“พิพัฒน์”ชูเจ็ตสกีออฟชอร์ประสบความสำเร็จ เผยมูลค่าเศรษฐกิจทะลุ320ล.

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ชื่นชมการแข่งขันดับเบิ้ลยูจีพี วัน เจ็ตสกี ชิงแชมป์โลกทางไกลนอกชายฝั่งหรือออฟชอร์ชิงแชมป์โลก 2023 (WGP#1 WATERJET OFFSHORE WORLD CHAMPIONSHIP 2023)ประสบความสำเร็จในทุกแง่ ด้าน ดร.ก้องศักดิ ยอดมณี ผู้ว่ากกท.เผยทัวร์นาเมนต์ช่วยเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจถึง 320 ล้านบาท

หลังจากจบการแข่งขันดับเบิ้ลยูจีพี วัน เจ็ตสกี ชิงแชมป์โลกทางไกลนอกชายฝั่งหรือออฟชอร์ชิงแชมป์โลก 2023 (WGP#1 WATERJET OFFSHORE WORLD CHAMPIONSHIP 2023)ที่ลากูน่า บีช เกาะภูเก็ตระหว่างวันที่ 17-19 มี.ค. ที่ผ่านมาซึ่งมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาเป็นประธานในพิธีปิดและมอบรางวัล นายพิพัฒน์ชื่นชมทัวร์นาเมนต์นี้ว่าเป็นการช่วยส่งเสริมนโยบาย “สปอร์ต ทัวริซึ่ม” ของกระทรวงอย่างได้ผลเป็นรูปธรรมและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

“ผมยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่การแข่งขัน WGP#1 Water Jet Offshore World championship 2023 – Phuket จบด้วยความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ การจัดการแข่งขันรายการนี้ นับว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทย ทั้ง 2 ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการกีฬา และด้านการท่องเที่ยวที่สามารถทำรายได้ให้กับประเทศค่อนข้างสูง 

สำหรับด้านการกีฬา ประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการพัฒนาแบรนด์ทัวร์นาเม้นท์กีฬาไทย ให้เป็นผู้นำกีฬาของโลก ที่มีนักกีฬาทั่วโลกให้ความสนใจ เข้าร่วมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของการพัฒนากีฬาไทย บนจุดสูงสุดของระบบนิเวศน์กีฬาโลก ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ เมื่อเป็นการแข่งขันระดับโลกได้ สื่อโทรทัศน์นำไปออกอากาศกว่า 120 ประเทศทั่วโลก

เราจึงใช้จุดนี้ เชื่อมโยงให้เกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว เช่นครั้งนี้ ยูโรสปอร์ต ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ด้านกีฬาของโลก ได้นำการแข่งขันไปออกอากาศทั่วโลกอย่างเป็นทางการ เป็นการสื่อสารที่กระตุ้นให้ทั่วโลกคิดถึงความสุขในการมาท่องเที่ยวประเทศไทย นอกจากนั้นทัวร์นาเม้นท์ยังมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำระบบเจ็ตสกีไฟฟ้า มาแข่งขันในปีต่อๆไป เพื่อประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย 

กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬามีความยินดี ที่ช่วยสนับสนุนวงการกีฬาเจ็ตสกีโลกให้เติบโตขึ้นและขอแสดงความยินดีกับแชมป์โลกในทุกรุ่น ที่ได้คว้าแชมป์จากภูเก็ต ประเทศไทย ในครั้งนี้ และในโอกาสต่อไป ขอเชิญนักแข่งทุกท่านมาร่วมชิงชัยตำแหน่งแชมป์โลกในประเทศไทยกันมากมายแบบนี้ต่อไป” นายพิพัฒน์กล่าว

ด้าน ดร.ก้องศักดิ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ร่วมในงานพิธีปิดมอบรางวัลและเลี้ยงฉลองให้กับนักกีฬาเช่นกัน มองว่าทัวร์นาเมนต์นี้สร้างมูลค่าเศรษฐกิจให้ประเทศไทยได้อย่างมากมาย

“ตามดำริของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ต้องการให้ การกีฬาแห่งประเทศไทยพัฒนาแบรนด์ทัวร์นาเม้นท์กีฬาไทย สู่เวทีโลก เพื่อเป็นโครงการต้นแบบในด้านนี้ ซึ่งทัวร์นาเม้นท์กีฬาเจ็ตสกี WGP#1 ของไทย ได้ประสบความสำเร็จเป็นทั้ง ทัวร์นาเม้นท์แกรนด์สแลมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ปิดท้ายฤดูกาลแข่งขันทุกปี ที่เมืองพัทยา ประเทศไทย และยังเป็นเวิลด์ทัวร์ของโลก ในชื่อทัวร์นาเม้นท์ WGP#1 World Series อีกด้วย
 
การแข่งขันครั้งนี้มีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน 16 ประเทศ นักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน 81 คน รวมนักกีฬากับทีมงานทั้งหมด 729 คน มีมูลค่าเศรษฐกิจประมาณ 320 ล้านบาท ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้จะมีการถ่ายทอดการแข่งขันไปทั่วทุกมุมโลกผ่านสื่อช่อง EUROSPORT บนเครือข่ายกว่า 155 ล้านครัวเรือน
 
ความสำเร็จครั้งนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นแผนงานร่วมกับ WGP#1 ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขันชาวไทย เพื่อมุ่งสร้างประโยชน์เพิ่มขึ้นให้กับประเทศไทย ทัวร์นาเม้นท์เจ็ตสกีนอกชายฝั่งชิงแชมป์โลก หรือ WGP#1 Water Jet Offshore World championship 2023 – Phuket มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มจังหวัดภูเก็ตให้เป็น หมุดหมายกีฬาโลกทางน้ำ

นอกจากนั้น เป็นการประชาสัมพันธ์เมืองกีฬานี้ให้มีความถี่สู่นานาชาติ และยังเป็นการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาไทย รวมถึงเป็นโครงการนำร่องด้านการใช้เจ็ตสกีไฟฟ้า ที่จะบรรจุเป็นรุ่นแข่งขันในปีหน้า และเป็นรุ่นไฟฟ้าทั้งหมดภายใน 4-5 ปีข้างหน้านี้ ถือเป็นการส่งเสริมและเป็นแบบให้กับยานพาหนะทางน้ำอื่นๆ เกิดประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมต่อจังหวัดภูเก็ตด้วย” ดร.ก้องศักดิกล่าว

สำหรับตำแหน่งแชมป์โลกทั้ง 6 รุ่นของรายการนี้ ใน คลาส เอ หรือระดับมืออาชีพ แอนโธนี ราเดติช นักแข่งอเมริกัน ครองแชมป์โลกรุ่นเรือนั่งแต่งเครื่องยนต์, โอลก้า อันโตเนียค สาวรัสเซียครองแชมป์รุ่นเรือนั่งแต่งเครื่องยนต์, คลาส บี หรือกึ่งอาชีพ ธภัทรวัฒน์ โจสรรค์นุสนธิ์ ดาวรุ่งชาวไทยคว้าแชมป์รุ่นเรือนั่งแต่งเครื่องยนต์, นิกิต้า อันโคเนียค แชมป์รุ่นเรือนั่งจำกัดการแต่งเครื่องยนต์, คลาส ซี หรือระดับสมัครเล่น กษิดิศ ธีระประทีป นักแข่งไทยแชมป์รุ่นเรือนั่งไม่เกิน 300 แรงม้าห้ามแต่งเครื่องยนต์ และ วเชโวล็อด เชอร์นูก้า จากรัสเซียแชมป์รุ่นเรือนั่งเกิน 300 แรงม้าห้ามแต่งเครื่องยนต์