มาตรการดูแล ปชช.รับผลกระทบยกเลิก 64 คลินิก

ศูนย์ราชการฯ 22 ก.ย.-สปสช.ย้ำประชาชน “สิทธิบัตรทอง” ยังอยู่ เป็นการเพิกถอนคลินิก-รพ.ทำหลักฐานเบิกเท็จ ระบุกระทบเฉพาะพื้นที่ กทม. ส่วน 76 จังหวัดระบบบริการปกติ พร้อมเผยความคืบหน้าดูแลประชาชน 8 แสนคน รับผลกระทบมีเพียง 30% ที่เจ็บป่วย เตรียมประชุมหน่วยบริการพื้นที่ กทม. ชี้แจงมาตรการรองรับ


ในการแถลงข่าว “สปสช.แจงยกเลิกสัญญา 64 คลินิก-โรงพยาบาลเอกชน ด้วยเหตุทุจริต ย้ำสิทธิบัตรทองยังคงอยู่ มีมาตรการรองรับ-บรรเทาผลกระทบ”

นายจิรวุสฐ์ สุขได้พึ่ง ประธานอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหน่วยบริการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขเกินจริง กล่าวว่า ก่อนอื่นชี้แจงว่าอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ มีความเป็นอิสระ ไม่มีเจ้าหน้าที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หรือถูกครอบงำจาก สปสช.ซึ่งการตรวจสอบมีความจำเป็นต้องทำโดยละเอียด เพราะเป็นการปกป้องประชาชนผู้มีสิทธิ์ รักษาผลประโยชน์ของรัฐและภาษีของประชาชน ทั้งไม่มีการเลือกปฏิบัติเพราะเป็นการดูจากหลักฐานที่ปรากฏ ไม่มีการกลั่นแกล้งใคร


ซึ่งพบว่ามีความจงใจสร้างเอกสารเท็จเพื่อเบิกจ่าย เริ่มจากคลินิก 18 แห่ง ขยายผล 64 แห่ง และตรวจพบอีก 106 แห่ง ที่เป็นความผิดทางอาญา ทำให้ สปสช.ต้องร้องทุกข์ดำเนินคดีและต้องเพิกถอนสัญญา ซึ่งต้องย้ำว่าเป็นการบอกเลิกสัญญาคลินิก ไม่กระทบสิทธิของประชาชนในการรักษา โดยประชาชนยังคงเป็นผู้มีสิทธิบัตรทองอยู่

จากการตรวจสอบครบ 189 แห่ง มีเพียงแห่งเดียวที่ดำเนินการถูกต้อง โดยคลินิกอีก 188 แห่ง พบความผิดปกติ ใช้ข้อมูลไม่ถูกต้องในการเบิกจ่าย สปสช.อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งการตรวจสอบนี้ยังเป็นเพียงหนึ่งในรายการบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค 18 รายการ และเป็นข้อมูลเฉพาะในปีงบประมาณ 2562 เท่านั้น หากถูกต้องจะต้องขยายตรวจสอบย้อนหลังปีที่ผ่านมาด้วย ซึ่งจะทำให้ทราบว่ามีการทุจริตปีละเท่าไหร่ และ สปสช. ต้องฟ้องเรียกค่าเสียหายเท่าไหร่ ไม่ใช่ปล่อยให้มาสูบผลประโยชน์จากกองทุนบัตรทอง ซึ่งขอย้ำว่าการตรวจสอบจำเป็นต้องทำ เพราะประชาชนกำลังถูกแอบอ้างนำข้อมูลไปเบิกจ่าย

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ต้องขออภัยประชาชนที่ประสบปัญหาการเข้ารับบริการในระหว่างที่ สปสช. กำลังเร่งแก้ไขปัญหา ซึ่ง สปสช.ไม่ได้นิ่งนอนใจ นอกจากการดำเนินการทางกฎหมายกับหน่วยบริการที่ทำผิดจนถึงที่สุดแล้ว ในส่วนที่เกิดผลกระทบกับประชาชน สปสช.ได้เตรียมการรองรับไว้แล้ว แต่ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่มีมากอาจทำให้ระบบรองรับไม่เพียงพอ เบื้องต้นขณะนี้มีประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 1 ล้านคน ในจำนวนนี้ 2 แสนคน ในคลินิก 18 แห่งที่ถูกเพิกถอนสัญญา สปสช. ได้ลงทะเบียนหน่วยบริการใหม่แล้ว ส่วนอีก 8 แสนคน ในหน่วยบริการ 64 แห่ง อยู่ระหว่างดำเนินการ 3 ส่วน ดังนี้ คือ


1.กลุ่มผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนัดผ่าตัด ผู้ป่วยล้างไต หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยกลุ่มนี้ สปสช.มีฐานข้อมูลที่ชัดเจนและได้มีการโทรประสานไปยังผู้ป่วยโดยตรงแล้ว เพื่อให้สามารถเข้ารับการรักษาต่อเนื่อง แต่ด้วยในกรณีที่ขัดข้อง ไม่ได้รับการติดต่อจาก สปสช. ขอให้ส่งข้อความผ่าน Facebook สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดย สปสช.จะติดต่อกลับโดยเร็ว

2.กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องรับการดูแลต่อเนื่อง อาทิ เบาหวาน ความดันสูง เป็นต้น ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ สปสช.ได้ประชุมร่วมกับสำนักการแพทย์ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ในระยะสั้นก่อนระหว่างรอหน่วยบริการใหม่ เบื้องต้นผู้ป่วยเรื้อรังที่ได้รับผลกระทบสามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 37 แห่ง ของกรุงเทพมหานครได้ โดย สปสช.ได้ส่งข้อมูลให้ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 19 แห่งแล้ว

3.กลุ่มผู้ป่วยทั่วไป ขณะนี้กำหนดสถานะเป็นสิทธิว่างที่เหมือนเป็นวีซ่าพิเศษ ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้เข้ารับบริการที่หน่วยบริการบัตรทองที่ใดก็ได้ เป็นการอำนวยความสะดวนในการรับบริการผู้ป่วยนอก หน่วยบริการจะเรียกเก็บค่าบริการมาที่ สปสช. โดยได้ทำการแจ้งยังหน่วยบริการเครือข่ายแล้ว

“ย้ำว่าเหตุที่เกิดขึ้นนี้ เป็นการดำเนินการเฉพาะหน่วยบริการที่กระทำผิดเบิกเท็จเท่านั้น หน่วยบริการอื่นยังคงบริการตามปกติ ทั้งยังจำกัดเฉพาะพื้นที่ กทม. ไม่เกี่ยวข้องกับจังหวัดอื่น ซึ่งประชาชนอีกกว่า 76 จังหวัด ไม่ต้องกังวลและสามารถรับบริการปกติเช่นเดิม” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ประชาชน 8 แสนคนที่ได้รับผลกระทบจากการเพิกถอนสัญญาคลินิกและโรงพยาบาลเอกชน 64 แห่ง ในจำนวนนี้มีเพียง 30% ที่เจ็บป่วยและต้องมีมาตรการรองรับโดยเร็ว โดย สปสช.อยู่ระหว่างประสานงานและเพิ่มหน่วยบริการรองรับโดยเร็ว โดย สปสช. เขต 13 กทม.ได้เชิญหน่วยบริการในพื้นที่ กทม. มาชี้แจงแนวทางเพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี อาทิ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กรมการแพทย์ กรมการแพทย์ทหารเรือ กรมการแพทย์ทหาร กรมการแพทย์ทหารอากาศ โรงเรียนแพทย์ เป็นต้น

สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบและ สปสช. ได้วางมาตรการรองรับแล้ว มีดังนี้
1.ผู้ติดเชื้อเอชไอวี 2,166 ราย รับบริการต่อเนื่องที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 37 แห่ง รพ.สำนักการแพทย์ 8 แห่ง รพ.รัฐทุกแห่ง รพ.มงกุฎวัฒนะ และ รพ.แพทย์ปัญญา
2.ผู้ป่วยไต 295 ราย ให้ รพ.ยกเลิกสัญญาส่งผู้ป่วยไปรับบริการต่อยังหน่วยบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. เป็นการชั่วคราว
3.ผู้ป่วยที่นัดผ่าตัด 132 ราย สปสช. ได้ประสานกับ รพ.ในระบบบัตรทอง และได้ประสานกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
4.หญิงตั้งครรภ์ 5,000 คน ประสานโรงพยาบาลเพื่อดูคิวบริการ และนัดวันทำคลอด
5.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ให้ผู้ป่วยสามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร ตามเขตพื้นที่

นายธนพลธ์ ดอกแก้ว นายกสมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังที่ต้องรับการล้างไต โทรสอบถามมายังสมาคมฯ ซึ่งมีบางส่วนที่เข้าใจข้อมูลผิดว่าบัตรทองถูกยกเลิก ไม่สามารถใช้สิทธิได้ จึงต้องยืนยันที่นี่ว่า การยกเลิกบริการเป็นการยกเลิกเฉพาะหน่วยบริการที่ สปสช.ยกเลิกสัญญาเพราะมีการทำหลักฐานเท็จเบิกจ่ายค่าบริการ แต่สิทธิบัตรทองยังอยู่ ไม่ได้ยกเลิก ดังนั้นประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถประสานกับ สปสช. เพื่อขอรับบริการต่อเนื่องได้ นอกจากนี้จากผลกระทบที่เคยเกิดขึ้นในกรณีคลินิก 18 แห่ง

ทางเครือข่ายผู้ป่วยจึงมีการจัดทำแนวทางรองรับเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแล เพราะเราเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องรักษาต่อเนื่อง โดยได้ประสานกับ สปสช. มาตลอด ยืนยันว่าการดำเนินการของ สปสช. ครั้งนี้เป็นการทำที่ถูกต้อง เพราะเป็นการดำเนินการกับคลินิกที่ให้บริการประชาชนไม่ตรงไปตรงมา .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]