กาชาดเปิดรับบริจาคโลหิตในบ้านทรงไทย

กรุงเทพฯ28 ต.ค..-กาชาดเปิดรับบริจาคโลหิตในบ้านทรงไทย ที่ ย่านวงศ์สว่าง ถือเป็น Fixed Station แห่งใหม่ของประเทศไทย


ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี และประธานคณะกรรมการอำนวยการกลุ่มบริการโลหิต อวัยวะ และผลิตภัณฑ์ชีววัตถุแผน เป็นประธานพิธีเปิด หน่วยรับบริจาคโลหิตบ้านทรงไทย ย่านวงศ์สว่าง โดยจัดตั้งเป็นห้องรับบริจาคโลหิตประจำ หรือ Fixed Station แห่งใหม่ เพื่อเป็นการจัดหาโลหิตรูปแบบวิถีใหม่ ลดการแออัดของผู้บริจาคโลหิตที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ และเป็นหน่วยสนับสนุนในการรับบริจาคโลหิตให้ได้ตามเป้าหมาย มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วย ร่วมด้วย รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ และนางทิพวรรณ เจนประวิทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตบางซื่อ ณ บ้านเลขที่ 1423 ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร

ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี และประธานคณะกรรมการอำนวยการ กลุ่มบริการโลหิต อวัยวะ และผลิตภัณฑ์ชีววัตถุแผน กล่าวว่า งานบริการโลหิต จัดตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2495 เพื่อตอบสนองต่อข้อเสนอของสภากาชาดสากล และด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่องานบริการโลหิตมาอย่างยาวนาน ดังพระราชดำรัส ทรงพระราชทานแก่ผู้บริจาคโลหิต เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ปี 2507 ดังนี้


“การบริจาคโลหิตเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ ได้ช่วยให้คนรอดตายไว้ได้มาก
แม้มีเงินก็ช่วยอะไรไว้ไม่ได้ หากไม่มีคนใจกุศลเช่นนี้ การบริจาคโลหิตดูโดยเผินๆ ก็น่ากลัวอันตรายแต่ที่จริงแล้วไม่มีอันตราย มีแต่ประโยชน์แก่ผู้ให้และผู้รับ ให้ช่วยกันบริจาคโลหิตเป็นประจำไม่ใช่เพียงแต่บริจาคเฉพาะครั้งนี้”

นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการวางรากฐานแห่งความสำเร็จด้านการรณรงค์ประชาสัมพันธ์จัดหาผู้บริจาคโลหิต โดยเพิ่มช่องทางการรับบริจาคโลหิต เพื่อรองรับต่อความต้องการบริจาคโลหิตของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ลดการเดินทางเข้ามาบริจาคที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ โดยการจัดตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตประจำ หรือ Fixed Station แห่งใหม่ ย่านวงศ์สว่าง ซึ่งเป็นสถานที่รับบริจาคโลหิตแห่งแรกในประเทศไทย ที่มีลักษณะเป็นบ้านทรงไทย เพื่อรณรงค์ให้ผู้บริจาคเห็นความสำคัญ และตระหนักถึงเรื่องการบริจาคโลหิต เนื่องจากในปัจจุบัน โลหิตเป็นสิ่งที่จำเป็น และสำคัญในการรักษาผู้ป่วย ทุกวันนี้ยังไม่มีผู้ที่สามารถคิดค้นสิ่งใดมาใช้ทดแทนโลหิตได้อย่างสมบูรณ์ จึงจำเป็นต้องมีการบริจาคโลหิต เพื่อนำไปช่วยชีวิตผู้ป่วย และการบริจาคโลหิต เป็นการสละโลหิตส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยมีเกณฑ์กำหนดให้บริจาคโลหิต ได้ไม่เกินร้อยละ 10-12 ของปริมาณโลหิตในร่างกาย หรือปริมาณ 350-450 มิลลิลิตร (ซีซี) ซึ่งไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อสุขภาพของผู้บริจาค โดยการบริจาคโลหิตแต่ละครั้ง สามารถปั่นแยกเป็นส่วนประกอบโลหิตได้มากกว่า 3 ส่วน ช่วยชีวิตได้มากกว่า 3 ชีวิต เพื่อนำไปรักษาผู้ป่วยด้วยโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นแกนกลางในการจัดหาโลหิตบริจาคให้มีปริมาณเพียงพอ มีคุณภาพ ปลอดภัยสูงสุดทั้งผู้ให้และผู้รับ ตามนโยบายหลักว่า “โลหิตทุกยูนิต ต้องได้รับจากการบริจาคโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน” เพื่อนำไปรักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ ทั้งในรูปโลหิต ส่วนประกอบโลหิต และผลิตภัณฑ์โลหิต ในส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ต้องจัดหาโลหิต จำนวน 760,000 ยูนิตต่อปี จากสถานการณ์การบริจาคโลหิตปัจจุบัน พบว่าปริมาณการจัดหาโลหิตยังไม่สม่ำเสมอ มีการขาดแคลนโลหิตบางช่วงเวลา และบางเดือน ส่งผลกระทบทำให้
ปริมาณโลหิตสำรองคงคลังไม่เพียงพอทั้งในภาวะปกติ และในภาวะวิกฤติที่ต้องใช้โลหิต ในการรักษาอย่างเร่งด่วน จำนวนมาก โดยมีรูปแบบการจัดหาโลหิต ดังนี้


  1. รับบริจาคโลหิตที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์
  2. จัดหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ ในหน่วยงานต่างๆ วันละ 12 ทีม
  3. จัดตั้งห้องรับบริจาคโลหิต (Fixed Station) ตามห้างสรรพสินค้า เช่น เดอะมอลล์ บางกะปิ เดอะมอลล์งามวงศ์วาน และเดอะมอลล์ บางแค

    การจัดตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตบ้านทรงไทย (ย่านวงศ์สว่าง) เป็นการจัดหาโลหิตรูปแบบวิถีใหม่ เพื่อลดการแออัดของผู้บริจาคโลหิตที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เป็นการกระจายผู้บริจาคโลหิตไปยังพื้นที่ที่ผู้บริจาคโลหิตสะดวก เป็นหน่วยสนับสนุนในการรับบริจาคโลหิตให้ได้ตามเป้าหมาย มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วย โดยเปิดรับบริจาคโลหิตทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. (ปิดทำการวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี) และสำรองโลหิตให้กับโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โรงพยาบาลโรคทรวงอก ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดนนทบุรี ด้วย

    นางทิพวรรณ์ เจนประวิทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตบางซื่อ กล่าวว่า สำหรับการจัดตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตบ้านทรงไทย (ย่านวงศ์สว่าง) นอกจากเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชนในเขตบางซื่อ ได้มีส่วนร่วมในการบริจาคโลหิตช่วยเหลือผู้ป่วย ด้วยการเป็น “ผู้ให้” ด้วยความสมัครใจ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

    นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงการดูแลสุขอนามัยที่ดี นำไปสู่การเริ่มต้นเป็นผู้บริจาคโลหิต หรือหากเป็นผู้ที่เคยบริจาคโลหิตอยู่แล้ว สามารถเพิ่มความถี่การบริจาคอีก 1 ครั้ง และเป็นผู้บริจาคประจำทุก 3 เดือน ส่งเสริมให้มีการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจาก ครอบครัวเจริญศัสตรารักษ์ บริจาคที่ดินพร้อมบ้านทรงไทย ขนาดพื้นที่ 1 ไร่ 42 ตารางวา ตามความประสงค์ของบิดา (พันตรีชิน เจริญศัสตรารักษ์) และมารดา (นางทำเนาว์ สิงหเสนี) เพื่อสาธารณประโยชน์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน อาทิ สำนักงานเขตบางซื่อ, กรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย, สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น, โรงเรียนโยธินบูรณะ 2 (สุวรรณสุทธาราม) และชุมชนใน เขตบางซื่อ 50 ชุมชน รณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคโลหิต

    ในโอกาสนี้ จึงขอเชิญชวนผู้บริจาคโลหิต ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ป่วยด้วยความสมัครใจไม่หวัง สิ่งตอบแทน และเป็นผู้บริจาคประจำทุก 3 เดือน ส่งเสริมให้มีการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนต่อไป ทำให้ได้รับโลหิตที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และเพียงพอจ่ายสนับสนุนโรงพยาบาลทั่วประเทศ ลดภาวะการขาดแคลนโลหิต.-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]