10 คณบดีคณะแพทย์ หนุนมติ คกก.โรคติดต่อฯ

สำนักข่าวไทย 15 ก.ค.–10 คณบดีคณะแพทย์หนุน มติ คกก.โรคติดต่อแห่งชาติ ทั้งฉีดวัคซีนไขว้สลับชนิด เข็ม 1 ซิโนแวค และ เข็ม 2 แอสตราฯ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้นในระยะเวลาอันสั้น คุมโควิดสายพันธุ์เดลตา หลังพบมีอัตราการแพร่ระบาดกว่า ร้อยละ 69 แล้ว และเดินหน้าฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ในหมอพยาบาล ไม่เกี่ยงเป็นไวรัลเวกเตอร์ หรือ m-RNA โดยเข็ม 3 นี้ห่างจากการรับเข็ม 2 ที่ซิโนแวค 4 สัปดาห์


แหล่งข่าวระดับสูงจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) ให้ข้อมูลว่า จากกรณีเรื่องการให้วัคซีนสลับชนิด เนื่องจากมีการศึกษาวิจัยว่า จะมีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิดสายพันธุ์กลายพันธุ์ โดยเฉพาะเดลตา(อินเดีย) ที่กำลังระบาดหนัก ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ก.ค 64 ที่ผ่านมา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ 10 คณะในฐานะคณะที่ปรึกษา สธ.ใน ศบค. ออกแถลงการณ์สนับสนุนมาตรการฉีดวัคซีนสลับเข็ม และวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ตามมติของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 7/2564 เนื่องจากมีข้อเสนอแนะให้มีการทบทวนข้อมูลทางวิชาการ เรื่อง การให้วัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน1เข็มกับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) 2 เข็ม และการให้วัคซีนโควิด19 แบบสลับชนิด ตามด้วยวัคซีนแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) สำหรับประชาชนกลุ่ม เป้าหมาย ตามมติของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 7/2564 เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 นั้น

แหล่งข่าวระบุว่า คณะที่ปรึกษา สธ.ใน ศบค.มีความเห็นว่า มติของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเป็นมติที่ควรได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน โดยมีเหตุผลสนับสนุนดังต่อไปนี้ สำหรับมาตรการฉีดวัคซีนสลับเข็มสำหรับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย


1.เชื้อก่อโรคโควิด19 สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้รายงานว่า ในกรุงเทพมหานครมีสายพันธุ์เดลตาเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดพบว่ามีสายพันธุ์เดลตา ร้อยละ 69 จากข้อมูลสำรวจรายสัปดาห์ ทั้งนี้ สายพันธุ์เดลตาแพร่ได้เร็ว อัตราตายสูง และดื้อต่อวัคซีนที่พัฒนาจากสายพันธุ์เดิม

  1. ผลการศึกษาภูมิคุ้มกันชนิด Neutralizing Antibody ต่อสายพันธุ์เดลตา พบว่า วัคซีนแอสตราฯ เข็มแรก และวัคซีนซิโนแวค สองเข็ม เพียงอย่างเดียว กระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์เดลตาได้ไม่ดี
  2. วัคซีนแอสตราฯ 1เข็ม ยังกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ไม่สูงพอจะกันป่วยหนักจากสายพันธุ์เดลตา ทำให้ประเทศอังกฤษประกาศร่นระยะเวลาการฉีดวัคซีนแอสตราฯ 2เข็ม จาก 12 สัปดาห์ เหลือ 8 สัปดาห์
  3. วัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ไม่สูงพอที่จะกันป่วยหนักจากสายพันธุ์เดลตาได้ ทำให้มีรายงานบุคลากรทางการแพทย์เสียชีวิตหลายร้อยรายในประเทศอินโดนีเซีย
  4. ในระบบการให้วัคซีนของประเทศไทย มีผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด19 แบบสลับชนิด โดยเข็มแรกฉีดวัคซีนซิโนแวค ตามด้วยวัคซีนแอสตราฯ เป็นเข็มที่สอง จำนวน 1,102 ราย เนื่องจากสาเหตุบางประการ ทำให้ไม่สามารถรับวัคซีนซิโนแวคเข็มที่2ได้ เช่น เกิดภาวะไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่1โดยทั้ง 1,102 รายนี้ ได้รับการติดตามอาการไม่พึงประสงค์ในระบบของกระทรวงสาธารณสุข ยังไม่มีรายงานอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงหรือเสียชีวิต และยังไม่มีรายงานการติดเชื้อก่อโรคโควิด ในคนกลุ่มนี้ จากฐานข้อมูลของกรมควบคุมโรค ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2564
  5. ผลการศึกษาระดับภูมิคุ้มกันของผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด 19 แบบสลับชนิด โดยเข็มแรกฉีดวัคซีนซิโนแวคและตามด้วยวัคซีนแอสตราฯ เป็นเข็มที่สอง จำนวน 36 ราย โดยคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจำนวน 17 ราย โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับ นักวิจัยจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พบว่า ระดับภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนแบบสลับชนิดสูงกว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ถึง 8 เท่า และผลการตรวจภูมิคุ้มกันต่อเชื้อสายพันธุ์เดลตา พบว่า ภูมิคุ้มกันต่อเชื้อสายพันธุ์เดลตามีค่าสูงทุกราย และอนุมานได้ว่าประสิทธิภาพของวัคซีนสูตรนี้ต่อสายพันธุ์เดลตา น่าจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 80
  6. การให้วัคซีนโควิด 19 แบบสลับชนิด ซิโนแวคตามด้วยแอสตราฯ น่าจะทำให้ผู้ได้รับวัคซีนมีภูมิคุ้มกันสูงต่อเชื้อสายพันธุ์เดลตาได้รวดเร็วกว่าการให้วัคซีนแอสตรา 2 เข็มห่างกัน 8 สัปดาห์ โดยการให้วัคซีนโควิด แบบสลับชนิด ซิโนแวค ตามด้วยแอสตราฯ น่าจะทำให้ระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อสายพันธุ์เดลตาสูง เมื่อ 5-6 สัปดาห์หลังฉีดเข็มที่ 1
  7. เนื่องจากประเทศไทยมีการใช้วัคซีนซิโนแวคเป็นจำนวนมาก ในสถานการณ์ที่เชื้อสายพันธุ์เดลตาระบาดรุนแรง ต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้สูงและรวดเร็ว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการใช้วัคซีนที่มีอยู่ต่อการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตจากสายพันธุ์เดลตา มติของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา นั้นมีความเหมาะสมแล้วในสถานการณ์ปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามสำหรับมาตรการการให้วัคซีนเข็มกระตุ้น 1 เข็ม หลังจากที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มในบุคลากรด่านหน้า นั้น เป็นไปตามข้อมูลที่ได้ติดตามผลการตรวจภูมิคุ้มกันหลังจากได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม พบว่า ระดับภูมิคุ้มกันไม่สูงพอสำหรับเชื้อสายพันธุ์อินเดีย จึงมีข้อแนะนำให้ฉีดกระตุ้นในบุคลากรด่านหน้าได้ โดยอาจเป็นวัคซีนแอสตราฯ หรือวัคซีนชนิด mRNA อย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังจากวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2โดยมติดังกล่าว เป็นเรื่องเร่งด่วนเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่จะต้องปฏิบัติภารกิจคัดกรอง ตรวจวินิจฉัย และรักษาผู้ป่วยโควิด สายพันธุ์เดลตา อย่างใกล้ชิด ซึ่งไม่สามารถรอให้มีหลักฐานพิสูจน์ทราบว่าวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มไม่ได้ผล คือ การพบบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าป่วยหนักหรือสูญเสียชีวิตได้ ดังนั้น แม้จะยังไม่มีหลักฐานถึงประสิทธิภาพที่ชัดเจน แต่เนื่องจากมีข้อมูลยืนยันว่าการให้วัคซีนเข็มกระตุ้น 1 เข็ม หลังจากที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ชัดเจน และพบผลไม่พึงประสงค์รุนแรงได้ไม่บ่อย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]