BIG STORY : ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ ระบุรัศมี 1 กม.ยังเป็นพื้นที่อันตราย

สมุทรปราการ 7 ก.ค. – ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ แถลงในรัศมี 1 กม.จากที่เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ ยังเป็นพื้นที่อันตราย และอนุญาตให้ประชาชนที่อาศัยห่างจากโรงงานหมิงตี้ เกินรัศมี 1 กม. กลับเข้าพื้นที่ได้ ขณะที่ชาวบ้านรวมตัวเรียกร้องค่าเสียหายบ้านพัง


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศรอบพื้นที่เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ทุกชั่วโมง ปรากฏว่าคุณภาพอากาศเป็นปกติแล้ว โดยในรัศมีเกินกว่า 1 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ ไม่พบทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็ก สารอินทรีย์ระเหยง่าย และก๊าซอื่นๆ ที่มีความเข้มข้นเกินมาตรฐานที่กำหนด ส่วนระยะรัศมี 1 กิโลเมตรแรกยังมีเกินเป็นระยะๆ

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวต่อว่า ยังไม่ทราบปริมาณสารสไตรีนที่โรงงานเก็บไว้ว่ายังคงหลงเหลืออยู่เท่าไร เพราะการแจ้งปริมาณเก็บสารเคมีอันตราย ทางโรงงานจะแจ้งกับอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ โดยยังคงเป็นห่วงเรื่องการควบคุมไฟที่อาจปะทุขึ้นอีก หากอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์จะทำปฏิกิริยาทำให้สารสไตรีนที่โรงงานเก็บไว้ใต้ดินแข็งตัวและติดไฟยากขึ้น โดยจะประสานบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและวางแผนวิธีการปฏิบัติ หากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสมุทรปราการพิจารณาเห็นชอบจะเร่งดำเนินการ


อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายร่วมผลักดันร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมฉบับใหม่ ที่กำลังอยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขเนื่องจากมีบทบังคับที่ละเอียดครอบคลุมในการป้องกันและเยียวยา โดยเฉพาะการให้โรงงานรับผิดชอบทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ต่อความเสียหายต่อทั้งประชาชนและสิ่งแวดล้อม

ด้านชาวบ้านในหมู่บ้านพาทิโอ ย่านถนนกิ่งแก้ว กว่า 200 คน รวมตัวกันบริเวณสวนหย่อมภายในหมู่บ้าน เพื่อร้องเรียนหลังบ้านพักได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดเหตุไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด โดยมีนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ เจ้าของเพจ “ทนายไพศาลช่วยด้วย” รับเรื่องร้องเรียน และจะเป็นตัวแทนไปเจรจาเรียกร้องความเสียหายจากโรงงานหมิงตี้ และบริษัท เอกชน (พฤกษา) เจ้าของโครงการ ที่ไม่เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาให้ลูกบ้าน จนไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้

ทนายไพศาล ระบุว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านผ่านเพจทนายไพศาลช่วยด้วย ว่าชาวบ้านที่นี่กำลังเดือดร้อนหนัก ไม่สามารถเข้าไปพักอาศัยได้ เพราะหลังคาที่พักในหมู่บ้านกว่า 200 หลังคาเรือน จากทั้งหมดประมาณ 300 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหาย ฝ้าถล่ม กระจกประตู หน้าต่างแตก และทางโครงการยังไม่มีมาตรการเข้ามาช่วยเหลือในเบื้องต้นแต่อย่างใด หลังจากนี้จะไปเจรจากับทางโครงการ รวมไปถึงโรงงานว่าจะเข้ามาชดเชยความเสียหายให้กับชาวบ้านได้อย่างไร


นายอิทธิกานต์ จิตสมบูรณ์ หนึ่งในลูกบ้านที่รับความเสียหาย ระบุว่า พยายามแจ้งเรื่องไปยังนิติบุคคล เพื่อให้โครงการเข้ามาช่วยเหลือแก้ไข โดยเฉพาะหลังคา ในเบื้องต้นแต่โครงการกลับเพิกเฉย ยิ่งเมื่อวานนี้ได้เกิดฝนตกหนัก ทำให้บ้านพักเสียหายเพิ่มมากขึ้น ฝ้าถล่มลงมา และน้ำท่วมภายในบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ได้รับความเสียหายเพิ่มเติม จึงอยากให้ทางโครงการเห็นใจรีบเร่งมาดำเนินการแก้ไขในเบื้องต้นเหมือนกับหมู่บ้านอื่นๆ ในละแวกนี้ ที่มีการซ่อมแซมในเบื้องต้น พร้อมติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐในการแจ้งความดำเนินคดีให้

ขณะที่นางสาวสุกัลยา บุญยะกา หนึ่งในผู้เสียหาย นำผู้สื่อข่าวสำรวจความเสียหายในบ้านที่พบว่าแรงระเบิดจากโรงงานส่งผลให้หลังคาบ้านพักเปิด ฝ้าถล่ม ประตูหน้าต่างแตกละเอียด พร้อมเผยถึงเหตุการณ์วันที่เกิดการระเบิดว่าแรงสั่นสะเทือนรุนแรงมาก บ้านสั่นทั้งหลัง กลัวว่าเหตุครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของตัวบ้าน อยากให้วิศวกรเข้ามาตรวจสอบ

ผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่ม ปตท. เข้าประเมินและเตรียมเข้าจัดการผสมสารเคมีให้สารไวไฟในโรงงานผลิตโฟม ให้เสื่อมสภาพเป็นของเหลวที่ไม่ติดไฟ เพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้ายไปกำจัด แต่การปฏิบัติการจะต้องตรวจสอบและปรับอุณหภูมิของสารไวไฟที่ตกค้างอยู่ในถังบรรจุให้อยู่ในอุณภูมิที่เหมาะสม ด้วยการใช้รถกระเช้าฉีดโปรยละอองน้ำใส่ถังบรรจุ

นายณัฐธัญ ละอองทอง ผู้จัดการส่วนบริหารภาวะฉุกเฉิน เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญของกลุ่ม ปตท. เข้าประเมินแบบนาทีต่อนาที เพื่อความปลอดภัย โดยจะมีการผสมสารเคมีเข้าไปในถังบรรจุสารไวไฟให้สารเปลี่ยนสภาพเป็นของเหลวที่ไม่ติดไฟ และเมื่อไม่ติดไฟแล้วก็จะมีความปลอดภัยในการทำงาน และจากนั้นหากจะขนย้ายไปทำลายก็จะทำได้

ทางด้านนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ แถลงข่าววันนี้ว่า ในรัศมี 1 กม.จากที่เกิดเหตุ ยังประกาศเป็นพื้นที่อันตราย เจ้าหน้าที่ยังต้องควบคุมอยู่ คือ ถนนกิ่งแก้วฝั่งตะวันตก ตั้งแต่ซอย 19 ถึงซอย 25 ยังไม่อนุญาตให้เจ้าของบ้านพักเข้าพื้นที่ ส่วนถนนกิ่งแก้วจะเปิดการจราจรทั้งสาย ยกเว้นซอย 19 ถึงซอย 25 เป็นพื้นที่ควบคุม ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปในซอย ส่วนผู้มีบ้านพักรัศมีเกินระยะ 1 กิโลเมตร หรือในระยะ 2-5 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ สามารถใช้ชีวิตประกอบอาชีพได้ตามปกติ

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ยังระบุด้วยว่าตอนนี้ปัญหามีอยู่ 2 ส่วน คือ สารเคมีที่ยังอยู่ในถังกว่า 1,600 ลิตร ยังหลงเหลืออยู่กี่ลิตร และที่รั่วไหล่ออกมาถูกเผาไหม้ไปแล้วกี่ลิตร ซึ่งการประชุมได้แยกการดำเนินการเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกจะเข้าไปกำจัดการสารเคมีที่หลงเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งในภาคพื้นดินและในถัง โดยจะใช้สารเคมีเข้าไปเจือปนให้เป็นกลางและก่อให้ติดไฟน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงคือการเข้าถึงตัวถังสารเคมี ซึ่งตรงนี้ต้องมีการสำรวจให้รอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่ามีความปลอดภัยสูงสุด ก่อนที่จะให้ผู้ชำนาญการเข้าจัดการกับสารเคมีที่เหลืออยู่ต่อไป

สำหรับประชาชนที่ห่วงใยเรื่องการกลับเข้าสู่ที่พักนั้น หลังจากได้มีการประชุม ซึ่งหลายฝ่ายเห็นว่าสถาณการณ์เริ่มปลอดภัยมากขึ้น แต่ยังมีบางจุดที่ยังเป็นห่วงเรื่องอันตรายและยังอยู่ในพื้นที่ควบคุม แต่จะผ่อนคลายเปิดให้ใช้ถนนกิ่งแก้วทั้งสองฝั่ง และประชาชนที่อยู่ศูนย์อพยพสามารถเดินทางกลับเข้าที่พักและประกอบอาชีพได้ตามปกติ โดยเฉพราะชาวบ้านที่อาศัยอยู่ถนนกิ่งแก้วฝั่งตะวันออก ซึ่งสามารถเข้าพื้นที่ได้ทั้งหมด แต่ยกเว้นผู้ที่พักอยู่ในซอย 19-25 ที่ยังประกาศให้เป็นพื้นที่ควบคุม โดยจะเปิดให้ใช้ถนนและกลับบ้านพักได้ในเวลา 17.00 น.ที่ผ่านมา

ส่วนเรื่องของคดี ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนผู้ได้รับบาดเจ็บที่พอจะให้การได้ไปแล้วบางส่วน รวมถึงผู้จัดการโรงงาน และพนักงานที่อยู่ในช่วงเกิดเหตุ แต่ข้อสรุปนั้นยังไม่ชัดเจน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าตรวจที่เกิดเหตุได้ รวมถึงสถานที่ยังมีความร้อนอยู่ จากนั้นต้องรอผู้ชำนาญการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ชำนาญการจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความผิดของใคร ต้องขึ้นอยู่กับการสอบสวนทุกๆ ด้าน ต้องรอหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกครั้ง

ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการได้จัดกำลังตำรวจออกตรวจตราในพื้นที่รัศมี 1 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ ตลอด 24 ชม. จนกว่าจะประกาศเป็นพื้นที่ปลอดภัย ขอให้ประชาชนในพื้นที่ 1 กิโลเมตร ไม่ต้องเป็นห่วง ยังไม่มีเหตุเข้าไปขโมยทรัพย์สินใดๆ หากต้องการรื่องการแจ้งความทรัพย์สินเสียหายจากเหตุไฟไหม้ ทำได้ 2 วิธี คือ ทรัพย์สินที่สามารถประเมินราคาได้ ให้นำเอกสารการประเมินจากช่าง ไปมอบให้ตำรวจได้เลย และถ้ายังประเมินราคาไม่ได้ ให้ไปแจ้งความไว้ก่อนได้เลย แล้วค่อยนำเอกสารการประเมินราคามามอบให้ตำรวจเพิ่มเติมในภายหลังได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]