เปิดคำพิพากษาศาลฎีกายกฟ้องพี่เขยข่มขืนสาวสุพรรณฯ

อสมท 9 ก.พ.- ที่นี่ที่เดียว! เปิดหมดเปลือก ทุกประเด็นศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องพี่เขยที่ถูกสาวสุพรรณฯ แจ้งความเอาผิดฐานข่มขืน ก่อนกลายเป็นเรื่องสลดใจเมื่อสาวสุพรรณฯ คิดสั้นกินยาฆ่าตัวตาย เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง

ความคืบหน้ากรณีสาวสุพรรณฯวัย 29 ปี แจ้งความดำเนินคดีกับพี่เขยว่าก่อเหตุข่มขืนตนในบ้านพักเมื่อเดือนเมษายน 2562 ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานกระทำอนาจารผู้อื่นและให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา แต่ต่อมาศาลฎีกาพิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องจำเลยในข้อหากระทำอนาจาร


หลังจากนั้น สาวสุพรรณฯ ผู้เสียหายได้ก่อเหตุกินยาฆ่าตัวตาย เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเอง ซึ่งญาติได้ประกอบพิธีฌาปนกิจที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนที่ล่าสุดเช้าวันนี้ (9 ก.พ.) สามีผู้ตายพร้อมญาติได้เดินทางมาที่ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข กระทรวงยุติธรรม เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในเรื่องราวที่เกิดขึ้นเนื่องจากคดีนี้กำลังเป็นที่สนใจของสังคม สำนักข่าวไทย อสมท จึงขอนำรายละเอียดคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีนี้มานำเสนอ ดังนี้

คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 3912/2564 วันที่ 20 กันยายน 2564 คดีระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นโจทก์ ฟ้องนายดำ(นามสมมุติ) จำเลย ในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา


โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2562 เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยข่มขืนกระทำชำเรานางสาว พ. ผู้เสียหาย โดยใช้อวัยวะเพศของจำเลยสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหาย เพื่อสนองความใคร่ของจำเลยโดยผู้เสียหายไม่ยินยอมและอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เหตุเกิดที่ตำบลต้นตาล อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276
จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิดฐานกระทำอนาจารผู้อื่น และให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา เนื่องจากผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ไม่พบเชื้ออสุจิในช่องคลอดของผู้เสียหาย แต่พบหลักฐานว่ากางเกงของผู้เสียหายที่ใส่ในคืนเกิดเหตุ เมื่อนำไปตรวจพิสูจน์แล้วพบ DNA ของจำเลยอยู่ที่กางเกงตัวดังกล่าวโดยไม่พบอสุจิ จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278(เดิม) ลงโทษจำคุก 3 ปี และให้จำเลยชำระเงินแก่ผู้เสียหาย 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่เกิดเหตุจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ต่อมาจำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังได้ว่า จำเลยเป็นสามีของนางพจมาน ซึ่งเป็นพี่สาวของนายจีรศักดิ์ สามีของผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2562 ผู้เสียหายกับสามีไปแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ธนโชติ เล้าพูนผล พนักงานสอบสวน ว่าถูกจำเลยข่มขืนกระทำชำเราพร้อมกับนำกางเกงขาสั้นสีฟ้า ไปมอบให้ ร.ต.ท.ธนโชติ ได้ส่งตัวผู้เสียหายไปให้แพทย์ตรวจที่โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยกระทำความผิดฐานกระทำอนาจารผู้เสียหายตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 หรือไม่


โจทก์มีผู้เสียหายซึ่งเป็นประจักษ์พยานเบิกความว่า ในวันและเวลาเกิดเหตุผู้เสียหายมีอาการเมาไม่รู้สึกตัว นายจีรศักดิ์อุ้มผู้เสียหายขึ้นไปบนบ้านแล้วพาผู้เสียหายไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและพาผู้เสียหายเข้านอน เมื่อนายจีรศักดิ์ลงจากบ้านไปได้ไม่นาน นางประมวลตะโกนบอกว่าผู้เสียหายอาเจียนและปัสสาวะรดกางเกง นายจีรศักดิ์ขึ้นไปบนบ้านเปลี่ยนกางเกงให้ผู้เสียหายเป็นกางเกงขาสั้นเอวยางยืดสีฟ้า ไม่ได้นุ่งกางเกงใน แล้วเปิดไฟบริเวณหัวนอนไว้

ขณะนั้นจำเลยพานางพจมาน ภริยาจำเลย ซึ่งมีอาการเมาเช่นกันขึ้นไปบนบ้านในเวลาไล่เลี่ยกัน เวลาประมาณ 23 นาฬิกาเศษ ใกล้จะเที่ยงคืน ผู้เสียหายรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เนื่องจากมีคนมาคร่อมบนตัวของผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายลืมตาเห็นว่าเป็นจำเลยไม่ได้สวมเสื้อผ้า ผู้เสียหายร้องเฮ้ย จำเลยรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหลบหนีไป ผู้เสียหายใช้มือคลำอวัยวะเพศของตนรู้สึกแฉะบริเวณหัวหน่าว เมื่อนำขึ้นมาดมรู้ว่าเป็นกลิ่นน้ำอสุจิ ผู้เสียหายพยายามลุกขึ้นแต่ไม่มีแรง จึงคลานไปที่ห้องน้ำเอาน้ำราดศีรษะ และได้ความจากนายจีรศักดิ์ พยานโจทก์ ว่า เมื่อพาผู้เสียหายเข้านอนแล้วนายจีรศักดิ์ลงไปที่วงสุราประมาณ 10 นาที เห็นจำเลยกลับมาที่วงสุรานั่งอยู่ประมาณ 5 นาที จำเลยก็กลับขึ้นบนบ้าน

นายจีรศักดิ์สังเกตเห็นว่าไฟบริเวณหัวนอนถูกปิด และได้ยินเสียงคนในห้องน้ำ จึงเข้าไปที่ห้องน้ำพบผู้เสียหายนอนฟุบอยู่ ผู้เสียหายบอกให้นายจีรศักดิ์เอาน้ำราดศีรษะให้ ผู้เสียหายยันตัวเองขึ้นนั่งแล้วถอดกางเกงเอวยางยืดสีฟ้าออก นายจีรศักดิ์พาผู้เสียหายไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ใหม่ ผู้เสียหายถามนายจีรศักดิ์ว่าได้ร่วมเพศผู้เสียหายหรือไม่ เมื่อนายจีรศักดิ์ปฏิเสธ ผู้เสียหายร้องไห้ นายจีรศักดิ์จึงคิดว่าคงมีคนแอบเข้ามาข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย

นายจีรศักดิ์ไปหยิบกางเกงขาสั้นสีฟ้าของผู้เสียหายที่อยู่ในห้องน้ำมาดมกลิ่น แน่ใจว่าเป็นกลิ่นของน้ำอสุจิ นายจีรศักดิ์จึงปลุกมารดา จำเลย และนางพจมาน ภริยาจำเลย แล้วนำกางเกงดังกล่าวมาให้ดม และนำไปให้เพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ในวงสุราดมด้วย

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์มีผู้เสียหายเป็นประจักษ์พยานเพียงปากเดียว ศาลจึงต้องรับฟังด้วยความระมัดระวัง ผู้เสียหายเบิกความเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงว่า คืนเกิดเหตุผู้เสียหายเมาสุรามาก นายจีรศักดิ์ สามีของผู้เสียหาย อุ้มขึ้นมาอาบน้ำ แล้วพาผู้เสียหายไปนอนในห้องนอน ผู้เสียหายรู้สึกอึดอัดจึงถอดเสื้อออก สวมแต่เพียงกางเกงขาสั้นสีฟ้าเพียงตัวเดียวและไม่ได้สวมกางเกงใน
ประมาณใกล้เที่ยงคืน ผู้เสียหายรู้สึกตัวขึ้นมา เห็นจำเลยคร่อมอยู่บนตัวของผู้เสียหาย ผู้เสียหายใช้มือคลำดูที่อวัยวะเพศพบว่ามีน้ำอสุจิ เอาขึ้นมาดมดูก็ได้กลิ่นน้ำอสุจิ ผู้เสียหายร้องเฮ้ย จำเลยวิ่งหลบหนีไป ขณะเกิดเหตุจำเลยทำอะไรกับผู้เสียหายบ้าง ผู้เสียหายก็ไม่ทราบและผู้เสียหายอ้างว่าไม่รู้สึกตัว จะถูกเอาอวัยวะเพศชายสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายหรือไม่ ผู้เสียหายก็ไม่ทราบเพราะไม่รู้สึกตัว แตกต่างกับคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายกลับให้การว่าขณะผู้เสียหายรู้สึกตัวขึ้นมา มองเห็นจำเลยกำลังข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย โดยอวัยวะเพศของจำเลยอยู่ในช่องคลอดของผู้เสียหาย

คำเบิกความของผู้เสียหายจึงมีพิรุธน่าสงสัย ที่ผู้เสียหายเบิกความว่าหลังจากจำเลยวิ่งหลบหนีไป ผู้เสียหายพยายามโทรศัพท์หาสามี แต่โทรติดต่อไม่ได้นั้น ผู้เสียหายก็น่าจะตะโกนเรียกสามีซึ่งนั่งดื่มสุราอยู่กับพวกบริเวณหน้าบ้าน ทั้งสภาพห้องนอนผู้เสียหายมีเพียงตู้กั้นเป็นห้องนอน ไม่มีประตู ขณะเกิดเหตุนางประมวล มารดาของนายจีรศักดิ์ กับหลานและภริยาของจำเลยก็นอนอยู่บนบ้าน ผู้เสียหายก็น่าจะตะโกนเรียกบุคคลดังกล่าว เพราะก่อนหน้านั้นผู้เสียหายอาเจียนและปัสสาวะใส่กางเกง ผู้เสียหายยังตะโกนเรียกให้สามีมาเปลี่ยนกางเกงให้ และนางประมวลเป็นคนเรียกให้นายจีรศักดิ์มาเปลี่ยนกางเกงให้ผู้เสียหาย

ต่อมาเมื่อสามีผู้เสียหายขึ้นมาบนบ้าน ผู้เสียหายกลับไม่ได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้สามีทราบ ที่ผู้เสียหายอ้างว่าเหตุที่ไม่ยอมบอกสามี เพราะสามีเป็นคนใจร้อนกลัวจะมีเรื่องนั้น ไม่มีเหตุผลรับฟัง เพราะในตอนแรกเหตุที่ผู้เสียหายพยายามโทรศัพท์หาสามีนั้น น่าเชื่อว่าเพราะผู้เสียหายต้องการบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้สามีทราบ

ส่วนเหตุการณ์หลังจากนั้นที่ผู้เสียหายกับนายจีรศักดิ์พยานโจทก์ทั้งสองเบิกความทำนองเดียวกันว่า เมื่อกลับมานอนผู้เสียหายถามนายจีรศักดิ์ว่าร่วมเพศกับผู้เสียหายหรือไม่ นายจีรศักดิ์จึงหยิบอาวุธปืนมานั้น ก็มีพิรุธน่าสงสัย เพราะหากผู้เสียหายรู้สึกตัวขึ้นมาเห็นจำเลยซึ่งไม่ได้สวมเสื้อคร่อมอยู่บนตัวผู้เสียหาย ทั้งขณะนั้นผู้เสียหายรู้อยู่แล้วว่านายจีรศักดิ์ก็ไม่ได้อยู่ในห้องนอนและผู้เสียหายพยายามโทรศัพท์ติดต่อนายจีรศักดิ์ จึงไม่มีเหตุผลที่ผู้เสียหายจะถามนายจีรศักดิ์เช่นนี้ และผู้เสียหายกลับบอกกับนายจีรศักดิ์ว่าคงฝันไปมั้ง นายจีรศักดิ์พยายามคาดคั้น แต่ผู้เสียหายก็ไม่ยอมบอกว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมบอก นายจีรศักดิ์จึงไปหยิบกางเกงขาสั้นของผู้เสียหาย ซึ่งเปียกน้ำในห้องน้ำมาดมดูได้กลิ่นเหมือนน้ำอสุจิผู้ชายนั้น คำเบิกความของนายจีรศักดิ์ดังกล่าวมีพิรุธน่าสงสัย เพราะเป็นเรื่องผิดปกติวิสัยอย่างยิ่งที่สามีของผู้เสียหายจะมาดมกลิ่นน้ำอสุจิของชายที่ล่วงละเมิดทางเพศภริยาของตนเช่นนี้ ทั้งผลการตรวจพิสูจน์กางเกงของผู้เสียหายที่ผู้เสียหายกับนายจีรศักดิ์นำไปมอบให้พนักงานสอบสวน ก็ไม่พบคราบอสุจิที่กางเกงดังกล่าว และในเรื่องที่ผู้เสียหายเบิกความในตอนแรกว่า ผู้เสียหายคลำที่อวัยวะเพศของผู้เสียหายพบน้ำอสุจิ และเอาขึ้นมาดมได้กลิ่นน้ำอสุจินั้น ก็เป็นเรื่องผิดปกติวิสัยของผู้หญิง ซึ่งน่าจะรังเกียจการที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศดังกล่าว ไม่น่าจะนำเอาน้ำอสุจิของชายที่ล่วงละเมิดทางเพศตนมาดมเช่นนี้

นอกจากนี้ นางประมวล พยานโจทก์ เบิกความว่า พยานเข้าไปสอบถามผู้เสียหายในห้องนอนกับนายจีรศักดิ์ ผู้เสียหายบอกว่ามีคนข่มขืนกระทำชำเรา แต่ไม่ได้บอกว่าคือใคร พยานถามผู้เสียหายว่าเมาหรือเปล่า ผู้เสียหายยืนยันว่าถูกข่มขืนกระทำชำเราจริง แต่จำไม่ได้ จึงมีพิรุธว่าเพราะเหตุใดในขณะนั้นผู้เสียหายจึงไม่ยอมบอกว่า ผู้เสียหายถูกบุคคลใดกระทำดังกล่าว ส่วนผลการตรวจพิสูจน์พบดีเอ็นเอของจำเลยที่กางเกงสีน้ำเงินหรือสีฟ้า ซึ่งเป็นกางเกงที่ผู้เสียหายสวมใส่ในคืนเกิดเหตุนั้น จึงน่าจะมีดีเอ็นเอของผู้เสียหายอยู่ แต่ผลการตรวจพิสูจน์กลับไม่พบดีเอ็นเอของผู้เสียหายที่กางเกงดังกล่าว

พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมา มีพิรุธและยังมีความสงสัยว่าจำเลยกระทำอนาจารผู้เสียหาย โดยขึ้นคร่อมบนตัวผู้เสียหายและหลั่งน้ำอสุจิบนร่างกายผู้เสียหายหรือไม่ จึงให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 227 วรรคสอง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น

ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยฐานกระทำอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278(เดิม) และยกคำร้องของผู้ร้อง ค่าฤซาธรรมเนียมในส่วนแพ่งทั้งสามศาลให้เป็นพับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]