นนทบุรี 20 พ.ค.- หนุ่มซิ่งเก๋งชนรถจักรยานยนต์ที่มี 2 สาวนั่งซ้อนท้ายมาด้วย ไถลไปชนอัดกับรถปิกอัพ ส่งผลให้ทั้ง 2 สาว และคนขับปิกอัพอาการสาหัส
ขณะที่รถกระบะตู้ทึบของบริษัทแห่งหนึ่งจอดอยู่บริเวณริมถนน มีผู้ชาย 3 คน แต่งตัวคล้ายกัน สวมเสื้อโปโลสีดำ-กรมท่า ใส่กางเกงขายาว สวมรองเท้าผ้าใบ กำลังเดินขึ้นรถคันดังกล่าว เพียงเสี้ยววินาทีมีรถมาสด้า สีขาว พุ่งเข้าชนอย่างเต็มแรงบริเวณด้านข้างรถฝั่งคนขับ ทำให้ร่างคนขับลอยกระเด็นไปด้านหน้า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 มี.ค. 64 เวลา 00.14 น.
โดยเพจเฟซบุ๊ก เจ๊มอย v plus ได้นำคลิปนี้มาเผยแพร่เมื่อ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมระบุข้อความว่า “#ขับรถประมาท จนทำให้คนอื่นต้องมามีผลกระทบกับสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ เพราะความเลินเล่อ ความมักง่าย เส้นทางไปตลาดบางบัวทอง ตรงข้ามปั๊ม ปตท.ขาออกแยกบางพลู เพราะความประมาทของคน เกือบทำให้เราไม่ได้เห็นหน้าครอบครัวละ ….. #ขับรถถ้าไม่ไหวขอให้จอดนอนเถอะนะครับ อย่าฝืนขับเลย สาหัส 3 รวมผมด้วย คนที่เดินทางขวาข้างถนนคือผมครับ โดนชนลอยเลยครับ”
ความคืบหน้าเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวไปพบกับ นายจักรกฤช ถิตย์บูรณ์ คนขับปิกอัพที่โพสต์เรื่องนี้เล่าว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณเที่ยงคืน ขับรถไปจอดริมทางบริเวณตลาดบางบัวทอง ตรงข้ามปั๊ม ปตท.ขาออก แยกบางพลู เพื่อกินข้าว เมื่อจะเดินกลับบมาขึ้นรถ จังหวะนั้นมีรถเก๋งมาสด้า สีขาว ทะเบียนกรุงเทพ ทราบชื่อคนขับภายหลังคือนายชลทิศ วงศ์สุภักดี อ้างว่าหลับในพุ่งชนรถ จยย.ฮอนด้า คลิก มี น.ส.ณัฐกร พะบุ เป็นคนขี่ และ น.ส.จุฑามาศ ตันติเวชกุล ซ้อนท้าย จนรถ จยย.พลิกคว่ำ ลาก 2 สาว พุ่งอัดใส่รถตน ก่อนที่รถมาสด้าจะหักออกไป ตอนนั้นตนถูกชนจนตัวลอยไปสลบบนฟุตบาทพร้อมกับสองสาว พลเมืองดีนำส่ง รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ ทราบว่าคนหนึ่งเย็บกระโหลก 50 เข็ม อีกคนต้องใส่เหล็กที่ขา
หลังเกิดเหตุ คู่กรณีโอนเงินให้ 30,000 บาท บอกว่าเป็นค่ารักษา และเป็นค่าโทรศัพท์มือถือที่หล่นแตก จากนั้นวันที่ 10 เม.ย. มาทำงานแต่ยังเจ็บหน้าอกอยู่ทำงานไม่ไหว กลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ 2 วัน หลังจากไปทำงานก็มีอาการเจ็บขา และเจ็บตรงที่ถูกชน มีการนัดเคลียร์กันทั้งหมด 4 ครั้ง ล่าสุดไปเคลียร์ที่ สภ.บางบัวทอง ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่นั่น โดยคู่กรณีมากับเจ้าหน้าที่บริษัทประกันและขอเงินคืน 12,000 บาท แล้วให้ไปไกล่เกลี่ยกันที่ศาล ซึ่งตนก็คืน ระหว่างที่พูดคุยกันก็ทำท่าทีไม่สนใจ เจ้าหน้าที่ประกันเปลี่ยนคนมาถึง 4 คน ตอนนี้หมดเงินไปหลายหมื่นเนื่องจากต้องสำรองจ่ายไปก่อน ส่วนคู่กรณีอีก 2 คนที่ขี่รถจยังไม่มีการพูดคุยกัน เนื่องจากยังเจ็บอยู่ ตอนนี้ตนไม่รู้จะทำยังไง อยากให้มาช่วย ดูแลกันบ้าง
นายสมหมาย สิงห์ทองทราย อายุ 46 ปี เจ้าของร้านอาหาร ที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่ารถเก๋งน่าจะขับเร็วเพราะไม่ได้ยินเสียงเบรก ตอนเกิดเหตุถนนเส้นนี้เกิดรถชนกันบ่อยมากรถวิ่งกันเร็วเคยมีเหตุชนกันเสียชีวิตมาแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นคนเมา.-สำนักข่าวไทย
