บอร์ด สปสช.ไฟเขียวยืดหยุ่นให้บริการ “ผู้ป่วยแนวชายแดน-น้ำท่วม”

4 ส.ค. – บอร์ด สปสช. เห็นชอบแนวทางยืดหยุ่นให้บริการ “ผู้ป่วยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา/อุทกภัยภาคเหนือ”


บอร์ด สปสช. เห็นชอบการปรับ “แนวทางการรับบริการและการสนับสนุนค่าบริการสาธารณสุขในระบบบัตรทอง” เพื่อยืดหยุ่นให้การดูแล “ผู้ป่วยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา” และ “ผู้ป่วยประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ” ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภาวะฉุกเฉิน เผยข้อมูลตัวเลขผู้ป่วยได้รับผลกระทบ มีจำนวนเกือบหมื่นราย

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บอร์ด สปสช. เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 8/2568 ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการดำเนินการของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. เพื่อรองรับสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย -กัมพูชา และสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยไตวายเรื้อรังและกลุ่มผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงที่ต้องเร่งให้การดูแลโดยเร็ว ซึ่งจากข้อมูลได้รับรายงานที่ผ่านมาพบว่า มีผู้ป่วยได้รับผลกระทบแล้วจำนวน 9,119 ราย แยกเป็น ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังจำนวน 1,803 ราย และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงจำนวน 7,316 ราย ซึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและจังหวัดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

ทั้งนี้ บอร์ด สปสช. มีความห่วงใยประชาชนไทยทุกคนในพื้นที่สถานการณ์ภาวะฉุกเฉิน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วย ให้ความสำคัญในการดูแลเพื่อช่วยลดผลกระทบ จึงได้เห็นชอบและสนับสนุนการปรับแนวทางการเข้ารับบริการที่ยืดหยุ่น เพื่อให้ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) สามารถใช้สิทธิเข้ารับบริการในหน่วยบริการอื่นได้ทันที หากหน่วยบริการประจำไม่สามารถให้บริการได้

นอกจากนี้ ได้อนุมัติมาตรการพิเศษสำหรับการดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ต้องล้างไตผ่านช่องท้อง โดยให้ สปสช. เขตประสานงานกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณด) เพื่อเพิ่มการจัดส่งน้ำยาล้างไตสำรอง (Buffer) ไปยังหน่วยบริการที่อยู่ใกล้กับที่พักของผู้ที่ต้องอพยพ และเตรียมแผนรองรับการจัดส่งในเดือนถัดไปหากผู้ป่วยยังไม่สามารถกลับภูมิลำเนาได้ รวมถึงให้ สปสช. ประสานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่เพื่อติดตามดูแล เรื่องสุขภาพจิตของประชาชน


ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวทางการเข้ารับบริการและการสนับสนุนค่าใช้จ่ายค่าบริการสาธารณสุขในสถานการณ์ภาวะฉุกเฉินฯ ที่บอร์ด สปสช. รับทราบมีรายละเอียด ดังนี้ การเข้ารับบริการของผู้มีสิทธิบัตรทอง ในกรณีผู้มีสิทธิบัตรทองไม่สามารถเข้ารับบริการในหน่วยบริการประจำได้ เนื่องจากหน่วยบริการปิดหรือต้องอพยพ สามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการอื่นได้ทั้งในและนอกจังหวัด โดยหน่วยบริการที่ให้การรักษาสามารถเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการได้ตามหลักเกณฑ์ ส่วนการให้บริการด้านยาและเวชภัณฑ์ ตามประกาศสำนักงานฯ เกี่ยวกับการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข ในกรณีของผู้ป่วยที่ต้องได้รับยาต่อเนื่องและมีความจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนยาตามความเหมาะสม ให้หน่วยบริการสามารถใช้ดุลยพินิจพิจารณาตามข้อตกลงในระดับพื้นที่ได้

การดูแลผู้ป่วยเฉพาะกลุ่ม กรณีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ต้องฟอกเลือด หากต้องไปรับบริการฟอกไตในพื้นที่ปลอดภัย หน่วยบริการฟอกไตที่รองรับสามารถเพิ่มจำนวนการให้บริการได้เกินกว่าที่ สปสช. กำหนดได้ โดยแจ้งข้อมูลศักยภาพการให้บริการไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจพิจารณา

ส่วนผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงสิทธิบัตรทองที่ไม่สามารถเข้ารับบริการตามแผนงานฯ การดูแลรายบุคคลเดิมภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น (กปท.) ติดต่อขอรับบริการได้ที่หน่วยบริการอื่น โดยให้หน่วยบริการรับค่าใช้จ่ายฯ จากสำนักงานฯ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขในแต่ละประเภทบริการที่เข้ารับการดูแลรักษา ในแต่ละประเภทบริการ การประสานงานและการสนับสนุน โดย อปท. สามารถสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินโครงการหรือกิจกรรมในสถานการณ์ภาวะฉุกเฉินที่เกิดขึ้นได้ โดยถือเป็นกรณีภัยพิบัติตามความจำเป็น รวมถึงการจัดบริการพาหนะรับส่งผู้ทุพพลภาพ การสนับสนุนผ้าอ้อมและแผ่นรองซับขับถ่าย โดยเป็นไปตามประกาศหลักเกณฑ์ฯ กปท.

นอกจากนี้ในส่วนการแสดงตนยืนยันสิทธิเมื่อสิ้นสุดการรับบริการ ให้หน่วยบริการใช้วิธีการยืนยันตัวตนโดยคำนึงถึงความสะดวกและความจำเป็นของผู้รับบริการ หากมีเหตุจำเป็นที่ไม่อาจดำเนินการได้ ให้แจ้งเหตุความไม่สะดวกในการดำเนินการเป็นรายกรณี สำหรับการติดต่อประสานงาน สามารถติดต่อผ่าน สปสช. เขต หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่ในพื้นที่จังหวัด

สำหรับข้อมูลผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากสถานณ์ภาวะฉุกเฉิน แยกเขตพื้นที่ดังนี้ พื้นที่เขต 1 เชียงใหม่ ซึ่งเกิดสถานการณ์อุทกภัย มีรายงานผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้ จ.น่าน จำนวน 305 ราย จ.พะเยา จำนวน 161 ราย จ.แพร่ จำนวน 203 ราย และ จ.เชียงราย จำนวน 253 ราย โดยในส่วนผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงนั้น ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ของแต่ละพื้นที่สามารถบริหารจัดการได้ทำให้ไม่มีผลกระทบ

ส่วนในพื้นที่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเกิดความไม่สงบมาตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น ในพื้นที่เขต 6 ระยอง มีรายงานผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจำนวน 273 ราย โดยแยกข้อมูลรายจังหวัด ที่ จ.สระแก้ว มีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังได้รับผลกระทบ จำนวน 63 ราย ผู้มีภาวะพึ่งพิง จำนวน 16 ราย, จ.จันทบุรี มีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังได้รับผลกระทบ จำนวน 76 ราย ผู้มีภาวะพึ่งพิง จำนวน 47 ราย และตราด มีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังได้รับผลกระทบ จำนวน 17 ราย ผู้มีภาวะพึ่งพง จำนวน 54 ราย

ส่วนพื้นที่เขต 9 นครราชสีมา มีรายงานผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 7,643 ราย โดย จ.สุรินทร์ มีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังได้รับผลกระทบ จำนวน 478 ราย ผู้มีภาวะพึ่งพิง จำนวน 4,968 ราย และ จ.บุรีรัมย์ มีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังได้รับผลกระทบ จำนวน 133 ราย ผู้มีภาวะพึ่งพิง จำนวน 2,064 ราย และพื้นที่เขต 10 อุบลราชธานี มีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังได้รับผลกระทบ จำนวน 52 ราย ผู้มีภาวะพึ่งพิง จำนวน 49 ราย และ จ. ศรีษะเกษ มีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังได้รับผลกระทบ จำนวน 62 ราย ผู้มีภาวะพึงพิง จำนวน 118 ราย.-417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]