นายกฯ ย้ำผลเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา เรียบร้อยดี ยึดแนวทางสันติวิธี

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำผลเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา เรียบร้อยดี หลังคุยกับผู้นำกัมพูชา ยึดแนวทางสันติวิธี ด้าน ก.ต่างประเทศ ย้ำการประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ เกิดขึ้นแน่นอน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งกัน และปฏิบัติงานร่วมกันหลายภาคส่วน ซึ่งผลออกมาค่อนข้างสงบ เรียบร้อยดี ในระดับนโยบาย รัฐบาลได้ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะกองทัพในพื้นที่ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศตามกรอบความร่วมมือทวิภาคี ได้พูดคุยกันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำว่าทุกหน่วยงานได้มีการพูดคุยกันทั้งไทยและกัมพูชา และตนเองได้พูดคุยกับ พลเอก ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสมเด็จฮุน เซน ประธานองคมนตรี ประธานวุฒิสภากัมพูชา ก็มีการประสานงานและเจรจากัน ซึ่งผลลัพธ์คือสามารถเจรจากันด้วยสันติวิธี ทำให้ไม่ต้องมีการปะทะที่รุนแรงเกิดขึ้น ด้านกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำเรื่องการประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม หรือ JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ได้มีการยืนยันทุกระดับมายังกระทรวงการต่างประเทศทั้ง 2 ประเทศ ว่าจะมีการประชุมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ขณะที่เรื่องมาตรการระหว่างชายแดนทั้ง 2 […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

“อนุทิน” ลุย​บ้านทุ่งสมเด็จ บอกนายกฯ ฝากให้กำลังใจ

อุบลราชธานี 8 มิ.ย. – “อนุทิน” ลุย​ ชายแดนบ้านทุ่งสมเด็จ ปลุกใจชาวบ้าน อย่าว่าแต่ตารางเมตรเดียว มิลเดียวก็ไม่ได้​ พร้อมกำชับ ผู้ว่าฯ อยู่ในพื้นที่ตลอด พร้อมทำศูนย์พักพิงให้ ไม่ใช่แค่ที่ซุกหัวนอน แต่ต้องเป็นบ้านหลังที่​ 2 ฝาก อส. – ชรบ. ดูแลบ้านเรือนหากเกิดการอพยพ หยอดคำหวานทหาร ดูแลเรื่องรบไปเลย​ มท.ดูเรื่องรักให้​ พร้อมพูดเป็นนัย​ ตอนนี้ต้องทิ้งการเมือง​ ความปลอดภัยประชาชนต้องมาก่อน​ ต้องไม่มีคำว่าทะเลาะเบาะแว้ง ไม่มีคำว่าเตะตัดขา บอก “นายกฯ” ฝากให้กำลังใจประชาชนด้วย​ นายอนุทิน ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขึ้น​เฮลิคอปเตอร์​ ปักเป้า พร้อมปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครอง​ ลงพื้นที่​จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยจุดแรกไปที่ศูนย์พัฒนาเขตพื้นที่ชายแดน บ้านทุ่งสมเด็จ ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี​ ทันทีที่มาถึง​ นายอนุทิน​ ได้รับฟังรายงานจากกองอาสารักษาดินแดน​ ก่อนจะเข้าไปสวมกอดให้กำลังใจ​ และเดินทักทาย​ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน​ หรือ​ ชรบ.​ […]

ชงรัฐบาลเปิดประชุมสภาฯ ผนึกพลัง สส.-สว. ตอบโต้กัมพูชา

รัฐสภา 8 มิ.ย. – วุฒิสภาออกโรงชงรัฐบาลเปิดประชุมรัฐสภา ผนึกพลัง สส.-สว. ตอบโต้กัมพูชารุกล้ำอธิปไตยไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วุฒิสภาออกแถลงการณ์วุฒิสภา ขอให้คณะรัฐมนตรีเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดน ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. 2568 จนถึงปัจจุบัน สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและเป็นไปในทิศทางที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดความรุนแรง แต่ข้อมูลที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนตามการให้สัมภาษณ์ของฝ่ายบริหารกลับยังไม่มีความชัดเจนถึงสาเหตุของปัญหาและแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมกับสถานการณ์ อันก่อให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ทั้งผลกระทบต่ออำนาจอธิปไตยของประเทศ และการรักษาผลประโยชน์ของชาติ โดยเฉพาะกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีกองกำลังติดอาวุธของกัมพูชาได้รุกล้ำเข้ามาบริเวณช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เป็นระยะทางถึง 200 เมตร พร้อมทั้งขุดคูในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยยึดถือว่าเป็นอาณาเขตของประเทศไทย เมื่อพิจารณาถึงหน้าที่ของรัฐ ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หมวด 5 มาตรา 52 วรรคหนึ่ง ว่า “รัฐต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน” แล้ว วุฒิสภาในฐานะที่เป็นองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ และมีสมาชิกวุฒิสภาเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยเช่นเดียวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบ และขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องผลประโยชน์ของชาติและธำรงไว้ซึ่งอธิปไตยเหนือผืนแผ่นดินไทย วุฒิสภาตระหนักถึงแนวทางในการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทโดยสันติวิธี แต่ทั้งนี้ต้องยืนอยู่บนหลักการแห่งความเคารพซึ่งกันและกัน รวมทั้งปฏิบัติต่อกันด้วยความจริงใจและเท่าเทียมกันในฐานะมิตรประเทศ […]

“ด่านช่องสะงำ” ปิดเงียบ ปรับเวลาเปิด 3 วันต่อสัปดาห์

ศรีสะเกษ 8 มิ.ย.- เช้านี้ปิดเงียบ! จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ด่านช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ หลังปรับเวลาเปิดเพียง 3 วันต่อสัปดาห์ จากปัญหาสถานการณ์ชายแดน จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ด่านช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งปกติวันอาทิตย์จะมีการเปิดตลาดนัดบริเวณตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำ ที่อยู่ลึกเข้ามาในฝั่งไทยประมาณ 2.5 กิโลเมตร วันนี้ไม่พบชาวกัมพูชามารอบริเวณหน้าด่านเหมือนเช่นเคย เนื่องจากชาวกัมพูชารับทราบว่ามีการประกาศเวลาเปิด-ปิด ตามมาตราการจากฝั่งไทย และชาวกัมพูชามีความวิตกกังวลสถานการณ์ชายแดน ทำให้การเดินทางเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าด้านตลาดนัดเมืองใหม่ช่องสะงำลดลงตั้งแต่สัปดาห์ก่อน บริเวณหน้าประตูเหล็กพบครอบครัวชาวกัมพูชา เดินทางมารอเวลาด่านเปิด มีอาการตกใจไม่ทราบข่าวถึงมาตรการ ประกาศเวลาเปิด-ปิด ทำให้ต้องประสานหาที่พักในฝั่งไทย เพื่อรอให้ด่านผ่านแดนเปิดให้บริการในวันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน ต่อไป โดยชาวกัมพูชาเล่าว่า พาลูกสาววัย 21 ปี เข้ารับการรักษาอาการหลอดเลือดสมองอักเสบ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อลูกสาวมีอาการดีขึ้นจึงได้พากันเดินทางกลับจังหวัดหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ไม่ทราบว่าด่านปิด โชคดีตนเดินทางผ่านเข้า-ออกด้วย Passport ทำให้ไม่มีปัญหา ทางฝั่งไทยให้ความเข้าใจและดูแลเป็นอย่างดี ทำให้ตนรู้สึกหายตกใจ จากเดิมจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ได้เปิด-ปิด […]

“อนุทิน” ลงพื้นที่อุบลฯ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 8 มิ.ย. – “อนุทิน” นั่ง​ ฮ.ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี​ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้กำลังใจทหารแนวหน้า และสร้างขวัญเจ้าหน้าที่แนวหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขึ้น​เฮลิคอปเตอร์​ปักเป้า พร้อมปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครอง​ ลงพื้นที่​จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยจุดแรกไปที่ศูนย์พัฒนาเขตพื้นที่ชายแดน บ้านทุ่งสมเด็จ ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี​ เพื่อมอบสิ่งของให้ทหารแนวหน้า และ​ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน​ หรือ​ ชรบ. กองอาสารักษาดินแดน หรือ​ อส. และหน่วยงานฝ่ายปกครอง​ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่​ จากนั้น​จะไปยังหลุมหลบภัย​โรงเรียนบ้านแปดอุ้ม​ และหลุมหลบภัยวัดบ้านค้อ เพื่อให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ การลงพื้นที่ครั้งนี้​เป็นการลงมาติดตามสถานการณ์ก่อน​ที่จะมีการเรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดน 7 จังหวัด​ ประกอบด้วย ​จังหวัด​ ตราด จันทบุรี สระแก้ว อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์​ ในวันที่ 11 มิถุนายนนี้​ ที่จังหวัดอุบลราชธานี​ เพื่อให้เกิดความมั่นใจสำหรับแนวทางในการดูแลพี่น้องประชาชน และเป็นแนวหลังสนับสนุนการทำงานของทหาร.-319​-สำนักข่าวไทย

Hun Sen in Senate

“ฮุน เซน” เตือนอย่าให้เรื่องชายแดนลามไปเรื่องอื่น

พนมเปญ 8 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชา เตือนประชาชนอีกครั้งว่า อย่าทำให้ข้อพิพาทชายแดนกับไทยลุกลามไปยังเรื่องอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลุกลามไปเป็นการเกลียดชังทางเชื้อชาติ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนได้โพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อคืนวันเสาร์ว่า ได้เห็นนายดวง ชัย ซึ่งเป็นนักธุรกิจท้องถิ่นโพสต์ข้อความเรียกร้องให้ยุติการซื้อสินค้าไทย เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้ร้องขอหลายครั้งแล้วว่า อย่ายกระดับข้อพิพาทให้ไปถึงจุดที่ลุกลามไปยังเรื่องอื่น ๆ และจุดชนวนความเกลียดชังทางเชื้อชาติ นายฮุน เซน โพสต์ด้วยว่า กองทัพไทยปิดจุดผ่านแดนปอยเปตเร็วขึ้นจากกำหนดเดิม ดังนั้นไทยต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบทั้งหมดต่อการกระทำดังกล่าว ส่วนชาวกัมพูชาขอให้มีวุฒิภาวะ ใจเย็น และงดการยั่วยุใด ๆ เขาเพียงอยากจะเตือนประชาชนทั้งกัมพูชาและไทยว่า หากสินค้าไทยขาดหายไปจากตลาดกัมพูชา นั่นไม่ใช่เพราะชาวกัมพูชาพร้อมใจกันคว่ำบาตร แต่เป็นผลจากการปิดจุดผ่านแดน เพราะเมื่อประชาชนถูกปิดกั้น สินค้าก็จะถูกปิดกั้นเช่นเดียวกัน ประชาชนชาวไทยควรแก้ปัญหานี้กับรัฐบาลโดยตรง เพราะจะเป็นฝ่ายเดือดร้อนมากที่สุด ขณะที่ประชาชนชาวกัมพูชาไม่ควรโทษรัฐบาลกัมพูชา เพราะเป็นผลโดยตรงจากการตัดสินใจของไทยที่จะปิดจุดผ่านแดน สถิติการค้าปี 2567 กัมพูชาส่งออกสินค้ามายังไทยมูลค่ามากกว่า 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 36,000 ล้านบาท) ขณะที่ไทยส่งออกสินค้าไปยังกัมพูชามากกว่า 5,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 170,450 ล้านบาท).-814.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ยันหากเกิดการปะทะ มีมาตรการรับมือหมดแล้ว

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” ยัน มีมาตรการรับมือหมดแล้ว หากเกิดการปะทะ ไทย – กัมพูชา ขอสื่ออย่านำเสนอคลาดเคลื่อนอาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้ง ชี้ อย่าไปขยายประเด็น ยัน ไทยไม่ได้นอบน้อม หรือ ถนอมคำพูด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์มาตรการเบื้องต้นในการรับมือสถานการณ์ไทย – กัมพูชา ว่า มีหมดแล้ว แต่ขอไม่ชี้แจงในรายละเอียด แต่จะมีข่าวประชาสัมพันธ์จากสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ส่วนเรื่องการปิดด่านมีการพูดในที่ประชุมวันนี้( 6 มิ.ย.) หรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า มีการพิจารณาทุกมาตรการ และขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และสภาวะที่เห็นแล้วว่าควรดำเนินการอย่างไร แต่ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว เมื่อถามย้ำว่ามีเส้นไหนที่จะออกมาตรการการปิดด่าน หรือห้ามข้ามชายแดนไปเล่นกาสิโนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน นายภูมิธรรม ระบุว่า มีอยู่ในมาตรการแล้ว แต่เชื่อว่าในขณะนี้ไม่สามารถพูดเรื่องเหล่านี้ได้ รอให้เกิดสถานการณ์แต่ละขั้น แล้วเราสามารถหยิบใช้ได้ ซึ่งได้ตกลงในกลไกแล้ว ว่ากองทัพหน้างานเป็นอย่างไร กระทรวงการต่างประเทศยืนยันหลักแบบไหนในการดำเนินการ ซึ่งวันนี้คุยกันทุกหน่วยงานแล้ว เมื่อถามว่าได้มีการระบุระยะเวลาหรือไม่ภายหลังจากพบกับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาให้ถอนกำลังออกไป นายภูมิธรรม ระบุว่า […]

จังหวัดติดชายแดนเตรียมความพร้อมแผนอพยพ

บุรีรัมย์ 6 มิ.ย. – นายอำเภอ จ.บุรีรัมย์ ประชุมด่วนกำนันผู้ใหญ่บ้านแนวชายแดน ซักซ้อมแผนอพยพประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยหากเกิดเหตุฉุกเฉิน บรรยากาศแนวชายแดนด้าน จ.บุรีรัมย์ นายเอกวัฒน์ พวงประโคน นายอำเภอบ้านกรวด เรียกประชุมด่วนระดับท้องถิ่น ทำความเข้าใจแผนอพยพประชาชน กำหนดศูนย์พักพิงให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย แต่อย่าตื่นตระหนก หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้ทำตามนโยบาย หรือหนังสือสั่งการกระทรวงมหาดไทยทันที ทั้งนี้ จ.บุรีรัมย์ มีพื้นที่ติดกัมพูชา ด้าน อ.บ้านกรวด กับ อ.ละหานทราย ฝั่งตรงข้ามกับ อ.บันเตียอำปึล และเขต อ.ทะ-มอ-พวก ของกัมพูชา มีสภาพพื้นที่ตามแนวชายแดนเป็นภูเขาและป่าทึบ สลับป่าโปร่ง รวมระยะทาง 42 กิโลเมตร ซึ่ง อ.บ้านกรวด มีพื้นที่ติดชายแดนกัมพูชาด้าน อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย จังหวัดในอดีตเคยรบปม “เขาพระวิหาร” พร้อมเช่นเดียวกับชาวบ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งในอดีตเคยผ่านสมรภูมิสู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชา เมื่อปี 2554 จากปัญหาปราสาทพระวิหาร ชาวบ้านระดมกำลังช่วยกันซ่อมแซมบังเกอร์หรือหลุมหลบภัยให้พร้อมใช้งาน เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ พร้อมประกาศเสียงตามสาย ขอสนับสนุนเครื่องมือ […]

“กมธ.ทหาร สว.” กระตุกนายกฯ​ รักษาผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก

รัฐสภา 6 มิ.ย. – “กมธ.ทหาร สว.” เตรียมลงพื้นที่แจกพระเป็นขวัญกำลังใจให้ทหาร ชี้ รัฐบาลไทย ตามหลัง “กัมพูชา” ก่อนอ่านแถลงการณ์ประณาม “เขมร” ไม่จริงใจ เอารัดเอาเปรียบ กระตุกนายกฯ​ รักษาผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก พลเอกสวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา นำคณะ กมธ. ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีเหตุกระทบกระทั่งหรือความตึงเครียดจากการปะทะกันระหว่างกำลังทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ว่า จากการติดตามความเคลื่อนไหวพบว่าเหมือนการดำเนินการของเราจะตามหลังฝ่ายกัมพูชา พลเอกสวัสดิ์ ได้อ่านแถลงการณ์ ว่า จากกรณีดังกล่าวคณะกรรมาธิการทหารรู้สึกไม่สบายใจและรับรู้ถึงความไม่พอใจของประชาชนทั่วไป จึงขอประกาศจุดยืนของคณะกรรมาธิการต่อสถานการณ์แนวชายแดนไทย -กัมพูชา ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่และสภาพจิตใจของพี่น้องประชาชน คนไทยผู้รักชาติและฝ่ายกัมพูชาได้ดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้เปรียบประเทศไทย ขอประณามการกระทำอันไร้ความจริงใจและความพยายามเอารัดเอาเปรียบของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งจากการติดตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้วยความห่วงใยและต่อเนื่อง จึงมีความคิดเห็นดังนี้ รัฐบาลต้องดำเนินการทุกหนทางเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยอย่างเต็มขีดความสามารถ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลักและควรแสดงความไม่พอใจใน เหตุการณ์ต่างๆที่ฝ่ายกัมพูชากระทำแทนพี่น้องประชาชนคนไทยให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อหาทาง โดยคณะกรรมการสนับสนุนให้มีการเจรจาเพื่อหาทางออกและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธีและใช้กลไกทวิภาคี และให้ความสำคัญต่อการปกป้องผลประโยชน์ของชาติใน ทุกมิติอีกครั้งติดตามและตรวจสอบความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาอย่างใกล้ชิด พร้อมขอยกย่องและให้กำลังใจทหารทุกนายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกระดับ ในความเสียสละ อดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุ ยึดมั่นในหลักสันติวิธี เพื่อปกป้องอธิปไตยและความสงบเรียบร้อยของประเทศชาติ และขอแสดงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ตามพื้นที่บริเวณแนวชายแดนไทย กัมพูชา […]

อธิบดีกรมการปกครอง เผยคนพื้นที่กำลังใจเต็มร้อย ซ้อมอพยพตามแผนปกติ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- อธิบดีกรมการปกครอง เผยเตรียมการอพยพ 7 จังหวัดชายแดนแค่ซักซ้อม ประชาชนในพื้นที่กำลังใจเต็มร้อย พร้อมย้ำว่าอย่าตระหนก นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าร่วมประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ขณะนี้มีการซักซ้อมอพยพ ถือเป็นเรื่องปกติที่จะใช้แผนในการซักซ้อมหนีภัย เมื่อมีสถานการณ์ความไม่สงบ สำหรับหน้าที่ของ 7 จังหวัด หลังจากการประกาศซักซ้อม ทุกท่านก็ทราบอยู่แล้ว แม้ไม่มีสถานการณ์ แต่ก็มีการซักซ้อมอยู่เป็นปกติ หากเกิดสถานการณ์สามารถอพยพได้ทันที เพราะทุกจุดทราบอยู่แล้วว่าใครรับผิดชอบตรงไหนอย่างไร เมื่อถามต่อว่า จำนวนหลุมหลบภัยเพียงพอหรือไม่ นายไชยวัฒน์ ระบุว่า โดยหลักถือว่าเพียงพอ แต่จุดไหนที่ไม่พอก็จะมีแผนว่าจะต้องอพยพไปที่จุดไหน อย่างบางหมู่บ้านที่มีหลุมหลบภัยไม่พอ ก็จะอพยพไปในพื้นที่ที่รองรับได้ ส่วนการลงพื้นที่ตรวจราชการของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะลงพื้นที่ด้วยตนเองหรือไม่ นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ต้องเรียนถามท่าน เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่อยู่ต่างประเทศ เมื่อถามว่า พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ถือเป็นจุดที่มีความเสี่ยงมากที่สุดหรือไม่ นายไชยวัฒน์ ระบุว่า แต่ละจุดมีความเสี่ยงเหมือนกัน เราจึงได้ประกาศ แผนซักซ้อมการอพยพใน 7 จังหวัด […]

1 8 9 10 11 12 28
...