สธ.ปรับมาตรการรับมือโควิด-19 เน้น 4 ด้าน

สธ. 5 ก.ค.-ปลัด สธ.ปรับมาตรการรับมือโควิด-19 เน้น 4 ด้าน ครอบคลุม ค้นหา-รักษา-วัคซีน และมาตรการสังคม ยกเลิกฉีดวัคซีนปูพรม เน้นฉีดพุ่งเป้าผู้สูงอายุ, ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ให้ได้ร้อยละ 80 ใน ก.ค. เพื่อลดตาย แจงสายพันธุ์เดลตาลามไปทุกเขตของ กทม. แนะปลุกใช้ WFH ให้ได้ร้อยละ 70 หลังยอดครองเตียงในระยะเวลา 1 เดือน เพิ่มนอน 10,000 คน


นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ปลัด สธ.) แถลงสถานการณ์โควิด-19 พร้อมปรับแนวทางการรับมือ ว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ พบการติดเชื้อมากถึงหลักพันคนและยังพบกับปัญหาการกลายพันธุ์ที่เดิมจากสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) เป็นเดลตา (อินเดีย) จึงต้องเน้นการปรับมาตรการเพื่อควบคุมโรคใหม่ และแนวทางการรักษาพยาบาล โดยปัญหาการระบาดของโควิด พบมากใน กทม.และปริมณฑล ซึ่งทำให้กระทรวงสาธารณสุขต้องเข้ามาช่วยเหลือดูแลในพื้นที่ มีการระดมทีมแพทย์ พยาบาล เภสัชกร จากพื้นที่ที่พบการระบาดน้อย เข้ามาช่วยใน รพ.บุษราคัม ที่มีการขยายทำให้มีเตียง 3,700 เตียง และยังขยายเตียงฉุกเฉินในกลุ่ม รพ.มธ. ,วชิรพยาบาล , รพ.พลังแผ่นดิน,รพ.รามาธิบดีอีก 58 เตียง

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ทั้งนี้ ได้มีการปรับเพิ่ม 4 มาตรการเพื่อคุมโรค ได้แก่ 1.ค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ 2.ปรับระบบการรักษาใหม่ ทั้งการขยายเตียงรักษาเพิ่มขึ้นเกือบทุกจุด และใช้แนวทาง Home Isolation กรณีเตียงเต็ม และเพิ่มช่องทางด่วนในการรักษาผู้ป่วยสูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง โรคเรื้อรัง ให้ได้รับบริการโดยเร็ว ทั้งรับการตรวจและรักษาในรพ.


3.มาตรการวัคซีน ยกเลิกการปูพรมฉีด แต่เน้นกลุ่มเป้าหมายเพื่อลดอัตราตายและรุนแรง จึงจะฉีดในกลุ่มผู้สูงอายุ และ7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ต้องฉีดให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ในเดือน ก.ค.ส่วน เดือน ส.ค. ถึงจะเริ่มฉีดให้กับประชาชนทั่วไป และมีการบูธเตอร์วัคซีนเข็ม 3 ในบุคลากรด่านหน้า ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาพิจารณา คาดว่าผลจะออกมาใน 2-3 สัปดาห์หน้า ทั้งเรื่องชนิดวัคซีนที่จะฉีด และระยะห่างของแต่ละเข็มในวัคซีน เนื่องจากเพิ่งครบการฉีดวัคซีน 2 เข็มในบุคลากรมา 2 เดือน และ4.มาตรการทางสังคม เน้นควบคุมโรคเป็นหลัก ไม่ให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จะมีการปรับแนวทางการค้นหาผู้ป่วยให้สอดคล้องกับสถานการณ์โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ที่เป็นศูนย์การระบาด เน้นในเดือน ก.ค.-ส.ค. เน้นการค้นหาผู้ป่วยแล้วแยกกัก ป้องกันเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต โดยเฉพาะในกลุ่มสูงอายุ ส่วนหนุ่มสาว เน้นการตรวจเชิงรุก ป้องกันไม่ให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ หรือซุปเปอร์สเปรดเดอร์ เนื่องจากพบว่าหนุ่มสาวไม่มีอาการรุนแรง และไม่แสดงอาการ

ส่วนเรื่องของวัคซีนเดือนมิ.ย.ได้รับ 6 ล้านโดส และก.ค. ได้รับ 10 ล้านโดส โดยวัคซีนจะทยอยเข้า 2-2.5ล้านโดสต่อสัปดาห์ และกระจายไปในแต่ละพื้นที่ โดย กทม.มีผู้สูงอายุ 1.8 ล้านคน ดังนั้นต้องระดมฉีดให้ได้ร้อยละ 70 เร่งต้องฉีดให้ได้ใน 2สัปดาห์ ปริมณฑลจะต้องฉีดให้แล้วเสร็จในเดือนส.ค. (เนื่องจากผู้สูงอายุในต่างจังหวัดมี11.8 ล้านคน) และต้องมีการฉีดวัคซีนในชุมชนและกลุ่มเสี่ยง ส่วนพนักงานออฟฟิศต้องทำงาน WFH ร้อยละ 70 และขอให้ทุกคนลดการใช้ชีวิตนอกบ้านให้มากที่สุด


นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เปรียบเทียบผู้ป่วยครองเตียง เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.64 พบผู้ป่วย19,430 คน ส่วนวันที่ 4 ก.ค.64 พบผู้ป่วย 28,247 คนจะเห็นว่าเพียงเดือนเดียวพบผู้ป่วยเพิ่ม ถึง 10,000 คน เป็นสัดส่วนที่มาก ทั้งนี้ได้มีการขยายเตียงผู้ป่วยในทุกระดับสี ทั้ง เขียว เหลืองและแดง และยังพบผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามบุคลากรทางการแพทย์ทุ่มเทและทำงานอย่างเต็มที่ ขณะนี้เริ่มเมื่อยล้า มีการเบ่งเตียงจำนวนมากขึ้นแล้วและเพิ่มแนวทางการรักษา ทั้ง Home Isolatiom และCommunity Isolation เพื่อรองรับผู้ป่วย โดยมีการประสานร่วมมือกับภาคประชาชน ทั้งนี้ ยืนยันไม่จำเป็นไม่อยากใช้มาตรการนี้ อยากให้ผู้ป่วยรับบริการในสถานพยาบาล ขณะนี้ทั้ง สปสช.และ สปส. ได้อนุมัติงบประมาณเป็นค่าอาหาร 3 มื้อให้กับผู้ป่วยหากต้องรักษาตัวที่บ้าน และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อ ให้ผู้ป่วยได้อยู่บ้านครบตามกำหนด

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการสำรวจสายพันธุ์โควิด ขณะนี้พบสายพันธุ์เดลตามากขึ้นในพื้นที่ กทม.และ ปริมณฑลมากถึงร้อยละ 52 ส่วนในต่างจังหวัด พบร้อยละ18 ทำให้ภาพ รวมทั้งประเทศเชื้อสายพันธุ์เดลตาร้อยละ 32 ทั้งนี้จากการตรวจหาเชิงรุก พบว่า เชื้อเดลตา ได้กระจายไปในทุกเขตของ กทม.แล้ว ส่วนสายพันธุ์เบตายังพบอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ และเตรียมศึกษาการฉีดวัคซีนบูธเตอร์ ทั้งซิโนแวค และแอสตรา รวมถึง m-RNA ที่มีตั้งแต่ได้รับ 2 เข็มหรือได้รับ3 เข็ม ต่างชนิดกัน เพื่อดูว่า มีผลต่อเชื้อกลายพันธุ์เดลตาหรือไม่ คาดว่าจะได้ผลเร็วๆนี้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]