ไฟฟ้าลัดวงจรหน้าบ้าน ลามไหม้รถวอด 5 คัน

14 เม.ย. – เจ้าของบ้านสุดช็อก ไฟฟ้าลัดวงจร เกิดประกายไฟ ลามไหม้รถยนต์จอดหน้าบ้าน 5 คัน เสียหายทั้งหมด ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ ไฟไหม้โรงเก็บฟางกว่า 1,500 ก้อน คลอกหมูแม่พันธุ์ ตาย 3 ตัว ส่วนวัว 13 ตัว กระโดดหนีออกไปจากคอกได้ทัน และที่อยุธยา ก็เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานเม็ดพลาสติกอย่างรุนแรง คาดมูลค่าเสียหายสูงถึง 60 ล้านบาท


เมื่อวานนี้ (13 เม.ย.65) ตำรวจ สภ.สามพราน ประสานรถดับเพลิงเทศบาลเมืองไร่ขิง เทศบาลตำบลบางกระทึก รถดับเพลิงเทศบาลนครอ้อมน้อย และรถดับเพลิงจากพื้นที่หนองแขม กทม.กว่า 20 คัน เข้าสกัดเหตุเพลิงไหม้หน้าบ้าน หมู่ 12 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงที่ลานจอดรถหน้าบ้าน ส่งผลให้กลุ่มควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้าเต็มพื้นที่ สำหรับการดับเพลิงเต็มไปด้วยความยากลำบากเพราะที่เกิดเหตุอยู่ในซอยแคบ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง จึงต้องปีนรั้วคอนกรีตของบ้านที่อยู่ติดกันเพื่อข้ามไปฉีดน้ำ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัดได้

สอบถามเจ้าของบ้าน บอกว่า ขณะเกิดเหตุไม่อยู่บ้าน มีเพียงลูกชายและลูกสาวดูทีวีอยู่ที่ชั้น 3 จู่ๆ เกิดไฟลุกไหม้เศษไม้และเศษโฟมใต้ต้นมะพร้าว ลุกลามไปไหม้รถเบนซ์ รุ่น A180 รถฮอนด้าแจ๊ส ฮอนด้าซีวิค รถกระบะเชฟโรเลต และรถจักรยานยนต์ ซึ่งจอดอยู่ในโรงรถหน้าบ้านเสียหายทั้งหมด เบื้องต้นสันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะรถแต่ละคันไม่รู้จะซ่อมได้หรือไม่


ไฟปริศนาไหม้โรงเก็บฟางวอด แม่พันธุ์หมูตาย 3 ตัว
ไฟไหม้โรงเก็บฟางกว่า 1,500 ก้อน คลอกหมูแม่พันธุ์ ตาย 3 ส่วนวัว 13 ตัว กระโดดหนีออกไปจากคอกได้ทัน

เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (13 เม.ย.) เจ้าหน้าที่กู้ภัยบ้านสองเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อบต.บ้านไทร และเจ้าหน้าที่จากเทศบาลพื้นที่ใกล้เคียงใน จ.บุรีรัมย์ ระดมกำลังเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้โรงเก็บฟางอัดก้อน และคอกสัตว์ของนายด่วน เกษาโร อายุ 62 ปี ภายในหมู่บ้านไพบูลย์ ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้โรงเก็บฟางอัดฟ่อนกว่า 1,500 ก้อน อย่างรุนแรง เพลิงลุกลามไหม้เล้าหมูที่อยู่ใกล้กัน ทำให้หมูแม่พันธุ์ท้องแก่ 3 ตัว น้ำหนักตัวละประมาณกว่า 100 กิโลกรัม ถูกไฟคลอกตายคาเล้า ส่วนอีก 13 ตัวซึ่งขังไว้ในคอกใกล้กัน กระโดดออกจากคอกหนีตายได้ทัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาฉีดน้ำสกัดเพลิงกว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้

สอบถามกำนันตำบลบ้านไทร ซึ่งลงพื้นที่มาดูที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ บอกว่า จากการสอบถามเจ้าของโรงเก็บฟางที่ถูกไฟไหม้ ยืนยันก่อนเกิดเหตุไม่มีการก่อไฟ และไม่ได้ใช้ไฟฟ้า โดยใช้เพียงหลอดโซลาร์เซลล์เท่านั้น จึงต้องรอให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อสืบหาสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นคาดน่าจะมีมูลค่าหลายแสนบาท


ไฟไหม้โรงงานเม็ดพลาสติก คาดสูญ 60 ล้าน
ส่วนพระนครศรีอยุธยา เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานเม็ดพลาสติกอย่างรุนแรง เสียหายอย่างหนัก คาดสูงถึง 60 ล้านบาท

เมื่อวาน (13 เม.ย.) ตำรวจ สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงงาน ชื่อ เอ็มแอนด์อี เอ็นจิเนียริ่งแอนด์เซอร์วิส หมู่ 8 ตำบลลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเดินทางมาตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยบรรเทาสาธารณภัย จุดเกิดเหตุเป็นโรงงานเป็นลักษณะโกดังผลิตเม็ดพลาสติก และมีออฟฟิศสำนักงาน รวมถึงบ้านพักอยู่ด้านหน้าโรงงานบนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ เปลวเพลิงอยู่ระหว่างโหมไหม้อย่างหนัก เนื่องจากมีกระแสลมแรง ส่วนต้นเพลิงเกิดบริเวณด้านหน้าโกดัง ซึ่งอยู่เหนือลมจึงทำให้แสงเพลิงและเปลวไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้มีคนงานปฏิบัติงานอยู่เพียง 1 คนอยู่ที่บริเวณด้านหน้าโรงงาน แล้วมีคนวิ่งมาบอกว่ามีกลุ่มควันแสงเพลิงอยู่ด้านท้ายของโกดัง ซึ่งพนักงานที่ปฏิบัติงานคนดังกล่าวจึงวิ่งไปดูพบว่าแสงเพลิงอยู่ระหว่างลุกลามอย่างหนักจึงวิ่งออกมาด้านนอกโรงงาน ใช้เวลาไม่นานแสงเพลิงได้โหมโกดังจนเสียหาย รวมทั้งตัวของสำนักงานที่อยู่ด้านหน้า

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบเครื่องจักรในโรงงานเสียหายทั้งหมด มูลค่ารวมประมาณ 20 ล้านบาท และยังมีรถยนต์ 3 คัน รถโฟล์คลิฟต์ 2 คัน รวมราคาทั้งหมดเสียหายประมาณ 50-60 ล้านบาท ใช้เวลาในการควบคุมเพลิงประมาณ 3 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำเลี้ยงเพื่อไม่ให้เกิดการปะทุขึ้นมาอีก

สอบถามเจ้าของโรงงาน เล่าว่า โรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก ตอนเกิดเหตุมีคนงานที่ปฏิบัติงานอยู่ในโรงงานเพียง 1 คน และได้วิ่งมาบอกว่าเกิดเหตุไฟไหม้ ก่อนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ แต่สุดท้ายเพลิงลุกลามอย่างหนัก จนเสียหายทั้งหมด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]