ชัวร์ก่อนแชร์: วัคซีน HPV ก่ออาการข้างเคียงหลายชนิด จริงหรือ?

07 ธันวาคม 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีน HPV เผยแพร่ทางเว็บไซต์ในสหรัฐอเมริกา โดยองค์กร Children’s Health Defense เผยแพร่รายงานโจมตีแผนรณรงค์ฉีดวัคซีน HPV ในหลายประเทศทั่วโลกว่า จะนำไปสู่ความสูญเสียครั้งใหญ่ สาเหตุเป็นเพราะวัคซีน HPV นำไปสู่อาการข้างเคียงเกี่ยวกับโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองและโรคระบบประสาทหลายชนิดทั้ง อาการล้าเรื้อรัง อาการปวดทั่วร่างกายเรื้อรัง การเกิดอาการหัวใจเต้นเร็วระหว่างเปลี่ยนท่า และ อาการปวดกล้ามเนื้อเหตุสมองและไขสันหลังอักเสบ

บทสรุป :

1. อาการข้างเคียงที่กล่าวอ้าง มาจากรายงานเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์จากวัคซีน ซึ่งยังไม่ยืนยันว่ามีความสัมพันธ์กับวัคซีนหรือไม่
2. การสำรวจหลังใช้งานจีงพบว่า วัคซีน HPV มีความปลอดภัยสูงมาก

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

จากการตรวจสอบโดย Fact Checker ในต่างประเทศพบว่า Children’s Health Defense คือองค์กรต่อต้านวัคซีนที่ก่อตั้งโดย โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ อดีตนักการเมืองพรรคเดโมแครต ที่ผันตัวมาลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในฐานะผู้สมัครอิสระเมื่อปี 2024 ก่อนจะหันมาให้การสนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ และคาดว่ากำลังจะได้รับการแต่งตั้งจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐอเมริกา

จากการเผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ Children’s Health Defense ถูกแบนจาก Facebook และ Instagram เมื่อปี 2022 โดยพบว่าสมัยที่ยังใช้ชื่อเดิมว่า World Mercury Project ทางองค์กรได้ซื้อพื้นที่โฆษณาเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนทาง Facebook อย่างต่อเนื่อง

หน้าที่ของวัคซีน HPV

มีไวรัส HPV มากกว่า 200 ชนิดที่สามารถติดต่อจากการสัมผัส โดยเฉพาะผ่านทางเพศสัมพันธ์ แม้การรับเชื้อส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการและร่างกายสามารถกำจัดได้ภายในเวลา 1-2 วัน แต่มีบางสายพันธุ์ที่สามารถก่อโรคที่รุนแรง โดยเฉพาะมะเร็งหลายชนิด ทั้ง มะเร็งปากมดลูก มะเร็งคอหอยหลังช่องปาก มะเร็งทวารหนัก มะเร็งองคชาต มะเร็งปากช่องคลอด และ มะเร็งช่องคลอด

วัคซีน HPV ในปัจจุบันมีด้วยกัน 3 สูตร ได้แก่ Cervarix สูตร 2 สายพันธุ์ Gardasil สูตร 4 สายพันธุ์ และ Gardasil 9 สูตร 9 สายพันธุ์

แม้การพิสูจน์ประสิทธิผลของวัคซีนต่อการป้องกันโรคมะเร็งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา แต่ทศวรรษที่ผ่านมามีหลักฐานมากมายที่ยืนยันว่า วัคซีน HPV ลดความเสี่ยงการป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกได้จริง

เช่นเดียวกับการศึกษาด้านอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีน ที่ได้รับการยืนยันว่าวัคซีน HPV ไม่ก่อให้เกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรงตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

ตีความผลวิจัยผิด

ข้อมูลอาการข้างเคียงรุนแรงจากวัคซีน HPV ที่ Children’s Health Defense กล่าวอ้าง นำมาจากงานวิจัยปี 2009 ตีพิมพ์ในวารสาร JAMA ในหัวข้อ Postlicensure Safety Surveillance for Quadrivalent Human Papillomavirus Recombinant Vaccine ซึ่งเป็นการสำรวจอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีน HPV สูตร 4 สายพันธุ์ระหว่างปี 2006-2009

อย่างไรก็ดี รายชื่ออาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีน HPV ที่ปรากฏในงานวิจัย เป็นการรวบรวมข้อมูลจากระบบรายงานเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์จากวัคซีน (VAERS) ซึ่งเป็นการรายงานอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีนโดยสมัครใจและยังไม่มีการตรวจสอบว่าสาเหตุของอาการไม่พึงประสงค์เหล่านั้น มีความสัมพันธ์กับวัคซีนหรือไม่

แม้แต่ตัวผู้วิจัยเอง ก็ย้ำว่าการใช้ข้อมูลจากระบบ VAERS คือข้อจำกัดของการวิจัย

การจะพิสูจน์อาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีน จำเป็นต้องวิเคราะห์ตัวแปรหลายอย่าง การทำให้เห็นภาพชัดที่สุด คือการเปรียบเทียบสัดส่วนการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ระหว่างผู้รับวัคซีนกับและสัดส่วนที่พบในประชากรทั่วไป

ข้อมูลยืนยันความปลอดภัยของวัคซีน HPV

งานวิจัยในประเทศออสเตรเลีย ที่ประเมินรายงานอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีน HPV เป็นเวลา 11 ปีพบว่า อาการหัวใจเต้นเร็วระหว่างเปลี่ยนท่า (POTS) อาการแพ้สารประกอบในวัคซีน โรคระบบประสาทส่วนปลาย Guillain-Barré syndrome กลุ่มอาการปวดเฉพาะที่อย่างซับซ้อน (CRPS) และ ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ พบการเกิดในกลุ่มผู้รับวัคซีน HPV ในสัดส่วนน้อยมาก และไม่ใช่อาการที่มีความสัมพันธ์วัคซีน HPV

โดยอาการไม่พึงประสงค์ที่พบหลังฉีดวัคซีน HPV บ่อยที่สุดคือการเป็นลมหลังฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นอาการที่ไม่รุนแรงและพบได้จากการฉีดวัคซีนทั่วไป

เมื่อปี 2015 องค์การยาของสหภาพยุโรป (EMA) ยืนยันไม่พบว่าวัคซีน HPV มีความสัมพันธ์กับอาการหัวใจเต้นเร็วระหว่างเปลี่ยนท่า (POTS) และ กลุ่มอาการปวดเฉพาะที่อย่างซับซ้อน (CRPS) เช่นกัน

เควิน อัลต์ ศาสตราจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคนซัส ยกตัวอย่างงานศึกษาแบบสังเกตการณ์ขนาดใหญ่ที่สำรวจหญิงสาวในประเทศสวีเดนและเดนมาร์ก จำนวน 1 ล้านคน เพื่อสำรวจอาการไม่พึงประสงค์จากฉีดวัคซีน HPV เกี่ยวกับโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองและโรคระบบประสาท 29 ชนิด

ซึ่งผลวิจัยไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างวัคซีน HPV สูตร 4 สายพันธุ์ กับโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองและโรคระบบประสาทใด ๆ

ส่วนงานวิจัยจากสหราชอาณาจักร ที่การศึกษางานวิจัย 109 ชิ้น ครอบคลุมกลุ่มตัวอย่าง 2 ล้าน 5 แสนราย ก็ไม่พบว่าวัคซีน HPV เพิ่มความเสี่ยงการเกิดอาการไม่พึงประสงค์เกี่ยวกับโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองและโรคระบบประสาทเช่นกัน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://healthfeedback.org/claimreview/anti-vaccination-organization-spreads-baseless-claim-global-hpv-vaccination-campaign-mass-casualty-event/