โจรบุกเข้าร้านมือถือกลางดึก ตบเจ้าของร้านหัวแตก ก่อนฉกทรัพย์

ตรัง 22 ธ.ค. – คนร้ายบุกเข้าร้านมือถือกลางดึก เจ้าของร้านตื่นมาเจอตกใจกลัวลูกไม่ปลอดภัย พยายามเกลี้ยกล่อมจนคนร้ายกราบขอโทษ แต่เปลี่ยนใจตบเจ้าของร้านหัวแตก ก่อนฉกทรัพย์หลบหนี แต่ไม่รอดถูกรวบตัวได้


กล้องวงจรปิดในร้านขายมือถือ ชื่อร้านกุ้งโมบาย บนถนนท่ากลาง ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง บันทึกภาพขณะคนร้ายคือ นายวรวัฒน์ อายุ 25 ปี งัดหลังคากระเบื้องด้านหลังร้านเข้าไปภายในตัวร้าน และงัดบานประตูกระจกอะลูมิเนียม ก่อนเข้ามายังส่วนจำหน่ายมือถือ พร้อมทั้งใช้ไม้กวาดผลักกล้องวงจรปิดกว่า 10 ตัว ส่องขึ้นบนเพดาน เพื่อไม่ให้บันทึกภาพได้ ขณะนั้นมี น.ส.อรอุมา ชุ่มชื่น หรือกุ้ง อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน นอนหลับอยู่ภายในห้องเก็บสินค้าชั้น 1 พร้อมด้วยลูกชายวัย 7 ขวบ หลังจากนั้นวงจรปิดภายในห้องเก็บสินค้าบันทึกภาพต่อเนื่องคนร้ายได้งัดประตูห้อง ก่อนไปพบกับสองแม่ลูก ทำให้ผู้เป็นแม่ ตกใจตื่น แต่ยังคงมีสติ พูดคุยกับคนร้ายซึ่งถืออาวุธปืนลูกซองพกสั้นไทยประดิษฐ์

โดยคนร้ายถามว่าเคยไปติดหนี้หรือไปมีเรื่องกับใครไว้บ้าง และติดหนี้นอกระบบหรือไม่ ซึ่งกล้องวงจรปิดบันทึกภาพและเสียงไว้ได้ทั้งหมด โดยเจ้าของร้านยืนยันว่าไม่ได้ติดหนี้นอกระบบ หรือมีปัญหากับใคร ก่อนที่คนร้ายจะเข้ามาพูดคุยและบอกว่ามีคนใช้ให้มาทวงหนี้เจ๊ ก่อนที่คนร้ายจะเข้าออกจากห้องเก็บสินค้า 4-5 รอบ และมานั่งพูดคุยกับเจ้าของร้าน คนร้ายบอกว่าน่าจะผิดคน ก่อนขอโทษเจ้าของร้าน พร้อมทั้งกราบเท้าและสั่งอย่าแจ้งตำรวจ


จากนั้นคนร้ายเดินออกไปรื้อค้นเอาเศษเหรียญกว่า 3,000 บาท จากลิ้นชักไป และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง จากนั้นคนร้ายโทรหาบุคคลต้องสงสัยบอกว่าให้ทำยังไงต่อ ซึ่งเจ้าของร้านได้ไปยืนที่ประตูหน้าห้อง และพูดคุยกับคนร้ายว่าทำไมไม่กลับ จะหาอะไร แต่คนร้ายได้เข้ามาในห้องและใช้อาวุธตบขมับเจ้าของร้าน 1 ครั้ง จนเลือดอาบ ก่อนรื้อค้นและสั่งให้เอาทองมาและเอาโทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง เงินสดในกระเป๋าจำนวนหนึ่ง ก่อนออกจากร้านหลบหนีไป เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา

น.ส.อรอุมา หรือกุ้ง เจ้าของร้าน เล่าว่า หลังคนร้ายถูกจับกุม ความรู้สึกของตนและชาวบ้านในละแวกนี้ยังติดใจอยู่ว่าทำไมตำรวจไม่ขยายผลต่อว่าคนร้ายร้ายนี้ทำงานให้ใคร ถูกใครสั่งให้เข้ามาในร้านของตน จากการดูพฤติการณ์คนร้ายแล้วรู้ดีว่ากล้องวงจรปิดอยู่ตรงไหน และคนร้ายพยายามโทรคุยกับบุคคลที่ 3 อยู่ตลอด เชื่อว่าต้องมีคนสั่งให้ทำ ที่ผ่านมาตนไม่เคยติดหนี้นอกระบบ มีเพียงหนี้ที่กู้ยืมมาจากธนาคารเท่านั้น

ส่วนศัตรูไม่เคยมีใคร นอกจากลูกน้องซึ่งเป็น 2 สามีภรรยาที่เคยทำงานอยู่ที่ร้าน ยักยอกเงินไปจำนวนหนึ่ง ทำให้ตนไล่ออกไปทั้ง 2 คน ประกอบกับเช้าหลังเกิดเหตุ ลูกน้องคนดังกล่าวโพสต์เฟซบุ๊กในลักษณะถึงเหตุการณ์ที่ตนโดนคนร้ายเข้าขโมยและทำร้ายร่างกาย พร้อมเขียนข้อความลักษณะพอใจและดีใจที่ตนโดนทำร้าย แปลกใจว่าทำไมเขาถึงรู้ ทั้งที่ช่วงเวลานั้นยังไม่มีใครรู้เห็นเหตุการณ์นี้ และคนร้ายรายนี้ยังเคยไปคอมเมนต์เฟซบุ๊กของอดีตลูกน้องด้วย ซึ่งตนคิดว่าน่าจะรู้จักกัน และอาจมีความโกรธแค้น เลยให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุ จึงอยากให้ตำรวจขยายผลตามหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี ไม่อยากให้จับคนร้ายไปแล้วปิดคดีเลย เพราะตอนนี้สร้างความหวาดกลัวให้กับตนเองเป็นอย่างมาก ส่วนตนเองในขณะเกิดเหตุยอมรับว่าตกใจเป็นมาก แต่พยายามตั้งสติและใจเย็น โชคดีที่คนร้ายไม่ได้ใช้อาวุธปืนยิง เพียงแค่ใช้ปืนตบศีรษะเย็บ 4 เข็ม และหลังเกิดเหตุตนได้โทรศัพท์มือถือคืนกลับมา 1 เครื่อง ติดตามจากแอปฯ โทรศัพท์ หลังคนร้ายนำไปซุกซ่อนในป่า


เบื้องต้นคนร้ายถูกตำรวจ สภ.เมืองตรัง จับกุม และควบคุมตัวดำเนินคดีแล้วเมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ส่วนประวัติผู้ต้องหาเคยติดคุกคดีลักทรัพย์ 3-4 ปี และพ้นโทษออกมาช่วงเดือนกรกฎาคม 64 ซึ่งหลังพ้นโทษได้ก่อเหตุขโมยรถสามล้อพ่วง ขโมยของในโชว์รูมกระเบื้อง ขโมยของในบ้านพักพนักงานการประปาส่วนภูมิภาค ลักทรัพย์และทำร้ายร่างกายที่ร้านขายมือถือ ก่อนจะถูกจับกุม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]