สธ.ยันร้านกัญชายังเปิดต่อได้ แต่ต้องมีตามใบสั่งแพทย์

สธ. 8 ก.ค. – สธ. ยันร้านกัญชายังเปิดต่อได้ แต่ต้องมีตามใบสั่งแพทย์ ย้ำเป็นการออกมาตรการควบคุม เปิดทางร้านปรับตัวก่อนคุมเข้มเต็มรูปแบบ เผยข้อกำหนดร้านจำหน่ายให้ได้เฉพาะผู้มีใบสั่งแพทย์ พร้อมเปิดคอร์สอบรมผู้มีสิทธิสั่งจ่ายช่อดอกกัญชา รองรับให้ในอนาคตแต่ละร้านมีแพทย์ประจำ พร้อมเร่งออกกฎกระทรวงการอนุญาตจำหน่ายกัญชาเพิ่มเติม


นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงข้อเท็จจริง “กัญชาทางการแพทย์” โดยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าหลังจากกลุ่มเขียนเครือข่ายอนาคตกัญชาไทย ยื่น 3 ข้อเรียกร้องนั้น เข้ามายื่นข้อเสนอต่อ รมว.สาธารณสุข คือ 1.คัดค้านการนำกัญชาเข้าสู่บัญชีรายชื่อยาเสพติดให้โทษ ซึ่งยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีมาตรการนี้เกิดขึ้น 2.การให้คงสถานะกัญชาเป็นพืชสมุนไพร โดยให้มีพระราชบัญญัติควบคุม ไม่ให้ใช้ประกาศสมุนไพรควบคุม ตนขอชี้แจงว่าขณะนี้มีการประกาศให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม โดยกรมการแพทย์แผนไทยฯ และอยู่ระหว่างการจัดทำร่างพระราชบัญญัติต่อไป และ 3.การให้ตั้งคณะกรรมการร่วมในการออกประกาศกระทรวงใดๆ ที่จะใช้แก้ปัญหาได้จริง เรื่องนี้ตนยืนยันว่าได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจริง

หลังจากที่กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดแล้ว พบว่ามีประชาชนใช้กัญชาเพิ่มขึ้น 10 เท่า ทำให้สังคมไม่สบายใจ จึงออกประกาศสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2568 เพื่อการใช้กัญชาทางการแพทย์ โดยการสั่งจ่ายยาจากแพทย์ 7 วิชาชีพตามประกาศ รวมถึงควบคุมแหล่งผลิตที่มีมาตรฐานการปลูก เพื่อประโยชน์ต่อผู้บริโภค นอกจากนั้น กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ออกประกาศแบบสั่งจ่ายยา ภ.ท.33 เพื่อให้ร้านขายกัญชาขายตามใบสั่งแพทย์ เพื่อให้มีการตรวจสอบที่มากัญชาและการจำหน่ายออกไป


ย้ำว่าผู้ที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องก็สามารถดำเนินได้ต่อไป โดยพร้อมรับฟังความเห็น ข้อเสนอของกลุ่มเครือข่ายอนาคตกัญชาไทย ซึ่งไม่เฉพาะกัญชา เรื่องของกระท่อม สธ.ก็ได้ดำเนินการจับกุมพวกที่นำกระท่อมไปผสม เช่น ยาแก้ไอ น้ำผลไม้ โดยจับกุมได้ต่อเนื่อง ยืนยันว่าร้านกัญชา 18,000 แห่ง ที่เปิดอยู่ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบ เพียงแค่อยู่ระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านให้ร้านเหล่านี้ทราบถึงแนวทางและปฏิบัติตาม

นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กรมฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการแจ้งร้านค้าต่าง ๆ ที่ได้รับอนุญาตให้มีการปรับตัวตามประกาศฉบับใหม่ ดำเนินการ 2 ส่วนคือ การเตรียมให้กัญชาที่จะนำมาใช้มีมาตรฐาน และการเตรียมแพทย์ที่จะเป็นผู้ออกใบสั่งจ่ายกัญชาที่ผ่านการอบรมให้เพียงพอ โดยข้อแรกกัญชาที่ได้มาตรฐานในที่นี้หมายถึงกัญชาที่ได้รับการปลูกไปตามมาตรฐานไม่ให้ปนเปื้อนโลหะหนัก เชื้อรา จุลินทรีย์ เพื่อความปลอดภัยกับผู้บริโภค

ปัจจุบันมีแปลงปลูกที่ผ่านมาตรฐาน ทั้งหมด 69 แห่งปริมาณการผลิตช่อดอกแห้ง 71 ตันต่อปี ในจำนวนนี้ส่งออก 24 ตันต่อปี โดยมีแปลงที่อยู่ระหว่างการประเมิน 51 แห่ง ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วจะมีปริมาณการผลิตในอนาคต 125 ตันต่อปี ส่งออกได้ 41 ตันต่อปี ขณะที่ปัจจุบันมีร้านค้า 18,651 ร้านค้า ปริมาณการบริโภคในประเทศ ประมาณ 47 ตันต่อปี ซึ่งพบว่ามีการปลูกที่ไม่ได้รับอนุญาตและไม่ได้มาตรฐาน อีกกว่า 3-4 พันแห่ง และนำมาจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต


ส่วนการเตรียมความพร้อมเรื่องแพทย์ที่จ่ายใบ ภ.ท.33 นั้น กรมฯ จะมีการเปิดอบรมผ่านระบบออนไลน์และออนไซต์ ในวันที่ 16 กรกฎาคม เป็นเวลา 1 วัน ทั้งนี้ มีแพทย์แผนไทยลงทะเบียนแล้ว 1,000 กว่าคน ส่วนแพทย์แผนปัจจุบันอยู่ระหว่างรวมรายชื่อ ซึ่งจะเปิดอบรมเรื่อย ๆ แพทย์ที่สนใจก็สามารถลงทะเบียนได้ต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีการแพทย์ที่มาอบรมประมาณ 2,000 คน เมื่อเทียบสัดส่วนแพทย์กับร้านขายกัญชาที่ได้รับอนุญาต 18,000 ร้าน ก็จะเป็นสัดส่วนแพทย์ 1 คนต่อ 10 ร้านขาย ทั้งนี้ กรมฯ กำลังให้แต่ละจังหวัดรวมรายชื่อแพทย์แผนไทยที่จะเข้าอบรมเพิ่มเติม

อีกส่วนคือการอบรมผู้ประกอบการ โดยกรมฯ จะเปิดอบรมผู้จำหน่ายกัญชา ในวันที่ 17 กรกฎาคม ซึ่งจะอบรม 3 วันผ่านระบบออนไลน์และออนไซต์ คาดว่าจะมีผู้ขายกัญชาจาก 1.8 หมื่นร้านที่ได้รับใบอนุญาต เข้ารวมอบรม โดยจะ 1. อบรม Budtender (ผู้แนะนำการใช้กัญชา) โดยกรมการแพทย์แผนไทยฯ ร่วมสมาคมผู้ประกอบการ-เครือข่าย 2. จำหน่ายช่อดอกตามใบสั่งแพทย์ (ค.ท. 33) และ3. การจำหน่ายและส่งออกสมุนไพรควบคุม ต้องมาจากแหล่งที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน

โดยจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ จำนวน 1,565 ร้าน ภายใน 1 เดือน พักใช้ใบอนุญาต 82 ราย เพิกถอนใบอนุญาต จำนวน 5 ราย กรณีทำผิดเงื่อนไข จับกุมดำเนินคดี 7 ราย กรณีจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และพบปิดกิจการ 322 ราย

นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ได้อนุมัติอนุญาตผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาเป็นส่วนผสมไปแล้วในสามกลุ่มประกอบด้วย อาหารเครื่องสำอาง และสมุนไพร และมีที่ดำเนินการไม่ถูกต้อง ดำเนินคดีไปแล้ว 41 ราย ส่วนใหญ่ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ขออนุญาตและมีสารปนเปื้อนมากเกินกว่าปกติ เช่นกรณีที่พบลักลอบจำหน่าย เยลลีกัญชา เป็นต้น

ด้านนายแพทย์เทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก อธิบายเพิ่มว่า ในข้อกำหนดที่ให้ส่งเอกสารรายงานทุกสิ้นเดือนตั้งแต่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นมา ทุกร้านต้องส่งรายงานโดยแนบใบสั่งจ่ายกัญชา เพราะฉะนั้นในช่วงนี้จะเป็นช่วงสูญญากาศที่ทำความเข้าใจ ยังไม่ได้จับกุม แต่ร้านต้องถือปฏิบัติ โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะออกไปให้ข้อมูลและคำแนะนำกับแต่ละร้านค้าในช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งในเรื่องรายงาน ผู้รับใบอนุญาตต้องรายงานมายังกรม บังคับส่งทุก 1 เดือน หากไม่ส่งพักใช้ใบอนุญาต หรือรายงานเท็จก็พักใช้ใบอนุญาต และโดนคดีปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ

ส่วนผู้ที่ปลูกกัญชาในบ้าน ตามกฏหมายสำหรับผู้ที่ปลูกในบ้านและไม่ได้เอาไปให้ใครตอนนี้กฎหมายยังไม่ได้มีโทษ แต่หากพกปริมาณที่ชัดเจนว่า เอาไปขายต่อ ก็จะถูกดำเนินคดีข้อหามีไว้เพื่อจำหน่ายหรือจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนจำนวนในตอนนี้ก่อนที่กฎกะทรวงจะออกมาระบุชัดเจน ก็สามารถประมาณได้ว่า เช่น จะมีกำหนดว่าคนหนึ่งต่อคนใช้เองส่วนใหญ่ไม่เกิน 1 กรัมต่อคน หากใครพกออกมามากเกินกว่าที่คนๆ หนึ่งจะใช้ ก็ถือว่ามีไว้เพื่อจำหน่าย ตามกฎหมายคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

อย่างไรก็ตาม สธ.จะจัดทำรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับรายละเอียดต่อไป เช่น พกช่อดอกออกมาจำนวนเท่าใดที่เรียกว่าเพื่อจำหน่าย

ส่วนการดำเนินการขอต่อใบอนุญาตที่ในปีนี้จะมี 1.2 หมื่นแห่ง จากในจำนวนร้านกัญชา 1.8 หมื่นแห่ง และรายใหม่นั้นจะต้องใช้กติกาใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความเห็นต่อร่างกฎกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับการอนุญาตจำหน่ายสมุนไพรควบคุมช่อดอกกัญชา โดยจะปิดรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 12 กรกฎาคม 2568 ซึ่งจะเป็นการกำหนดระเบียบต่างๆ ในการขายกัญชา ที่สำคัญคือ หลังจากประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ โดยรูปแบบในอนาคตร้านที่ขายกัญชาทุกแห่งจะต้องมีแพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตสั่งจ่ายกัญชาประจำอยู่ในร้าน และผู้ประกอบการก็ต้องผ่านการอบรมเช่นกัน ดังนั้น ซึ่งจะดำเนินการในลักษณะของคลินิกที่มีแพทย์อยู่ประจำ ไม่ใช่สถานประกอบการทั่วไป ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์ถึง 12 กรกฎาคม ขอให้ทุกคนเข้าไปให้ความเห็นในเรื่องนี้. -416-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]