ชัวร์ก่อนแชร์: CO2 จากลมหายใจสร้างสภาวะโลกร้อน จริงหรือ?

06 กุมภาพันธ์ 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางสื่อสิ่งพิมพ์ในต่างประเทศ อ้างผลวิจัยที่พบว่าลมหายใจออกของมนุษย์ ซึ่งประกอบไปด้วยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) มีส่วนทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน พร้อมอ้างว่าลมหายใจออกของประชากรในสหราชอาณาจักรในระยะเวลา 1 ปี คิดเป็นสัดส่วน 0.1% ของปริมาณแก๊สเรือนกระจกที่ปลดปล่อยภายในประเทศ


บทสรุป :

  1. คาร์บอนไดออกไซด์จากลมหายใจออก ไม่ถือเป็นการเพิ่ม CO2 ต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจาก CO2 จากลมหายใจมาจากการกินอาหารซึ่งมีต้นกำเนิดจากการสังเคราะห์แสงของพืชที่ใช้ CO2 ในการเจริญเติบโต
  2. แม้ลมหายใจออกจะมีมีเทนและไนตรัสออกไซด์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแก๊สเรือนกระจก แต่ถือว่ามีในปริมาณที่น้อยมากเมื่อเทียบกับอัตราการปล่อยแก๊สเรือนกระจกจากกิจกรรมอื่น ๆ ของมนุษย์

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

ปริมาณ CO2 จากลมหายใจออก


ข้อมูลจากเว็บไซต์ Byju’s ระบุว่า ในอากาศที่หายใจเข้ามีอัตราส่วน CO2 ที่ 0.04% ส่วนลมหายใจออกมีอัตราส่วน CO2 ที่ 4.4%

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนพบว่า มนุษย์ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากหายใจออกเฉลี่ยวันละ 0.58 – 1.04 กิโลกรัม/วัน ปริมาณขึ้นอยู่กับกิจกรรมในแต่ละวัน

เว็บไซต์ BBC Science Focus เคยประเมินว่า ในแต่ละปี ลมหายใจออกของประชากรทั่วโลกจำนวน 6.8 พันล้านคน ปลดปล่อย CO2 ถึง 2.5 พันล้านตันต่อปี เทียบได้กับ 7% ของการปลดปล่อย CO2 จากการเผาผลาญพลังงานฟอสซิลในแต่ละปี

CO2 จากลมหายใจไม่เพิ่มแก๊สเรือนกระจกต่อโลก

แม้ CO2 จากลมหายใจของมนุษย์แต่ละปีจะมีปริมาณมหาศาล แต่ไม่นับว่าเป็นการเพิ่มปริมาณ CO2 ให้กับสิ่งแวดล้อม เนื่องจาก CO2 ในลมหายใจมนุษย์ มีที่มาจากการบริโภคพืชและสัตว์ ซึ่งล้วนเป็นผลิตผลจากกระบวนการสังเคราะห์แสงของพืช ที่เปลี่ยน CO2 ในสิ่งแวดล้อมให้กลายเป็นสารประกอบอินทรีย์ และใช้เป็นอาหารที่มอบพลังงานให้กับมนุษย์ผ่านกระบวนการสันดาป ก่อนจะถูกปลดปล่อยจากร่างกายผ่านทางลมหายใจออกในรูปแก๊ส CO2

ดังนั้น CO2 จากลมหายใจมนุษย์ นับเป็นการคืนปริมาณ CO2 กลับคืนสู่สิ่งแวดล้อม ไม่ถือเป็นการเพิ่มปริมาณ CO2 ที่เร่งการเกิดสภาวะเรือนกระจกแต่อย่างใด

ต่างจากการปล่อย CO2 จากกระบวนการเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น การทำงานของรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine) เนื่องจาก CO2 ที่ออกจากท่อไอเสีย มีที่มาจากสารประกอบอินทรีย์ที่ถูกฝังอยู่ใต้พื้นโลกนานนับล้านปี ดังนั้น CO2 ที่เกิดจากการนำเชื้อเพลิงฟอสซิลในอดีตกลับมาใช้ ถือเป็นการเพิ่มปริมาณ CO2 ให้กับสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน และเร่งการเกิดสภาวะเรือนกระจก

มีเทนและไนตรัสออกไซด์ : แก๊สเรือนกระจกจากลมหายใจมนุษย์

แม้ คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากลมหายใจมนุษย์จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาสภาวะเรือนกระจก แต่แก๊สมีเทน (CH4) ที่เกิดจากแบคทีเรีย Methanogenic Bacteria ที่อยู่ในลำไส้ และแก๊สไนตรัสออกไซด์ (N2O) ที่เกิดจากแบคทีเรีย Denitrifying Bacteria ที่อยู่ในลำไส้และช่องปาก ถือเป็นแก๊สเรือนกระจกที่มนุษย์ปลดปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมผ่านทางลมหายใจออก

งานวิจัยของดอว์สันและคณะ ที่ตีพิมพ์ทางวารสารวิทยาศาสตร์ PLOS One เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2023 ได้สำรวจปริมาณมีเทนและไนตรัสออกไซด์จากลมหายใจออกของกลุ่มตัวอย่าง 328 ราย พบว่า 31% มีปริมาณมีเทนในลมหายใจและทุกรายต่างพบไนตรัสออกไซด์ในลมหายใจ

ดอว์สันและคณะนำค่าที่พบไปเทียบกับจำนวนประชากรของสหราชอาณาจักรจำนวน 68.2 ล้านคน ก่อนได้ข้อสรุปว่า พลเมืองสหราชอาณาจักรปลดปล่อยมีเทนจากลมหายใจปีละ 1.04 ล้านกิโลกรัม และปลดปล่อยไนตรัสออกไซด์จากลมหายใจปีละ 6.9 หมื่นกิโลกรัม

เมื่อเทียบกับการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกโดยรวม มีเทนจากลมหายใจมนุษย์คิดเป็นสัดส่วน 0.05% ของการปลดปล่อยมีเทนสู่สิ่งแวดล้อม ส่วนไนตรัสออกไซด์จากลมหายใจมนุษย์คิดเป็นสัดส่วน 0.1% ของการปลดปล่อยไนตรัสออกไซด์สู่สิ่งแวดล้อม

ผลวิจัยจึงสรุปว่า ลมหายใจของมนุษย์มีส่วนเพิ่มแก๊สเรือนกระจกในสิ่งแวดล้อมเพียง 0.013% เท่านั้น ถือว่าน้อยกว่าปริมาณที่เคยสำรวจในอดีต

การบิดเบือนของสื่อที่ต่อต้านทฤษฎีสภาวะโลกร้อน

ผลวิจัยถูกสื่อที่ต่อต้านทฤษฎีสภาวะโลกร้อนหลายสำนักไปบิดเบือนว่านักวิทยาศาสตร์พยายามทำให้คนตื่นกลัวสภาวะโลกร้อนเกินจริง บางเจ้าพาดหัวข่าวบิดเบือนว่าลมหายใจของมนุษย์มีส่วนเพิ่มแก๊สเรือนกระจกในส่งแวดล้อมถึง 0.1% ซึ่งมากกว่าผลวิจัยถึง 8 เท่า

ดร.นิโคลัส โคแวน จากศูนย์นิเวศวิทยาและอุทกวิทยา สหราชอาณาจักร เจ้าของงานวิจัยร่วม ได้ชี้แจงต่อเว็บไซต์ The Conversation ว่า แก๊สเรือนกระจกจากลมหายใจมนุษย์ ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าการเผาผลาญพลังงานฟอสซิลอย่างมาก ดังนั้นประชาชนที่ต้องการลดการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจก สมควรหายใจตามปกติและร่วมกันส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้ได้ประโยชน์สูงสุด

ข้อมูลอ้างอิง :

https://climatefeedback.org/claimreview/contrary-widespread-misrepresentation-new-study-finds-extremely-minimal-impact-human-breathing-climate/
https://byjus.com/biology/composition-gases-breathe/
https://journals.plos.org/plosone/article?id=10.1371/journal.pone.0295157
https://risc.in.th/knowledge/does-the-carbon-dioxide-we-breathe-out-hurt-the-world
https://www.sciencefocus.com/planet-earth/how-much-does-human-breathing-contribute-to-climate-change
https://www.mcgill.ca/oss/article/environment-quirky-science-you-asked/humans-and-animals-exhale-carbon-dioxide-every-breath-why-not-considered-be-problem-far-global

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]