จับตารถบรรทุกขนดินเกินครึ่งกระบะส่อน้ำหนักเกิน

กรุงเทพฯ 9 พ.ย. – กทม. ประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถกปัญหาจากการก่อสร้างบนผิวจราจร ขอทุกฝ่ายร่วมจับตารถบรรทุกขนดินเกินครึ่งกระบะ ส่อน้ำหนักเกินกฎหมายกำหนด


(9 พ.ย. 66) นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหาจากการก่อสร้างบนผิวจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ ห้องสุทัศน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) โดยมี ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ได้แก่ สำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ สำนักการจราจรและขนส่ง และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างบนผิวจราจร ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การประปานครหลวง บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ร่วมประชุม

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้กรุงเทพมหานครได้เชิญหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างบนผิวจราจรประชุมร่วมกัน เพื่อหารือถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นถึง 2 ครั้ง ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชน โดยเหตุแรกเป็นของสำนักการระบายน้ำซึ่งเกิดฝาบ่อหัก ส่วนเหตุที่สองเป็นของการไฟฟ้านครหลวงนั้น ฝาบ่อแข็งแรงดี แต่โครงสร้างของฝาบ่อทรุดไป ซึ่งคาดว่าเกิดจากน้ำหนักรถบรรทุกที่มากเกินไป


“ในที่ประชุมได้มีการหารือร่วมกันในเรื่องของมาตรการควบคุมน้ำหนักรถบรรทุก โดยขอความร่วมมือทุกหน่วยงานใช้วิธีการสังเกตในเบื้องต้น ดังนี้ รถเปล่า 1 คัน จะมีน้ำหนักประมาณ 10-11 ตัน ตามกฎหมายรถบรรทุกจะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 25 ตัน ดังนั้น รถจะสามารถบรรทุกได้อีกประมาณ 14-15 ตัน ในส่วนของดิน โดยทั่วไปแล้ว จำนวนดิน 1 คิวบิกเมตร (คิว) หรือ 1 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จะหนักประมาณ 1.5 ตัน รถบรรทุกจะต้องบรรทุกดินไม่เกิน 10 ลบ.ม. จึงจะไม่เกิน 15 ตัน ซึ่งจากขนาดของกระบะรถบรรทุกแล้ว ดินที่ไม่เกินครึ่งหนึ่งของกระบะจะไม่เกินน้ำหนักตามที่กฎหมายกำหนด จึงได้ขอความร่วมมือทุกหน่วยงานในการกำกับดูแลผู้รับเหมาอย่างใกล้ชิดในพื้นที่ก่อสร้างที่ตนเองรับผิดชอบและขอให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด” รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

พร้อมกล่าวต่อไปว่า เรื่องที่สองที่ได้หารือคือเรื่องของโครงสร้างชั่วคราว ซึ่งโดยปกติได้มีการออกแบบให้มีการรองรับน้ำหนักรถบรรทุกปกติที่บวก Safety Factor และ Impact Factor แล้ว แต่ก็ไม่สามารถรองรับน้ำหนักของรถบรรทุกที่บรรทุกเกินเยอะ ๆ ได้ จึงให้ทุกหน่วยงานช่วยกันดูว่าเราจะสามารถยกระดับโครงสร้างชั่วคราวให้มีความแข็งแรงคงทนมากขึ้นได้อย่างไร โดยไปตรวจสอบและปรับปรุงให้ดีขึ้น

ทั้งนี้ การบรรทุกน้ำหนักเกินอาจไม่ได้ทำให้เกิดการถล่มในทันที แต่ทำให้อายุการใช้งานถนนหรือสะพานสั้นลง ฉะนั้น ต้องควบคุมน้ำหนักรถบรรทุกเพื่อยืดอายุการใช้งานของถนนหรือสะพานให้สามารถใช้งานได้ตามอายุการใช้งานที่ได้มีการออกแบบไว้


เรื่องที่สามคือการคืนสภาพผิวจราจรให้เรียบขึ้น โดยทางการไฟฟ้านครหลวงได้มีการปรับฝาบ่อให้เรียบกับพื้นถนนซึ่งได้ดำเนินการแล้วหลายพื้นที่ และเรื่องสุดท้าย จากกรณีที่เคยเกิดเหตุดินทรุดตัวในบางจุด จะสังเกตได้ว่าส่วนที่ยุบจะเป็นบริเวณหน้าบ่อที่มีการดันท่อ จึงได้มีการหารือถึงวิธีการป้องกัน คือ ปรับกระบวนการก่อสร้างให้รัดกุมขึ้น แต่อีกปัญหาหนึ่งคือการดำเนินการดันท่อมักจะไม่จบภายในคืนเดียว เนื่องจากระยะเวลาในการดำเนินการค่อนข้างสั้น อยู่ที่ประมาณ 3-4 ชั่วโมงต่อคืน เพราะตามปกติจะมีการก่อสร้างในเวลา 22.00 – 05.00 น. เท่านั้น เมื่อเข้าพื้นที่ไปเตรียมสถานที่ จะได้เริ่มงานจริง ๆ ในเวลาประมาณเที่ยงคืน และเมื่อถึงเวลาประมาณ 04.00 น. ก็จะต้องเร่งคืนพื้นที่แล้ว จึงมีการคุยกันว่า กทม.จะเพิ่มเวลาการก่อสร้างบ่อบนถนนในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ โดยทางการไฟฟ้านครหลวงและผู้รับจ้างจะต้องไปคุยกับทางตำรวจด้วย เนื่องจากเป็นผู้ดูแลในเรื่องของการจราจร

นอกจากนี้ กทม. จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสั่งห้ามรถบรรทุกวิ่งผ่านจุดที่มีฝาบ่อของสำนักการระบายน้ำ อาทิ บริเวณถนนศรีอยุธยา สน.พญาไท ราชปรารภ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุถนนทรุดอีก และเพื่อปรับฝาบ่อให้มีความแข็งแรงมากขึ้น รวมถึงจะห้ามรถบรรทุกขึ้นสะพานข้ามแยกที่มีอายุการใช้งานมานาน เพื่อป้องกันการเกิดเหตุและเป็นการยืดอายุการใช้งานของสะพานด้วย

นายฐิติวุฒิ เงินคล้าย รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA กล่าวว่า ในวันนี้ทาง MEA ได้เรียกประชุมหน่วยงานรับจ้างรับทราบข้อสั่งการ โดยได้สั่งการให้เร่งปรับปรุงฝาบ่อให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เพื่อลดจำนวนฝาบ่อและลดรอยต่อระหว่างฝาบ่อ พร้อมให้เพิ่มความแข็งแรง ทนทาน และจะต้องมีความเรียบเสมอกับผิวการจราจร เพื่อความปลอยภัยของประชาชน ทั้งนี้ MEA ได้ดำเนินการปรับปรุงฝาบ่อมาตั้งแต่ปี 2565 และจากนี้จะเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายในต้นปีหน้าหรือช่วงไตรมาสแรกของปี 2567

สำหรับปัจจุบันมีโครงการบ่อพักสายไฟฟ้าใต้ดินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ รวม 617 บ่อพัก ซึ่งยืนยันว่าการดำเนินการที่ผ่านมาไม่เคยประสบปัญหา เนื่องจากมีรายละเอียดทางวิศวกรรมที่ถูกต้องและมีการควบคุมอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ บ่อที่เกิดเหตุเป็นบ่อแบบ Type-O ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด และสามารถรับน้ำหนักได้เกิน 28 ตัน โดยจากการเปิดหน้างานในระยะที่ผ่านมา ไม่เคยเกิดปัญหาอะไร ยืนยันว่าทางผู้รับจ้างได้ออกแบบให้รองรับน้ำหนักบรรทุกได้ไม่น้อยกว่า 28 ตัน อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เพื่อความมั่นใจของประชาชน MEA จะพิจารณาในการเสริมโครงสร้างความแข็งแรงเพิ่มเติมในทุกโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ รวมถึงโครงการในอนาคตด้วย เช่น การปรับรูปแบบคานใช้ระบบคานคู่ หรือการเพิ่มขนาดของเหล็ก โดยการออกแบบเสริมความแข็งแรงเพิ่มเติมนี้จะพิจารณาตามความเหมาะสมของบ่อแต่ละ Type ซึ่งโครงการของ MEA มีบ่อทั้งหมด 4 Type ได้แก่ Type-A Type-L Type-T และ Type-O

ในส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้รับจ้างของ MEA ได้มีการเข้าแจ้งความกับ สน.พระโขนง ไว้แล้ว และในคืนนี้ MEA จะทำการเปิดฝาบ่อดังกล่าวและเก็บกู้ซากคานที่หักขึ้นมาวิเคราะห์ตรวจสอบลักษณะของเหล็ก เพื่อหาสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว

“ขอขอบคุณ กทม. ที่เข้าใจการก่อสร้างของ MEA เชื่อว่าถ้ามีโอกาสได้ทำงานในช่วงวันหยุด จะทำให้การก่อสร้างแล้วเสร็จเร็วขึ้น และประชาชนจะได้รับผลกระทบน้อยลง อย่างไรก็ตาม ต้องขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบด้วยว่าต่อไปเราจะขอทำงานในช่วงวันหยุดด้วย” รองผู้ว่าการ MEA กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]