จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดจุดตรวจตามแนวชายแดน

26 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจ เพิ่มความเข้มงวดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนทยอยอพยพออกนอกพื้นที่ หลังกระแสข่าวกัมพูชาหันปากกระบอกปืนมาฝั่งไทย หวั่นปะทะอีก สถานการณ์ชายแดนไทย บริเวณจุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน บ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พบว่ามีการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจการเดินเข้า-ออก ไปยังพื้นที่ชายแดน และมีการเบิกอาวุธประจำกายมาจากที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อให้นำมาติดตัวไว้ในการปฏิบัติภารกิจหน้าแนวชายแดน หลังมีกระแสข่าวว่าจะผลักดันชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาในดินแดนอธิปไตยไทยออกไปในวันที่ 26 ก.ย.นี้ ส่วนที่โรงเรียนบ้านหนองเสม็ด ห่างจากชายแดน เพียง 3 กิโลเมตร ปรับการเรียนการสอนให้เรียนออนไลน์ และประกาศหยุดเรียนตั้งแต่วานนี้ จนถึงวันจันทร์ที่ 29 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ต้องประเมินสถานการณ์วันต่อวัน หากสถานการณ์ปลอดภัยก็จะกลับมาเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ ความเคลื่อนไหวของกัมพูชา ที่บริเวณแนวลวดหนามป้องกันตนเอง บ้านหนองหญ้าแก้ว ไม่มีมวลชนกัมพูชา มายืนแสดงตัวหรือกระทำการใดๆที่บริเวณแนวลวดหนาม แต่เมื่อตรวจสอบด้วยภาพมุมสูง มีการตั้งจุดรวมพล มีรถหลายสิบคัน แต่ผู้คนยังบางตา คาดหลบอยู่ใต้หลังคา หรือไม่ก็เพิงพักต่างๆ ส่วนที่ป่ายูคาใกล้หลักเขตที่ 46 บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น กำลังทหารกัมพูชา และมวลชน บางตา มีการถ่ายภาพ เจ้าหน้าที่ ฝั่งเจ้าหน้าที่ไทย ซึ่งฝ่ายไทยก็ได้บันทึกไว้เพื่อเป็นข้อมูลด้วยเช่นกัน […]

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านที่สุรินทร์เริ่มอพยพมาอยู่ศูนย์พักพิง

สุรินทร์ 26 ก.ย. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ ทยอยเข้ามาอยู่ศูนย์พักพิงในตัวเมือง มีทั้งเด็ก คนชรา และผู้ป่วยติดเตียง ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ ทยอยเข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิง ภายในวัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุรินทร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ อสม. มาตั้งเต็นท์ รอลงทะเบียนรับชาวบ้านที่อยู่ติดชายแดนห่างจากปราสาทตาควาย 7 กิโลเมตร ทยอยอพยพมาตั้งแต่เมื่อวาน รวมแล้วประมาณ 37 คน ซึ่งคาดว่าน่าจะทยอยกันมาเรื่อยๆ มีทั้งเด็ก คนชรา และผู้ป่วยติดเตียง ขณะที่ชาวบ้านพูดเสียงเดียวกันว่า ทำการอพยพตามเจ้าหน้าที่ทหารบอก เสียสละเพื่อเปิดทางให้ทางทหารจัดการให้จบในเร็ววัน ชาวบ้านจะได้ทำมาหากินและกลับไปใช้ชีวิตปกติ.-สำนักข่าวไทย

มวลชนเขมรประชิดรั้วลวดหนาม บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 23 ก.ย.- สถานการณ์ชายแดน จ.สระแก้ว ยังคงตึงเครียด มวลชนกัมพูชาเคลื่อนไหวประชิดแนวรั้วลวดหนาม ขณะที่ทหารกัมพูชายิงปืนเล็กยั่วยุเป็นระยะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เริ่มมีความเคลื่อนไหวจากฝั่งกัมพูชาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เช้า หลังได้รับสัญญาณนัดหมายล่วงหน้าจากผู้นำท้องถิ่นกัมพูชาให้ประชาชนเข้ามาปักหลักรวมตัวบริเวณใกล้แนวรั้วลวดหนามชายแดน โดยพบว่ามีพระสงฆ์ชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่งนำหน้าเข้ามา พร้อมด้วยชาวบ้านทั้งชายหญิง ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้พิการ รวมแล้วกว่า 100 คน ทยอยเดินทางเข้าพื้นที่อย่างเป็นระเบียบ โดยใช้เส้นทางจากหมู่บ้านเปรยจันและหมู่บ้านใกล้เคียง เพื่อเข้ามาปักหลักอาศัยในเพิงพักชั่วคราวบริเวณชายแดนฝั่งกัมพูชา ตรงข้ามบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงไทยระบุว่า การรวมตัวครั้งนี้เป็นไปตามรายงานที่แจ้งมาก่อนหน้า ว่าจะมีการนัดหมายกลุ่มชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาเข้ามาเพื่อกดดันทางการไทยต่อเนื่อง หลังจากตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกลุ่มมวลชนทยอยเดินทางเข้ามาปักหลักพักค้างคืนในพื้นที่ชายแดน และเคลื่อนไหวเป็นระยะ ด้านการรักษาความปลอดภัย กองกำลังบูรพา จัดกำลังลาดตระเวนอย่างเข้มงวด พร้อมนำโดรนบินตรวจสอบความเคลื่อนไหวตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย เบื้องต้นยังไม่พบการกระทำที่เป็นการยั่วยุหรือใช้ความรุนแรงจากฝั่งกัมพูชา แต่บรรยากาศโดยรวมเริ่มตึงเครียดมากขึ้น เนื่องจากจำนวนผู้ชุมนุมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รายงานเพิ่มเติมจากพื้นที่ฝั่งกัมพูชาระบุว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีการสนับสนุนโดยตรงจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในจังหวัด รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง จัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็นแจกจ่ายแก่กลุ่มผู้ชุมนุมอย่างไม่จำกัด เพื่อสร้างความมั่นใจว่าประชาชนที่เข้ามาปักหลักจะสามารถอยู่ในพื้นที่ได้ต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ฝ่ายไทยยังคงยึดหลักการปฏิบัติที่ระมัดระวังและอยู่ในกรอบสากล โดยมีการประสานฝ่ายปกครองท้องถิ่นและผู้นำชุมชนใน อ.โคกสูง ให้ร่วมเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด […]

เฝ้าระวังมวลชนกัมพูชา ป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 22 ก.ย. – ติดตามสถานการณ์ชายแดนที่จังหวัดสระแก้ว ล่าสุดพบว่ายังมีมวลชนชาวกัมพูชาออกมาเคลื่อนไหว ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีเปิดด่านเขาดิน สั่งดำเนินคดีปล่อยเฟคนิวส์ ช่วงเช้าที่ผ่านมาจากการตรวจสอบพบภาพมุมสูงปรากฏว่า มีกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชา เดินทางเข้ามาอยู่ที่บริเวณเพิงพักหลังคาสีน้ำเงิน ประมาณ 30-40 คน โดยไม่ได้ออกมาปรากฏตัวในเชิงแสดงออกหรือกระทำอะไร ส่วนช่วงเช้าที่บริเวณบ้านหนองจาน จุดแรกที่แนวลวดหนามหลัก ไม่พบชาวกัมพูชาออกมาเคลื่อนไหวใดๆ ส่วนจุดที่บริเวณป่ายูคาใกล้หลักเขต 46 บ้านหนองจานนั้น มีเพียงทหารกัมพูชาประมาณ 10 คน และไม่มีการเคลื่อนไหวอื่นๆ นอกจากนี้บรรยากาศที่จุดตรวจ ชรบ.บ้านหนองหญ้าแก้ว โดยมีกลุ่มชาวฉะเชิงเทรา เดินทางนำอาหารสดมาประกอบอาหาร เมนูหอยทอด เพื่อแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานแนวหน้า จำนวน 600 กล่อง นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ลงพื้นที่ตรวจสอบด่านถาวรบ้านเขาดิน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ภายหลังมีการเผยแพร่ข่าวลือผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า “มีการเปิดด่านบ้านเขาดิน” จนสร้างความสับสนแก่ประชาชน โดยพบบรรยากาศที่ด่านถาวรบ้านเขาดินเป็นไปอย่างเงียบเหงา ด่านยังคงปิดสนิท ไม่มีการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ ทั้งการนำเข้า-ส่งออก หรือการสัญจรข้ามแดนแต่อย่างใด นายปริญญา กล่าวว่า ด่านถาวรบ้านเขาดินถูกปิดทำการมานานแล้ว ข่าวที่ออกไปว่าเปิดด่านนั้น เป็นเฟคนิวส์ที่สร้างความเสียหาย […]

ชาวบ้านวอน “อนุทิน” จัดการปัญหากัมพูชาให้เด็ดขาด

บุรีรัมย์ 21 ก.ย. – ชาวบ้านชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ เรียกร้อง “นายกฯ อนุทิน” จัดการกัมพูชาให้เด็ดขาด หลังต้องใช้ชีวิตหวาดระแวงมานาน กระทบการทำมาหากิน สถานการณ์แนวชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ แม้ล่าสุดจะสงบเรียบร้อยแต่ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง เนื่องจากยังมีสถานการณ์ความวุ่นวายที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ทำให้กลัวว่าจะบานปลายจนเกิดการสู้รบอีกรอบ ออกไปทำมาหากินก็ไม่ค่อยกล้า ทำให้ขาดรายได้ จึงอยากเรียกร้องให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จริงใจแก้ปัญหาชายแดนให้จบโดยเร็ว จัดการกับกัมพูชาให้เด็ดขาด ไม่ให้เข้ามาลุกล้ำอธิปไตย ชาวบ้านยังฝากถึงทหารแนวหน้าว่า ชาวบ้านพร้อมเสียสละและอพยพออกจากพื้นที่ทุกเมื่อ แม้จะต้องทิ้งบ้านไม่ได้ทำมาหากิน เพื่อเปิดทางให้ทหารจัดการกับกัมพูชา แต่ขอให้เด็ดขาดไม่ให้ยืดเยื้อไปถึงรุ่นลูกหลานอีก อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องเงินเยียวยาครั้งก่อนครัวเรือนละ 5,000 บาท จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับ หากมีการอพยพอีกรอบก็คงจะเดือดร้อน ก็อยากให้เร่งจ่ายเงินรอบแรก.-สำนักข่าวไทย

จับกุมกัมพูชาลักลอบเข้าไทย กลัวอดตายไม่มีอาชีพ

สระแก้ว 21 ก.ย. – ทหารไทย จับกุมชาวกัมพูชา ลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนจังหวัดสระแก้ว อ้างอยู่ฝั่งกัมพูชาหากินลำบาก รายได้ไม่พอกินจึงตัดสินใจหนีข้ามแดนมา กองกำลังบูรพา หน่วยเฉพาะกิจคลองหาด โดยชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 กำลังทหารชุดเฉพาะกิจร้อย ทพ.1302 เฝ้าตรวจพื้นที่ล่อแหลม ป้องกันการลักลอบข้ามแดนของแรงงานต่างด้าว บ.ทับทิมสยาม 05 หมู่ 10 ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว จับกุมชาวกัมพูชาลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยผิดกฎหมาย 15 คน และผู้ติดตาม 5 คน ตรวจค้นเอกสารการผ่าน เข้า-ออก ราชอาณาจักร ไม่ถูกต้อง เบื้องต้นแรงงานชาวกัมพูชา สารภาพเดินทางมาจาก จ.บันเตียเมียนเจย และจะเดินทางไปทำงานในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย โดยเสียค่าเดินทางเข้ามาคนละ 6,000 บาท ทุกคนบอกว่าที่ลักลอบเข้ามาเพราะอยากมาหางานทำ อยู่ฝั่งกัมพูชาหากินลำบากรายได้ไม่พอเลี้ยงชีพ หลังสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ได้คุมตัวทั้ง 20 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหาด เพื่อสอบปากคำและแจ้งข้อหาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ยกอำนาจให้ทหารตัดสินใจ เปิดด่าน-สร้างรั้วชายแดน

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.- “อนุทิน” ยกอำนาจให้ “ทหาร” ตัดสินใจ ‘เปิดด่าน-สร้างรั้วชายแดน’ ลั่น ขอหนุนทหารปักธงไทยให้คนไทยชื่นใจ ส่วนรัฐบาลขอเดินหน้าการทูต ยันไม่มีใครล็อบบี้ได้ ส่วนการเจรจาจะทำหลังยุติเหตุก่อกวน จ่อคุมเข้มพื้นที่เพิ่มเติม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการปิดด่านและการสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย กัมพูชา โดยระบุว่า ได้ทำความเข้าใจกับการทหารแล้ว ว่าเมื่อตนได้เข้ารับตำแหน่งฝ่ายบริหารประเทศเมื่อไหร่ ก็จะให้ทหารได้ตัดสินใจเต็มที่ รัฐบาลที่กำลังเข้ามาจะให้การสนับสนุน เคารพการตัดสินใจของฝ่ายการทหาร ส่วนรัฐบาลจะทำเรื่องการทูต และเงื่อนไขที่ต้องเจรจาต่าง ๆ นายอนุทิน ย้ำว่า ต้องมีความชัดเจนว่าเราไม่ยอมรับเงื่อนไข แต่เขาต้องยอมรับเงื่อนไขเราเท่านั้น จึงจะดำเนินการเรื่องอื่นต่อไปได้ ตนอยากให้มีความชัดเจนในตรงนี้ เพราะที่ผ่านมามีการคาดคะเนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้นำต่างประเทศโทรมาล็อบบี้ตน “ ผมล็อบบี้ไม่ได้หรอกครับ ผมไม่มีใครมาล็อบบี้ได้ ผมต้องทำให้กับคนคนไทย ประเทศไทยเท่านั้น ไม่มีการต่อรองใด ๆ จนกว่าเขาจะรับเงื่อนไขที่เราตั้งไว้”นายอนถทิน กล่าว ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงการจัดการของรัฐบาล เนื่องจากยังมีอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินวนอยู่รอบภูมะเขือ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องการทหารขอให้ทหารตัดสินใจ อยากปักธงไทยตรงไหน ขอให้ไปปักให้คนไทยได้ชื่นใจ ในที่ที่เป็นของคนไทย […]

พบชาวกัมพูชายังปักหลักอยู่จุดที่เคยปะทะ

สระแก้ว 19 ก.ย. – กองทัพบก นำคณะสื่อลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่บริเวณชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว พบยังคงมีชาวกัมพูชาปักหลักอยู่จุดที่เคยปะทะ บรรยากาศช่วงเช้า ที่บริเวณชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก ได้นำคณะสื่อลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ พบว่ายังคงมีชาวกัมพูชาปักหลักอยู่ที่บริเวณรั้วลวดหนามจำนวนมาก ใกล้กับจุดที่เกิดการประทะกันเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ซึ่งคาดว่าเป็นความพยายามเพื่อจะยึดพื้นที่ที่เป็นดินแดนของไทย พันเอกชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.12 ชี้แจงถึงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วบางส่วน ที่มีความพยายามจากชาวกัมพูชา อ้างว่าอาศัยอยู่มานานแล้ว แต่ในข้อเท็จจริง ยืนยันว่าพื้นที่ในสามเหลี่ยมสีฟ้า เป็นของไทยทั้งหมด โดยอ้างอิงตาม MOU 43 ที่มีเส้นเขตแดนของทั้งสองฝั่งที่ยังตกลงกันไม่ได้ คือเส้นสีแดงและสีน้ำเงินเท่านั้น และยืนยันว่า ไม่ว่าจะมีการทำลายหรือย้ายหมุดอย่างไร ก็ไม่สามารถทำให้เส้นเขตแดนไทยเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งการดำเนินการหากมีการรุกล้ำเข้ามาในแนวรั้วลวดหนาม จะใช้วิธีการทางกฎหมายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจากเบาไปหาหนัก ส่วนกำลังทหารจะเพียงช่วยดูแลหากมีการพังรั้วลวดหนาม แต่จะไม่มีการใช้อาวุธใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้เกิดการเพลี่ยงพล้ำในเวทีโลก พร้อมยืนยันว่าทางการไทย เคยส่งหนังสือประท้วงไปยังกัมพูชา นับตั้งแต่ปี 2551 เป็นจำนวนถึง 12 ครั้ง รวมถึงปักป้ายประกาศให้ชาวกัมพูชาออกไปจากพื้นที่ แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดจากทางฝั่งกัมพูชา ซึ่งก่อนหน้านี้ไทยสามารถยึดคืนพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วคืนจากชาวกัมพูชาได้แล้วกว่า 100 ไร่ ที่ปรากฏตามแนวรั้วลวดหนาม เหลือส่วนที่ยังมีชาวกัมพูชาอาศัยอยู่อีก […]

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

1 2 3 7
...