ชัวร์ก่อนแชร์ : ใช้หม้อทอดไร้น้ำมันประกอบอาหารทำให้เกิดสารก่อมะเร็งจริงหรือ?

22 มีนาคม 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์

บนสังคมออนไลน์แชร์ข้อความ ไม่ควรกินอาหารจากหม้อทอดไร้น้ำมันเพราะมีความเสี่ยงในการสร้างสารก่อมะเร็งอะคริลาไมด์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบแล้วพบว่า จริง แชร์ได้แต่ต้องอธิบายเพิ่ม

บทสรุป : จริง หากแชร์ต่อต้องอธิบายข้อมูลเพิ่ม


  • เป็นเรื่องจริงแต่ต้องดูว่า วัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารคืออะไร
  • สารที่ก่อให้เกิดมะเร็งในอาหารมี 2 ประเภท 1. สารที่มาจากกลุ่มพืชแป้ง (Starchy food) และ 2.สารที่มาจากอาหารประเภทโปรตีน

สืบหาต้นตอของข้อมูล

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 เว็บไซต์ Consumer Council ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน โดยระบุให้ระวังอาหารที่ทอดด้วยอุณหภูมิสูงเพื่อลดความเสี่ยงในการก่อมะเร็ง จากนั้นเว็บไซต์ scmp.com ได้เผยแพร่ข่าวดังกล่าวเกี่ยวกับการประกอบอาหารผ่านหม้อทอดไร้น้ำมันใจความว่า สมาคมผู้บริโภคชาวฮ่องกงได้แนะนำผู้บริโภคไม่ควรรับประทานอาหารจากหม้อทอดไร้น้ำมัน เพราะมีความเสี่ยงในการได้รับสารก่อมะเร็ง โดยได้ทำการทดลองนำมันฝรั่งทอดชิ้นบางมาอบในหม้อทอดไร้น้ำมันถึง 12 รุ่น และพบสารก่อมะเร็งที่เรียกว่า อะคริลาไมด์ ซึ่งจะเกิดขึ้นกับอาหารบางชนิดเมื่อได้รับความร้อนจากอุณหภูมิที่สูงมาก จากนั้นได้มีการแชร์ข้อมูลผ่าน เฟซบุ๊ก South China Morning Post ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 4,253,145 คน เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ข่าวดังกล่าวได้ถูกแชร์ต่ออย่างแพร่หลาย กระทั่งมีการนำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อต่างๆ ในประเทศไทย และนำมาสู่การแชร์ข้อความผ่านไลน์แอปพลิเคชันเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์  

Fact check : ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้เชี่ยวชาญ


ข้อมูลที่ถูกแชร์ ทดสอบกับ “มันฝรั่ง” เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าวไทย อสมท ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ  ดร.มลฤดี  สุขประสารทรัพย์ อาจารย์หลักสูตรพิษวิทยาและโภชนาการเพื่ออาหารปลอดภัยสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล แล้วพบว่า เรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องจริง แต่ต้องดูว่าวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารคืออะไร ซึ่งตามที่มีการแชร์ข้อมูลเป็นเพียงการทดลองกับ “มันฝรั่ง” เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

หม้อทอดไร้น้ำมันไม่ใช่อุปกรณ์เดียวที่เสี่ยงต่อสุขภาพ
ข่าวที่มีการแชร์กัน เป็นการใช้มันฝรั่ง ซึ่งเป็นพืชหัว เป็นพืชกลุ่มแป้ง หรือที่เราเรียกว่าอาหารกลุ่มพืชแป้ง (Starchy food) ซึ่งพืชตัวนี้จะมีกรดอะมิโนแอซิดชนิดหนึ่งเรียกว่า “แอสพาราจีน” อยู่สูง ประกอบกับปริมาณน้ำตาลที่มีปริมาณสูงอยู่ในมันฝรั่ง เมื่อใช้ความร้อนเกิน 120 องศาเซลเซียสประกอบอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการทอดด้วยกระทะ การนำไปเข้าเตาอบ หรือหม้อทอดไร้น้ำมันก็จะสามารถทำให้เกิดสารก่อมะเร็งในกลุ่มที่เรียกว่า “อะคริลาไมด์” ได้ ซึ่งอะคริลาไมด์เป็นผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมี “เมลลาร์ด รีแอ็คชั่น” (Maillard reaction) หรือปฏิกิริยาสีน้ำตาล ผลิตภัณฑ์ที่ได้ ยิ่งมีสีน้ำตาลไหม้เกรียมมากเท่าไหร่ ก็จะมีสารอะคริลาไมด์มากยิ่งขึ้น กล่าวคือยิ่งมีการอบอาหารเป็นระยะเวลานาน อุณหภูมิก็จะสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปริมาณของอะคริลาไมด์ก็จะมีมากยิ่งขึ้น

ความร้อนเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง
“กรดอะมิโนแอซิดแอสพาราจีนและปริมาณน้ำตาลที่มีอยู่ในมันฝรั่ง เมื่ออยู่ในอุณหภูมิความร้อนที่สูงเกิน 120 องศาเซลเซียล เป็นระยะเวลานานๆ ก็จะเกิดปฏิกิริยา เมลลาร์ด รีแอคชั่น ซึ่งเป็นบ่อเกิดของสารอะคริลาไมด์ (สารก่อมะเร็ง)


มันฝรั่งไม่ใช่อาหารเพียงอย่างเดียวที่เกิด“อะคริลาไมด์” แต่อาหารที่คลุกเคล้าด้วยแป้งก็สามารถเกิดได้
นอกจากเฟรนฟราย หรือ โปเตโต้ชิพแล้ว อาหารประเภทคลุกเคล้าด้วยแป้งหรือขนมปัง ที่นำมาประกอบอาหารในหม้อทอดไร้น้ำมันก็จะทำให้เกิดสารอะคริลาไมด์ได้ เมื่ออาหารอยู่ในอุณหภูมิที่สูงกว่า 120 องศาเซลเซียล และใช้เวลาประกอบอาหารเป็นเวลานาน ก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดสารก่อมะเร็งได้ ฉะนั้นการทอดเฟรนฟราย หรือการใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน ไม่ควรใช้เวลามากเกินไป เมื่ออาหารมีสีเหลืองทองแล้ว ก็สามารถนำมารับประทานได้ ไม่ควรทำให้เกิดการไหม้เกรียม ”ดร.มลฤดี กล่าว

“หมูกรอบ เนื้อสเต็ก ปลาดุก” ก็เสี่ยง
ดร.มลฤดี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้การประกอบอาหารในหม้อทอดไร้น้ำมัน ยังมีสารก่อมะเร็งในกลุ่มของโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (PAHs) หรือกลุ่มของ เฮทเทอโรไซคลิก เอมีน(HCAs) ซึ่งจะพบในกลุ่มอาหารประเภทโปรตีน เช่น หมูกรอบ เนื้อสเต็ก และยังพบสารก่อมะเร็งในกลุ่มของ PAHs ในปลาที่มีหนังเยอะ เช่น ปลาดุก ทั้งนี้วิธีการสังเกตว่าเนื้อชนิดใดจะมีสารก่อมะเร็งหรือไม่นั้น สังเกตได้ง่ายๆ คือผิวหนังที่ไหม้เกรียมของสัตว์ที่นำมาปรุงอาหาร ถ้ามีสีไหม้เกรียมหรือมีสีดำก็ไม่ควรรับประทาน ควรเฉือนทิ้งออกไป

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการลวก ต้ม นึ่ง หรือใช้ไมโครเวฟ เป็นวิธีที่ปลอดภัยจากสารก่อมะเร็ง
สำหรับการลวก ต้ม นึ่ง หรือใช้ไมโครเวฟในการประกอบอาหารจะไม่ทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง ทั้งในกลุ่ม อะคริลาไมด์ และในกลุ่ม PAHs หรือ HCAs เพราะการลวก ต้ม นึ่ง หรือการประกอบอาหารด้วยไมโครเวฟ เป็นความร้อนที่ทำให้อาหารสุก แต่ไม่ใช่ทำให้เกิดการไหม้เกรียม

แนะปลอกเปลือกมันฝรั่ง แช่น้ำทิ้งไว้ 15-30 นาที จะช่วยชะล้างแอสพาราจีน งดแช่มันฝรั่งในตู้เย็น
“เราจะป้องกันอาหารกลุ่มแป้งที่เกิดสารก่อมะเร็งอะคริลาไมด์ ได้โดยการปลอกเปลือกมันฝรั่ง และนำมาแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที น้ำจะช่วยชะล้างสารตั้งต้น(แอสพาราจีน)ที่ก่อให้เกิดมะเร็งและน้ำตาลที่อยู่ในเนื้อมันฝรั่งให้ออกมากับน้ำ จากนั้นซับให้แห้ง และนำไปประกอบอาหารด้วยเครื่องมือที่เรามี จะช่วยลดสารก่อมะเร็ง อะคริลาไมด์ ลงได้ นอกจากนี้ไม่ควรเก็บมันฝรั่งไว้ในตู้เย็นเพราะอุณหภูมิในตู้เย็นจะเพิ่มปริมาณน้ำตาลที่อยู่ในเนื้อหัวมันฝรั่งมากขึ้น เมื่อเรานำไปทอดหรือใช้หม้อไร้น้ำมัน จะเกิดปฏิกิริยาเมลลาร์ด รีแอคชั่นได้มากขึ้น สารอะคริลาไมด์ก็จะเพิ่มสูงมากขึ้นด้วย

ทานมันฝรั่งได้แต่ไม่ควรมากเกินไป ชี้ร่างกายมีกลไกขับ อะคริลาไมด์ทางปัสสาวะ
โดยปกติ ถ้าเราได้รับสารก่อมะเร็งอะคริลาไมด์จากการปนเปื้อนในอาหารมากเกินไป ร่างกายจะมีกลไกในการกำจัดอะคริลาไมด์ทางปัสสาวะ อาหารพวกนี้สามารถทานได้ แต่ไม่ควรรับประทานมากเกินไป ควรให้ร่างกายมีระยะเวลาในการกำจัดสารพิษ ซึ่งผัก ผลไม้หลากหลายที่สีสัน หรือสมุนไพรที่เราทานจะมีสารพฤกษาเคมี ที่จะช่วยกำจัดสารพิษในร่างกายออกมาได้เป็นอย่างดี”ดร.มลฤดี ระบุ

บทสรุป : จริงแชร์ได้ แต่ต้องอธิบายข้อมูลเพิ่ม

  • ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า เรื่องนี้จริง แต่ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาใช้ โดยอาหารในกลุ่มของพืชแป้ง จะมีสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งในกลุ่ม อะคริลาไมด์ ส่วนสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งในอาหารประเภทโปรตีน คือ สารก่อมะเร็งในกลุ่มของ โพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (PAHs) หรือกลุ่มของ เฮทเทอโรไซคลิก เอมีน(HCAs)
  • การประกอบอาหารด้วยหม้อทอดไร้น้ำมันจะทำให้เกิดสารก่อมะเร็งได้นั้น จะต้องมีอุณหภูมิที่สูงกว่า 120 องศาเซลเซียล และมีระยะเวลาการประกอบอาหารที่ยาวนาน ซึ่งกระบวนการเกิดสารก่อมะเร็ง ไม่ได้จำกัดแค่การเกิดขึ้นในหม้อทอดไร้น้ำมันเท่านั้น แต่การปรุงอาหารด้วยวิธีอื่น เช่น การปิ้ง การทอด การย่าง การอบก็อาจจะนำมาซึ่งสารก่อมะเร็งได้

ข้อมูลอ้างอิง
Consumer Council
https://www.consumer.org.hk/ws_en/news/press/532/air-fryers.html
South China Morning Post
https://www.scmp.com/news/hong-kong/society/article/3122019/hong-kong-consumer-watchdog-warns-air-fryers-can-still-pose
“Air frying is a kind of roasting. It’s still not very healthy.”
https://www.facebook.com/scmp/posts/10159175861534820

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]