Plandemic ปฐมบทสารคดีลวงโลก เบื้องหลังไวรัสโควิด-19

20 เมษายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


เมื่อปี 2020 ขณะที่ไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก เกิดปรากฏการณ์บนโลกออนไลน์ที่มีการแชร์คลิปและข้อมูลจากสารคดีขนาดสั้นเรื่อง Plandemic กันอย่างแพร่หลาย แต่กลายเป็นว่า เนื้อหาเหล่านั้นกลับเต็มไปด้วยข้อมูลเท็จเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 และการโจมตีนโยบายรับมือกับการแพร่ระบาดอย่างไม่ถูกต้อง กลายเป็นต้นทางแห่งความเข้าใจผิดเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงเผยแพร่ทางโลกไซเบอร์จนถึงทุกวันนี้

Plandemic เป็นชุดสารคดีไตรภาคที่พยายามอ้างว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นสิ่งที่มีการวางแผนล่วงหน้า โดยสารคดีตัวปฐมบทได้แก่ Plandemic : The Hidden Agenda Behind Covid-19 สารคดีความยาว 26 นาที เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2020


รูปแบบของ Plandemic 1 เน้นเนื้อหาจากบทสัมภาษณ์ระหว่าง มิกกี วิลลิส อดีตนายแบบและนักแสดงที่ผันตัวมาเป็นนักสร้างสารคดีแนวทฤษฎีสมคบคิด และ จูดี ไมโควิตส์ นักวิจัยผู้มีแนวคิดต่อต้านวัคซีน

Fact Checker หลายสำนักได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำกล่าวอ้างของ จูดี ไมโควิตส์ ในหลายประเด็น แบ่งเป็นหัวข้อสำคัญ ๆ ดังนี้

  1. จูดี ไมโควิตส์ ถูกจำคุกเพื่อปิดปาก – ไม่จริง

ในช่วงต้นของสารคดี จูดี ไมโควิตส์ อ้างว่า เธอถูกเจ้าหน้าที่จับกุมและจำคุกโดยไม่มีข้อหา เพื่อเป็นการปิดปากไม่ให้เธอเปิดโปงแผนลับที่วงการแพทย์พยายามปกปิด โดยอ้างว่าเป็นฝีมือของ แอนโทนี เฟาซี อดีตผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NIAID)


แต่แท้จริงแล้ว จูดี ไมโควิตส์ เคยถูกจำคุกเป็นเวลา 5 วันเมื่อปี 2011 ในข้อหาขโมยคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ข้อมูลคอมพิวเตอร์ และทรัพย์สินอื่น ๆ จากสถาบัน Whittemore Peterson Institute for Neuro-Immune Disease ในรัฐเนวาดา โดยก่อนหน้านี้ สถาบันได้ไล่เธอออก หลังพบว่าเธอทำการดัดแปลงผลวิจัยที่อ้างว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างเชื้อรีโทรไวรัสกับโรคล้าเรื้อรัง (Chronic Fatigue Syndrome : CFS) จนวารสารการแพทย์ Science สั่งถอนงานวิจัยในเวลาต่อมา

  1. ไวรัสโควิด-19 พัฒนาจากไวรัสโรคซาร์สในเวลาเพียงทศวรรษเดียว – ไม่จริง

แม้ไวรัส SARS-CoV-2 ซึ่งก่อให้เกิดโรคโควิด-19 จะมีชื่อที่คล้ายกับไวรัส SARS-CoV-1 ที่ก่อให้เกิดโรคซาร์ส แต่ไวรัส SARS-CoV-2 ไม่ได้พัฒนามาจากไวรัส SARS-CoV-1 ตามที่ จูดี ไมโควิตส์ กล่าวอ้าง เนื่องจากมีพันธุกรรมที่คล้ายกันเพียง 79% โดยการสำรวจพบว่าไวรัสโควิด-19 น่าจะมีที่มาจากไวรัสโคโรนาในค้างคาว ซึ่งมีความคล้ายคลึงทางพันธุกรรมกว่า 90%

  1. ไวรัสโควิด-19 เกิดจากการตัดต่อพันธุกรรม – ไม่จริง

จากการตรวจสอบโครงสร้างพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ไม่พบหลักฐานว่าไวรัสโควิด-19 การเกิดจากการตัดต่อพันธุกรรมโดยฝีมือมนุษย์ และน่าจะเป็นไวรัสที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

แนวคิดต้นกำเนิดไวรัสโควิด-19 ที่แวดวงวิทยาศาสตร์ให้การยอมรับ คือ 1. เกิดการระบาดหลังการติดเชื้อจากสัตว์สู่คน 2. ไวรัสที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ หลุดออกจากห้องปฏิบัติการระหว่างการทดลอง

  1. การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทำให้เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 – ไม่จริง

จูดี ไมโควิตส์ อ้างว่า สาเหตุที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากในประเทศอิตาลี มีสาเหตุจากการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่มีส่วนประกอบของไวรัสโคโรนา และมีงานวิจัยพบว่า การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่าคนไม่ฉีดวัคซีน 36%

อย่างไรก็ดี วัคซีนไข้หวัดใหญ่ทั้งชนิดเชื้อเป็นและเชื้อตาย จะใช้ไวรัส Influenza A หรือ B ในการผลิตวัคซีน แต่ไม่มีการใช้ไวรัสโคโรนาในการผลิตตามที่กล่าวอ้าง

ส่วนงานวิจัยที่อ้างว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทำให้เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 นำมาจากงานวิจัยที่เผยแพร่ช่วงต้นปี 2019 เพื่อเปรียบเทียบความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสระบบทางเดินหายใจชนิดต่าง ๆ ระหว่างผู้ได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่และผู้ไม่ฉีดวัคซีน

ผลวิจัยพบว่า ขณะที่ผู้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่น้อยกว่าคนไม่ฉีดวัคซีน แต่กลับติดเชื้อไวรัสโคโรนามากกว่าคนไม่ฉีดวัคซีน โดยมีสัดส่วน odds ratios ที่ 1.36

อย่างไรก็ดี การสำรวจดังกล่าวทำขึ้นช่วงปี 2017-2018 หรือ 2 ปีก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19 และไวรัสโคโรนาที่กล่าวถึงคือไวรัสโคโรนา 4 สายพันธุ์ที่แพร่ระบาดตามฤดูกาล ดังนั้นงานวิจัยที่กล่าวอ้างจึงไม่เกี่ยวข้องกับไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด

  1. ยา Hydroxychloroquine รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้ดี – ไม่จริง

แม้มีงานวิจัยเพื่อพิสูจน์สรรพคุณของ Hydroxychloroquine ยารักษาโรคมาลาเรียเพื่อใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 แต่การทดลองจนถึงปัจจุบันไม่พบหลักฐานว่า Hydroxychloroquine มีประโยชน์ต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แต่อย่างใด

  1. การสวมหน้ากากทำให้ไวรัสในร่างกายกลับมากำเริบ – ไม่จริง

ในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) แนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากในที่สาธารณะ เพราะอาจต้องใช้เวลานานถึง 14 วัน ก่อนที่ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะแสดงอาการ ดังนั้นจุดประสงค์หลักของการสวมหน้ากาก คือการป้องกันการแพร่เชื้อโรคต่อชุมชนโดยไม่ตั้งใจ

ริชาร์ด เพลเทียร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภาควิชาอนามัยสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์-แอมเฮิร์สต์ ชี้แจงว่า การสวมหน้ากากไม่ได้ส่งผลต่อการทำงานของไวรัสในร่างกาย เป็นแค่การป้องกันเชื้อโรคจากละอองเสมหะเข้าสู่ปากและรูจมูก เป็นข้อมูลวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานที่ใคร ๆ ก็ควรรู้ รวมถึงตัว ดร.จูดี ไมโควิตส์ เช่นกัน

การระบาดของ Plandemic

แม้จะเต็มไปด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แต่การเผยแพร่ Plandemic : The Hidden Agenda Behind Covid-19 เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2020 ก็ได้รับความสนใจจากสาธารณชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการสนับสนุนจากกลุ่มเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิดทั้ง QAnon และ อเล็กซ์ โจนส์

ชื่อของ จูดี ไมโควิตส์ กลายเป็นหนึ่งในชื่อที่ถูกค้นหาทาง Google มากที่สุดติดต่อกัน 2 วัน และส่งผลให้คำว่า Plandemic กลายเป็นคำที่ถูกใช้บน X (Twitter) เพิ่มขึ้นกว่า 155%

เนื่องจากมีข้อกล่าวอ้างที่ต้องตรวจสอบหลายประการ กว่าแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์จะลบ Plandemic ออกไปจากระบบได้ สารคดีสุดอื้อฉาวก็ทำยอดวิวรวมกันหลายสิบล้านวิวแล้ว และยังคงหลงเหลือบนโลกไซเบอร์ในรูปแบบคลิปวิดีโอสั้นและข้อความที่อ้างมาจากสารคดี

สาเหตุที่สารคดีฉาวเป็นที่นิยม

แม้บุคลากรในวงการวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และสาธารณสุข จะร่วมกันประณามการสร้างสารคดี Plandemic ในข้อหาเป็นภัยสังคม แต่สาเหตุที่สารคดีเป็นที่นิยม ได้รับการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารว่า สารคดีสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการผลิตวิดีโอให้มีคุณภาพระดับมืออาชีพ ทั้งการถ่ายภาพ การตัดต่อ ดนตรีประกอบ ซึ่งส่งผลต่อการยอมรับผู้ชมทั้งสิ้น

การที่สารคดีออกมาในช่วงที่วงการวิทยาศาสตร์ยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับที่มาของไวรัส และเป็นช่วงที่สาธารณชนต้องการคำตอบที่ชัดเจน รวมถึงความต้องการหาคนรับผิดชอบ คำตอบที่ชัดเจนใน Plandemic คือสิ่งที่ผู้คนในสังคมเฝ้ารอ แม้จะไม่มีเรื่องที่พิสูจน์ได้เลยก็ตาม

ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า ผู้ผลิตสารคดี Plandemic ใช้เทคนิคการโน้มน้าวใจหลายวิธี โดยเฉพาะเทคนิคที่เรียกว่า Gish Gallop หรือการนำเสนอข้อมูลต่อเนื่องเป็นชุด ๆ เพื่อให้ผู้ฟังไม่มีเวลาทันวิเคราะห์ว่า ข้อกล่าวอ้างแต่ละเรื่องมีความถูกต้องหรือสมเหตุผลหรือไม่

นอกจากนี้ การปิดกั้นการนำเสนอสารคดี Plandemic ทางสื่อกระแสหลัก ท่ามกลางความสงสัยของผู้คนกลับไปกระตุ้นให้เกิดปรากฎการณ์ที่เรียกว่า Streisand Effect หรือการเกิดความสนใจต่อสิ่งที่เจตนาจะไม่ให้เป็นที่สนใจ จนเรื่องดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจของสาธารณชนในเวลาต่อมา

ปัจจัยทั้งหมด นำไปสู่ความโด่งดังของ Plandemic สารคดีที่เผยแพร่ข่าวปลอมข้อมูลเท็จเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ที่สร้างความเข้าใจผิดในสังคมจนถึงวันนี้

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.politifact.com/article/2020/may/08/fact-checking-plandemic-documentary-full-false-con/
https://en.wikipedia.org/wiki/Plandemic
https://en.wikipedia.org/wiki/Gish_gallop
https://en.wikipedia.org/wiki/Streisand_effect

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]