ชงข้อมูลลดกักตัว ศบค.ใหญ่-นายกฯ สัปดาห์หน้า

รร.พูลแมน 13 พ.ย. – รมว.สธ. ย้ำรวบรวมข้อมูลการลดวันกักตัว 10 วัน ในประเทศเสี่ยงต่ำ เสนอ ศบค.ชุดใหญ่ สัปดาห์หน้า แจงเป็นการให้ข้อมูล รอบด้าน เพื่อเสนอนายกฯ ตัดสินใจ หากเห็นชอบคาดเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าปลายปีนี้ พร้อมชี้หากมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยจริง 10 ล้านคน โอกาสเจอคนป่วยหลุดรอดมี 100 คน เฉลี่ยเจอคนป่วย 1 สัปดาห์ พบ 2 คน ถือเป็นความเสี่ยงที่พอรับได้


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเปิดงาน Smart Living with COVID-19 ว่าขณะนี้ประเทศไทยมีความพร้อมทั้งด้านยาเวชภัณฑ์ และการรักษา ในการรับมือกับโควิด-19 โดยในส่วนของการลดวันกักตัว 10 วัน จากเดิม 14 วัน ทำตามหลักวิชาการทางการแพทย์ และเตรียมเสนอให้ ศบค.ชุดใหญ่ และ นายกรัฐมนตรีพิจารณา โดยข้อมูลที่จะให้ ศบค.นั้น มีอย่างรอบด้าน แต่ทุกอย่างก็คำนึงความรู้สึกของประชาชน จึงอยากให้สื่อมวลชน ช่วยทำความเข้าใจ ว่าการลดมาตรการการกักตัวนี้ ทำในกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ ที่มีอัตราป่วย น้อยหรือเท่ากับไทย เท่านั้น

ส่วนประเทศที่มีอัตราการป่วยโควิดสูงยังคงกักตัว 14 วันเท่าเดิม ทุกอย่างมีเหตุผลและใช้ความรู้ทางวิชาการประกอบ คาดว่าจะมีการเสนอ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาในสัปดาห์ หากเห็นชอบมีการประกาศในราชกิจจา คาดว่าจะเริ่มเปิดประเทศไทยจริงปลายธันวาคม ต้อนรับปีใหม่ โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา นอกจากต้องรับการตรวจคัดกรองก่อนเข้าประเทศแล้ว ยังต้องตรวจเชื้อระหว่างกักในไทย โดยมีการตรวจในวันที่ 0, วันที่ 5 และ วันที่ 9 มีตั้งการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR และการตรวจเลือดหาภูมิคุ้มกัน ทั้ง IgM และ IgG


นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับความพร้อมด้านยา และเวชภัณฑ์ในส่วนของยาฟาวิพิราเวียร์ มีสำรองไว้ 610,000 เม็ด และยาเรมดิสซิเวียร์ ชนิดฉีดอีก 710 หลอด ยังมีหน้ากากอนามัยและหน้ากากแบบ N95 และ ชุด PPE สำรองไว้จำนานมาก เชื่อว่าเพียงพอรับมือกับสถานการณ์ พร้อมย้ำขณะนี้ทุกประเทศยังไม่มีวัคซีนป้องกันโควิด ดังนั้นวัคซีนป้องกันตนเองพื้นฐาน ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้าง มีระยะห่าง ยังจำเป็นที่สุด

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การลดการกักตัวจาก 14 วัน มาเป็น 10 วัน ไม่มีความแตกต่าง ส่วนใหญ่การพบผู้ป่วยจะพบใน 3-5 วันแรก พ้น 10 วัน ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยพบว่ามีอาการป่วยแล้ว หรือหากมีเชื้อก็มีปริมาณเชื้อน้อยมาก การลดวันกักตัวจะทำในกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ ที่มีอัตราป่วยและติดเชื้อน้อยกว่าไทย หรือเท่ากับไทย ได้แก่ จีน ไต้หวัน มาเก๊า และเวียดนาม ก่อน

ส่วนในประเทศที่มีอัตราป่วยติดเชื้อสูง ยังคง 14 วัน เท่าเดิม พร้อมกันนี้ยังแสดงสมมติฐานว่าหากมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยในปีหน้าประมาณ 10 ล้านวัน และเมื่อกักตัวเหลือ 10 วัน โอกาสที่จะพบคนป่วยติดเชื้อหลุดรอด มีแค่ 100 คน จาก 10 ล้านคน หรือคิดเป็นโอกาสพบผู้ป่วย 2 คนต่อสัปดาห์ ซึ่งการป้องกันในไทยยังคงเหมือนเดิมคือการสวมหน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือ ซึ่งการแง้มประตูเปิดประเทศ ทำให้ประเทศเสี่ยงต่ำก่อนและแน่นอนต้องเผชิญความเสี่ยง แต่ก็เป็นความเสี่ยงที่พอยอมรับได้


นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า หากพบว่าการใช้มาตรการลดวันกักตัว 10 วัน ไปสัก 3 เดือน ไม่มีผู้ป่วยเพิ่มจำนวนมากก็อาจพิจารณาลดการกักตัวเหลือ 7 วัน จากนั้นก็อาจลดเหลือ 0 วัน เป็นตัว โดยมาตรการเหล่านี้ต้องมีการประเมินเป็นระยะ

นพ.โอกาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สิ่งที่ไทยต้องเผชิญหากมีการลดการกักตัวก็มีตั้งแต่พบผู้ป่วยเล้กน้อย เหมือนกรณีหญิงฝรั่งเศส หรือการพบผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อภายในครอบครัว หรือการติดเป็นจำนวนมาก ซึ่งขึ้นอยู่กับการป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัย และการล้างมือ มีระยะห่าง ส่วนมาตรที่จะต้องมีการปรับเพิ่มคือการเพิ่มระบบการบัญชาการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ต่างๆ ให้มีทั้งระบบเขต และจังหวัด โดยมีเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคเพิ่มขึ้น จากเดิม 1,000 ทีม เป็น 3,000 ทีม ในเดือนธันวาคม และมีระบบการติดตามผู้ที่รับการกักตัว ในสถานที่กัก เพื่อง่ายแก่การติดตาม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]