จีนออกกฎหมายปรับปรุงสาธารณสุข-ถอดบทเรียนจากโควิด

ปักกิ่ง 12 ก.ย. – สภาประชาชนแห่งชาติของจีนได้ผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่งในวันนี้ เพื่อให้การรับมือภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยให้อำนาจประชาชนในการรายงานเหตุฉุกเฉินได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านโครงสร้างลำดับชั้นของรัฐบาลตามปกติ สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า กฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เมืองอู่ฮั่นของจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงแรก ถูกกล่าวหาว่าดำเนินการล่าช้าในการรายงานการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในช่วงปลายปี 2019 จักษุแพทย์คนหนึ่งในโรงพยาบาลที่เมืองอู่ฮั่น เคยแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ในช่วงต้นปี 2020 แต่กลับถูกตำรวจท้องถิ่นตักเตือนฐาน “เผยแพร่ข่าวลือ” โดยเขาเสียชีวิตในอีกหนึ่งเดือนต่อมา ซึ่งจุดชนวนให้เกิดคลื่นความโศกเศร้าและความไม่พอใจในหมู่ประชาชน นับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 รัฐบาลจีนได้กำหนดให้ท้องถิ่นต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นสำหรับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข และปรับปรุงการตรวจจับและควบคุมการแพร่ระบาดในช่วงต้น ตามร่างกฎหมายนี้ระบุว่า บุคคลหรือหน่วยงานใดก็ตามที่พบภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข สามารถรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวไปยังรัฐบาลท้องถิ่นหรือหน่วยงานควบคุมและป้องกันโรคได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนระดับกลาง นอกจากนี้ ร่างกฎหมายยังระบุว่า หลังจากเกิดเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขึ้น รัฐบาลประจำเขตที่เกิดเหตุควรเริ่มดำเนินการรับมือทันที และสามารถรายงานไปยังหน่วยงานที่สูงขึ้นได้หากจำเป็น ในช่วงการรับมือภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข รัฐบาลท้องถิ่นระดับเขตขึ้นไปควรให้บริการทางการแพทย์ขั้นพื้นฐาน ดูแลเป็นพิเศษ และรับประกันว่าผู้คนจะได้รับการรักษาพยาบาล ตามข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก นับจนถึงสิ้นปี 2023 มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกสูงถึง 21 ล้านคน ซึ่งเกินกว่ายอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการที่ประมาณ 7 ล้านคน.-813.-สำนักข่าวไทย

กรุงปักกิ่งติดอันดับ ‘เมืองท่องเที่ยว’ ชั้นนำของโลก

ปักกิ่ง 12 ก.ย. — รายงานจากการประชุมโลกด้านความร่วมมือและการพัฒนาทางการท่องเที่ยว (World Conference on Tourism Cooperation and Development) ปี 2025 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาระบุว่า กรุงปักกิ่งของจีนจัดอยู่ในกลุ่มเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของโลกด้วยจุดแข็งรอบด้าน รายงานการพัฒนาเมืองท่องเที่ยวโลก (ปี 2024-2025) ซึ่งเป็นรายงานหลักของสหพันธ์เมืองท่องเที่ยวโลก (WTCF) ที่เผยแพร่เป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2014 ได้จัดให้กรุงปักกิ่งอยู่อันดับ 7 ของโลกตามการประเมินอย่างรอบด้าน ทำให้กรุงปักกิ่งขยับขึ้นมาหนึ่งอันดับจากการประเมินครั้งก่อน ส่วนนครเซี่ยงไฮ้ครองอันดับ 9 และเขตบริหารพิเศษฮ่องกงครองอันดับ 11 ขณะสามอันดับแรกของการประเมินครั้งนี้ ได้แก่ มหานครนิวยอร์ก กรุงโตเกียว และกรุงปารีส สำหรับห้าเมืองของจีนได้แก่ มาเก๊า ฮ่องกง หางโจว เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม 10 อันดับแรกของโลกในด้านความอัจฉริยะของเมือง ซึ่งตอกย้ำความก้าวหน้าของจีนในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล และการบริการการท่องเที่ยวที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (AI) นอกจากนั้นกรุงปักกิ่งครองอันดับ 5 ในรายงานดัชนีศักยภาพการแข่งขันจุดหมายท่องเที่ยวโลก (ปี […]

อดีตประธาน ก.ล.ต. จีนถูกสอบสวนคดีทุจริต

ปักกิ่ง 7 ก.ย. – คณะกรรมการตรวจสอบวินัยกลาง (Central Commission for Discipline Inspection) ซึ่งเป็นหน่วยงานปราบปรามทุจริตของจีน เปิดเผยในวันเสาร์ว่า นายอี้ ฮุ่ยหม่าน อดีตประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน หรือ ซีเอสอาร์ซี (CSRC) กำลังถูกสอบสวนจากกรณีต้องสงสัยว่าทำผิดกฎหมายร้ายแรง แถลงการณ์สั้น ๆ บนเว็บไซต์ของหน่วยงานระบุว่า นายอี้ วัย 60 ปี ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารสูงสุดของซีเอสอาร์ซีกำลังถูกสอบสวนและ “ต้องสงสัยว่าละเมิดวินัยและกฎหมายอย่างร้ายแรง” แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมใด ๆ แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายอี้ไปสอบสวนตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซีเอสอาร์ซี ได้ออกแถลงการณ์บนเว็บไซต์ของตนเองว่า การดำเนินการกับนายอี้ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึง ความไม่ยอมทนต่อการทุจริตของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าการต่อสู้กับการทุจริตจะดำเนินต่อไปจนถึงที่สุด แถลงการณ์ยังเสริมอีกว่าจะเสริมสร้างการกำกับดูแลตามกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันความเสี่ยง พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพของตลาดทุนเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม นายอี้ ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารของธนาคารเพื่ออุตสาหกรรมและการค้าแห่งประเทศจีน ที่เขาเริ่มต้นทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่สินเชื่อฝึกหัดเมื่อปี 1985 ได้รับตำแหน่งประธานซีเอสอาร์ซี ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของคณะรัฐมนตรีจีน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2019 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2024 เขาถูกปลดจากตำแหน่งอย่างไม่คาดคิดเมื่อปีที่แล้ว หลังจากตลาดหุ้นในประเทศซบเซาจนดัชนีหลักตกลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี โดยมีนายอู๋ […]

‘ทรัมป์’ ระบุดูเหมือนเสียอินเดียและรัสเซียให้จีนไปแล้ว

วอชิงตัน, 6 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวว่า ดูเหมือนจะสูญเสียอินเดียและรัสเซียไปให้กับจีนแล้ว หลังจากที่ผู้นำของทั้งสองประเทศได้พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ในสัปดาห์นี้ โดยเขาได้แสดงความรู้สึกรำคาญใจต่ออินเดียและรัสเซีย ในขณะที่จีนกำลังผลักดันระเบียบโลกใหม่ นายทรัมป์โพสต์ข้อความผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ของเขาว่า ดูเหมือนว่าจะเสียอินเดียและรัสเซียไปให้กับจีนที่ที่ลึกล้ำดำมืดที่สุดไปแล้ว ขออวยพรให้พวกเขามีอนาคตที่ยืนยาวและรุ่งเรืองร่วมกัน พร้อมกันนั้นเขาก็ลงภาพถ่ายของผู้นำทั้งสามคนร่วมกันในการประชุมสุดยอดที่ประเทศจีน ที่นายสีเป็นเจ้าภาพเมื่อไม่นานมานี้ อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาไม่นาน นายทรัมป์กลับกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเขาไม่คิดว่าสหรัฐได้สูญเสียอินเดียให้กับจีน เขากล่าวว่า เขาผมรู้สึกผิดหวังมากที่อินเดียซื้อน้ำมันจากรัสเซียเป็นปริมาณมาก นายสีเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้นำจากประเทศนอกกลุ่มตะวันตกกว่า 20 คน ในการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ หรือ เอสซีโอ (SCO) ที่เมืองท่าเทียนจินของจีน ซึ่งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย เข้าร่วมในการประชุมด้วย นายทรัมป์ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและอินเดียเย็นชา ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าและข้อพิพาทอื่นๆ และในสัปดาห์นี้ นายทรัมป์กล่าวว่าเขา “ผิดหวังมาก” ในตัวนายปูติน แต่ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย-จีนแต่อย่างใด นายทรัมป์รู้สึกไม่พอใจที่ไม่สามารถโน้มน้าวให้รัสเซียและยูเครนยุติสงครามได้ หลังจากที่กองกำลังรัสเซียบุกยูเครนมานานกว่าสามปี เขาบอกกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวในคืนวันพฤหัสบดีว่าเขาวางแผนจะพูดคุยกับนายปูตินในไม่ช้านี้.-813.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเกาหลีเหนือกลับถึงกรุงเปียงยางแล้ว

โซล 6 ก.ย. – สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือรายงานในวันศุกร์ว่า นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เดินทางกลับถึงกรุงเปียงยางแล้วเมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังเสร็จสิ้นการเยือนประเทศจีน เพื่อร่วมชมพิธีสวนสนามครั้งใหญ่ในกรุงปักกิ่ง ภาพถ่ายที่เผยแพร่โดยสื่อของรัฐยืนยันว่า คิม จูแอ บุตรสาวของนายคิมได้ร่วมเดินทางด้วยรถไฟกลับบ้านพร้อมกับบิดาของเธอ ก่อนหน้านี้ เธอเคยปรากฏตัวขณะที่นายคิมลงจากรถไฟกันกระสุนเมื่อเดินทางถึงประเทศจีนในวันอังคาร แต่ไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณะตลอดช่วงที่เหลือของการเยือนจีนครั้งนี้ การปรากฏตัวของเธอในครั้งนี้ยิ่งเพิ่มการคาดเดาว่าเธออาจเป็นผู้สืบทอดอำนาจต่อจากบิดาของเธอในการปกครองประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งส่งต่ออำนาจการบริหารประเทศแบบสืบทอดทางตระกูลก่อนหน้านี้ เธอเคยปรากฏตัวเคียงข้างบิดาของเธอในการสังเกตการณ์การยิงขีปนาวุธครั้งสำคัญหลายครั้ง.-813.-สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : เธอคือผู้สืบทอดบัลลังก์ตระกูลคิม

5 ก.ย. – ควันหลงจากพิธีสวนสนามวันแห่งชัยชนะของจีนที่โลกได้เห็นบุตรสาวของนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ปรากฏตัวในต่างประเทศเป็นครั้งแรก รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามว่ามีนัยสำคัญอย่างไร พิธีใหญ่ระดับโลกที่จีนเป็นอีกครั้งที่ตอกย้ำความคาดหมายจากผู้สันทัดกรณีว่าผู้ที่ถูกวางตัวเป็นทายาทของผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ น่าจะเป็นบุตรสาวของเขา ผู้ซึ่งแม้ยังเป็นวัยรุ่นแต่เริ่มมีบทบาท เมื่อผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือปรากฏตัว บุตรสาวคนนี้มักอยู่เคียงข้างราวกับเงาตามตัว ครั้งนี้ร่วมภารกิจของนายคิม จองอึน บนเวทีนานาชาติครั้งแรก และเป็นครั้งสำคัญที่สุดของบิดา ร่วมการสวนสนามวันแห่งชัยชนะในกรุงปักกิ่งของจีน ที่ยังเป็นวาระสำคัญในการสำแดงแนวร่วมแห่งระเบียบโลกใหม่ของผู้นำจีนด้วย หรือผู้นำเกาหลีเหนือต้องการบอกว่านี่คือทายาทการเมืองเขา ทุกอย่างยังเป็นปริศนาในระบอบปกครองแบบสืบสายเลือดของเกาหลีเหนือ แม้แต่ชื่อบุตรสาวคนนี้ของนายคิม จองอึน ยังเป็นเพียงคำบอกเล่าของเดนิส ร็อดแมน นักบาสเกตบอลเอ็นบีเอ เพื่อนรักของนายคิม เปิดเผยกับสื่อเมื่อครั้งไปเยือนเกาหลีเหนือเมื่อกว่า 10 ปีก่อน รายงานของสำนักงานข่าวกรองเกาหลีเมื่อปี 2017 ระบุว่า นายคิม มีบุตรกับภรรยา รี โซลจู 3 คน คิม จูแอ เป็นคนที่สอง เกิดปี 2013 จึงคาดเดาว่าอายุระหว่าง 12-13 ปี ชื่นชอบการว่ายน้ำ สกี และขี่ม้า โดยยังมีพี่ชายอายุมากว่าราว 3 […]

‘คิม จอง อึน’ เดินทางออกจากกรุงปักกิ่งแล้ว

ปักกิ่ง 5 ก.ย. – โทรทัศน์เคอาร์ทีของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานวันนี้ว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ เดินทางออกจากกรุงปักกิ่งของจีนแล้ว หลังจากได้พบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน โทรทัศน์เคอาร์ทียืนยันว่านายคิมเดินทางออกจากกรุงปักกิ่งในวันพฤหัสบดีเพื่อกลับไปยังเกาหลีเหนือ โดยมีเจ้าหน้าที่อาวุโสของจีนเข้าร่วมส่งนายคิม ซึ่งรวมถึงนายไช่ ฉี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ และนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน นายคิม เดินทางเยือนจีนครั้งนี้เพื่อเข้าร่วมในพิธีสวนสนามครั้งใหญ่เพื่อฉลองครบรอบ 80 ปี สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายคิมยังได้พบหารือกับนายสี ในระหว่างที่เยือนกรุงปักกิ่งด้วย สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือรายงานในวันศุกร์ว่า นายคิมบอกกับประธานาธิบดีสีว่า เกาหลีเหนือจะยังคงสนับสนุนจีนในการปกป้องอำนาจอธิปไตย อาณาเขต และผลประโยชน์ในการพัฒนาของจีนต่อไป นายคิมได้บอกกับนายสี ในระหว่างการพูดคุยทวิภาคีที่กรุงปักกิ่งในวันพฤหัสบดีว่า ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ความรู้สึกมิตรภาพระหว่างเกาหลีเหนือและจีนจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เคซีเอ็นเอ รายงานด้วยว่า นายสีได้กล่าวกับนายคิมว่า จีนและเกาหลีเหนือเป็น เพื่อนบ้านที่ดี เพื่อนที่ดี และสหายที่ดี ที่มีชะตากรรมร่วมกัน เคซีเอ็นเอระบุว่า ผู้นำทั้งสองได้หารือเกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์และการปกป้องผลประโยชน์ร่วมกันในประเด็นระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค รวมถึงการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองประเทศและการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ให้มากขึ้น ในขณะเดียวกัน […]

9 ทันโลก : จีนสวนสนามประกาศศักดาอาวุธสุดล้ำ

จีน 4 ก.ย. – เมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) จีนจัดพิธีสวนสนามรำลึกชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 รายงาน 9 ทันโลกจะพาไปสำรวจอาวุธต่างๆ ที่จีนได้เผยโฉมเป็นครั้งแรก การแสดงแสนยานุภาพทางการทหารของจีนมีอาวุธรุ่นใหม่ๆ มากมายมาอวดโฉม คนในวงการและคู่แข่งต้องกำลังวิเคราะห์หาข้อมูลอย่างละเอียด เพราะมีความสำคัญด้านภูมิรัฐศาสตร์ ทิศทางด้านการทหารของจีน และบ่งชี้ว่าจีนอาจกำลังเร่งเครื่องเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ของโลกด้วย ในวาระการฉลองวันแห่งชัยชนะของชนชาติจีน จีนยังได้จัดแสดงแสนยานุภาพทางการทหารครั้งใหญ่ต่อหน้าผู้นำ 26 ชาติในพิธีและทั่วโลก ในสุนทรพจน์ ผู้นำจีนประกาศว่าจีนจะไม่เกรงกลัวผู้ข่มเหงรังแกในจัตุรัสเทียนอันเหมิน อาวุธทันสมัยน้อยใหญ่ ขีปนาวุธนิวเคลียร์ โดรนล่องหน ไปจนถึงหุ่นยนต์ เปิดตัวเป็นครั้งแรก สุดยอดของความล้ำสมัย อาวุธทางยุทธศาสตร์ที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงและโจมตีจากระยะไกล สร้างผลกระทบต่อกำลังพลและขวัญกำลังใจ อาจจะเรียกว่าเป็นพระเอกของงาน คือ ขีปนาวุธรุ่นตงเฟิง 61 ปรากฏโฉมเป็นครั้งแรกด้วยข้อมูลที่น้อยมาก คาดว่าเป็นรุ่นใหม่พัฒนาต่อยอดจาก ตงเฟิง-41 ที่เคยเปิดตัวเมื่อ 7 ปีก่อน จึงคาดว่ามีพิสัยทำการ 15,000 กิโลเมตรใกล้เคียงกัน จุดเด่นที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ไปประจำการหรือเก็บซ่อนไว้แล้ว ยังติดหัวรบได้คราวเดียวสูงสุด 14 หัวรบ โจมตีหลายเป้าหมายได้พร้อมกัน ตงเฟิง-61 เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายของจีนในการเพิ่มจำนวนหัวรบนิวเคลียร์เป็น 1,000 หัวรบ […]

ผู้นำจีนประชุมทวิภาคีย้ำสัมพันธ์กับหลายประเทศ

ปักกิ่ง 4 ก.ย. – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จัดการประชุมทวิภาคีในวันนี้ กับบรรดาผู้นำต่างประเทศที่เดินทางมาเยือนหนึ่งวันหลังจากที่จีนจัดการสวนสนามทางทหารครั้งใหญ่ เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านการป้องกันประเทศที่กำลังขยายตัว คณะผู้แทนจากซิมบับเว เวียดนาม คิวบา สาธารณรัฐคองโก และเซอร์เบีย ได้เข้าพบกับนายสี ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งตอกย้ำถึงความพยายามของจีนในการกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ผู้นำรัฐและรัฐบาลต่างประเทศกว่า 25 คน ได้เข้าร่วมการสวนสนามทางทหารครั้งใหญ่ในกรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ ซึ่งประธานาธิบดีสี พยายามจะสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศจีนเป็นผู้พิทักษ์ระเบียบโลกใหม่หลังยุคสหรัฐ งานรำลึกครบรอบ 80 ปีแห่งความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นเมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ ส่วนใหญ่ถูกผู้นำชาติตะวันตกเมินเฉย โดยมีประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เป็นแขกผู้มีเกียรติในพิธีครั้งนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

NEV production in China

ยกระดับ “หลิ่วโจว” เมืองอุตสาหกรรมดั้งเดิมเป็นเมืองอัจฉริยะ

หลิ่วโจว, กว่างซี 4 ก.ย. – เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงของจีนกำลังผลักดันเมืองหลิ่วโจวซึ่งเป็นมหานครแห่งอุตสาหกรรม ไปสู่ความเป็นศูนย์กลางของระบบการผลิตด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ เมืองหลิ่วโจว ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง กำลังพลิกโฉมจากแหล่งผลิตอุตสาหกรรมดั้งเดิมอย่างรถยนต์ เหล็กกล้า และเครื่องจักร ไปสู่การเป็นฐานนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ และคลัสเตอร์อุตสาหกรรม โดยใช้เทคโนโลยี AI เป็นตัวขับเคลื่อนการผลิต จะเห็นได้ว่าตามโรงงานผลิตยานยนต์ต่าง ๆ ในเมืองหลิ่วโจวล้วนใช้เทคโนโลยี AI ช่วยงาน เช่น โรงงานผลิตยานยนต์ขนาดใหญ่อย่างรถตักอัจฉริยะ ของบริษัทลุ่ยกง (LiuGong) ใช้ AI ช่วยแรงงานคน ทำให้การประกอบรถยนต์ 1 คัน ตลอดสายพานการผลิต ใช้เวลาเพียง 5-6 ชั่วโมงเท่านั้นก็เสร็จสิ้น การผลิตด้วยระบบอัจฉริยะ ช่วยให้บริษัทลุ่ยกง สามารถขยายตลาดส่งออกไปยังตลาดโลกได้มากขึ้น นาย เหยา ตงซวี่ ผู้อำนวยการฝ่ายการผลิตของบริษัทลุ่ยกง เผยว่า นับตั้งแต่บริษัทนำระบบการผลิตอัจฉริยะมาใช้ตั้งแต่ช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ทำให้ยอดขายรถตักพลังงานใหม่ของบริษัทลุ่ยกงเพิ่มขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย  เช่นเดียวกับ โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ของบริษัท SAIC-GM-Wuling Automobile Co., […]

‘ทรัมป์’ บอกจีนควรพูดถึงสหรัฐใน ‘พิธีสวนสนามอันสวยงาม’

วอชิงตัน 4 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวเมื่อวันพุธว่า “พิธีอันสวยงาม” ของจีนที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงวันสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ควรจะกล่าวถึงบทบาทที่สหรัฐมีต่อความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่น นายทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว เขาคิดว่าการสวนสนามครั้งใหญ่ที่กรุงปักกิ่งครั้งนี้ เป็นพิธีที่สวยงามมากและน่าประทับใจมาก ๆ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียในไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าโดยกล่าวเป็นนัยว่าบรรดาผู้นำต่างชาติที่พบปะกันในกรุงปักกิ่งอาจกำลังสมคบคิดต่อต้านสหรัฐก็ได้ นายทรัมป์ยังกล่าวว่า เขาดูประธานาธิบดีสี ซึ่งเป็นเพื่อนของเขากล่าวสุนทรพจน์เมื่อคืนนี้ แต่เขาคิดว่าสหรัฐควรถูกกล่าวถึงในสุนทรพจน์นั้นด้วย เพราะสหรัฐได้ช่วยเหลือจีนอย่างมาก ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้ทำให้การฉลองครบรอบ 80 ปีของการสิ้นสุดสงครามเป็นงานแสดงครั้งสำคัญของรัฐบาลและเพื่อแสดงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับประเทศที่ขัดแย้งกับสหรัฐ นายสีกล่าวถึงสงครามโลกครั้งที่สองว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในการ “ฟื้นฟูครั้งยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีน” เจ้าหน้าที่จีนกล่าวว่า นายสีได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลต่างประเทศและมิตรประเทศที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนจีน แต่เขาไม่ได้เน้นย้ำถึงบทบาทของสหรัฐในสงครามแต่อย่างใด นายทรัมป์โพสต์ข้อความทางแพลตฟอร์ม ทรูธ โซเชียลของเขาขณะชมการถ่ายทอดพิธีสวนสนามทางทหารครั้งใหญ่ ที่มีประะานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียและนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเข้าร่วมด้วย โดยกล่าวว่า โปรดฝากความคิดถึงอันอบอุ่นของผมไปยังนายปูตินและนายคิมในขณะที่คุณกำลังสมคบคิดต่อต้านสหรัฐ ในขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวว่าพวกไม่ได้สมคบคิดใด ๆ และว่าคำกล่าวของทรัมป์เป็นการประชดประชัน.-813.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเกาหลีเหนือและประธานรัฐสภาเกาหลีใต้จับมือทักทายกัน

โซล 3 ก.ย. – นายอู วอน-ชิก ประธานสมัชชาแห่งชาติเกาหลีใต้ ได้จับมือทักทายกับนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เมื่อทั้งสองพบกันระหว่างเข้าร่วมพิธีสวนสนามครั้งใหญ่ในกรุงปักกิ่งของจีน ในวันนี้ สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า แถลงการณ์จากสำนักงานของนายอูระบุว่าทั้งสองได้จับมือทักทายกันก่อนจะเริ่มขบวนสวนสนามทางทหารที่ทั้งสองต่างเข้าร่วมชม เพื่อเฉลิมฉลองการยอมจำนนอย่างเป็นทางการของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สอง โดยนายอูเป็นตัวแทนของเกาหลีใต้เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ นอกจากประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ลี แจ มย็อง แล้ว นายอูก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เรียกร้องให้มีการเจรจาระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนืออีกครั้ง หลังจากเกิดช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายตึงเครียดเป็นพิเศษ ที่ผ่านมาเกาหลีเหนือได้ปฏิเสธการติดต่อทาบทามจากเกาหลีใต้ให้หันมาเจรจากัน พร้อมกับกล่าวว่าไม่สนใจที่จะพูดคุยใดๆ กับเกาหลีใต้ ก่อนเดินทางไปปักกิ่ง นายอูเคยกล่าวไว้ว่ายังไม่แน่ชัดว่าเขาจะได้พบกับคิมหรือไม่ แต่หากได้พบก็อยากจะพูดคุยกับผู้นำเกาหลีเหนือถึงวิธีการสร้างสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี สมาชิกรัฐสภาเกาหลีใต้หลายคน ซึ่งรวมถึงนักการเมืองอาวุโสที่เคยช่วยอำนวยความสะดวกในการเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในอดีต ได้ร่วมเดินทางไปกับนายอู ที่กรุงปักกิ่งครั้งนี้ด้วย.-813.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 4 5 557
...