นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

ตรวจสอบ ‘รพ.พนมดงรัก’ เก็บหลักฐานกระสุนปืนใหญ่กัมพูชา

1 ก.ย.- กองทัพบก ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โรงพยาบาลพนมดงรัก จ.สุรินทร์ เก็บหลักฐานผลกระทบจากกระสุนปืนใหญ่ฝ่ายกัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพบก ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บหลักฐานจากเหตุการณ์การสู้รบที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ณ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งถูกกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่โรงพยาบาล เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 จำนวน 3 นัด ส่งผลให้อาคารหลายหลังได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะอาคารภูมิพัฒน์ และอาคารศูนย์สุขภาพชุมชนพระครูอาภัสธรรม (หลวงตารอด) ซึ่งเป็นอาคารห้องตรวจครรภ์มารดาก่อนคลอด อันเป็นพื้นที่ให้บริการสำคัญแก่ประชาชนในชุมชน จนต้องอพยพผู้ป่วยไปยังพื้นที่ปลอดภัยเป็นการฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ในเหตุการณ์เล่าว่า “ตนเองปฏิบัติงานอยู่ที่ห้องตรวจครรภ์มารดาก่อนคลอด ซึ่งปกติจะมีผู้มาใช้บริการหลากหลายกลุ่ม ทั้งมารดาที่ฝากครรภ์วันละ 5–10 ราย (ในวันเกิดเหตุมีเพียง 1 ราย) เด็กที่มาฉีดวัคซีน รวมถึงผู้สูงอายุที่มาตรวจสุขภาพ ในช่วงเกิดเหตุ ได้ยินเสียงระเบิดจากอาคารภูมิพัฒน์ที่อยู่ใกล้เคียง จากนั้นสะเก็ดระเบิดได้พุ่งเข้ามายังห้องตรวจครรภ์ รวมถึงบริเวณที่นั่งของแพทย์ แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บในขณะนั้น จึงรีบอพยพหญิงตั้งครรภ์รายดังกล่าวออกมาได้อย่างปลอดภัย ขณะเดียวกันผู้ป่วยและญาติที่ยังอยู่ภายในอาคารต่างรีบอพยพไปยังหลุมหลบภัยชั่วคราว บางรายเกิดความตื่นตระหนกและวิตกกังวลอย่างหนัก ถึงขั้นเอ่ยสั่งเสียต่อหน้าญาติ […]

ทหารกัมพูชาลอบวางกับระเบิด ในเขตไทยใกล้เนิน 350

กทม. 1 ก.ย.-ทหารกัมพูชาลอบวางกับระเบิดแสวงเครื่อง ในเขตไทยใกล้เนิน 350 ปราสาทตาควาย ทบ.ชี้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง สร้างความตึงเครียดชายแดน วันนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อวันที่ 31 ส.ค.68 เวลาประมาณ 11.50 น. กองร้อยอาวุธเบาที่ 1 กองพันทหารราบที่ 27 ตรวจพบการวางกับระเบิดแสวงเครื่องในลักษณะใช้ลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดประกอบกับการใช้ลวดสะดุดของทหารกัมพูชา ในพื้นที่ทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย ห่างจากเนิน 350 ประมาณ 1.7 กิโลเมตร ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ใกล้กับบริเวณแนวการวางลวดหนามป้องกันตนเองในเขตไทย ทั้งนี้ ยุทธวิธีของทหารกัมพูชาสอดคล้องกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 ส.ค.68 ที่ฝ่ายไทยตรวจพบทหารกัมพูชา ดักซุ่มและตรวจการณ์ฝ่ายไทย บริเวณทิศตะวันตกของเนิน 350 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งต่อมา จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบการวางทุ่นระเบิด PMN-2 รวม 3 ทุ่น พร้อมลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด 2 ลูก และตะปูเรือใบจำนวนมาก คาดว่าลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดดังกล่าวจะถูกเตรียมนำมาใช้ในการวางกับระเบิดแสวงเครื่อง […]

โฆษก ทบ. ยันคดีคลิปเสียง ไม่ส่งผลดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 29 ส.ค.-โฆษก ทบ. ยันคดีคลิปเสียง ไม่ส่งผลดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำ ทบ. เป็นหน่วยปฏิบัติ ไม่เกี่ยวข้องงานบริหาร ไม่ว่ารัฐบาลเก่าหรือใหม่ ส่วนแต่งตั้งโยกย้ายนายพล ยึดตำแหน่ง มากกว่าตัวบุคคล จึงไม่กระทบการทำงาน ชี้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตอบยากจะยืดเยื้อถึงเมื่อใด เพราะมีความไม่แน่นอน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่ศาล รธน. ตัดสินคดีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรี จะส่งต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หรือไม่ ว่า ไม่น่าจะกระทบ เพราะในส่วนของกองทัพได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายบริหารจากรัฐบาลอยู่แล้ว การทำงานในกรอบฝ่ายทหารเป็นไปตามบทบาทหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งฝ่ายรัฐบาลคอยให้การสนับสนุนอยู่ตลอด ไม่มีผลกระทบอะไรเกี่ยวกับงานด้านการเมืองเลย เมื่อถามว่าจะเป็นรัฐบาลชุดเดิมหรือรัฐบาลชุดใหม่ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของกองทัพใช่หรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า “ไม่ เพราะกองทัพบกอยู่ในกรอบของหน่วยปฏิบัติ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานบริหาร” เมื่อถามถึงการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล มีเปลี่ยนตำแหน่งภายในกองทัพบก เช่น แม่ทัพภาคที่1-2 จะทำให้เกิดรอยต่อการปฏิบัติงานหรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไร เพราะว่ากองทัพภาคที่ 1-2-3-4 ก็ต้องปฏิบัติตามนโยบายกองทัพบก มีผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้รับผิดชอบ และการทำงานภายในหน่วยทหาร เป็นการทำงานตามตำแหน่ง ใครได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลัง ก็มีกรอบบทบาทหน้าที่การทำงาน […]

กมธ.ทหาร เรียกกองทัพบกแจงปมน้ำมันหาย

รัฐสภา 27 ส.ค.- กมธ.ทหาร เรียกกองทัพบกแจงกรณีน้ำมันหายที่สระบุรี-นนทบุรี ด้าน “เชตวัน” งง น้ำมันหาย แต่ซื้อคืน ไม่เท่ากับทุจริต มองคืบหน้าล่าช้า อาจรอปรับเลื่อนตำแหน่ง นายเชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน ในฐานะคณะกรรมาธิการการทหารสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง กรณีน้ำมันดีเซลที่หายไป จากมณฑลทหารบกที่ 18 จังหวัดสระบุรี ซึ่งจากการติดตามความคืบหน้าที่หายไป 215,000 ลิตร เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2565 ได้มีการรายงานให้ผู้บัญชาการทหารบกทราบในอีกหนึ่งปีต่อมา ซึ่งกองทัพบกได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งน้ำมันหายออกไปหนึ่งปีเต็ม แต่จากการตรวจสอบตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึง 12 ตุลาคม 2566 ก็ไม่มีคำตอบ จากนั้นจึงได้ทำหนังสือไปกระทรวงกลาโหม ก็ยังไม่มีคำตอบ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ก็ได้ส่งหนังสือไปยังกองทัพบกและกระทรวงกลาโหม ให้ชี้แจงกลับมา ก็ได้แจ้งว่ายังอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จ และคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงได้ขอขยายเวลาไปจนถึง 29 พฤศจิกายน 2566 แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีหนังสือ ชี้แจงใดๆออกมา […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

คลิปเก่านายทหารทำร้ายกำลังพล ลงทัณฑ์แล้ว พร้อมตรวจสอบเพิ่ม

กองทัพบก 25 ส.ค.-ทบ. เผยคลิปเก่านายทหารทำร้ายร่างกายกำลังพล บอกลงทัณฑ์ตามระเบียบเรียบร้อยแล้ว พร้อมตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ตามที่ได้มีการปรากฏคลิปวิดีโอเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า “มีเหตุการณ์กำลังพลนายสิบถูกนายทหารทำร้ายร่างกายที่แนวชายแดนปราสาทตาควาย เมื่อ 21 ส.ค.68 ที่มีการซ้อม Rock rehearsal (การซ้อมปฏิบัติการตามแผนการรบในภูมิประเทศจำลอง) ที่ฐาน 225” รวมทั้งมีการแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า นายทหารคนดังกล่าว สังกัดกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ และมีประวัติเคยทำร้ายนายสิบและพลทหารนั้น กองทัพบกได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่เป็นเรียบร้อย และขอชี้แจงให้สังคมได้รับทราบในประเด็นต่างๆ ดังนี้ 1.คลิปวิดีโอดังกล่าว เป็นคลิปภาพเก่าเมื่อปี 58 ซึ่งนายทหารที่ปรากฏในคลิปได้กระทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมจริง จึงถูกลงทัณฑ์ตามระเบียบที่กำหนดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 2. กรณีที่ได้มีผู้แสดงความคิดเห็นระบุถึงนายทหารรายนี้ว่าได้กระทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับลูกน้องผู้เป็นเพื่อนร่วมงาน พร้อมระบุว่าเป็นเหตุการณ์เมื่อเร็วๆ นี้นั้น ประเด็นดังกล่าวหน่วยต้นสังกัด กำลังดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงในทันที ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง จะมีการลงโทษทางวินัยตามระเบียบอย่างเหมาะสมในทันที.-313.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

ทบ.อนุมัติติดอาร์มธงชาติไทยบนชุดฝึก-ชุดสนาม

22 ส.ค. – ทบ. อนุมัติให้กำลังพล “ติดอาร์มธงชาติไทย” บนเครื่องแบบฝึก-เครื่องแบบสนาม เพื่อแสดงอัตลักษณ์นักรบไทย จนกว่าสถานการณ์ชายแดนจะกลับสู่ภาวะปกติ ขณะที่กองพันทหารราบที่ 162 ทำพิธี “ประดับยศในสนาม” สร้างขวัญกำลังใจทหาร กองทัพบก อนุมัติให้กำลังพลประดับแผ่นธงชาติไทยบนบ่าชุดฝึกและชุดสนาม เพื่อสะท้อนอัตลักษณ์ของทหารไทย ปลูกฝังอุดมการณ์ ความรักชาติ ความสามัคคี และแสดงออกถึงเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ของนักรบทุกนาย โดยให้ติดบริเวณไหล่ด้านซ้ายของเครื่องแบบฝึกหรือเครื่องแบบสนาม จนกว่าสถานการณ์ชายแดนจะกลับสู่ภาวะปกติ หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ด้านเพจกองทัพภาคที่ 2 เผยภาพกองพันทหารราบที่ 162 ทำพิธีประดับเครื่องหมายยศให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการสนามชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งได้รับการเลื่อนยศสูงขึ้น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่รักษา ปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชน โดยผู้บังคับกองพันฯ เน้นย้ำกำลังพลให้ยึดถือการทำงาน เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน. – สำนักข่าวไทย

ทบ.นำ 5 ทหารบาดเจ็บเหตุสู้รบชายแดนส่งต่อ รพ.พระมงกุฎฯ

พระมงกุฎ 19 ส.ค.- ทบ.นำทหาร 5 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบที่ชายแดนไทย-เขมร จาก รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ส่งรักษาต่อยัง รพ.พระมงกุฎเกล้า กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางกองทัพบกได้เคลื่อนย้ายทหารที่รับบาดเจ็บจากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา 5 นาย จากโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ โดยใช้เครื่องบิน C295 หรือ เครื่อง คาซ่า (CASA) ของทางกองทัพบก จากจังหวัดอุบลราชธานี มายังโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า โดยเครื่องบินเดินทางมาถึงกองการบิน ศูนย์การเคลื่อนย้าย กรมการขนส่งทหารบก (ศคย.ขส.ทบ.) ดอนเมือง เวลา 11.50 น. จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจโครงการพระราชดำริ เจ้าหน้าที่สารวัตรทหารบก ได้เคลียร์เส้นทางและอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง จนถึงโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ทั้งนี้มีประชาชนที่อยู่ในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อพบเห็นทหารหาญ ต่างชื่นชมในวีรกรรม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้รักษาอาการให้หายดีต่อไป โดย ทหารทั้ง 5 นายที่เคลื่อนย้ายมารักษาตัววันนี้ ประกอบด้วย ร.ต. ธนาวุธ เวชสงเคราะห์ จ.ส.อ. […]

ทบ. แจงกระสุนฟอสฟอรัสขาว (WP) ไม่ใช่อาวุธเคมี

กองทัพบก 19 ส.ค.-ทบ. แจงกระสุนฟอสฟอรัสขาว (WP) ไม่ใช่อาวุธเคมี หลัง CMAC กัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนข้อเท็จจริง พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีนายเฮง รัตนา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งกัมพูชา (CMAC) เผยแพร่ข้อมูลอ้างว่า ผู้เชี่ยวชาญของ CMAC ตรวจพบกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มิลลิเมตร บรรจุสารฟอสฟอรัสขาว (White Phosphorus – WP) ในพื้นที่จังหวัดอุดรมีชัย พร้อมทั้งกล่าวหาว่าเป็นผลจากการยิงของกองทัพไทยในช่วงความขัดแย้ง 5 วัน และเป็นกระสุนที่มีลักษณะเป็นอาวุธเพลิงและก่อควันพิษ โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ปราศจากหลักฐานสนับสนุน และไม่มีน้ำหนักทางกฎหมาย พร้อมชี้แจงว่า กระสุนฟอสฟอรัสขาว (WP) มีวัตถุประสงค์หลักในการใช้สร้างควัน แสงสว่าง ระเบิด และเพลิง ไม่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มอาวุธเคมีตามอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention – CWC) อีกทั้งไม่มีสนธิสัญญาระหว่างประเทศใดที่ห้ามการเก็บรักษาหรือการใช้งานกระสุนชนิดนี้ ประเทศไทยจึงสามารถเก็บรักษาและใช้ตามภารกิจทางทหารได้ภายใต้กรอบกฎหมายสากล ในส่วนของอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธตามแบบบางชนิด (Convention […]

1 2 3 4 39
...