เมียหลวงเปิดหน้าสู้ปมสาวคนสนิททำ “เสี่ยก้อง” ตกรถดับ

กาญจนบุรี 2 ก.พ. – คดี “เสี่ยก้อง” ตกรถ ซึ่งยังเป็นประเด็นคาใจครอบครัว หลังเห็นคลิปแบบเต็มๆ ว่า “เสี่ยก้อง” กระโดดลงจากรถของ “แหม่ม” สาวคนสนิท และ “แหม่ม” รวมถึงบรรดาญาติของแหม่มไม่ให้การช่วยเหลือ “เสี่ยก้อง” ตามความจำเป็น ล่าสุดวันนี้ “นุ่น” เมียหลวง ออกมาเปิดตัวเดินหน้าสู้คดีปกป้องสามี โดยมี “ทนายตั้ม” มาช่วยว่าความ


กรณีญาตินายอภิชาต พูลเผือก หรือ “เสี่ยก้อง” เจ้าของธุรกิจร้านเกาลัดใน จ.กาญจนบุรี ตกรถกระบะป้ายแดงเสียชีวิต โดยในรถคันนั้นมี “แหม่ม” สาวคนสนิท เป็นคนขับ และทันทีที่ญาติของ “เสี่ยก้อง” เห็นพฤติกรรมของ “แหม่ม” และน้องชาย จากกล้องหน้ารถและหลังรถ ถึงกับทนไม่ได้ เพราะหลัง “เสี่ยก้อง” ตกรถ ทั้งแหม่ม น้องชาย และเพื่อนที่ขับตามมา กลับไม่รีบเข้าไปช่วยเหลือ ปล่อย “เสี่ยก้อง” นอนอยู่กับพื้นนานกว่า 20 นาที จึงค่อยโทรตามกู้ภัย แถมในคลิปยังได้ยินเสียงน้องชายของ “แหม่ม” บอกว่า ปล่อยมัน ไม่ต้องไปช่วย ทำให้ญาติๆ มองว่า พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ “เสี่ยก้อง” บาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ ยิ่งได้ฟัง “แหม่ม” และน้องชาย ซึ่งเมื่อวานได้เข้าพบทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เพื่อขอคำปรึกษาทางคดี พร้อมนำคลิปหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้วางแผนฆ่า “เสี่ยก้อง” ในวันนั้นบังเอิญไปเจอ “เสี่ยก้อง” กับภรรยาอยู่ที่คลินิก ทำให้จับได้ว่า “เสี่ยก้อง” ยังไม่เลิกกับภรรยา แถมภรรยายังท้อง 7 เดือนด้วย ทำให้ “แหม่ม” โมโห มีปากเสียงกับ “เสี่ยก้อง” เพราะ “เสี่ยก้อง” เคยบอกว่าเลิกกับภรรยาแล้ว ตอนนั้นเธอจึงขับรถออกจากคลินิก แต่ “เสี่ยก้อง” กระโดดขึ้นรถตามมาด้วย และสุดท้าย “เสี่ยก้อง” ตัดสินใจกระโดดลงจากรถ เพื่อประชด ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ “เสี่ยก้อง” ทำอะไรโลดโผนเพื่อเรียกร้องความสนใจเป็นประจำ ทำให้ น.ส.พภัสสรณ์ หรือ “นุ่น” ภรรยาที่จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องของ “เสี่ยก้อง” ถึงกับบอกว่า ได้ยินแบบนี้ทนไม่ไหว ขอเปิดหน้าสู้ เพราะมองว่า “แหม่ม” ไม่พูดความจริงทั้งหมด โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า “เสี่ยก้อง” คบหาและใช้ชีวิตอย่างเปิดเผยมาเป็นเวลากว่า 5 ปี โดยที่พ่อแม่และครอบครัว “เสี่ยก้อง” รู้เรื่องดี เพราะที่ผ่านมา “เสี่ยก้อง” ไปมาหาสู่และดูแล “นุ่น” อย่างดี ตอนนี้เธอก็ตั้งท้องลูกคนที่ 2 ของ “เสี่ยก้อง” และไม่เคยไปหาเรื่องใคร มีแต่ “แหม่ม” ตามมารังควาน โดยเฉพาะวันเกิดเหตุ “แหม่ม” ตามไปหาเรื่องถึงหน้าคลินิกฝากครรภ์ ซึ่งภาพวงจรปิดหน้าคลินิกเห็นชัดว่า ทันทีที่ “แหม่ม” รู้ว่า “เสี่ยก้อง” พา “นุ่น” มาฝากครรภ์ ก็ตามมาหาเรื่องตบตี “เสี่ยก้อง” รวมถึงพยายามเข้ามาทำร้าย “นุ่น” ด้วย แต่ตอนนั้นยอมรับว่า “เสี่ยก้อง” พยายามปกป้อง “นุ่น” และลูกอย่างเต็มที่ ทำให้ต้องยอมขึ้นรถไปเคลียร์กับ “แหม่ม” แต่กลับเกิดเรื่องสลด “เสี่ยก้อง” ไม่ได้กลับมาหาครอบครัว วันนี้ย้ำว่าสุดทน “นุ่น” เตรียมเดินหน้าฟ้องเอาผิด “แหม่ม” ในทุกข้อกล่าวหาที่ทำได้ จึงไปหารือกับทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด

ล่าสุด “ทนายษิทรา” ก็ออกมาเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยบอกว่า ในฐานะที่ผมเป็นทนายของฝั่งคุณนุ่น เมียหลวง ขอวินิจฉัยคดี “เสี่ยก้อง” ตกรถจนเสียชีวิต ตามข้อสังเกต


เริ่มต้นจากรถกระบะ 4 ประตู ขับมาด้วยความเร็ว มีรถยนต์ของน้องชาย “แหม่ม” ขับตามด้านหลัง (ซึ่งภาพทั้งหมดได้จากกล้องของรถน้องชายแหม่ม) เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางเลี้ยวซ้ายเข้าซอย ขณะเลี้ยวซ้ายเข้าซอย “เสี่ยก้อง” ได้เปิดประตูรถออกมา สังเกตเห็นว่า “เสี่ยก้อง” ลักษณะเหมือนจับบริเวณที่จับประตูไว้

ขณะเดียวกัน รถยนต์คันที่ “แหม่ม” ขับขี่ได้เร่งเครื่องยนต์ และหักเลี้ยวไปทางขวา ทำให้เกิดแรงเหวี่ยง โดยแรงเหวี่ยงทำให้ “เสี่ยก้อง” ตกลงจากรถและกลิ้งไปตามถนน ถ้าสังเกตจะเห็นว่า ศีรษะได้พุ่งกระแทกไปด้านหน้าก่อน จึงเป็นสาเหตุให้สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง

นอกจากนี้ “ทนายษิทรา” ยังบอกด้วยว่า เหตุการณ์นี้ ความล่าช้าในการช่วยเหลือที่รอถึง 20 นาที และคำพูดประชดแดกดัน อาจส่งผลให้การช่วยปฐมพยาบาลและขอความช่วยเหลือไม่ทันท่วงที อาจเป็นหนึ่งสาเหตุให้ “เสี่ยก้อง” เสียชีวิตได้


ส่วนข้อหาที่สามารถเอาผิดกับ “แหม่ม” และพรรคพวกได้นั้น “ทนายษิทรา” แจงยิบว่ามีหลายข้อ ยกตัวอย่างกรณีแรก อาจเข้าข่ายฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เล็งเห็นผล เพราะระหว่างขับรถนั้น “แหม่ม” กับ “เสี่ยก้อง” มีปากเสียงกัน “แหม่ม” ควรต้องขับรถด้วยความระวังอย่างยิ่ง การที่ “แหม่ม” ขับรถมาด้วยความเร็วและเข้าโค้งด้วยความเร็ว ทั้งที่เห็นว่า “เสี่ยก้อง” ได้บอกให้ “แหม่ม” จอดรถเพื่อจะลง แต่ “แหม่ม” ไม่ยอมจอด จนมาถึงที่เกิดเหตุ “เสี่ยก้อง” ได้เปิดประตูกระโดดลงไป แต่แทนที่ “แหม่ม” เมื่อเห็นเช่นนั้นจะจอดรถในทันที กลับเร่งเครื่องและหักพวงมาลัยไปทางขวา ทำให้เกิดแรงเหวี่ยงของรถเหวี่ยงตัว “เสี่ยก้อง” ตกจากรถ ศีรษะกระแทกพื้น อาการสาหัสและเสียชีวิต การกระทำนี้ของ “แหม่ม” อาจจะมีเจตนาฆ่า โดยย่อมเล็งเห็นผลว่า หากตนเองขับรถและเร่งเครื่องไปด้วยความเร็วและหักพวงมาลัยออกไปทางขวา เป็นไปได้ว่า “เสี่ยก้อง” จะถูกแรงเหวี่ยงของรถเหวี่ยงลงจากรถและตกจากรถได้ จึงมีเจตนาย่อมเล็งเห็นผลว่า “เสี่ยก้อง” จะตกรถและได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

กรณีที่ 2 การที่ “แหม่ม” ขับรถด้วยความเร็ว ทั้งที่รู้ว่า “เสี่ยก้อง” พยายามที่จะให้จอดเพื่อลง แต่ “แหม่ม” ดื้อดึงที่จะขับรถต่อไปด้วยความเร็ว ขณะที่ “เสี่ยก้อง” เปิดประตูนั้น สาวคนสนิทก็ยังไม่จอดรถ จนเป็นเหตุให้ “เสี่ยก้อง” พลัดตกจากรถ ศีรษะกระแทกพื้นได้รับอันตรายและเสียชีวิต อาจถือได้ว่าการที่ “แหม่ม” ขับรถเช่นนั้นเป็นการขับรถด้วยความประมาท ปราศจากความระมัดระวัง จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ส่วนความผิดสำหรับญาติที่ขับรถตามมาด้านหลังนั้น กฎหมายที่เกี่ยวข้องประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 374 ผู้ใดเห็นผู้อื่นตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิต ซึ่งตนอาจช่วยได้โดยไม่ควรกลัวอันตรายแก่ตนเองหรือผู้อื่น แต่ไม่ช่วยตามความจำเป็น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะเมื่อพิจารณาจากคลิปวิดีโอ “น้องชายของแหม่ม” ได้พูดทำนองว่า “ปล่อยมัน ปล่อยมันแหม่ม ไม่ต้องไปดูเลย มันโดดเอง” และไม่ช่วยพาส่งโรงพยาบาลทันที ทำให้เห็นเจตนาของน้องชายแหม่มว่า ไม่มีเจตนาที่จะช่วย “เสี่ยก้อง” ซึ่งขณะนั้นอยู่ในอันตรายแห่งชีวิต อย่างไรก็ตาม เมื่อนำกล้องหลังรถบางส่วนมาดู พบว่าได้พยายามช่วยเหลือแล้ว ก็สามารถนำมาให้พนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณาได้

คดีนี้น่าจะยาว เพราะอีกฟากก็ยืนยันความบริสุทธิ์ แถมมี “ทนายเดชา” เป็นทนายว่าความให้ แต่อีกฟากก็ดึง “ทนายตั้ม” มาสู้คดี โดยโต้กลับว่ามีการโกหกเกิดขึ้น ต่างคนต่างงัดหลักฐานมาแสดง แถมทนายทั้งคู่ก็เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาก่อน คงต้องตามกันต่อไปยาวๆ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]