ชัวร์ก่อนแชร์: “เนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง” สร้างมลพิษมากกว่าการเลี้ยงสัตว์ จริงหรือ?

16 ตุลาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


บทสรุป :

  1. ข้ออ้างนำมาจากผลวิจัยที่ประเมินว่าอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงจะปล่อยปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์เท่าเดิมเป็นเวลา 1,000 ปี
  2. ผู้เชี่ยวชาญมองว่าในอีก 1,000 ปีข้างหน้า การพัฒนาด้านเทคโนโลยี มาตรการสิ่งแวดล้อม และการเติบโตของกลุ่มผู้บริโภคเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง จะทำให้อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงลดการปล่อยปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ข้อมูลที่ถูกแชร์ :


มีการเผยแพร่ผลวิจัยที่ตั้งคำถามผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากอุตสาหกรรมการผลิตเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงหรือ Lab-Grown Meat หลังพบว่า อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงกว่าการทำปศุสัตว์อย่างมาก ดังนั้นการบริโภคเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงกลับเป็นการซ้ำเติมปัญหาสิ่งแวดล้อมให้รุนแรงยิ่งกว่าเดิม

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ประเมินว่าภายในปี 2050 นี้ โลกจะมีประชากรมากถึง 9 พันล้านคน จำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิตอาหารมากกว่าในปัจจุบันถึง 70% สวนทางกับพื้นที่เพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ที่มีอย่างจำกัด


แม้แนวโน้มการบริโภคเนื้อสัตว์ในประเทศพัฒนาแล้วจะลดลง แต่ในประเทศกำลังพัฒนาที่มีประชากรจำนวนมากเช่น รัสเซีย อินเดีย และ สาธารณรัฐประชาชนจีน การบริโภคเนื้อสัตว์กลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการขยายตัวของประชากรชนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อมากขึ้น และนิยมการบริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น เนื้อ ไข่ นม และเนยต่าง ๆ

ปัญหาที่ตามมาคือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะการทำปศุสัตว์มีส่วนเพิ่มมลพิษในธรรมชาติ ในสหรัฐอเมริกาพบว่าการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 4% มาจากการทำปศุสัตว์นั่นเอง

การมาถึงของเทคโนโลยีเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง หรือการผลิตเนื้อสัตว์ในห้องปฏิบัติการคราวละมาก ๆ ได้รับการจับตาว่าจะแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการบริโภคเนื้อสัตว์ในอนาคต

อย่างไรก็ดี งานวิจัยที่เผยแพร่ผ่านทางวารสารวิทยาศาสตร์ Frontiers ในหมวด Sustainable Food Systems เมื่อปี 2019 พบว่า ในระยะสั้น อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าการทำปศุสัตว์ แต่ในระยะยาว อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงจะส่งผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมมากกว่า จากปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่สูงกว่าการทำปศุสัตว์นั่นเอง

ปริมาณมีเทนในชั้นบรรยากาศ

มีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์

การทำฟาร์มคือสาเหตุของการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 3 ชนิด ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ ไนตรัสออกไซด์ และ มีเทน

มีเทนถือเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด โดยผลิตมาจากระบบทางเดินอาหารของสัตว์สัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น วัว กระบือ แกะ แพะ กวาง อูฐ ยีราฟ เป็นต้น

ในทางกลับกัน ก๊าซเรือนกระจกที่ผลิตจากอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงมีเพียงคาร์บอนไดออกไซด์ จากพลังงานถ่านหินที่ให้ความร้อนระหว่างการเพาะเลี้ยงเซลล์เท่านั้น

อย่างไรก็ดี แม้การทำปศุสัตว์จะปลดปล่อยมีเทนซึ่งส่งผลต่อสภาวะเรือนกระจกมากกว่า แต่มีเทนคงอยู่ในชั้นบรรยากาศในเวลาที่สั้นกว่าหรือเพียง 12 ปี ต่างจากคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งจะคงอยู่ในชั้นบรรยากาศนานนับพันปี

ผู้วิจัยจึงลงความเห็นว่า อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงที่ปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในอัตราที่สูงกว่าการทำปศุสัตว์ สุดท้ายแล้วจะส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมมากกว่าในระยะยาว

ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ

ข้อจำกัดในการวิจัย

ผลวิจัยดังกล่าวมาจากสมมติฐานของทีมวิจัยที่เปรียบเทียบการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกระหว่างอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงและการทำปศุสัตว์ในช่วงเวลา 1 พันปี โดยอนุมานว่าอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงจะมีอัตราการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์คงที่ในช่วงสหัสวรรษต่อจากนี้

นำมาซึ่งคำถามว่า มีโอกาสแค่ไหนที่อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงจะยังคงใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เท่าเดิมจนถึงพันปีข้างหน้า

มีหลายปัจจัยที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ในวงการวิทยาศาสตร์ นโยบายของภาครัฐที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงทางเลือกของผู้บริโภคเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงที่พร้อมจะสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า

เนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงที่จำหน่ายในประเทศสิงคโปร์

ข้อเปรียบเทียบการทำปศุสัตว์และอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง

1.ที่ดิน

การทำปศุสัตว์ใช้ที่ดินมากกว่าอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง นอกจากพื้นที่เลี้ยงสัตว์แล้ว 50% ของที่ดินเพื่อการเกษตรทั่วโลก ถูกใช้สำหรับปลูกพืชสำหรับอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงจึงใช้ที่ดินในการผลิตเนื้อสัตว์น้อยกว่าการทำปศุสัตว์ถึง 90%

2.น้ำ

ประเมินว่า เนื้อวัว 1 กิโลกรัม ใช้น้ำในการผลิตถึง 550-700 ลิตร ส่วนใหญ่ใช้เพื่อผลิตอาหารสัตว์ ส่งผลให้อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงใช้น้ำในการผลิตเนื้อสัตว์น้อยกว่าการทำปศุสัตว์ 82%-98%

3.การขนส่ง

อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงที่อยู่ในตัวเมือง ช่วยลดระยะทางการขนส่งเนื้อสัตว์จากฟาร์มสู่ผู้บริโภค ทำให้การปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งลดลงอีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.vox.com/future-perfect/2019/2/22/18235189/lab-grown-meat-cultured-environment-climate-change
https://www.wired.com/story/the-confounding-climate-science-of-lab-grown-meat/
https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fnut.2020.00007/full
https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fsufs.2019.00005/full

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]