เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้าน “โฆษก กต.” ยันโพสต์ “ฮุนเซน” ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC” แน่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร , นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้ากระทบมากไปจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องบก […]

“ดนุพร” วอนประชาชนอย่าเชื่อเฟคนิวส์ ชายแดนไทย-กัมพูชา

เพื่อไทย 1 มิ.ย.-“ดนุพร” วอนประชาชน อย่าเชื่อเฟคนิวส์ ปมชายแดน “ไทย-กัมพูชา” ย้ำ “รัฐบาล-จนท.” ทำงานเต็มที่ ขอทุกคนเชื่อมั่น ยัน นายกฯ จะผลักดันการเจรจา นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวประจำสัปดาห์ ถึงเหตุความไม่สงบของชายแดนประเทศไทยระหว่างไทยกับกัมพูชา ว่า พรรคเพื่อไทยเองเป็นกำลังใจและขอบพระคุณทหารกล้าทุกท่านที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติ หลังจากที่ได้รับรายงานว่าวันที่ 28 พ.ค.มีการปะทะกันที่ช่องบก แล้ววันที่ 29 พ.ค.ผู้บัญชาทหารกองทัพบกของทั้ง 2 ประเทศ ได้มาพบปะและหารือร่วมกัน ซึ่งหลังจากที่ผู้บัญชาการทหารบกทั้ง 2 ประเทศพูดคุยกันแล้ว ไม่มีเหตุปะทะเกิดขึ้นอีกเลย เพราะฉะนั้น ขอเรียนว่าเจ้าหน้าที่นั้น ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้และสถานการณ์กลับเข้ามาสู่สภาวะปกติได้เร็วที่สุด “มีข่าวปลอมเยอะมากที่สร้างความบิดเบือนให้พี่น้องประชาชน รวมถึงที่ข่าวปั่นที่สร้างความบิดเบือน และจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีปัญหา ผมขอเรียนพี่น้องประชาชนว่าให้ติดตามข่าวสารด้วยความระมัดระวัง อะไรก็ตามที่ท่านอ่านแล้วอาจรู้สึกว่าโดนใจท่าน แต่อยากให้เช็กหลายสื่อ เช็กสื่อหลักก่อน เราไม่อยากจะให้ท่านถูกข่าวเฟคนิวส์ปลุกปั่น ทำให้เกิดความขัดแย้งกันระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน” นายดนุพร กล่าว นายดนุพร กล่าวต่อว่า หลังจากที่รัฐบาลได้รับรายงานแล้ว ตนได้ประสานกับหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการต่างประเทศ […]

มทภ.2 พักค้างให้กำลังใจทหารประจำฐาน ขอให้เชื่อมั่นเราทำถูกแล้ว

สุรินทร์ 1 มิ.ย.- เคียงบ่าเคียงไหล่! “มทภ.2” พักค้างให้กำลังใจทหารประจำฐาน ‘ปราสาทตาเมือนธม’ ย้ำอย่าได้ประมาทในการทำหน้าที่ ขอให้เชื่อมั่นเราทำถูกแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวานนี้ (31 มิ.ย.) ที่ปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ กำลังพลกองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำฐานปฏิบัติการพร้อมมอบข้าวสาร อาหารแห้ง และให้โอวาทแก่กำลังพล โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) ร่วมภารกิจ และพักค้างคืนที่ฐานปราสาทตาเมืองธม แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณ และเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของทหารทุกนายว่าจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดียิ่ง ยืนยันว่าพวกเราทำถูกต้องแล้ว พร้อมทั้งขอให้ทหารทุกนายตระหนักเสมอว่าระดับผู้บัญชาการทุกระดับ คอยให้กำลังใจอยู่เสมอ อย่าได้ประมาท พร้อมจะเกิดอะไรได้ทุกเวลา ขอให้ติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลา.-313.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เผยคุยผู้นำกัมพูชาตลอด ย้ำไทยยึดหลักไม่เผชิญหน้า

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“ภูมิธรรม” เผยคุยผู้นำกัมพูชาตลอด ย้ำไทยยึดหลักการไม่เผชิญหน้า แก้ปัญหาช่องบก ใช้กลไก JBC หาทางออกสันติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างร่วมประชุม IISS Shangri-La Dialogue ซึ่งเป็นเวทีหารือด้านความมั่นคงที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ถึงสถานการณ์พื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ว่าสถานการณ์ขณะนี้คลี่คลายลง ทั้งสองฝ่ายต่างยึดมั่นในการที่จะไม่ก่อให้เกิดการเผชิญหน้า และรอให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ได้หารือกัน ซึ่งขณะนี้ได้นัดหมายกันแล้ว เข้าใจว่าภายในสัปดาห์หน้าจะเกิดการประชุมได้ ทางฝ่ายไทยได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็จะไปร่วมพูดคุยทั้งหมดด้วย โดยได้ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ กองทัพบก และกองทัพไทย อย่างต่อเนื่อง “คงยังไม่น่าเป็นห่วงอะไร แต่ก็ขอให้มีการพูดคุยกันก่อน ซึ่งไทยยึดหลักการจะไม่เผชิญหน้า และพยายามจะหาข้อสรุปอย่างสันติ และเป็นประเทศเพื่อนบ้านซึ่งกันและกัน” นายภูมธรรม กล่าว เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยกับกัมพูชาในระดับรัฐมนตรีหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง และโอกาสการพบกันก็มีอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งเรามีวงประชุมหลายๆ เรื่อง ที่เป็นเรื่องของการรักษาความสงบ รักษาสันติภาพในในบริเวณนี้อยู่แล้ว.-313.-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย

1 3 4 5 6 7 8
...