จ่อหมายจับเพิ่มอีก 1 แก๊งยิงถล่มกลางเมืองสุพรรณบุรี

สุพรรณบุรี 2 พ.ย.-สำนักข่าวไทย ยังเกาะติดคดียิงถล่มกลางเมืองสุพรรณบุรี มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 2 คน โดยตำรวจเตรียมออกหมาย 1 ในแก๊งคนร้าย พร้อมย้ำคดีนี้มีผู้เกี่ยวข้อง 4-6 คน และแม้คดีจะดูซับซ้อนแต่มั่นใจไม่นานจับคนร้ายได้ครบ


ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรสุพรรณบุรี แบ่งกำลังตามแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อตามล่าแก๊งซุ่มยิงถล่มคู่กรณี และขับรถไล่ชนบริเวณถนนสาย 321 อู่ทอง-สุพรรณบุรี เป็นเหตุให้นายวัชรพงศ์ ธรรมณี หรือ อ๊อฟ อายุ 30 ปี เสียชีวิตกลางดึกวันที่ 31 ตุลาคม ส่วนนายปวีณกร โพธิ์สุข หรือ บาส และนายศักดิ์ดา หรือมี่ อายุ 17 ปี ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ได้รับบาดเจ็บ

โดยวันนี้ พลตำรวจตรีเกรียงไกร วุฒิพานิช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เรียกประชุมชุดสืบสวน ติดตามความคืบหน้าคดี พร้อมเปิดเผยภายหลังประชุมว่า ได้สั่งชุดสืบสวนแบ่งทีมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทุกจุด และสอบสวนกลุ่มผู้ต้องสงสัยทั้งหมดแล้ว หลักฐานตอนนี้นอกจากปลอกกระสุนขนาด 9 มม.ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุมากกว่า 10 นัด ยังมีรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ที่เมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) เจ้าของรถได้ขับมาให้ตำรวจตรวจสอบ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ กรณีรถคันนี้ปรากฏในคลิปว่าขับรถชน อ๊อฟ กับ บาส ทำให้ตอนนี้ทีมพิสูจน์หลักฐาน เร่งเก็บรวบรวมหลักฐานทุกจุดของรถเพื่อพิสูจน์ทราบผู้ที่อยู่ในรถว่าเป็นใคร ย้ำว่าตำรวจมีแนวทางการสืบสวนอยู่แล้ว ขอแค่เวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน เพราะทุกอย่างจำเป็นต้องรวบรวมพยานหลักฐาน รอผลตรวจรถ ผลกระสุน ปลอกกระสุน และบางเรื่องยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ซึ่งไม่อาจเปิดเผยได้ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีแค่ 4-6 คน และคาดว่า ไม่นานเรื่องนี้จะคลี่คลาย ตามจับคนร้ายได้ครบทุกคน ซึ่งล่าสุดก็เตรียมออกหมายจับคนร้ายเพิ่มอีก 1 คนแล้ว นอกจากนี้ กรณีเจ้าของฟอร์จูนเนอร์ให้การว่าไม่เกี่ยวข้อง ย้ำว่าเป็นสิทธิ์ที่จะทำได้ เพราะตำรวจมีหน้าที่สืบสวน


ด้านภรรยาของ “อ๊อฟ” ผู้เสียชีวิต ได้ออกมาขอความเป็นธรรม ทันทีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรีให้ข้อมูลกับนักข่าวเสร็จ เพราะมายืนฟังอยู่ด้วย เธอบอกว่า กังวล กลัวไมได้รับความปลอดภัย เพราะได้ยินมาว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้มีอิทธิพล และเธอไม่รู้ด้วยว่าอ๊อฟไปขัดแย้งกับใคร หรือมีเรื่องอะไรกันมาก่อน อยากได้รับความคุ้มครอง และอยากให้ตำรวจให้ความยุติธรรมกับอ๊อฟด้วยเพราะอ๊อฟถูกยิงตายอย่างโหดเหี้ยม ตอนนี้หากมีการให้รับศพอ๊อฟมา ก็ยังจะไม่เผา จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม

คดีนี้ หลายคนอาจยังสับสน เพราะมีความซับซ้อน เพราะกล้องวงจรปิดจับภาพหน้าแบบชัดๆ ของผู้ก่อเหตุไม่ได้เลย ขณะที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่สามารถสอบถามได้ 2 คนก็บาดเจ็บ ส่วนอีก 1 คน เสียชีวิต แต่เพื่อให้เห็นภาพกันแบบชัดๆ ตามที่เราได้ข้อมูลจากตำรวจ ไล่เรียงเหตุการณ์กันแบบนี้ คดีนี้ มีตัวละครคร่าวๆ 6 คน แต่ที่เรารู้ชื่อมีด้วยกัน 3 คน คือ มี่ อ๊อฟ และบาส คืนเกิดเหตุ 31 ตุลาคม “มี่” ได้โทรไปหา “อ๊อฟ” บอกว่าจะติดต่อซื้อขายยาชา ที่ใช้ก่อนสักเพื่อให้ไม่เจ็บ ซึ่งยาตัวนี้มีผลข้างเคียงในการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ และทำให้แข็งตัวนานด้วย ทั้งคู่จึงนัดพบกันในหมู่บ้าน แต่ “อ๊อฟ” ไม่ได้ไปคนเดียว ได้เอา “บาส” ไปด้วย “บาส” จึงไปยืมรถวีออสของน้าขับไปกับ “อ๊อฟ”

เมื่อถึงจุดนัดหมาย ซอยทางเข้าวัดภูเขาดิน ตำบลบางกุ้งเหนือ “มี่” ขี่มอเตอร์ไซด์มาคุยกับ อ๊อฟ และบาส ซึ่งในตอนนั้น “มี่” อาศัยจังหวะที่ “อ๊อฟ” เปิดกระจกมาคุย เอื้อมมือไปบิดกุญแจรถวีออส ทำให้กุญแจรถหักคาที่เสียบ และยังไม่ทันที่จะคุยอะไรกันต่อ “มี่” ก็หลบออกมา แต่ยังไม่ทันพ้นจากจุดที่คุยกัน กลุ่มคนร้ายที่ซุ่มอยู่ได้ใช้ปืน 9 มม.กระหน่ำยิงมาที่รถที่อ๊อฟและบาสนั่งอยู่ ทำให้ อ๊อฟ กับ บาส ตัดสินใจหนีออกจากรถ แล้ววิ่งไปขี่มอเตอร์ไซค์ที่ “มี่” ทิ้งไว้ ขี่หนีออกจากถนนหมู่บ้าน เพื่อมุ่งหน้าไปยังถนนสายหลัก ระยะทางน่าจะห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งจังหวะนั้น “บาส” ยังได้ชักปืนออกมายิงใส่กลุ่มที่ยิงถล่มด้วย


แต่หนีได้ไม่นาน มอเตอร์ไซด์ที่ อ๊อฟ กับ บาส ขี่มา ก็ถูกรถฟอร์จูนเนอร์ขับตามมาชนจนล้ม แล้วทับซ้ำ ก่อนลากรถมอเตอร์ไซด์ไถลไปตามถนนจนเกิดประกายไฟ ตามที่ราเห็นในกล้องวงจรปิด แต่ฟอร์จูนเนอร์ไม่หยุดเพียงเท่านั้น ได้มีการวกรถกลับมา และคนขับได้ตรงเข้าไปจ่อยิง “อ๊อฟ” จนเสียชีวิต ส่วน “บาส” ซึ่งถูกยิงที่แขนได้หนีลงพงหญ้าข้างทาง และรอดมาได้เพราะมีพลเมืองดีมาช่วย ขณะที่ “มี่” ที่เป็นคนนัด “อ๊อฟ” มาถูกยิงเข้าที่ท้องอาการสาหัส และตอนนี้ ทั้ง “มี่” และ “บาส” ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล

คดีนี้ ตำรวจ เชื่อว่า 2 ฝ่ายน่าจะขัดแย้งกันมาก่อน และกลุ่มมือปืนที่ยิงถล่มได้ให้ “มี่” เป็นนกต่อนัด “อ๊อฟ” (ผู้ตาย) ออกมา ทำให้ตอนนี้ตำรวจเตรียมออกหมายจับ “มี่” เพิ่มเติม นอกเหนือจากออกหมายจับ “บาส” ไปแล้วเมื่อวานในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า ร่วมกันมีอาวุธปืน และร่วมกันพาอาวุธปืน ไปในเมืองในหมู่บ้านในทางสาธารณะ ไม่มีเหตุอันควร

ซึ่งนอกเหนือจากตัวละครทั้ง 3 คน ต้องรอดูข้อมูลจากตำรวจเกี่ยวกับคนขับรถฟอร์จูนเนอร์เพราะตอนนี้ได้รถมาแล้ว และพิสูจน์หลักฐานยืนยันว่าเป็นรถในที่เหตุการณ์แน่นอน เนื่องจากกระจกหน้าด้านซ้ายฝั่งคนขับ มีรอยกระสุนปืน 1 รู และที่หน้ารถรวมถึงใต้ท้องรถมีรอยชนครูดกับของแข็ง แต่ยังไม่รู้ตัวคนขับที่แน่ชัด เพราะเจ้าของรถยืนยันไม่รู้ไม่เห็น มีคนยืมรถไป ทำให้ต้องตามกันต่อในอีกหลายประเด็น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]