เปิดโครงการ Strengthening SDG Localization in Thailand ร่วมกับผู้ว่าฯ 15 จังหวัดนำร่อง

28 เม.ย. – มหาดไทย จับมือ EU และ UNDP เปิดโครงการ “Strengthening SDG Localization in Thailand ร่วมกับผู้ว่าฯ 15 จังหวัดนำร่อง” มุ่งมั่นพัฒนาพื้นที่สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืน ตามเป้าหมาย SDGs โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง


วันนี้ (28 เม.ย. 66) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุม CR-3 ชั้น 1 ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถ.ราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานร่วมในพิธีเปิด “โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งการนำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนไปปฏิบัติในเชิงพื้นที่ (SDGs Localization) ในจังหวัดนำร่องทั้ง 15 จังหวัด” โดยมี นางสาวซารา เรโซอากลี รองหัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำราชอาณาจักรไทย นายเรโน เมแยร์ ผู้แทนสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) นางสาวมาริสา ปัณยาชีวะ ผู้แทนสำนักงานผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ นายประสพโชค อยู่สำราญ นางสุจิตรา ศรีนาม ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ตาก นครราชสีมา นราธิวาส ปัตตานี เพชรบุรี ภูเก็ต แม่ฮ่องสอน ยะลา สงขลา สุราษฎร์ธานี อุดรธานี จังหวัดอุบลราชธานี และผู้แทนกรุงเทพมหานคร นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมในงาน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยรู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสแสดงเจตนารมณ์ให้ทาง UNDP และสหภาพยุโรป (EU) ได้มั่นใจว่าพวกเราทุกคนจะช่วยกันขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับพื้นที่ไปสู่การปฏิบัติในทันที ดังคำมั่นสัญญาว่า “1 จังหวัด 1 คำมั่นสัญญา เพื่อความเท่าเทียม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” รวมทั้งตามปรารภของรองหัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำราชอาณาจักรไทยที่กล่าวว่าโลกของเรากำลังเผชิญความท้าทายต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สภาวะสงครามระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งซึ่งทุกคนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน รวมทั้งสภาวะความผันแปรทางระบบเศรษฐกิจของโลก ซึ่งประเทศไทยก็เคยได้รับผลกระทบจาก “วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง” ยิ่งไปกว่านั้นโลกของเรากำลังเผชิญสภาพความแปรปรวนของอากาศ ดังนั้น พวกเราทุกคนจึงต้องตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืนดังที่พวกเราทุกคนได้ร่วมกันในวันนี้ เพื่อมาแสดงความจริงใจว่าพวกเราทุกคนรับรู้ว่าโลกใบนี้มีปัญหา และแสดงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะแก้ปัญหาเหล่านั้นให้สำเร็จ


“กระทรวงมหาดไทยทำหน้าที่เป็นโซ่ข้อกลางระหว่างทุกกระทรวง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้นำท้องที่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้ประสานบูรณาการขับเคลื่อนงานร่วมกันระหว่างราชการกับพี่น้องประชาชน ทั้งในรูปแบบ Top Down และ Bottom Up เป็น Two Way Communication โดยให้ความสำคัญกับการเป็นหุ้นส่วน (Partner) ที่ดีในการดูแลครอบครัว ชุมชน สังคมให้ได้รับการพัฒนาตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง 17 เป้าหมาย ซึ่งสิ่งที่ดีจะเกิดขึ้นอย่างยั่งยืนได้นั้นเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่ต้องขับเคลื่อนพร้อมกันทุกภาคส่วน ดังที่ UN ได้ให้โอกาสกับกระทรวงมหาดไทยร่วมเป็นหุ้นส่วนที่ดีในการดูแลโลกใบนี้ และมุ่งมั่นช่วยขับเคลื่อนทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยเป็นสมาชิกที่ดีของโลก โดยกระทรวงมหาดไทยได้ทุ่มเทในการช่วยเหลือทำให้พี่น้องประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีผ่านการขับเคลื่อนสำรวจเป้าหมายแก้ไขปัญหาความยากจนด้วยกลไก ศจพ. ผ่าน ThaiQM ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้กว่า 4.1 ล้านครัวเรือน คิดเป็นกว่า 10 ล้านปัญหา อันเป็นการค้นหาเป้าหมายเพิ่มเติมจากระบบ TPMAP ของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยคนมหาดไทยทุกกลไกในพื้นที่ได้ทำอย่างจริงจังจนสามารถแก้ไขปัญหาในมิติ “ยาฝรั่ง” ไปบางส่วนแล้ว และเราจะมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาในมิติความยั่งยืนแบบ “ยาไทย” ต่อไป” ปลัด มท.กล่าว

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวต่ออีกว่า UN เป็นเสมือนหัวรถจักรที่มีพลังขับเคลื่อนที่จะทำให้พวกเราตื่นตัวและกระตือรือร้นเอาใจใส่ในการที่จะไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้เกิดรูปธรรม และบัดนี้ความสำเร็จของการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน เริ่มผลิดอกออกผลภายใต้บริบทของสังคมไทยที่เรามีสถาบันพระมหากษัตริย์นับเนื่องมาตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงมาเป็นผู้ให้แรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนร่วมกับพี่น้องประชาชนด้วยการน้อมนำเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์ใช้กับ SDGs 17 ข้อ หรือที่รู้จักกันว่า SEP for SDGs ด้วยการกระตุ้นปลุกเร้าในระดับหมู่บ้าน ใน 7,255 ตำบล 878 อำเภอ 76 จังหวัด ร่วมกันทำให้ประชาชนทุกคนมีที่อยู่อาศัย มีที่พักที่แข็งแรง ถูกสุขลักษณะ มีความมั่นคงด้านอาหาร ช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม คัดแยกขยะ จัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน ลดการปลดปล่อยก๊าซเสียไปสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งล่าสุดองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกได้ให้การรับรองคาร์บอนเครดิตจากขยะเปียก รวมถึงการรณรงค์ส่งเสริมให้คนมีความมั่นคงด้านเครื่องนุ่งห่ม ปลูกฝ้าย ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม และใช้สีธรรมชาติย้อมผ้า ตัดเย็บผ้า ทำให้เรามั่นใจได้ว่าเครื่องนุ่งห่มเราไม่ทำลายโลก และหล่อเลี้ยงกระตุ้นทำให้ระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศนี้เข้มแข็งขึ้นต่อยอดไปสู่การเป็นหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) ด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น ปราศจากปัญหายาเสพติด มีความรักใคร่ความสามัคคี ประชาชนมีความสุข มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน อันแสดงให้เห็นว่า การที่พวกเราทุกคนได้ “ทำทันที (Action Now)” จะเกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนให้กับพี่น้องประชาชน

“การที่พวกเรามาร่วมกัน Kick off ในวันนี้ จะเป็นก้าวย่างสำคัญที่ทำให้ความเป็นหุ้นส่วนของทุกส่วนประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนสร้างความมั่นคงให้กับเพื่อนมนุษย์ มุ่งไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนที่มีความสำเร็จเป็นรูปธรรม และพวกเราชาวมหาดไทยทุกคนจะทำอย่างจริงจังในทุกพื้นที่โดยยึดหลักการทรงงาน “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” เพื่อทำให้ประเทศไทยของเราก้าวไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง 76 จังหวัดตามเจตนารมณ์ 1 จังหวัด 1 คำมั่นสัญญา เพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืน เพื่อความเท่าเทียมของทุกคน เพื่อโอกาสที่ดีของทุกชีวิตบนผืนแผ่นดินนี้ ทั้งนี้ พวกเราชาวมหาดไทยรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งว่า เราไม่ได้เดินไปตามลำพัง เรามีมิตรสหายผู้มีอุดมการณ์สอดคล้องต้องกันกับพวกเราทุกคน นั่นคือ UNDP และ EU” ปลัด มท. กล่าวเพิ่มเติม


นางสาวซารา เรโซอากลี กล่าวว่า ปัจจุบันโลกของเราเผชิญสภาพความท้าทายมากมาย ทั้งปัญหาโลกร้อน ปัญหาโรคระบาดโควิด-19 ปัญหาภาวะสงครามที่เกิดขึ้นในรัสเซียและยูเครน ความท้าทายที่มีอยู่ในวันนี้ต้องเกิดความร่วมมือของผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน โดยมีจุดแข็งร่วมกัน สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ต้องมีการร่วมงานแบบพหุภาคีและจะต้องมีระบบที่เราใช้กฎสากลและค่านิยมร่วมกัน มีตัวชี้วัด เพื่อบรรลุเป้าหมาย SDGs โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยรัฐภาคีของ EU จะใช้หลักนิติธรรมและประชาธิปไตย เป็นหลักสากลเพื่อเชื่อมโยงคนในโลกนี้ รวมถึงการให้ความรู้กับคนในทุกภูมิภาค ซึ่งในวันนี้กระทรวงมหาดไทย UNDP และ EU จะได้มาพบปะพูดคุยร่วมกันเป็นพันธมิตร อันเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการทำงานร่วมกันจากล่างขึ้นบน (Bottom Up) โดยเริ่มจากระดับท้องถิ่น ซึ่งทาง EU และประเทศสมาชิกพร้อมที่จะสนับสนุนประเทศไทย และ UNDP เพื่อบรรลุเป้าหมาย SDGs และขอย้ำว่า กระทรวงมหาดไทยเป็นพันธมิตรที่มีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ที่จะนำกลยุทธ์ไปใช้ในพื้นที่และสนับสนุนความมั่นคงความมั่งคั่งและการพัฒนาประเทศไทยให้ยั่งยืน และการเปิดตัวโครงการ “Strengthening SDG Localization in Thailand” เป็นเครื่องตอกย้ำว่า รัฐภาคี EU พร้อมที่จะร่วมมือเป็น Partner ร่วมกับพันธมิตรจากทุกจังหวัด เพื่อทำให้ประเทศไทยและโลกใบนี้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นายเรโน เมแยร์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย UNDP และ EU รวมถึงตัวแทนจากภาคประชาสังคมต่าง ๆ ได้มีการพูดคุยกันเรื่อง SDGs 17 เป้าหมาย เกิดเป็นโครงการความร่วมมือมากมาย อย่างไรก็ตามเราจะต้องเร่งดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในครัวเรือนและชุมชน ในพื้นที่ 15 จังหวัด ด้วยการนำยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ไปใช้ เพื่อก้าวสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่ง “โมเดลเศรษฐกิจพอเพียงมีความสำคัญ” ที่จะทำให้เป้าหมาย SDGs 17 สำเร็จได้อย่างแท้จริง บนฐานที่สำคัญ 4 ประการ คือ 1) “ข้อมูล” เพราะหลายประเทศได้มีการพัฒนาข้อมูลที่เป็นความท้าทายของประเทศ โดยนำข้อมูลที่จังหวัดต่าง ๆ ได้รวบรวม มากำหนดตัวชี้วัดที่เป็นทางการสำหรับติดตามตรวจสอบความก้าวหน้า เพื่อเทียบกับเป้าหมาย และค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมที่สามารถสอดรับกับ SDGs ได้ และต้องติดตามความก้าวหน้า มาเทียบกับค่าเฉลี่ยในระดับประเทศ โดยเราจะทำงานร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่จังหวัดต่าง ๆ เพื่อปรับข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 2) ต้องเกิดการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม ทั้งระดับประเทศ ระดับรัฐบาล ระดับท้องถิ่น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดและเทศบาลต้องระดมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามาด้วยกัน เพราะถ้าขาดส่วนใดส่วนหนึ่ง การที่จะบรรลุเป้าหมายก็ยาก นอกจากนี้องค์กรภาครัฐต้องพยายามดึงภาคส่วนอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงองค์กรภาคประชาสังคมก็มีส่วนด้วย 3) ต้องยอมรับความหลากหลาย เพื่อตามให้ทันภาคส่วนอื่น ๆ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ให้ประโยชน์กับทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียม เราต้องทำงานเชิงรุก ต้องระบุเป้าหมายได้ 4) SDGs 17 เป้าหมาย ไม่ใช่บทบาท UNDP เท่านั้น แต่ต้องอาศัยทุกภาคส่วนในการบูรณาการร่วมกัน โดยมี UNDP เป็นผู้ประสานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และ EU เพื่อสร้างความมุ่งมั่นและให้ความสำคัญในการใช้ความพยายาม เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จทั้งระดับประเทศและระดับโลกตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวในช่วงท้ายว่า แม้ว่า UNDP จะได้กำหนดเป้าหมายการขับเคลื่อนโครงการฯ ในพื้นที่ 15 จังหวัด (14 จังหวัด + กรุงเทพมหานคร) แต่ทว่าภารกิจของกระทรวงมหาดไทยนั้น “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ดังนั้น กระทรวงมหาดไทยมีความยินดีที่จะ “ลงมือทำทันทีในทุกจังหวัด” เพิ่มเติมจากเป้าหมายของ UNDP เราจะขับเคลื่อนไปพร้อมกันทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ เพราะกระทรวงมหาดไทยมีข้อมูลการขับเคลื่อนเสริมสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs ครอบคลุมในทุกมิติทุกจังหวัด ผ่านระบบปฏิบัติการ MOI War room ซึ่งได้มีการประชุมติดตามผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดเป้าหมายอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว นอกจากนี้ สิ่งที่กระทรวงมหาดไทย ยังคงมุ่งมั่นเพื่อที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนมีความสุข มีชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน คือ การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ (SEP for SDGs) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างหลักประกันในด้านความมั่นคงด้านอาหาร ผ่านการขับเคลื่อนสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของดิน อันเป็นส่วนหนึ่งของการจัดกิจกรรมเนื่องในวันดินโลก ปี 2565 (World Soil Day 2022) ภายใต้แนวคิด “อาหารก่อกำเนิดเกิดจากดิน (Soils, where food begins)” ขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations: FAO) ร่วมกับภาคีเครือข่าย ที่ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องในพื้นที่มากกว่า 1.7 พันแห่งครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงทุกประการนี้ เป็นความตั้งใจจาก Passion ของคนมหาดไทยที่มุ่งมั่นในการทำหน้าที่เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]