ชัวร์ก่อนแชร์: “ไบเดน-แฮร์ริส” ทำสหรัฐฯ เงินเฟ้อสูงสุด จริงหรือ?

29 กันยายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดระหว่างการประชันวิสัยทัศน์ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2024 โดย โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของพรรครีพับลิกัน โจมตี กมลา แฮร์ริส ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของพรรคเดโมแครต ว่ามีส่วนร่วมมือกับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้ภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายชาวอเมริกันครอบครัวละ 28,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 924,000 บาท ต่างจากสมัยที่เขาเป็นผู้นำประเทศ ที่สหรัฐฯ ไม่เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อเลย เพราะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เติบโตมากที่สุด


บทสรุป :

  1. ไบเดน-แฮร์ริสทำสหรัฐฯ เงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี แต่ไม่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์
  2. รัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ เผชิญภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจไม่ได้เติบโตสูงสุดตามที่อ้าง

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

ไบเดน-แฮร์ริสทำสหรัฐฯ เงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี – แต่ไม่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์


ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม 2021 เป็นต้นมา ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index : CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดภาวะของเงินเฟ้อภายในประเทศ เพิ่มสูงขึ้น 19.4% ในระยะเวลา 3 ปีครึ่ง โดยเพิ่มสูงสุดในช่วงเดือนมิถุนายน 2022 ที่เพิ่มถึง 9.1%

อย่างไรก็ดี แม้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสมัยรัฐบาล โจ ไบเดน จะเพิ่มสูงที่สุดในรอบ 40 ปี แต่ไม่ได้เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ตามที่ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวอ้าง เพราะในช่วงทศวรรษที่ 1970s และต้นทศวรรษที่ 1980s สหรัฐฯ เคยเผชิญภาวะเงินเฟ้อที่สูงกว่านี้ อาทิ 1981 (10.3%) 1980 (13.5%) 1979 (11.3%) 1975 (9.1%) และ 1974 (11.1%)

หลังจากปี 2022 อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ก็ชะลอตัวลง โดยข้อมูลล่าสุดในเดือนสิงหาคมพบว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ลดลงอยู่ที่ 2.5%

ส่วนการอ้างว่าแต่ละครอบครัวในสหรัฐฯ มีค่าใช้จ่ายต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้น 28,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากอัตราเงินเฟ้อ ก็เป็นตัวเลขที่ยังไม่นำอัตราค่าแรงมาคำนวณ

ในช่วง 3 ปีครึ่งที่ โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 19.4% ส่วนอัตราค่าแรงเพิ่มขึ้น 17.7% เท่ากับอัตราค่าแรงตามหลังอัตราเงินเฟ้อที่ 1.7%

โครงการแจกเงินเยียวยาโควิด-19 ส่งผลต่อเงินเฟ้อบางส่วน

โดนัลด์ ทรัมป์ อ้างว่า กมลา แฮร์ริส มีส่วนรับผิดชอบจากการโหวตสนับสนุนกฎหมาย American Rescue Plan Act of 2021 หรือโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 รวมถึงการแจกเงิน 1,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับชาวอเมริกันผู้เสียภาษีซึ่งมีรายได้ต่อปีไม่ถึง 75,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคิดเป็น 85% ของคนทั้งประเทศ

ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจทั้งฝั่งเสรีนิยมและอนุรักษ์นิยมต่างวิเคราะห์ไปในทิศทางเดียวกันว่า โครงการดังกล่าวมีส่วนก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐฯ เมื่อชาวอเมริกันมีเงินมากกว่ากำลังการผลิตสินค้าที่หยุดชะงักในช่วงล็อกดาวน์ จนอุปสงค์เหนือกว่าอุปทาน ส่งผลให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น

อย่างไรก็ดี ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้กำลังการผลิตชะลอตัว และปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่กระตุ้นให้ราคาพลังงานเพิ่มขึ้น คือ 2 ปัจจัยหลักที่ทำให้สหรัฐอเมริกาเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อรุนแรงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

โดยวิเคราะห์ว่า โครงการแจกเงินเยียวยาโควิด-19 ของ โจ ไบเดน และ กมลา แฮร์ริส ส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ประมาณ 1-4%

ดีน เบคเกอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์ Center for Economic and Policy Research วิเคราะห์ว่า กฎหมาย American Rescue Plan Act of 2021 ส่งผลดีและผลเสียต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เพราะการแจกเงินช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงาน แต่ก็ก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ แม้จะเป็นภาวะที่เกิดขึ้นชั่วขณะก็ตาม

รัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ เผชิญภาวะเงินเฟ้อเช่นกัน

แม้ โดนัลด์ ทรัมป์ จะอ้างในระหว่างประชันวิสัยทัศน์ว่า สหรัฐฯ ไม่เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อเลยในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่การสำรวจดัชนีราคาผู้บริโภคในช่วง 4 ปีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้นำสหรัฐฯ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 7.6% หรือเฉลี่ย 1.9 ต่อปี ซึ่งถือเป็นช่วงที่สหรัฐฯ มีอัตราเงินเฟ้อค่อนข้างต่ำต่อเนื่องมาหลายปี ตั้งแต่สมัยรัฐบาล จอร์จ ดับเบิลยู. บุช (2.4% ต่อปี) และ บารัค โอบามา (1.8% ต่อปี)

เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้เติบโตสูงสุดในรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์

แม้ โดนัลด์ ทรัมป์ จะอ้างในระหว่างประชันวิสัยทัศน์ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เติบโตมากที่สุดในช่วงที่เขาเป็นผู้นำประเทศ แต่เมื่อสำรวจการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) กลับพบว่า ในขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เคยทำให้สหรัฐฯ มี GDP เติบโตสูงสุดที่ประมาณ 3% ในปี 2018 แต่เคยมีอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ช่วยให้สหรัฐฯ มี GDP สูงกว่า 3% มาแล้วหลายครั้งเช่นกัน

โดยนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1930s เป็นต้นมา นอกจาก บารัค โอบามา และ เฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ แล้ว ผู้นำสหรัฐฯ ทุกรายต่างเคยช่วยให้สหรัฐฯ มี GDP เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3% คนละ 1 ปีเป็นอย่างต่ำ

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.politifact.com/factchecks/2024/sep/08/donald-trump/fact-checking-donald-trump-on-the-scale-and-causes/
https://www.factcheck.org/2024/09/factchecking-the-harris-trump-debate
https://www.snopes.com/fact-check/biden-worst-inflation-in-us-history/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]