17 ก.ค. – นิโคลัส มิคเกลสัน ได้รับรางวัลนักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมแห่งปี ในงานประกาศรางวัล FA Thailand Awards ส่วนจังหวัดกาญจนบุรี คว้าสิทธิเป็นเจ้าภาพฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 51
“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในการจัดงาน FA Thailand Awards 2024/25 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 8 ติดต่อกัน ที่ The Banquet แบงเควท Hall at Nathong เพื่อประกาศเกียรติคุณให้กับสโมสรสมาชิก นักกีฬา และบุคลากรที่สร้างผลงานตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา มีการประกาศทั้งสิ้น 32 รางวัล
รางวัลที่น่าสนใจ ปรากฏว่านักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมแห่งปี ได้แก่ นิโคลัส มิคเกลสัน จากสโมสรเอสวี เอลเวอร์สเบิร์ก ในลีกเยอรมนี หลังโชว์ฟอร์มเด่นกับทั้งสโมสรเดิม คือ โอบี โอเดนเซ่ รวมถึงการเล่นให้กับทีมชาติไทยชุดใหญ่
นักฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี ได้แก่ ปณิฏฐา จีรัตนะภวิบูล กองหลังทีมชาติไทย จากกว่างซี ผิงกั่ว เปยหนง
รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าแห่งปีของไทยลีก ได้แก่ จักรพันธ์ แก้วพรม กองกลางจากราชบุรี เอฟซี หลังลงสนาม 27 นัด ทำไป 5 ประตู 7 แอสซิสต์ พาทีมจบอันดับที่ 4 ในลีก
ผู้เล่นทรงคุณค่าแห่งปี ไทยวีเมนส์ลีก ได้แก่ กุลิสรา ลิ้มปวะนิช กองหน้าจากสโมสรบีจีซี-บัณฑิต เอเซีย ลงสนาม 14 นัด ยิงไป 19 ประตู
รางวัลนักฟุตซอลที่มีผลงานโดดเด่น ได้แก่ มูฮัมหมัด อุสมานมูซา จากสโมสรจิมบี คาร์ตาเกนา หลังพาสโมสรคว้าแชมป์ฟุตซอล พรีเมียร์ ดิวิชั่น สเปน และคว้าแชมป์ซูเปอร์โกปา เด เอสปันญา มีส่วนสำคัญในการพาทีมชาติไทยเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตซอลโลก 2024
ส่วนรางวัลเกียรติยศจากนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล ได้แก่ “บิ๊กป๋อม” นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคม ที่ถือเป็นผู้อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังความสำเร็จของฟุตซอลชายและฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย
“โน๊ต” จักรพันธ์ แก้วพรม ที่คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าแห่งปี และติดทีมยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล กล่าวว่า ขอมอบรางวัลนี้ให้เพื่อนร่วมทีมทุกคน ซึ่งอนาคตเป็นไปได้อยากจะแขวนสตั๊ดที่ราชบุรี ส่วนในซีซั่นหน้า ถ้วยเอเชีย ศึกเอซีแอลทู ตั้งเป้าเก็บแต้มในบ้านให้มากที่สุด ขณะที่บอลในประเทศตั้งเป้าเข้าชิงบอลถ้วยให้ได้
ขณะเดียวกันภายในงานยังมีการประกาศจังหวัดเจ้าภาพฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 51 ด้วย ปรากฏว่า จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพในปีนี้ โดยจะจัดที่สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี หรือสนามกลีบบัว มี 4 ชาติ เข้าร่วม คือ “แชมป์เก่า” ทีมชาติไทย อันดับ 102 ของโลก, อิรัก อันดับ 58 ของโลก, ฮ่องกง อันดับ 147 ของโลก และฟิจิ อันดับ 150 ของโลก และปีนี้พิเศษจะมีเงินรางวัลเป็นครั้งแรก แชมป์จะได้รับ 2 ล้านบาท รองแชมป์รับ 1 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย
