ปลัดพาณิชย์ย้ำค่าเงินบาทอ่อน เป็นจังหวะดีต่อภาคการส่งออกไทย

ปลัดกระทรวงพาณิชย์ระบุค่าเงินบาทอ่อนค่าถือเป็นจังหวะดีต่อภาคการส่งออกสินค้าไทย เตรียมนัดหารือเอกชนเพื่อวางแผนเจาะตลาดทั้งเก่าและใหม่หวังเพิ่มมูลค่าเพิ่มสินค้าไทยไปตลาดทั่วโลก และในวันที่ 26 ก.ย.นี้ รัฐมนตรีพาณิชย์เตรียมแถลงตัวเลขส่งออกในช่วง 8 เดือนปี 65 นี้อีกด้วย

บาทอ่อนค่าลงอีก หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75%

ธนาคารกรุงไทยรายงานค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 37.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 37.15 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ มองกรอบเงินบาทวันนี้ที่ระดับ 37.15-37.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

“พล.อ.ประวิตร” ระบุค่าเงินบาทควรอยู่ที่ 35 ไม่ควรปล่อยลอยตัว

“พล.อ.ประวิตร” ให้กระทรวงการคลัง หารือ ธปท. แก้ปัญหาค่าเงินบาทอ่อน ระบุ ค่าเงินควรอยู่ที่ 35 บาท ไม่ควรปล่อยลอยตัวมากเกินไป

กสิกรไทยคาดค่าเงินบาทอ่อนค่าแตะ 37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ

ธนาคารกสิกรไทย คาดในช่วงเดือนก.ย. 65 ค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าแตะ 37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ และหากมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากจะทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ไว้ที่ 7 ล้านคน

ผู้ส่งออกห่วงสงครามกระทบยอดคำสั่งซื้อหดตัวแรง

กรุงเทพฯ 5 เม.ย.-ผู้ส่งออกประเมินการส่งออกของไทยจะเติบโตได้ร้อยละ 5 ในปีนี้ หากการสู้รบรัสเซีย-ยูเครนไม่ขยายวงกว้างและค่าเงินบาททรงตัวที่ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่ยอมรับหากการสู้รบยืดเยื้อกระทบการส่งออกของไทยในไตรมาส 2 คำสั่งซื้ออาจจะลดลง 4,000-5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.)เปิดเผยว่า จากการติดตามและประเมินผลกระทบจากการสู้รบระหว่างรัสเซีย–ยูเครน และมาตรการตอบโต้ด้านการค้าและการเงินของประเทศสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป คาดการณ์เบื้องต้นว่าอาจมีผลกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของต้นทุนภาคการผลิต ทั้งจากราคาพลังงานและราคาวัตถุดิบปรับตัวขึ้น อาทิ เหล็ก ธัญพืช เซมิคอนดักเตอร์ อาจส่งผลให้คำสั่งซื้อจากคู่ค้าลดลงบางส่วน หากสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ไม่ขยายวงกว้างไปมากกว่านี้ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 33 บาท สรท. ประเมินว่าการส่งออกของไทย ปี 2565 จะยังเติบโตได้ที่ร้อยละ 5 (ณ เมษายน 2565) โดยการส่งออกในไตรมาสแรกจะสามารถเติบโตได้ที่ร้อยละ 8 เนื่องจากมีการยืนยันคำสั่งซื้อไว้แล้วล่วงหน้า แต่หากสถานกาณ์ยังคงยืดเยื้ออาจกระทบต่อการส่งออกในไตรมาสสอง โดยอาจมีคำสั่งซื้อลดลงประมาณ 4,000-5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกของไทยในไตรมาสที่ 2 เติบโตที่ร้อยละ 2-4 ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคสำคัญ ได้แก่ สถานการณ์ข้อพิพาทระหว่างยูเครนและรัสเซีย […]

1 2 3 4 5 6 20
...