เช็กเส้นทางน้ำ ท่วมแล้วไปไหนต่อ

กทม. 29 ก.ย. – เขื่อนใหญ่ยังทยอยเพิ่มการระบายน้ำต่อเนื่อง ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำเพิ่มอีก 155 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตอนนี้มีน้ำอยู่ในเขื่อนมากถึง 99.27% ต้องเพิ่มการระบายน้ำออกเช่นกัน พร้อมไขคำตอบ น้ำที่ท่วมในจังหวัดต่างๆ ทั้งภาคเหนือ อีสาน ท่วมแล้วมวลน้ำไปไหนต่อ


สถานการณ์เจ้าพระยา จุดศูนย์รวมของแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน อยากให้มาดูความแตกต่างปริมาณน้ำ 2 เขื่อนใหญ่ อย่างเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ เทียบวันนี้กับปี 54 โดยวันนี้เมื่อปี 54 เขื่อนภูมิพลมีปริมาตรน้ำมากถึง 12,382 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 92 % ของความจุ ส่วนวันนี้เขื่อนภูมิพลมีน้ำอยู่ 6,431 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 48% ของความจุ (วานนี้ 6,285 / 47%)

ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์ วันนี้เมื่อปี 54 มีน้ำอยู่ถึง 9,399 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 99% ของความจุ เรียกว่าแทบจะเต็มความจุ แต่วันนี้เขื่อนสิริกิติ์มีน้ำอยู่เพียง 4,117 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 43 % ของความจุ (วานนี้ 4,091 / 43 %)


ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แม้ไม่ใช่เขื่อนใหญ่ แต่เป็นอีกจุดที่น่าจับตา เพราะน้ำจะไหลไปบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นกัน และตอนนี้มีปริมาณน้ำในเขื่อน 953 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 99.27% ทำให้ต้องระบายน้ำเพิ่มจาก 34.56 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็น 51.89 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่หากทียบกับวันนี้เมื่อปี 54 ยังถือว่าต่างกันพอสมควร เพราะวันนี้เมื่อปี 54 มีการระบายน้ำออก 77.82 ล้านลูกบาศก์เมตร

ขณะที่เขื่อนพระรามหก จุดรับน้ำต่อจากเขื่อนป่าสักฯ วันนี้มีน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 461 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนวันนี้เมื่อปี 54 มีน้ำไหลผ่าน 1,214 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ส่วนเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จุดศูนย์รวมน้ำ วันนี้ติดป้ายแจ้งเตือนการระบายน้ำเพิ่มอีก ทำให้ปริมาณน้ำไหลผ่านลุ่มเจ้าพระยา จุดเหนือเขื่อนที่สถานีค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ มีน้ำไหลผ่าน 2,683 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง 1.79 เมตร (เมื่อวาน 2.17 น.) ปริมาณสูงสุดที่รับได้ คือ 3,590 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนวันนี้เมื่อปี 54 มีน้ำไหลผ่าน 4,344 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที


ส่วนท้ายเขื่อนเจ้าพระยา วันนี้เมื่อปี 54 ระบายน้ำ 3,646 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่วันนี้ระบายน้ำ 2,749 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปรับเพิ่มจากเมื่อวานที่ระบายออก 2,631ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนความจุของน้ำสูงสุดที่ 2,840 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ไล่ลงมาที่สถานีบางไทร อยุธยา วันนี้เมื่อปี 54 มีน้ำผ่านเฉลี่ย 3,224 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่วันนี้เฉลี่ย 2,561 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (เมื่อวาน 2,311) ขณะที่ความจุลำน้ำอยู่ที่ 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ย้อนกลับไปเมื่อวาน (28 ก.ย.) นอกจากเทียบปริมาณน้ำไหลผ่านและความจุในการกักเก็บน้ำของอ่างต่างๆ กับปี 54 แล้ว อยากให้ดูจุดสีเหลือง สีแดง ที่เป็นตัวชี้วัดสถานการณ์น้ำอีกตัวหนึ่ง คือ สีเขียว ปกติ สีเหลืองวิกฤติ และสีแดงคือน้ำท่วม โดยวันนี้ปริมาณน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงมา เส้นทางน้ำที่ผ่านสิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา ยังเป็นสีเหลือง (วิกฤติ) เหมือนเดิม แต่ในบางส่วนของอยุธยา พื้นที่ ต.บางบาล ที่เป็นคอขวด และรับทั้งการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ป่าสักฯ และเขื่อนพระรามหก ยังคงเป็นสีแดง (น้ำท่วม) ส่วนสถานีบางไทร อยุธยา ปลายทางก่อนน้ำจะไหลมานนทบุรี และปทุมธานี จุดนี้น่าจับตา เพราะเมื่อวานยังเป็นสีเขียว (ปกติ) แต่วันนี้กลับเปลี่ยนเป็นสีเหลือง (วิกฤติ)

ส่วนน้ำที่ท่วมอยู่ในหลายจังหวัดไปทางไหนต่อ มีคำตอบให้ โดยแยกเป็นรายจังหวัดน้ำท่วมหนักตามที่ ปภ.รายงาน เริ่มจากที่ชัยภูมิ น้ำที่ท่วมในตัวเมืองจะค่อยๆ ไหลลงแม่น้ำชี ไปต่อที่ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร ก่อนไหลไปรวมแม่น้ำมูล ที่ อ.กันทรารมย์ ศรีสะเกษ ต่อไปที่อุบลราชธานี เขื่อนปากมูล และลงแม่น้ำโขง

ส่วนน้ำท่วมโคราช จะไหลลงแม่น้ำมูล ไปต่อที่บุรีรัมย์ สุรินทร์ รวมกับแม่น้ำชี ที่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ และไปต่อที่อุบลฯ เขื่อนปากมูล ลงแม่น้ำโขง

เริ่มมองเห็นภาพใหญ่แล้วว่า อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ จะเป็นศูนย์รวมของน้ำท่วม ก่อนไปต่อที่อุบลราชธานี และไหลลงเขื่อนปากมูล และแม่น้ำโขง ซึ่งต้องจับตาว่าศรีสะเกษและอุบลฯที่มีมวลน้ำมารวมกันจำนวนมากจะทำให้เกิดน้ำท่วมหรือไม่

จากนั้นไปดูต่อกันที่น้ำท่วมเพชรบูรณ์ ที่มีแม่น้ำป่าสักไหลผ่าน น้ำก็ไหลสมทบเข้าเขื่อนป่าสักฯ ซึ่งตอนนี้พื้นที่เก็บน้ำเริ่มวิกฤติ จากนั้นน้ำจะไหลผ่านสระบุรี และลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จ.อยุธยา ก่อนเข้ากรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อหาทางออกสู่อ่าวไทย

ขณะที่น้ำท่วมสุโขทัยปีนี้มีน้ำเยอะ กรมชลฯ บอกว่าเกิดจากฝนตกติดต่อกัน แม่น้ำยมก็จะไหลไปที่พิษณุโลก ก่อนเข้าแม่น้ำน่านที่นครสวรรค์ ลงแม่น้ำเจ้าพระยา ไปต่อที่อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และไปสมทบกันที่แม่น้ำป่าสัก อยุธยา ต่อมากรุงเทพฯ ปริมณฑล และเหมือนเดิมคือหาทางออกลงอ่าวไทย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]